เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 22 : The Last Sip จิบสุดท้าย

เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 22 : The Last Sip จิบสุดท้าย

โดย : ขวัญอินทร์

Loading

เปลือกมุกสีชมพู โดย ขวัญอินทร์ นวนิยายดราม่าเข้มข้นที่อ่านเอานำมาให้ได้อ่านออนไลน์ เรื่องราวที่จะแสดงให้เห็นว่าเราอาจไม่เคยมองเห็นเนื้อแท้ของใครได้เลย ถ้าเราเลือกมองแค่เพียงเปลือก ความสำเร็จ ความล้มเหลว และภาพจำที่ผู้อื่นตีกรอบให้ เราจึงไม่ควรด่วนตัดสินใคร เพราะสุดท้ายผลกรรมจะเปิดโปงทุกอย่างไม่ช้าก็เร็ว

 

วิสกี้รมควัน ลิเคียวร์กาแฟ น้ำเชื่อมทับทิม น้ำเลมอนสด น้ำแข็งก้อน

ดูเหมือนสิ่งที่คุณนาคเตือนจะเป็นจริง ถึงแม้ฟ้าพราวยอมรามือจากบาร์จับจิต แต่ดูเหมือนไฟแค้นของตระกูล สส.ไกร ที่พยายามให้อภัยเธอมาตลอดจุดติดเช่นกัน พวกเขาคิดว่าเธอควรได้รับบทเรียนให้สาสมเสียที

ในวันที่มีการจัดสัมมนาเพื่อชี้แจ้งเรื่องโครงการสร้างศูนย์บ่มเพาะสุขภาพยั่งยืนของมหา’ลัย ซึ่งมีผู้เข้าร่วมสนใจฟังหลายคน รวมฟ้าพราว มุกอันดา และก็ต้นบุญ หลังจากเซ็นชื่อเสร็จเธอเลือกที่จะเข้าทักทายผู้ร่วมสัมมนาท่านอื่นที่อยู่ในวงการเดียวกัน

ขณะที่ทุกคนกำลังยืนรอเข้าห้องประชุม ฟ้าพราวก็เผชิญหน้ากับมุกอันดาและต้นบุญ เธอมองน้องสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า วันนี้มุกอันดาอยู่ในชุดกระโปรงพลีตลายสกอต สวมทับด้วยสูทสีครีม ผมสั้นดัดปลายลอยคอสีน้ำตาลอ่อน ทำให้เธอดูสวยแปลกตาน่าเชื่อถือกว่าทุกครั้ง แต่ก็ยังคงความเท่เป็นเอกลักษณ์ตัวเอง ต้นบุญเองก็แต่งตัวในชุดธีมเดียวกัน บอกเป็นนัยว่าคงเป็นมากกว่าคนรู้จักทั่วไป

ฟ้าพราวหน้าเจื่อนลงเมื่อเจอกับสายตาห่างเหินของคนทั้งคู่ แต่แค่พริบตาเดียวเธอก็เชิดหน้าสายตาไม่ยอมแพ้ ก่อนเดินสวนกันไปโดยไม่มีคำทักทาย

มุกอันดาเหลียวกลับมามองพี่สาวก่อนเดินเข้าห้องประชุม ขณะนั้นมีคนเข้ามารุมล้อมแสดงความชื่นชม นี่สินะเป็นสิ่งที่พี่สาวเธอต้องการ

ภายในห้องประชุม ภาพสไลด์บนเวทีบอกถึงจุดประสงค์และที่มาของโครงการ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อรองรับงานวิจัยเกี่ยวกับไบโอ เทค และส่วนหนึ่งเพื่อเป็นศูนย์วิจัยสมุนไพรไทยเพื่อใช้ในผู้ป่วยโรคมะเร็ง ซึ่งเฉพาะในส่วนของโครงการต้องการคือเนื้อที่ไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยไร่ แต่ในส่วนของการทำธุรกิจร่วมนั้นก็ใช้พื้นที่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นที่พักบุคลากร โรงอาหาร และอาคารที่จอดรถ ที่รอให้นักลงทุนมาร่วมลงทุน

โครงการใช้เวลาในการสัมมนาแค่ครึ่งวัน หลังออกจากห้องประชุมทั้งสองก็เห็นฟ้าพราวกำลังให้สัมภาษณ์นักข่าว สีหน้าเคร่งเครียด เธอกับพี่ต้นเดินเลี่ยงไปก่อน จนกระทั่งถึงที่จอดรถคุณภูวดลก็โทรศัพท์เข้ามา

“มีข่าวหลุดมาว่าฟ้าพราวโดนฟ้องคดีฟอกเงิน ตอนนี้หน้าเพจข่าวท้องถิ่นกำลังสัมภาษณ์ฟ้าอยู่”

“เมื่อตะกี้แน่เลย” มุกอันดาบอกสีหน้าสะเทือนใจ แม้จะไม่ชอบฟ้าพราว แต่เมื่อเห็นพี่สาวพินาศต่อหน้าเช่นนี้เธอก็พลอยรู้สึกใจคอไม่ดีไปด้วย “เรากลับไปดูพี่ฟ้าดีมั้ยคะ”

“อย่าเลยครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าเราเข้าไปเยาะเย้ย”

ต้นบุญบอกและถ่ายทอดคำพูดของลุงภูว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องแฉครั้งนี้ คุณกรณ์บอกว่าตอนแรกไม่อยากเอาเรื่อง แต่ฟ้าพราวเหิมเกริมเกินไปแม้แต่นายกนาคก็ไม่อยากเอาไว้

มุกอันดาเอนตัวพิงพนักสายตาทอดยาวไปยังเส้นทางเพื่อเดินทางกลับบ้าน ดูเหมือนเส้นทางของเธอกับพี่ฟ้าจะห่างไกลกันทุกที

 

หลังฟ้าพราวสลัดจากนักข่าวได้ก็ตรงมาที่รถ ขับบึ่งตรงไปยังบ้านของ  ส.ส.เจนภพ

“ผมเตือนคุณแล้วใช่มั้ยว่าอย่าไปยุ่งกับคุณกรณ์มาก”  ส.ส.เจนภพเอ่ย ท่าทางหัวเสีย สาดอารมณ์ใส่ฟ้าพราวทันทีที่เห็นหน้า

“นี่มันใช่เวลาที่จะมาซ้ำเติมกันหรือคะ ไม่รู้ละ คุณต้องหาทางปิดข่าวให้ฟ้าด้วย ถ้าฟ้าพังคุณก็พังด้วย”

“คุณอย่ามาขู่ผมนะคุณฟ้า” เขาตวาดกลับเสียงดังอย่างไม่เคยทำมาก่อน

ฟ้าพราวชะงัก แต่ยังเชิดหน้านิ่ง สายตาไม่ยอมให้เขาขมขู่ แม้ในใจจะนึกหวั่น

“แล้วจะเอายังไงล่ะคะ จะมัวโทษกันอยู่ทำไม เรื่องนี้อาจไม่เกี่ยวกับอากรณ์ก็ได้”

“เรื่องข่าวปล่อยไปก่อน สำคัญคือเจ้าหน้าปอปองอเกิดบ้าจี้มาตรวจบัญชี เราก็ต้องมีหลักฐาน คุณเอาเงินตัวเองหมุนเข้าไปในบัญชี แล้วเบิกจ่ายเรื่องก่อสร้างให้มากที่สุด ผมจะหาหน้าม้ามาซื้ออาคารพาณิชย์ของคุณเอง”

“ฉันเอาเงินไปซื้อที่ดินโครงการมหาลัยหมดแล้ว”

“เรื่องโครงการนั่นคุณหยุดไว้ก่อนได้มั้ย เอาเรื่องนี้ก่อน แค่คุณมีข่าวเรื่องฟอกเงินมหาลัยก็ไม่เอาหรอก”  ส.ส.เจนภพพูดขึ้นอย่างเหลืออด

“คุณก็รีบจัดการข่าวนี้สิคะ” เธอโยนการแก้ปัญหาให้เขา ส่วนตัวเธอก็ต้องเร่งมือก่อสร้างโครงการให้เสร็จสักครึ่งหนึ่งก็ยังดี “บ้าชะมัด อย่าให้รู้นะว่าใครปล่อยข่าว” ฟ้าพราวเผลอสบถออกมา

ระหว่างรอว่า  ส.ส.เจนภพจะจบเรื่องนี้ เธอต้องเข้าไปเคลียร์เอกสารที่ออฟฟิศ เพื่อทำลายหลักฐาน ก่อนมีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ เธอกลับมาเช็กบัญชีที่หมุนอยู่ในบัญชีบริษัท เดือนละ 4 รายการใหญ่ๆ เป็นเงินเกือบ 50 ล้านเกินกว่าความเป็นจริงที่อสังหาฯ ของเธอจะรับได้ ฟ้าพราวโกรธจนเขวี้ยงแฟ้มเอกสารทิ้ง

เธอรีบติดต่อไปที่บริษัทรับเหมาเพื่อปรึกษาเรื่องก่อสร้าง อย่างน้อยก็ให้เสร็จสักหลังสองหลังก็ยังดีแต่บริษัทรับเหมาปฏิเสธ บอกว่ารับงานอื่นไปแล้ว

“แต่ฟ้าต้องเร่งงานนะคะ” เธอบอกอย่างหัวเสีย

“ผมรอคุณฟ้าอยู่หลายเดือนแล้วนะครับ ลูกน้องผมต้องกินต้องใช้เหมือนกัน”

ฟ้าพราวอ้างเรื่องยุ่งกับการหาเสียงเหมือนทุกครั้ง แต่ทางผู้รับเหมาก็ยืนยันว่าไม่สามารถมาทำงานได้ เธอจะอ้างสัญญาก็ไม่ได้เพราะเธอเองก็ผิดสัญญาก่อน

ข่าวเรื่องคดีฟอกเงินไม่มีทีท่าว่าจะหยุด และดูเหมือนว่า ปปง.จังหวัดจะรับลูกเรื่องนี้ด้วย โดยมี  ส.ส.ไกรอยู่เบื้องหลัง ตอนนี้การเมืองระดับประเทศก็เริ่มขยับตัวเพื่อเตรียมการหาเสียง  ส.ส.ไกรแม้จะเป็นอดีต  ส.ส.ในพรรคแต่ก็ยังมีพาวเวอร์ แค่เขาว่าคดีนี้สามารถเอาผิด  ส.ส.เจนภพได้ ทางพรรคก็ยิ่งสนใจกระพือเรื่องยิ่งขึ้น คุณนาคบีบให้ฟ้าพราวลาออกจากการเป็นรองนายกฯ ซึ่ง ส.ส.เจนภพก็เห็นด้วย

“เพราะคุณเลยนะฟ้าพราว เรื่องมันถึงได้เลยเถิด ดีไม่ดีผมสอบตกไปด้วย”  ส.ส.เจนภพยิ่งหัวเสียเข้าไปอีกเมื่อข่าวเพ็งเล็งมาที่เขา

“แล้วใครใช้ให้คุณหมุนเงินในบัญชีฉันเป็นร้อยล้านแบบนั้นล่ะ” ฟ้าพราวเอ่ยน้ำเสียงกลัดกลุ้ม เจ็บใจที่โดนบีบให้ออก รับผิดชอบเรื่องนี้คนเดียว

“แล้วทำไมคุณถึงไม่ทำให้เสร็จ ถ้าเสียดายเงินทำทีละหลังก็ยังดี จะได้ไม่ผิดสังเกต”  ส.ส.เจนภพเอ่ยเสียงหงุดหงิดเพราะผิดหวังในตัวเธอ

“คุณก็รู้ว่าฉันโดนแกล้ง” ฟ้าพราวยังไม่ยอมรับว่าตัวเองพลาด

“เอางี้ ผมว่าเราน่าจะหาคนที่พอมีอำนาจหยุดเรื่องนี้ เพราะต่อให้ได้ผู้รับเหมามาก็เนรมิตทุกอย่างไม่ทันหรอก” เอกมัยเสนอความคิดเห็น ถ้าไม่ติดว่าตัวเองต้องติดร่างแหไปด้วย เขาคงไม่คิดช่วยเธอ

“ใครวะ ใครจะกล้ายุ่งเรื่องฉาวแบบนี้”

“งานระดับนี้ก็มีแค่ท่านอิทธิพล อดีตนายกออบอจอจังหวัดเท่านั้นแหละครับ ที่พอเคลียร์ได้เพราะเป็นนายทุนพรรคของสอสอไกร ถ้าเรายื่นข้อเสนอดี ท่านอาจช่วยเคลียร์ได้นะครับ” เอกมัยบอก  ส.ส.เจนภพ พลางปรายตาไปที่ฟ้าพราว เมื่อพูดถึงข้อเสนอดีๆ

ส.ส.เจนภพเหมือนเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์อีกครั้ง นายกฯ อิทธิพลได้ชื่อว่าเจ้าชู้ มีภรรยาหลายคน แต่ละคนระดับนางงามทั้งนั้น แต่ไม่มีใครมีระดับเท่าฟ้าพราว อย่างน้อยเธอก็เกิดในตระกูลที่มีฐานทางการเมือง

เรื่องของฟ้าพราวที่ใครๆ ก็คิดว่าต้องโด่งดัง จู่ๆ ก็เงียบลงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้แต่หน่วยงานที่ตรวจสอบเรื่องนี้ก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ จนคนที่เฝ้าดูข่าวอย่างใกล้ชิดอย่างเช่นมุกอันดาต้องแปลกใจ

“มุกไม่ต้องห่วงหรอก พี่สาวคุณรอดแล้วละ” ต้นบุญบอกขณะโอบไหล่เธอเข้าไปในบ้านจัดสรรที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ไม่ถึงเดือน

“รอดแบบไม่ผิด หรือผิดแต่เอาตัวรอดคะ” มุกอันดาถามตรงๆ ต้นบุญหัวเราะลั่นแกล้งล็อกคอเธอแรงๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยวก่อนหอมแก้มแรงๆ ฟอดใหญ่ ก่อนตอบให้เธอคลายกังวล

“ผิดแต่เอาตัวรอด”

“ใครช่วยคะ” เธอพอจะตีความหมายได้ กฎหมายต่อให้ดียังไง แต่ถ้าคนมีอำนาจไม่ใช้ก็เป็นแค่ตำรา

“คนช่วยใหญ่โตเชียวละ ใหญ่โตจนคุณตาไกรต้องหลีก”

“ก็ดีค่ะ” มุกอันดาไม่อยากถามอะไรอีก แค่ภาวนาว่าทางรอดของพี่ฟ้าจะไม่พาตัวเองตกลงไปในหลุมลึกกว่าเดิม

แต่คำอธิษฐานของเธอไม่เป็นผล เมื่อต้นบุญเล่าให้ฟังหลังจากเข้ามาอยู่ในบ้านแล้วว่า ฟ้าพราวให้อดีตนายก อบจ.ที่ชื่ออิทธิพลช่วยซื้อโครงการ และก็แน่นอน  ส.ส.เจนภพต้องถอนหุ้นออกจากบริษัท

“นายกอิทธิพลไม่ได้หวังขายได้หรอก นั่นก็ฟอกเหมือนกัน” ต้นบุญบอกสีหน้าหนักใจ ขมวดคิ้วกังวลอะไรบางอย่างจนมุกอันดาจับสังเกตได้ แต่เธอใจเย็นพอที่จะให้เขาบอกเอง

“ส่วนคดีก็อย่างที่บอก ท่านอิทธิพลเป็นนายทุนพรรคการเมืองหลายพรรค ท่านช่วยฟ้าพราวในฐานะที่เธอเป็นภรรยาอีกคน”

“เมียน้อย พี่ฟ้าเป็นเมียน้อยหรือคะ” มุกอันดาตื่นตะลึง ไม่น่าเชื่อว่าอนาคตพี่ฟ้าจะเป็นแบบนี้

เป้าหมายคนเราไม่เหมือนกันหนูมุก ผู้หญิงบางคนขอแค่ให้ตนเองสบาย จะอยู่ตำแหน่งไหน ไม่สนใจหรอก

เธอนึกถึงคำพูดของเสี่ยชูชัย แกรู้หมดว่าใครเป็นเมียน้อยของใคร และเอามาเล่าให้เธอฟังบ่อยๆ ประมาณอยากให้เธอใจอ่อนเป็นเมียแกนั่นแหละ

‘แล้วนี่ป้าจีรู้หรือยังว่า พี่ฟ้าเลือกทางเดินนี้’

ป้าจีกับพี่ฟ้าชอบเอาเธอไปประจานว่าเป็นเมียเก็บเสี่ย แต่ตอนนี้ลูกสาวตัวเองกลับเป็นเมียเก็บเสียเอง เธอควรจะรู้สึกอย่างไรกับป้าดี แต่เมื่อคิดว่าตอนนี้ป้าจีต้องมองลูกสาวสุดที่รักอยู่เป็นดาวค้างฟ้าบนฟ้ามืด แกก็คงเจ็บปวดมากแล้ว

วินาทีนี้เธอต้องปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามกรรม ก็พี่ฟ้าอยากเลือกเดินเส้นทางนี้เอง เธอไม่คิดซ้ำเติมก็ถือว่าดีมากแล้ว มุกอันดาเอนศีรษะพิงไหล่ กอดแขนต้นบุญสัมผัสได้ถึงรอยจุมพิตที่กระหม่อม และซ้ำอีกครั้งเมื่อเธอเงยหน้าขึ้น

“ขอบคุณนะคะ ถ้าไม่มีพี่ต้นมุกยังไม่รู้เลยว่าจะเป็นยังไง”

“เป็นยังไงน่ะเหรอ เปลือกนอกเป็นยังไงไม่รู้ แต่ภายในก็ยังเป็นมุกสีชมพูเม็ดงามตลอดไป”

เขาบอกพลางโอบกระชับถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวล เขากับมุกอันดามีแผนการไว้ในใจว่าถ้าคอนโดฯ เสร็จจะแต่งงานกัน ไม่จำเป็นต้องดูใจอะไรกันมากกว่านี้แล้วเพราะเรามีเป้าหมายเดียวกันคือความสุขที่เกิดจากการได้อยู่กับคนที่รัก

 

 



Don`t copy text!