
มรดกมนตรา บทที่ 15 : สังเวยรัก…แด่นางพญา
โดย : วัชรนริศ
![]()
มรดกมนตรา ผลงานของ วัชรนริศ ที่อ่านเอานำมาให้อ่านออนไลน์ทาง anowl.co กับเรื่องราวของนักวิจัยสาวผู้ไม่เชื่อในสิ่งลี้ลับที่ได้รับคฤหาสน์โบราณกลางป่ากาญจนบุรีเป็นมรดกจากญาติที่ไม่เคยรู้จัก ทว่าคฤหาสน์หลังนี้กลับซ่อนคำสาป วิญญาณ และอดีตอันมืดมนที่รอการปลุกตื่น พร้อมการฟื้นคืนของ “อัคนีนาฏเทวี” อสูรสาวในตำนาน
วันรุ่งขึ้นเอกภพหนุ่มนักธุรกิจใหญ่นัดทานอาหารกับเพื่อนของเขาที่ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง ขณะที่ทานอาหารกับเพื่อน อัคคีรัตน์ก็เดินเข้ามาภายในร้าน เธออยู่ในชุดเดรสเข้ารูป ผ้ากำมะหยี่สีแดงเลือดนกแขนยาว ผมสีน้ำตาลเข้มที่เกล้าสวยเข้ากับใบหน้าของเธออย่างเรียบร้อย แต่ก็ซ่อนไปด้วยความมั่นใจ เสียงรองเท้าส้นสูงที่ค่อยๆ ก้าวเข้ามาในร้าน ทำให้เอกภพต้องหันไปมอง
“นั่น! คุณอัคคีรัตน์เธอมาทำอะไรแถวนี้” เอกภพพูดเบาๆ กับตัวเอง เขาหันไปหาเพื่อน “เฮ้ยเพื่อน ฉันขอเดินไปทักทายคนรู้จักหน่อยนะ”
เพื่อนพยักหน้า “ได้เลย เดี๋ยวฉันรอตรงนี้นะ”
เอกภพลุกขึ้นและเดินตรงไปหาอัคคีรัตน์ เมื่อเขาเข้าไปใกล้ เขาเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่พยายามรักษาความเป็นมิตร “คุณอัคคีรัตน์ สวัสดีครับ”
อัคคีรัตน์หันมามองเขา พลางยิ้มเล็กน้อย “สวัสดีค่ะคุณเอกภพ ไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่”
“ใช่ครับ ผมมาทานอาหารกับเพื่อนครับ แล้วคุณล่ะครับ มาทานอาหารเหรอครับ” เอกภพถามด้วยความสนใจ
“ใช่ค่ะ อยากจะออกมาเปิดหูเปิดตาบ้าง อยู่คนเดียวนานๆ ก็จะเฉาเอาเสียหมด” อัคคีรัตน์ตอบพร้อมรอยยิ้มเล็กๆ เมื่อเอกภพได้ยินว่าเธออยู่คนเดียว เลยนึกอยากจะขออาสาไปส่งเธอที่บ้าน “แบบนี้คุณก็มาคนเดียวสิครับ
“ใช่ค่ะ” อัคคีรัตน์ตอบ
เอกภพพยายามเข้าหาเธอมากขึ้น “ถ้าแบบนั้นให้ผมไปส่งไหมครับ”
“จะดีหรือคะ คุณมากับเพื่อนไม่ใช่หรือคะ เดี๋ยวเขาจะว่าฉันเอาได้นะคะ” อัคคีรัตน์ตอบด้วยความลังเล
เอกภพยิ้ม “ไม่เป็นไรเลยครับ ไอ้วุฒิมันเพื่อนสนิทผม มันไม่กล้าว่าอะไรอยู่แล้ว ถ้าอย่างงั้น เดี๋ยวผมขอเชิญคุณอัคคีรัตน์มาทานข้าวด้วยกันเลยได้ไหมครับ” เอกภพเชิญอย่างสุภาพ
“ยินดีค่ะ” เธอตอบรับแล้วเดินเข้าไปที่โต๊ะพร้อมกับเอกภพ
“เฮ้ย วุฒิ นี่คือคุณอัคคีรัตน์” เอกภพแนะนำ
“สวัสดีครับคุณอัคคีรัตน์” วุฒิทักทายด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีค่ะ คงไม่ว่าอะไรนะคะถ้าจะขอร่วมโต๊ะด้วย” อัคคีรัตน์ถามอย่างสุภาพ
“ไม่เป็นอะไรเลยครับ มีสาวสวยขนาดนี้มานั่งด้วย สดชื่นขึ้นเยอะเลย” วุฒิพูดพร้อมหัวเราะเบาๆ
เมื่อทั้งสามพูดคุยและทานอาหารเสร็จ เอกภพมองหน้าวุฒิเหมือนรู้ใจกัน “ฉันขอตัวไปส่งคุณอัคคีรัตน์ก่อนนะ เอาไว้เจอกันใหม่ละเพื่อน”
“เออได้ ไว้เจอกันใหม่” วุฒิกล่าว
อัคคีรัตน์ยิ้มบางๆ “ขอบคุณนะคะคุณวุฒิ ไว้พบกันใหม่ค่ะ”
เอกภพเดินไปส่งอัคคีรัตน์ที่รถของเขา คนขับรถของเอกภพรีบลงมาเปิดประตูรถให้เธอขึ้นไปนั่ง ระหว่างทางเอกภพชื่นชมเธอ “ผมไม่คิดว่าจะได้เจอคุณอีกนะครับ”
อัคคีรัตน์ยิ้มอย่างเย็นชา “ฉันก็ไม่คิดว่าจะได้เจอคุณอีกค่ะ แต่ก็ต้องมีบางอย่างที่ทำให้ต้องกลับมาเจอกัน” เอกภพหันมามองเธอเล็กน้อยด้วยความสงสัย
“แต่วันนี้คุณสวยมากเลยนะครับ คุณรู้ตัวไหมครับว่าคุณน่าสนใจ” เธอหัวเราะ “คุณคิดแบบนั้นเหรอคะ คุณเอกภพ”
“ใช่สิครับ ก็คุณออกจะสวยขนาดนี้” เอกภพตอบด้วยรอยยิ้ม อัคคีรัตน์หันมามองเขาด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความลึกลับ
“ขอบคุณค่ะ แต่ความสวยของผู้หญิงบางครั้งก็อาจจะเป็นเพียงเปลือกนอกเท่านั้น”
“แล้วอะไรคือสิ่งที่อยู่ข้างในล่ะครับ” เอกภพถามด้วยความสนใจ
“สิ่งที่อยู่ข้างในคือความลับที่รอคอยให้คนที่กล้าพอที่จะค้นพบค่ะ” อัคคีรัตน์ตอบอย่างมีนัยสำคัญ
เอกภพยิ้ม “ผมพร้อมจะค้นหาความลับนั้นนะครับ ถ้าคุณยอมให้ผมเข้าใกล้”
“ถ้าคุณกล้าพอ ก็ลองดูสิคะ” เธอตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก
บรรยากาศในรถเต็มไปด้วยความลึกลับและน่าตื่นเต้น ทั้งสองคุยกันต่อไปอย่างลึกซึ้ง เอกภพเริ่มรู้สึกว่าอัคคีรัตน์ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา แต่มีอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอแตกต่างและน่าสนใจมากขึ้นทุกที
เสียงรถยนต์หยุดจอดบริเวณหน้าบ้านของอัคคีรัตน์ คนขับรถลงมาเปิดประตูให้เอกภพและเธอ ปักษาดำและสมิงดงในร่างของชายหนุ่มได้เดินออกมาต้อนรับนายหญิง
“โอ้โห นี่บ้านของคุณเองเหรอครับ ถ้าไม่บอกว่าเป็นบ้าน ผมคงคิดว่าเป็นวังเก่าของใครสักคนแน่ๆ ครับ” เอกภพกล่าวด้วยความประทับใจ
เอกภพสั่งคนขับรถว่า “แกรอฉันอยู่ตรงนี้แหละ” อัคคีรัตน์หันไปสบตาปักษาดำและสมิงดงด้วยแววตาแฝงเลศนัย
“ฝากพวกเจ้าดูแลเขาให้ดีๆ ล่ะ”
ชายหนุ่มทั้งสองมองไปที่คนขับรถ ราวกับเห็นเขาเป็นชิ้นเนื้อ “ได้ครับนายหญิง”
อัคคีรัตน์หันมายิ้มเบาๆ เมื่อเธอพาเอกภพเข้าไปบริเวณด้านใน ภายในบ้านมีบันไดใหญ่อยู่บริเวณกลางบ้าน สองข้างของบันไดประดับด้วยรูปปั้นสิงห์โบราณขนาดใหญ่ พื้นบันไดมีพรมสีแดงถูกปูยาวลงมาเป็นทางเดินอย่างสวยงาม รอบๆ ห้องตกแต่งด้วยรูปปั้นเทวรูปโบราณมากมาย
“คุณอัคคีรัตน์ คุณชอบสะสมของโบราณเหรอครับ ผมว่าข้างนอกก็ทำผมทึ่งแล้ว ด้านในนี่ยิ่งทึ่งขึ้นไปอีกเลยนะครับ” เอกภพกล่าว
เธอหันมาพูดกับเขาว่า “ยังมีอะไรอีกหลายอย่างนะคะที่จะทำให้คุณต้องประหลาดใจมากกว่านี้ เชิญค่ะ ตามดิฉันมา”
อัคคีรัตน์พาเอกภพเดินผ่านห้องโถงใหญ่ไปยังห้องหนึ่งที่มีประตูไม้แกะสลักอย่างสวยงาม เมื่อเธอเปิดประตูเข้าไป ภายในห้องนั้นมีวัตถุโบราณและของสะสมที่น่าทึ่งอีกมากมาย ตั้งแต่เครื่องปั้นดินเผา เครื่องเงิน ไปจนถึงรูปภาพและวัตถุศักดิ์สิทธิ์จากหลายยุคหลายสมัย
“ห้องนี้เป็นที่ที่ดิฉันใช้เก็บของสะสมและของที่มีค่าทางจิตใจค่ะ” อัคคีรัตน์กล่าวด้วยน้ำเสียงภูมิใจ
“นี่มันน่าทึ่งมากจริงๆ ครับ ทุกชิ้นดูมีความหมายและมีประวัติศาสตร์” เอกภพพูดพลางเดินดูของในห้องด้วยความสนใจ
“ของทุกชิ้นมีเรื่องราวและความลับของมันค่ะ บางครั้งการเก็บของเหล่านี้ก็เหมือนการเก็บความทรงจำและปริศนาของโลกใบนี้ไว้ในมือของเรา” เธอกล่าวอย่างลึกซึ้ง
“คุณพูดถูกครับ ความทรงจำและปริศนาของอดีตเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก” เอกภพเห็นด้วย
อัคคีรัตน์ยิ้ม “ถ้าคุณสนใจ ฉันสามารถเล่าเรื่องราวของสะสมเหล่านี้ให้ฟังได้ค่ะ บางเรื่องราวอาจทำให้คุณตื่นเต้นไม่น้อย”
“ผมอยากฟังครับ” เอกภพตอบด้วยความสนใจ
ทั้งสองคนใช้เวลาคุยกันในห้องนั้น โดยอัคคีรัตน์เล่าเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของวัตถุโบราณต่างๆ ให้เอกภพฟัง เอกภพรู้สึกทึ่งและประทับใจในความรู้และความลึกซึ้งของอัคคีรัตน์ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเริ่มต้นจากความสนใจในสิ่งที่อยู่รอบตัวและเติบโตขึ้นเป็นความสนิทสนมและความไว้วางใจ
เอกภพถามต่อ “คุณอัคคีรัตน์ครับ ถ้าไม่เป็นการยุ่งเรื่องส่วนตัวมากจนเกินไป ผมอยากรู้ว่าตอนนี้คุณมีใครที่คบหาดูใจอยู่ไหมครับ”
เธอหัวเราะและหันมาสบตา “ไม่มีหรอกค่ะคุณเอกภพ”
เอกภพมองด้วยความดีใจและสงสัย “ทำไมล่ะครับ ในเมื่อคุณออกจะสวยขนาดนี้”
อัคคีรัตน์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “คุณเอกภพเคยได้ยินตำนานเรื่องอัคนีนาฏเทวีไหมคะ”
เอกภพยังคงมองเธอไม่ละสายตา “ใช่วันที่คุณพูดถึงในงานแสดงโชว์เครื่องเพชรไหมครับ”
“ใช่ค่ะ อัคนีนาฏเทวี เธอเป็นผู้หญิงที่ทรงอำนาจ และมีพลัง เธอเคยมีคนที่เธอรักด้วยนะคะ แต่เขาหักหลังและทำร้ายเธอ” เอกภพมองด้วยความสนใจ “แล้วมันเกี่ยวกันยังไงหรือครับ”
“ไม่เกี่ยวอะไรหรอกค่ะ แต่ดิฉันคิดว่าบางทีการที่เป็นผู้หญิงที่สวยและมีทุกอย่าง บางทีความรักอย่างเดียวอาจจะยังไม่เพียงพอ”
เอกภพเสริมต่อ “ไม่จริงหรอกครับคุณอัคคีรัตน์ ถ้าผู้ชายคนนั้นเป็นผม ผมจะให้ทั้งตัวและหัวใจเลย”
เธอหันมามองเขาอย่างมีเลศนัย “คุณพูดจริงๆ หรือคะ”
“ใช่ครับ”
“ถ้าอย่างงั้นตามดิฉันมาสิคะ ดิฉันมีห้องสำคัญจะให้คุณดู” ระหว่างนั้น คนขับรถของเอกภพขึ้นไปนั่งรอนายอยู่บนรถ ทันใดนั้นเขาเห็นเงาสีดำร่างใหญ่บางอย่างอย่างวิ่งผ่านรถไปอย่างรวดเร็ว “เฮ้ยอะไรวะ คนขับรถเดินลงไปดูรอบๆ รถ แต่ก็ไม่พบอะไร หันมาอีกทีก็พบกับปักษาดำและสมิงดงในร่างของชายหนุ่ม แต่ทั้งสองมีเขี้ยวแหลมคมที่ยื่นออก
คนขับรถร้องอุทานด้วยความตกใจ “เฮ้ย ตัวอะไรกันวะ” ปักษาดำและสมิงดงไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปกัดที่คอและแขนของเขาทันที คนขับรถสิ้นใจทันที และถูกลากศพหายเข้าไปในความมืด
ภายในบ้านของอัคคีรัตน์ เธอได้นำทางเอกภพไปที่ห้องพิธีของเธอ เอกภพเดินตามหลังเธอไปด้วยความสนใจ เมื่อไปถึงห้องพิธี “โอ้โห อะไรกันครับ ในบ้านแบบนี้มีห้องแบบนี้ด้วยหรือครับ”
“คุณรู้ไหมคะ ว่าห้องนี้มีเอาไว้ทำอะไร” เธอพูดด้วยแววตามีแผนการร้าย
“ไม่รู้สิครับ แต่ผมคิดว่าคุณอัคคีรัตน์ชอบของโบราณ ห้องนี้อาจจะเอาไว้จัดแสดงของสะสมหรือครับ”
อัคคีรัตน์หัวเราะ “คุณนี่ก็พูดเล่นเก่งนะคะ บ้านที่ไหนจะมีห้องเทวาลัยแบบนี้ เมื่อเธอพูดจบเธอก็เดินนำเขาเข้าไปภายในห้องที่ลึกขึ้น เอกภพเริ่มสังเกตเห็นว่า ภายในนอกจากห้องเทวาลัยหินแล้ว ยิ่งเดินลึกเข้าไปก็พบกับห้องที่มีกรงเหล็กราวกับเป็นคุกใต้ดินโบราณ แสงที่มีภายในระหว่างทางเดินก็ค่อยๆ สลัวขึ้น
เอกภพเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ “คุณอัคคีรัตน์ครับ ผมคิดว่าผมขอตัวกลับก่อนดีกว่า ตอนนี้น่าจะดึกมากแล้ว”
เธอหัวเราะด้วยน้ำเสียงที่หยอกล้อ “อ้าว คุณเอกภพจะกลับแล้วหรือคะ ฉันยังพาชมไม่ครบทุกห้องเลยค่ะ”
“ผมคิดว่าผมคงต้องขอตัวกลับก่อนดีกว่าครับคุณอัคคีรัตน์” เมื่อพูดจบ เขาก็รีบหันหลังและพยายามเดินกลับไปทางเดิม แต่เขาก็พบเข้ากับปักษาดำและสมิงดงในร่างของชายหนุ่ม ที่มีคราบเลือดอยู่เต็มปาก
เอกภพร้องด้วยความตกใจสุดขีด “เฮ้ย! อะไรกันวะ”
อัคคีรัตน์หัวเราะด้วยความสนุกใจ “คุณไม่ต้องตกใจไปหรอกนะคะ เพราะสองคนนั้นเป็นผู้รับใช้ของฉันเองค่ะ”
เอกภพยังคงตกใจอยู่ เวลานี้เขาค่อยๆ ก้าวถอยหลังออกมาจากชายหนุ่มผู้รับใช้ทั้งสอง และคิดในใจว่าเขาต้องหนีออกไปจากที่นี้ให้ได้
“พวกแกจะทำอะไรฉัน พวกแกมันไม่ใช่คน” เขาพยายามจะวิ่งหนี แต่ก็หันมาพบกับอัคคีรัตน์อีกครั้ง เธอยังคงหัวเราะไม่หยุด เอกภพวิ่งหนีทั้งสามเข้าไปภายในบ้านลึกเข้าไปเรื่อยๆ จนมาถึงทางตัน ผู้รับใช้ของอัคคีรัตน์ทั้งสองได้วิ่งพุ่งเข้ามาหมายจะกัดเข้าที่ใบหน้าของเขา
แต่เกิดแสงสว่างบางอย่างกระจายตัวออกมาราวกับปกป้องเขาเอาไว้ แสงนั้นคือฮู้ยันต์จีนที่เขาเคยได้รับจากซินแสที่เขาเคารพ เอกภพได้นำมาทำเป็นสร้อยติดตัวเอาไว้ แสงนั้นได้ทำให้ปักษาดำและสมิงดงกระเด็นออกห่างจากตัวเขาเพียงชั่วครู่ เขาจึงพยายามวิ่งกลับออกมาทางเดิมจนมาถึงบริเวณหน้าบ้านที่มีรถของเขาจอดอยู่ เขารีบวิ่งมาทุบประตูกระจกคนขับ
“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย” แต่ภายในรถกลับไม่มีใคร
เขารีบวิ่งออกไปจนถึงถนนใหญ่ ชายหนุ่มโซซัดโซเซอยู่กลางถนน ไม่นานก็มีแสงไฟจากรถที่วิ่งเข้ามา และต้องหยุดจอด เมื่อเห็นเอกภพที่กำลังร้องขอความช่วยเหลืออยู่กลางถนน
“ช่วยผมด้วย ผมกำลังถูกไล่ฆ่า” ด้วยท่าทางของเอกภพที่อยู่ในภาวะตกใจและพูดจาวกไปวนมา ทำให้คนที่ช่วยเขากลางถนน พาไปส่งตัวที่สถานีตำรวจที่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ
เมื่อนายตำรวจที่อยู่ประจำสถานีเห็น “นั่นมันคุณเอกภพนักธุรกิจชื่อดัง เกิดอะไรขึ้นนะ” เขาหันไปพูดคุยกับนายตำรวจข้างๆ กัน
“คุณตำรวจช่วยผมด้วย ผมถูกผีดิบกำลังวิ่งไล่ …มัน มันจะฆ่าผม”
“ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ” เอกภพยังคงมีท่าทีตื่นตกใจอยู่ คุณตำรวจหันไปสอบถามกับบุคคลที่ช่วยเขา “คุณครับเกิดอะไรขึ้นครับ”
“ผมขับรถอยู่ จู่ๆผู้ชายคนนี้ก็วิ่งร้องขอความช่วยเหลืออยู่กลางถนน ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะถามอะไรไป เขาก็เอาแต่ตอบว่า จะถูกผีดิบไล่ฆ่า ผมเลยพาเขามาส่งที่นี่ไว้ก่อน”
คุณตำรวจพยักหน้าด้วยความสงสัย “ขอบคุณมากนะครับ เดี๋ยวยังไงผมจะลองติดต่อญาติของเขาให้มาดูอีกที” ไม่นาน เลขาฯ ของเอกภพก็มาถึงสถานีตำรวจ และได้พาเอกภพเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในคืนนั้นทันที

- READ มรดกมนตรา บทที่ 16 : ซินแสของเอกภพ
- READ มรดกมนตรา บทที่ 15 : สังเวยรัก…แด่นางพญา
- READ มรดกมนตรา บทที่ 14 : เสียงกระซิบจากแผลเก่า
- READ มรดกมนตรา บทที่ 13 : การตื่นขึ้นของกริชอาคม
- READ มรดกมนตรา บทที่ 12 : การเผชิญหน้าที่ฟ้าลิขิตไว้
- READ มรดกมนตรา บทที่ 11 : นางฟ้าในคราบอสรพิษ
- READ มรดกมนตรา บทที่ 10 : เงาร้ายในร่างเธอ
- READ มรดกมนตรา บทที่ 9 : ใต้หน้ากากนางพญา
- READ มรดกมนตรา บทที่ 8 : ไฟสุมทรวง
- READ มรดกมนตรา บทที่ 7 : จอมเวทย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์
- READ มรดกมนตรา บทที่ 6 : อดีตของวิญญาณร้าย
- READ มรดกมนตรา บทที่ 5 : นางอสูรคืนชีพ
- READ มรดกมนตรา บทที่ 4 : วิญญาณบาปผู้คร่ำครวญ
- READ มรดกมนตรา บทที่ 3 : ปลดปล่อยเทวีมนตรา
- READ มรดกมนตรา บทที่ 2 : การพบกันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
- READ มรดกมนตรา บทที่ 1 : การมาถึงของหญิงสาว
- READ มรดกมนตรา : บทนำ







