เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 1 : First Thing First อันดับแรกเลย

เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 1 : First Thing First อันดับแรกเลย

โดย : ขวัญอินทร์

Loading

เปลือกมุกสีชมพู โดย ขวัญอินทร์ นวนิยายดราม่าเข้มข้นที่อ่านเอานำมาให้ได้อ่านออนไลน์ เรื่องราวที่จะแสดงให้เห็นว่าเราอาจไม่เคยมองเห็นเนื้อแท้ของใครได้เลย ถ้าเราเลือกมองแค่เพียงเปลือก ความสำเร็จ ความล้มเหลว และภาพจำที่ผู้อื่นตีกรอบให้ เราจึงไม่ควรด่วนตัดสินใคร เพราะสุดท้ายผลกรรมจะเปิดโปงทุกอย่างไม่ช้าก็เร็ว

 

เบอร์เบินสกัดจากกาแฟ เวอร์มุธหวาน เอสเปรสโซใส่ครีม น้ำเชื่อมอัลมอนด์ มินต์

บาร์จับจิต ต้นบุญ บุญตระการ พึมพำอ่านป้ายไฟนีออน สีม่วงหน้าร้านเหล้า ตรงปากซอยที่สองถัดจากโรงแรมที่เขาพัก ทั้งชื่อบาร์และหน้าร้านสะดุดตา ทำให้เขาชั่งใจว่าจะเดินเล่นต่อหรือเข้าไปหาอะไรดื่มในร้านดี

เขาเพิ่งออกจากร้านข้าวต้มปลาหน้าโรงแรม อากาศเย็นสบายกินกว่าจะขึ้นไปอุดอู้อยู่บนห้องพัก เขาจึงเลือกที่จะเดินเล่นเพื่อช่วยย่อยอาหาร จนมาเจอร้านนี้เข้า แสงไฟในร้านสว่างท่ามกลางความมืดของถนนบริเวณนี้ ตัวร้านเป็นกระจกใสรอบทิศ มองเข้าไปคล้ายตู้ปลาขนาดใหญ่ มีเงาคนขยับวูบไหวเหมือนฝูงปลาหลากสีแหวกว่ายในตู้ประดับโขดหินและปะการัง

“สีสันเรียกแขกขนาดนี้ มีหรือจะเดินผ่านไปเฉยๆ เขาหัวเราะกับตัวเองเบาๆ ก่อนเปลี่ยนใจจากสวนหย่อม เป็นเครื่องดื่มสักแก้วแทน

เขารู้สึกประหลาดใจเมื่อเข้ามาในร้าน บรรยากาศภายในร้านต่างจากที่เห็นภายนอก ร้านนี้ตกแต่งสไตล์วินเทจ เหมือนกำลังเข้ามาในบาร์เหล้าหนังฝรั่งยุค 90 ทั้งร้านคุมโทนสีน้ำตาล นาฬิกาตั้งพื้นสีดำเรือนใหญ่วางอยู่ตรงข้ามประตูทางเข้า ด้านขวามือเป็นเคาน์เตอร์บาร์

เขาเลือกที่จะนั่งมุมหนึ่งของร้านด้านในสุด สั่ง Black Russian เครื่องดื่มเรียบง่าย ที่ทำด้วยวอดก้าและคอฟฟีลิเคียวร์ สำหรับช่วยย่อยอาหารค่ำนี้ เป็นอีกสูตรค็อกเทลที่ CLASSY จัดเป็นดริงก์ขึ้นหิ้งอมตะ และติด Top List ค็อกเทลที่ต้องจิบ

เครื่องดื่มถูกเสิร์ฟมาในแก้วโอลด์แฟชั่น ประทับด้วยเชอร์รีเสียบไม้ ขอบแก้วมีเกล็ดเปลือกส้มกลิ่นของมันหอมแตะจมูก รสชาติเปรี้ยวนำ ตามด้วยหวานล้ำปนขมของเหล้า รสชาติดีทีเดียว ชายหนุ่มอุทานในใจ รู้สึกเหมือนกำลังดื่มเหล้าบาร์หรูกลางกรุงอย่างไรอย่างนั้น เขาจิบเครื่องดื่มพลาง ดื่มด่ำบรรยากาศภายในร้าน เสียงเพลงแจซคลอเบาๆ สลับเสียงเชคเกอร์ของบาร์เทนเดอร์ทั้งสองคน

บาร์เทนเดอร์ชายอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว เสื้อกั๊กหนังสีดำ ผมยาวรวบตึงถึงกลางหลัง แต่ที่รู้สึกสะดุดคือบาร์เทนเดอร์สาวที่โดดเด่นด้วยผมสีชมพูพาสเทล ครึ่งล่างไถสั้นเหมือนรองทรง ด้านบนไว้เป็นบ๊อบเทสั้นๆ ปัดเป๋ไปทางซ้าย ใบหน้ารูปหัวใจ หน้าผากโหนกมน จมูกโด่งรั้น รับริมฝีปากเล็กบาง เคลือบลิปสติกสีแดงสด คิ้วเข้มโก่ง ดวงตาเรียวยาวเข้มเห็นขนตางอนเป็นแพ  สวย หุ่นดี เขาสรุปสั้นในสามคำ

ร่างสมส่วนอยู่ในชุดเกาะอกหนังสีดำรัดรูป สั้นเลยเข่าเล็กน้อย สร้อยที่คอสีดำ กับกระพรวนขาวทำให้เขานึกถึงกระพรวนแมวของหมอบุญพี่สาวของเขา จนนึกอยากถ่ายรูปไปอวดว่ากระพรวนนี้สำหรับคนหรือแมวกันแน่

เธอดูเท่เวลาโชว์ลีลาเขย่าเชคเกอร์ แสงไฟบริเวณนั้นสว่างกว่าบริเวณอื่นในร้าน ราวกับจะดึงดูดสายตาของลูกค้า ให้หันมาชมลีลาของการชงเรื่องดื่มของสองบาร์เทนเดอร์ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับเวทีโชว์ชั้นดี โดยมีฉากหลังเป็นขวดเหล้าราคาแพง

เขาเองก็เพลินไม่น้อยเมื่อมองเธอเคลื่อนไหวไปมาหลังเคาน์เตอร์บาร์นั่น แต่ไม่นานลูกค้าเข้ามานั่งจนเต็มบาร์เขาจึงไม่สามารถเห็นเธอได้ถนัดอีก เขาสั่งเครื่องดื่มอีกแล้วคราวนี้ เป็น Amaretto on the rocks
เหล้าหวานจากอัลมอนด์ กลิ่นหอม นุ่มนวล กะว่าดื่มแก้วนี้เสร็จจะกลับไปนอน

เมื่อไม่มีอะไรให้ดูเพลินตา ใจเขาก็เตลิดไปไกลถึงเรื่องงานอย่างช่วยไม่ได้ ในหัวเขาตอนนี้นึกถึงเรื่องเนื้อที่ดินและขนาดคอนโดฯ ซึ่งเขาต้องคำนวณต้นทุนดูอีกว่าคุ้มค่ากับการลงทุนหรือเปล่า แต่กระนั้นก็ยอมรับว่ารู้สึกอภิรมย์อยู่ไม่น้อย

ครอบครัวเขาทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จุดเริ่มนายช่างที่ชื่อว่าภูวดลผู้เป็นพ่อ เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ต่อมาเริ่มซื้อที่ดินสร้างบ้านขาย ไต่ระดับธุรกิจมาเรื่อยๆ กับภรรยาคู่ใจคุณรัตนาอดีตพนักงานธนาคาร ที่ทำบัญชีละเอียดยิบ จนไม่มีโครงการไหนขาดทุน

เดิมทีพ่อแม่เขาอยู่ที่นี่อำเภอหาดบุรี หลังจากสร้างคอนโดฯ ขนาดเล็กขายได้กำไรเมื่อสิบปีก่อน ก็ย้ายครอบครัวไปอยู่กรุงเทพฯ เหตุผลที่ย้ายเพราะไปเฝ้าหมอบุญพี่สาวเขา ที่ต้องไปเรียนหมอมหา’ลัยดังที่กรุงเทพฯ

พ่อกับแม่เริ่มสร้างธุรกิจใหม่แถบชานเมือง จากโครงการเล็กไปใหญ่ อาศัยความซื่อสัตย์และซื่อตรงทางบัญชี ทำให้บริษัทภูวดล ดิเวลลอปเม้น เติบโต แบบจิ๋วแต่แจ๋ว

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาต้องรับผิดชอบโปรเจกต์ยักษ์ของครอบครัว ในวัยยี่สิบแปดปี สำหรับคนอื่นอาจถือว่าเร็วไป แต่สำหรับเขาที่ต้องเดินตามหลังพ่อตั้งแต่เรียนมัธยม จนคุ้นชินกันเรื่องก่อสร้าง จนจบมหา’ลัยก็มาทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่บ้านอีก ประสบการณ์สั่งสมพอที่จะทำให้พ่อไว้ใจให้เขาเป็นผู้ดูแลโปรเจกต์นี้ และที่สำคัญคือ ลงทุนในที่ดินของตัวเอง

คิดเรื่องงานเตลิดไปเรื่องส่วนตัวครู่ใหญ่ เขาเริ่มรู้สึกว่าเสียงพูดเริ่มกลบเสียงเพลง เขาขยับตัวเล็กน้อยเพื่อดูนาฬิกาข้อมือ เพิ่งสี่ทุ่ม เสียงที่เขาได้ยินมาจากหน้าบาร์ จากลูกค้าสองสาวกับชายวัยเกือบหกสิบ

“นี่ บาร์เทนดี้สีชมพู มีอะไรที่แรงกว่านี้มั้ย อ่อนชะมัด” สาวสวยหน้าบาร์พูดเสียงอ้อแอ้

“หนูมุก เลือกที่แพงๆ มาเลยป๊าเลี้ยงไม่อั้น” ชายสูงวัยพูดเสียงอ้อแอ้ไม่แพ้กันหรือดูท่าจะหนักกว่าสองสาว

เขาเห็นหนูมุก! บาร์เทนดี้คนนั้น โน้มตัวพูดอะไรบางอย่างกับลูกค้าสูงวัยคนนั้น ตบแก้มอวบอูมเบาๆ จนตาแก่นั่นถูกใจหัวเราะร่า จับมือเธอมาหอมฟอดใหญ่ เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะดูถูกเจ้าหล่อนในใจ ตอนแรกๆ ก็ดูดีเป็นมืออาชีพ แต่ทำไมตอนนี้เหมือนเด็กนั่งดริงก์

สองสาวที่นั่งอยู่ด้วยไม่พอใจ เมื่อเห็นว่าเสี่ยสูงวัยหันไปสนใจบาร์เทนดี้มากกว่าตัวเอง จึงเริ่มเอะอะ เขานึกรำคาญจึงยกมือเรียกบริกรให้มาคิดเงิน

“อะไรวะ! นึกว่าเป็นบาร์เทนดี้ ที่แท้ก็เป็นกะหรี่!” คำสุดท้ายนั้นดังพอ จนทำให้คนหันมาทั้งร้าน

“อย่า อย่า ไม่ต้องแย่งกัน หนูจ๋า วันนี้เสี่ยไปกับหนูมุกก่อนนะจ๊ะ” ชายสูงวัยพูดเสียงอ้อแอ้ เอาใจฝ่ายโน้นทีฝ่ายนี้ที ดูมั่นใจเสียเต็มประดาว่าผู้หญิงกำลังแย่งตนเอง เขาได้แต่ส่ายหน้า ดูท่าแล้วน่าจะแย่งกันเพราะเงินมากกว่า ชายคนนี้อายุอานามน่าจะเท่าพ่อเขากระมัง

“โทษนะคะคุณลูกค้า ฉันจะเป็นอะไรก็ช่าง แต่ฉันก็ไม่หลอกแดกใครแน่ จะรับเครื่องดื่มอีกมั้ย ถ้ารับก็จ่ายเอง ถ้าไม่ก็เชิญกลับ” เธอตอกกลับแบบไม่ไว้หน้า ยิ้มเย็นแต่แววตาเอาเรื่อง

“ใคร ใครหลอกแดก อีดอกมึงรู้มั้ยกูลูกใคร” หญิงสาวแต่งตัวดีคนนั้นชี้หน้าด่าปรี่จะเข้ามาทำร้าย ดีที่บาร์สูงพอจนเธอปีนไม่ไหว เพื่อนที่มาด้วยกันพยายามดึงเอาไว้

“มึงก็ลูกคุณพ่อคุณแม่มึงสิคะ” เธอตอบกลับทันควันพร้อมรบเต็มที่ บาร์เทนเดอร์ชายเห็นท่าไม่ดีรีบวางมือจากงานบาร์ตรงปรี่เข้ามาห้าม

มุก! เขาได้ยินบาร์เทนเดอ์ชายเรียกชื่อเธอ พร้อมทั้งดีดนิ้วเรียกบริกรชายที่กำลังรอรับบิลจากเขา ต้นบุญพยักหน้าเชิงอนุญาตให้เขาวางบิลไว้บนโต๊ะ

”เชิญคุณลูกค้ากลับไปก่อนนะครับ” บาร์เทนเดอร์ผู้ชายเอ่ยน้ำเสียงสุภาพ

“เฮ้ย กูไม่ไป มาไล่กันได้ไงวะ ไอ้บาร์ดับจิต” หญิงสาวนางนั้นดูท่าจะยิ่งไม่พอใจ

”เชิญ! เดี๋ยวนี้ครับคุณลูกค้า ก่อนที่ผมจะของขึ้น เดี๋ยวแม่ดีดออกนอกร้านเสียเลย” ดูเหมือนเขาจะปรี๊ดแตกทันที เมื่อได้ยินคำว่า ‘ดับจิต’ แทนคำว่า ‘จับจิต’

หญิงสาวคนนั้นยังคงด่าทอเสียงดัง ดีที่เพื่อนที่มาด้วยกันยังพอมีสติช่วยกันลากออกไป เหลือเพียงชายสูงวัยที่ฟุบหลับคาเคาน์เตอร์ เดือดร้อนบาร์เทนดี้ต้องรีบเข้ามาประคองเอาไว้เพราะกลัวตกเก้าอี้ ตาแก่นั่นพอรู้ว่าหญิงสาวประคอง มือไม้ก็เหมือนกาวเหนียวจับไว้แน่น จนหน้าแทบซุกกับอก

บ้าฉิบ! หญิงสาวอุทานเสียงดัง แต่เธอก็ใจเย็นสุดฤทธิ์ เอาใจ ออดอ้อน หลอกล่อให้ชายสูงวัยดื่มเหล้าในแก้วให้หมด

“เสี่ยดื่มก่อนนะคะ รอมุกเลิกงาน นะคะคนดี มุกไม่หนีไปไหนแน่” หญิงสาวคะยั้นคะยอ ชั่วอึดใจเดียวชายสูงวัยคนนั้นก็ฟุบหลับไป ซึ่งทั้งหมดอยู่ในสายตาของต้นบุญ

“รูดทรัพย์เสียดีมั้ยเนี่ย” เสียงเธอบ่นกระปอดกระแปด กอดอกมองสีหน้าขัดใจ โดยไม่รู้ว่าตอนนี้เขายืนอยู่ด้านหลัง

“คิดเงินด้วยครับ”

เธอสะดุ้งเล็กน้อย หันขวับมามองพร้อมทั้งขอโทษขอโพย เธอดูละล้าละลัง คงกลัวว่าถ้าปล่อยมือจากตาแก่นั่นไว้แล้วเขาจะตก

“สักครู่นะคะ บริกรกำลังมา” เธอบอกเขาพร้อมชูมือหรา กวักมือเรียกทั้งบาร์เทนเดอร์และบริกรให้เข้ามาในร้าน ซึ่งสองหนุ่มก็วิ่งมาอย่างไว จากนั้นก็ช่วยกันหิ้วปีกชายสูงวัยเข้าไปนอนในร้าน

“ต้องขอโทษด้วยนะคะ คืนนี้วุ่นวายนิดหน่อย” เธอรีบขอโทษขอโพย รับบัตรเครดิตจากเขา

“ครับ ผมก็ว่างั้น” ชายหนุ่มตอบเสียงขรึม แก้มแดงเรื่อบอกระดับดีกรีในร่างกาย ดวงตาคมกริบมองเธอเหมือนชั่งใจ ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

“ขอบคุณค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะ” เธอส่งบัตรเครดิต คืนให้เขาพร้อมรอยยิ้มสุภาพ แววตาฉงนเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าเขายังสบตาเธอนิ่งเหมือนจะพูดแต่ไม่พูด

“คะ มีอะไรหรือเปล่าคะ ฉันคิดเงินผิดหรือเปล่า”

“เปล่าครับ” ชายหนุ่มตอบสั้น ก่อนเดินออกจากร้าน เธอคงไม่รู้ว่าเขานึกขอบใจตัวเองที่ไม่เมาจนขาดสติถามออกไปว่า คุณเป็นอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นว่าจริงหรือเปล่า

 

 



Don`t copy text!