
ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 20 : หนังสือล้ำค่า
โดย :
“ขุนเขาแมกไม้” นวนิยายเรื่องเยี่ยมในชุดโหราศาสตร์ ผลงานเรื่องล่าสุดของ ’กฤษณา อโศกสิน‘ ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ประจำปีพุทธศักราช 2531 กับเรื่องราวของเดินดงและอิทธิพลของดาวเสาร์ที่มีต่อชีวิตของเขาได้ในอ่านเอา
แต่แรกเดินดงคิดว่าทุกคนคงจะได้เห็นหล่อนสะบัดแขนจากมือนายอุกกาอย่างไม่ไยดี
หากก็ไม่มีกิริยาป่าๆ เช่นนั้นส่งออกจากมารยาทของหล่อน เพราะเจ้าตัวแค่เบี่ยงกายนิดหนึ่งพร้อมยิ้มจางๆ พลางพยักหน้า
“พี่ก็ทานด้วยกันซี” หล่อนแค่บอกนิ่มๆ
นายจัง นายจัด ได้แต่โล่งอกที่สาวงามแห่งภูผาป่าใหญ่ทำท่ากลมกลืนไปกับผู้ที่ใครต่อใครจัดไว้คู่กัน นั่นก็คือคู่อริที่อยากจะเข้ามากลืนกินกันและกันทางธุรกิจ…ต่างก็กำลังขยายวงออกไปอย่างกว้างขวาง โดยมิอาจรู้ได้ว่าฝ่ายไหนกำลังจะกลืนจะกินหรือเป็นฝ่ายถูกกลืนถูกกิน
เอ…นึกๆ ไปก็สนุกดีเหมือนกันนา เดินดงมองดูความเคลื่อนไหวตรงหน้าอย่างระวังระไวพร้อมกับคลายความเครียด
ด้วยว่ามีรสชาติทั้งรักและเดียดฉันท์เข้ามาปรุงปน
อาหารทั้งคาวหวานกลางวันนี้จึงดูจะเข้มข้นถึงใจ มีทั้งแกงเผ็ดแกงจืดผัดเผ็ดผัดจืดน้ำพริก ต่างก็ตักเข้าปากเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย
นับเป็นมื้อกลางวันอันพิเศษที่ช่วยคลี่คลายความอึดอัดคับข้องของหนุ่มจากกรุงเทพฯ ได้มากอย่างที่เจ้าตัวเองก็นึกไม่ถึง
แม้แต่เก่งผู้ยืนรับใช้อยู่ไม่ไกลก็ล่วงรู้ว่านายของเขาดูจะคลายอาการตื่นภัยหวาดหวั่นที่แอบไว้ในอารมณ์ตลอดสามสี่วันที่ผ่านมาลงได้อย่างหมดจดจากอาหารมื้อนี้
เหลือกมองนายอุกกาก็เห็นว่าเขากำลังอร่อยกับปลาคังผัดเผ็ด กุ้งอบวุ้นเส้น ผัดยอดผักบุ้ง แกงเทโพ ไข่เจียวผัดแหนมแกมผักกาดขาวสดใหม่ ดีที่มีหมูหวานช่วยไว้ ขณะที่หญิงสาวส่งอาหารเข้าปากช้าๆ หากทีท่าก็แสดงให้รู้ว่าถูกปาก
“สั่งเจ๊ม่อมใช่ไหมคุณจัง” นายโอกาสหูตาแดงก่ำขณะลิ้มรสผัดเผ็ด
“ไม่มีใครเลิศกว่าเจ๊คนนี้อีกแล้ว” นายจังพึมพำ เขาเองก็น้ำตาเต็มตาขณะรับรสชาติผัดเผ็ดปลาคังเช่นกัน
“อร่อยมาก ไม่ต้องเติมอะไรเลยนะพ่อ” นายจัดว่า
เดินดงก็เลยเอาใจคนสั่งอาหารมาเลี้ยงเที่ยงนี้
“ขอบคุณคุณจังมากนะฮะที่ช่วยให้ผมอร่อยจนพุงกาง”
“เมื่อวานไม่มีอะไรรับทานหรือฮะ” อีกฝ่ายงึมงำ
“ตามมีตามเกิดแค่นั้นทุกมื้อฮะ” ชายหนุ่มเริ่มกระชุ่มกระชวยขึ้นโดยไม่ทันรู้สึก อาจเป็นด้วยว่า…ลึกกว่านั้น…เขาเริ่มนึกสนุกกับชีวิตชีวาใหม่เอี่ยมที่จะว่าเทียมหรือแท้ก็ยังนึกไม่ออก จึงเพียงแต่ดูๆ ไป อย่างน้อยจุดประสงค์อันยิ่งใหญ่ของตนเองก็ยังวางเรียงอยู่บนรถกระบะคันนี้ ยังไม่ถูกเคลื่อนย้ายไปไหนจนกว่าคนงานจะล้อมรั้วเสร็จ…เริ่มไถดินที่น่าจะเป็นร่องยาว ตรงออกไปบนที่โล่งกว้างตรงหน้า ตรงที่จะดิ่งไปถึงขุนเขาตรงโน้น…โน่น…ที่เขายังไม่มีโอกาสเหยียบย่างเข้าไป
ดูเหมือนไร่พืชสามชนิดของนายจังจะแผ่เต็มอยู่ขวามือ ที่เขาแลเห็นลิบๆ เชิงขอบเขา คล้ายติดกับท้องฟ้า
ส่วนซีกซ้ายก็เช่นกัน เป็นไร่พืชขายง่ายขายคล่องของนายโอกาส
ไร่ของคนทั้งคู่จึงบีบให้เขาอยู่ตรงกลาง
ถ้าคิดว่าดี…ก็น่าจะดี
แต่ถ้าคิดว่า น่าจะร้าย ก็อาจร้าย
แล้วแต่คนที่มาอยู่ใหม่
ศัตรูนั้น หาได้ง่าย เพียงแค่พูดผิดหู
แต่การมาค้นหาศัตรูแถวนี้ เดินดงนึกในใจ…คงจะกลายเป็นโง่มากกว่าฉลาด
ดังนั้น เขากับเก่งก็ยังจำเป็นต้องประคับประคองกายใจให้มั่นคงแน่วแน่ในจุดหมายปลายทางที่พ่อแม่มอบมาเพื่อทดสอบความสำเร็จของลูกชายผู้เหลวไหลคนหนึ่ง ให้เดินทางไปจนถึงที่ใดก็ได้ อันเป็นที่ที่คนทั้งหลายเรียกขานกันว่า ‘ความสำเร็จ’
เทพองค์ที่มีนามว่า ‘ดาวเสาร์’ ใช่หรือไม่ที่พาเขามา
ท่านเจ้าคณะเขียนไว้ว่า เขาเป็นคนราศีมังกร อันเป็นราศีของเสาร์ ธาตุดิน เสาร์ตัวนี้เมื่อก้าวข้ามราศีมังกรไปสถิตที่ราศีกุมภ์อันเป็นของราหู 8 ย่อมถือว่า สิ่งที่ได้มาซึ่งถือเป็นทรัพย์สินใดก็ตาม ย่อมได้มาโดยง่าย แต่รักษาไว้ได้ยาก เพราะถูกเล็งด้วยดาวอังคาร 3 ดาวพันธุกับลาภะ งานที่รับมาจะหนักมาก
ชายหนุ่มผู้เคยตามใจตนเอง ณ บัดนี้ จึงค่อยๆ ฟื้นจากหลักการเดิมๆ ที่ว่า ตนของตนต้องมาก่อน…มาที่หนึ่ง…กลายเป็นมาที่สอง หรือมาทีหลังจนมาถึงหลังสุด
ครั้นแล้ว จะต้องรู้จักหยุดเมื่อถึงเวลา…ก้าวไปข้างหน้าเมื่อกลุ่มคนทั้งขวาและซ้ายเปิดทาง
ก็คิดดู แม้กระทั่งคนงานกับเครื่องมือทำการเกษตรทันสมัย แม่ก็ไม่จัดมา บอกแค่สั้นๆ ว่าไปจ้างคนที่นั่นสะดวกกว่า
ณ บัดนี้ ความสะดวกก็มาถึงจริงดังแม่ว่า
พ่อก็เห็นด้วยเรื่องจ้างคนงานไปพลาง…รอดูความเป็นไปได้ว่า เขาจะมีพลังงานเพียงพอทำเกษตรได้หรือไม่
ถ้าไม่มี แล้วต้องขนย้ายกลับกรุงเทพฯ ก็ไม่เสียเงินที่จะต้องทุ่มเทไปกับอนาคตลมๆ แล้งๆ ที่เจ้าตัวไม่ยอมรับ
ที่จริง…หากใครเป็นพ่อแม่คนนิสัยเช่นนี้ก็น่าจะรู้ดีก่อนผลักไสให้มาทำ
นับเป็นความผิดของพ่อแม่ที่คิดการใหญ่ นำมาอัดใส่ชีวิตของคนที่ไม่เคยคิดการใด
เดินดงใจหายวูบอยู่เหมือนกันเมื่อเหลือบมองข้างนี้ทีข้างนั้นหน
พ่อกับแม่คงเอาแต่เข้าข้างตนเอง เข้าข้างเขา หารู้ไม่ว่า บนพื้นแผ่นดินนี้ มีมากมายหลาย ‘ข้าง’ จนไม่อาจเจาะจงได้ว่าข้างใดดีน้อยหรือไม่ดีเลย
แค่เลือกข้างก็ยังไม่อาจเลือกได้
แล้วยังจะให้เลือกอีกหลากหลายที่ยากกว่า
แค่นายจังยิ้มกับนายโอกาสหัวเราะ ก็แยกไม่ถูกแล้วว่า คนทั้งคู่ซ่อนเกลือผสมน้ำตาลปนด้วยพริกไว้มากน้อยเพียงใด
“เอายังงี้…คุณดงยังไม่ต้องจ่ายอะไรให้ผมทั้งนั้น…” นายจังเอ่ย “วันนี้ล้อมรั้วเสร็จ พรุ่งนี้ผมส่งรถไถมาเลย…มาไถเลย…เมล็ดพันธุ์กับปุ๋ยถ้าอยากให้ผมเอาไปใช้ก็ให้มาเลย จะปลูกต้นอะไรก่อนหลังก็บอกมา ก็นี่แหละ…รออยู่ รายชื่อพันธุ์ไม้มงคลที่คุณว่าจะปลูกก็ยังไม่เห็นรายละเอียด”
“ผมมาช่วยอีกแรงไหม” นายโอกาสแซงขึ้น
ขณะที่นายจังและใบจันนิ่งฟังเงียบอยู่
หล่อนผู้ทำท่าวางตัวไว้ในอีกที่หนึ่ง หากก็ไม่ถึงกับเย่อหยิ่งเกินไป…อาจจำเพาะกับนายอุกกาผู้บัดนี้ค่อนข้างเซื่องซึมเพราะบิดาเขาหยุดลูกชายไว้ด้วยคำว่า
“อุก…แกก็อย่ากวนใจหนูจันมากจนน้องเขารำคาญ ถีบกระเด็นกลับมา อย่าหาว่าพ่อไม่เข้าข้าง”
ทุกคนก็เลยชวนกันยิ้มหัวยั่วเย้านายอุก พอให้อาหารมื้อนั้นผ่านไปอย่างเบิกบานถ้วนหน้ากัน
“นึกซะว่า วันนี้เป็นวันที่เราพร้อมใจกันมาพูดคุยตกลงกันเรื่องทำการเกษตรให้คุณเดินดงดีกว่า” นายโอกาสเอ่ยขึ้นก่อน
ด้วยว่า บัดนี้ ทั้งเขาและลูกชายขณะมองดูเรือนกาย ดวงหน้า รอยยิ้มของเดินดงก็เริ่มหวั่นไหวแกมงุนงงอยู่เหมือนกัน
จึงนึกขึ้นได้พร้อมกันว่า
เออ…ไอ้หมอนี่มันก็หล่อดีเหมือนกันนา
ชักจะน่ากลัวขึ้นมาแล้วละ…ตรงที่…หนูใบจันจะหันจากทุกชายไปมองแต่นายนี่คนเดียวหรือไม่
เพราะชายในย่านนี้ นอกจากนายอุกกาแล้ว แม้จะยังมีอีกที่เพียรมาเกาะแกะผูกสัมพันธ์ แต่หน้าตา เชิงชั้น ฐานะ ก็ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะร่วมหอลงโรงได้
นอกจาก ‘ลงโลง’ นายจัดเคยว่าไว้ เพราะต้องคอยเลือกเฟ้นให้น้องสาว
ดังนั้น นายโอกาสจึงนำเสนอ
“ผมส่งรถมาช่วยพรุ่งนี้อีกสองคัน จะได้จบไว…คุณอยากปลูกอะไรก่อนอะไรหลัง ก็แค่เขียนชื่อใส่กระดาษมาให้ผมพร้อมเมล็ดพันธุ์กับปุ๋ยก็พอ…ถ้าไม่พอ ผมก็มีที่เพาะชำไว้เยอะแยะ เอาอะไร อย่างไหน พรุ่งนี้ได้เห็นทันตา ไม่มีชักช้าโอ้เอ้…” เกือบจะหักหน้าอีกฝ่ายด้วยคำว่า กระทั่งหนังสือหนังหาก็ไม่ต้องเอามาให้ดู เอาแค่ของจริงกับรายชื่อพอแล้ว…หากก็ขยักไว้ได้
แม้กระนั้น นายจังก็ชักจะเริ่มรำคาญหู…จึงเอ่ยขึ้น
“ที่ผมอยากได้หนังสือมาประกอบกับของจริงก็เพราะคุณดงบอกว่า หนังสือเล่มนี้รวมชื่อไม้มงคลของไทยไว้ทั้งหมดไงพี่โอ” นายจังจึงแถลงแจ้งเหตุผลให้ผู้ที่เป็นทั้งคู่แข่ง คู่คุย และคู่ค้าในบางโอกาสรับรู้ “ที่สำคัญมากก็คือเป็นหนังสือที่ศิลปินแห่งชาติคนสำคัญของไทยเขียนไว้ ท่านชื่ออะไรนะ คุณดง ลืมไปอีกแล้วจนได้”
“คุณสมบัติ พลายน้อยครับ” ชายหนุ่มก็เลยตอบฉาดฉานพร้อมสบตากับดวงตาคู่งามของหญิงสาวผู้นั่งตรงกันข้าม
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 21 : เสนอตัว
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 20 : หนังสือล้ำค่า
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 19 : ‘ดวง’ ของทั้งคู่
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 18 : คู่แข่งคู่ควง
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 17 : ท่ามาก
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 16 : ทุกหนแห่งล้วนมีราคา
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 15 : ติดพัน ‘แม่เสือ’
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 14 : ไอ้หน้าโง่อหังการ
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 13 : คนดวงแข็ง
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 12 : ไหว้เจ้าที่
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 11 : ผู้มาเยือน
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 10 : ยามวิกาล
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 9 : วิถีเพิ่งเริ่มต้น
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 8 : ต้นไม้ใหญ่มีอารักษ์
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 7 : พืชพรรณไม้มงคล
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 6 : ตำราล้ำค่า
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 5 : ช้างบุก
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 4 : นายจัดลูกนายจัง
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 3 : สองชายฉกรรจ์
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 2 : ผู้พบใหม่
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 1 : ชีวิตที่เริ่มต้น