ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 7 : พืชพรรณไม้มงคล

ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 7 : พืชพรรณไม้มงคล

โดย :

Loading

“ขุนเขาแมกไม้” นวนิยายเรื่องเยี่ยมในชุดโหราศาสตร์ ผลงานเรื่องล่าสุดของ ’กฤษณา อโศกสิน‘ ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ประจำปีพุทธศักราช 2531 กับเรื่องราวของเดินดงและอิทธิพลของดาวเสาร์ที่มีต่อชีวิตของเขาได้ในอ่านเอา

ต่อจากนั้น ทั้งเขาและเก่งก็ได้แต่นั่งปักหลักอ่านตำราอันว่าด้วยพืชพรรณไม้ที่น่าสนใจให้เลือกเฟ้นมาเป็นทรัพยากรอันมีทั้งค่าและราคา เพื่อพลิกฟื้นผืนดินยี่สิบห้าไร่ตรงหน้าให้เขียวชอุ่มกลายเป็นพุ่มพงดงมาลา โดยในเล่มที่อยู่ในมือเขานั้น ได้อัญเชิญพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 มาประดับหน้าแรกเพื่อเป็นสิริมงคล ความว่า

พุทธานุภาพนำผล                เกิดสรรพมงคลน้อยใหญ่

เทวาอารักษ์ทั่วไป                         ขอให้เป็นสุขสวัสดี

ธรรมานุภาพนำผล          เกิดสรรพมงคลเฉลิมศรี

เทพช่วยรักษาปราณี                      ให้สุขสวัสดีทั่วกัน

สังฆานุภาพนำผล             เกิดสรรพมงคลแม่นมั่น

เทเวศร์คุ้มครองป้องกัน                   สุขสวัสดิ์สันต์ทั่วไป

ต่อจากหน้าแรก จึงเป็นหน้า ‘คำนำ’ อันผู้เขียนได้บรรยายไว้ถ้วนถี่เกี่ยวกับที่มาที่ไปของ ‘พืชพรรณไม้มงคล’ ฉบับนี้

ที่สำคัญยิ่งก็คงจะได้แก่ข้อความบอกกล่าวที่จะช่วยให้ผู้คิดจะดำเนินรอยตามได้ตระหนัก เนื่องด้วยมีใจความว่า

‘การเขียนหนังสือเล่มนี้ มิได้หมายความว่าผู้เขียนจะส่งเสริมให้ปลูกเฉพาะพืชพรรณไม้มงคลเท่านั้น เพราะผู้เขียนเห็นว่า ไม้ทุกชนิดมีประโยชน์ เช่นเดียวกับหมอชีวกโกมารภัจสมัยที่เรียนแพทย์ อาจารย์ให้ออกสำรวจพืชพรรณไม้ต่างๆ ถ้าพบไม้ต้นใดไม่มีประโยชน์ ให้มาบอก ปรากฏว่าหมอชีวกหาไม่พบเลย

ความสำคัญจึงอยู่ที่ว่า

เรารู้จักพืชพรรณไม้ได้มากน้อยเพียงไร

หรือมีความรู้สึกชื่นชมกับดอกไม้อย่างไร

ผู้เขียนได้เคยอ่านเรื่อง ‘รำพึงถึงดอกไม้’ ของ ‘เสฐียรโกเศศ’ เห็นว่ามีคติดี ท่านได้อ้างถึงถ้อยคำของจอมพลสมิตส์แห่งประเทศแอฟริกาใต้ตอนหนึ่งว่า

‘ยิ่งเห็นคนยิ่งรู้สึกรักดอกไม้ ไม่มีอะไรมีอิทธิพลทำให้เหี่ยวหู่แก่ร่างกายและจิตใจ ยิ่งไปกว่าเรื่องคน บางทีก็ถึงกับจำเป็นต้องสลัดโลกทิ้ง เหมือนเป็ดสลัดน้ำ มิฉะนั้น ความหนักที่ต้องแบกไว้จะกลับเป็นภาระหนักเกินไป

ในโอกาสเช่นนี้

อะไรไม่ดีกับนี้ไปอยู่กับต้นไม้และดอกไม้ ซึ่งไม่เคยขาดไร้ความชื่นบานประโลมใจ

ต้นไม้ดอกไม้ไม่เคยบ่น ไม่เคยเรียกร้องเอาอะไรจากเรา มีก็แต่ให้แก่เราทั้งหมด

ต้นไม้ดอกไม้เป็นเครื่องขัดเกลาจิตใจที่เศร้าหมองให้กลับผ่องใสขึ้นสู่สูง เป็นการดีอยู่ที่เราอาจใช้วินิจฉัยเรื่องวัฒนธรรมและจิตใจได้ ไม่ว่าของประเทศชาติใด ว่าอยู่ในระดับสูงหรือต่ำเพียงไหน

โดยดูว่า ประเทศชาตินั้นมีความรักดอกไม้บ้างหรือเปล่า

อ่านดูแล้วคิดตาม พิจารณาดูก็จะเห็นจริง

ผู้เขียนไม่มีเงินซื้อต้นไม้แพงๆ จึงปลูกแต่ต้นแก้ว เวลาออกดอกสีขาวเต็มทั้งต้น ส่งกลิ่นหอม ก็ทำให้สบายใจ

ฉะนั้น จงปลูกพืชพรรณไม้ที่จะทำให้ท่านสุขสบายตา อย่าคิดอะไรให้เป็นกังวลเลย

อนึ่ง การเขียน ‘พืชพรรณไม้มงคล’ อาจมีผู้เข้าใจผิดว่าเป็นการส่งเสริมให้คนหลงเชื่อในเรื่องที่ไร้เหตุผล

ผู้เขียนจึงขอชี้แจงวัตถุประสงค์ในการเขียนเพิ่มเติมอีกสักเล็กน้อยว่า ในชั้นเดิมนั้น ผู้เขียนต้องการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับความเชื่อของมนุษย์ว่า มีพรรณไม้อะไรบ้างที่มนุษย์เคารพบูชา

ครั้นศึกษาตรวจสอบดู จึงรู้ว่าความเชื่อถือนั้น มีประโยชน์แอบแฝงอยู่

ตามที่ทราบกันดีแล้วว่า พืชพรรณไม้ต่างๆ ในโลกนี้ ล้วนเป็นสิ่งมีประโยชน์ต่อมนุษย์และสัตว์

เริ่มต้นด้วยการเป็นอาหาร

เป็นยารักษาโรค

เป็นเครื่องนุ่งห่ม

เป็นที่อยู่อาศัย

และจากการที่มนุษย์ได้ประโยชน์จากพืชพรรณไม้มาแต่ครั้งดึกดำบรรพ์หลายพันปี ได้บันทึกบอกเล่าคุณประโยชน์ของพืชพรรณไม้ในแต่ละชนิดไว้ จนกลายเป็นตำรายาสมุนไพรต่อมา ซึ่งปรากฏหลักฐานในคัมภีร์อาถรรพเวท (Atharva Veda) และคัมภีร์อื่นๆ อีกหลายแห่ง และจากความเชื่อของชาวฮินดูที่มีต่อพระเป็นเจ้า

พืชพรรณไม้จึงได้รับความเคารพนับถือไปด้วย จนถึงกับกล่าวกันว่า

ผู้ใดก็ตามที่ปลูกต้นไม้เพียงต้นเดียวก็ได้ขึ้นสวรรค์

ด้วยความเชื่อนี้ ทำให้คนฮินดูไม่ทำลายต้นไม้ และพิธีกรรมต่างๆ ของชาวฮินดูจะต้องมีพืชพรรณไม้เกี่ยวข้องอยู่ด้วยเสมอ ตลอดจนการบูชาพระเป็นเจ้าก็ต้องใช้ดอกไม้บูชาด้วยทุกคราวไป

ถ้ามนุษย์มีความเคารพพืชพรรณไม้ ไม่คิดทำลายพืชพรรณไม้ทั้งหลาย โลกก็คงจะสดชื่น โลกก็จะร่มเย็นเป็นสุข ไม่บังเกิดภัยธรรมชาติดังที่มนุษย์กำลังได้พบเห็นอยู่ในเวลานี้

ฉะนั้น ที่เข้าใจกันว่า การเคารพบูชาพืชพรรณไม้ โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่ว่า…เป็นความโง่เขลางมงายนั้น

แท้จริง เป็นการคุ้มครองทางอ้อมที่จะผดุงรักษาต้นไม้ให้คงอยู่นานๆ

แต่มนุษย์หาได้เข้าใจไม่

แม้การใช้ดอกไม้บูชาสิ่งที่ตนเคารพ ก็เพิ่มความสุขให้แก่ผู้บูชา

ความสุขใจเป็นพลังอย่างหนึ่งที่จะทำให้ผู้บูชามีความสุขสบาย เมื่อทุกคนมีความสุขกายสบายใจมีหรือที่โลกนี้จะความวุ่นวาย

 

เดินดงต้องยอมรับว่า ไม่เคยอ่านเอกสารใดจนจบมาก่อนเลยนอกจากตอนเรียนหนังสือ

แต่วันนี้ เขาอ่านคำนำอันมีค่านี้ที่มีจำนวนห้าหน้ากระดาษพิมพ์จากเล่มหนังสือขนาดกลางโดยไม่รู้สึกเบื่อหรือทิ้งขว้างกลางคัน

จึงได้รับความรู้สึกสร้างสรรค์เป็นอันมากภายในไม่กี่นาที

เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยมีเคยเกิดขึ้นในใจ อันจะว่าหยาบกร้านต่อความละเอียดอ่อนแทบทุกประเภทก็ว่าได้

ด้วยว่า ไม่เคยหันไปมอง ไปสนใจ ไปสัมผัสกับพืชพรรณใดใด วิถีชีวิตของใครคนไหน ศิลปะวรรณกรรมประเภทใด…ไม่เคยเลย

หากบัดนี้ เสมือนหนึ่งเขาหาเรือลำที่บรรทุกข้าวของ ลอยละล่องมาตามมหาสาคร เพื่อมาตั้งต้นความหวังอันสุนทร ณ ที่นี้ พร้อมด้วยมธุรสวจีเตือนสติจากปราชญ์ผู้หนึ่ง

จึงเพียงแต่ลดสายตาลงทันทีที่อ่านจบ ก็บอกเก่ง

“เดี๋ยวแกลองอ่านดู นี่ก็แค่คำนำเท่านั้นนะ…เดี๋ยว…ขอดูเนื้อในแป๊บนึง”

ต่อจากนั้น จึงพลิกอีกครั้งยังหน้าถัดไป

“อื้อฮือ…แกเอ๋ย…สุดแสนดี น่าอ่านอะไรขนาดนี้ก็ไม่รู้”

“เหรอฮะพี่ดง”

“เออ…งั้น…เราอ่านก่อน แกหลับไปก่อนตื่นนึงยังได้เลยว่ะ”

ต่อจากหน้านั้น…เขาจึงอ่านต่อหน้าถัดไป…และถัดไป จนกระทั่งทั้งเก่ง นายเอี้ยง นายไวคอตก ในที่สุดก็ฟุบลงเหยียดยาวบนชานด้านหน้ากันเป็นแถว

แต่เดินดงนั่งพิงลูกกรงไม้ไผ่ เหยียดขาออกไป…อ่านเอา…อ่านเอา…โดยไม่มีทีท่าว่าจะเบื่อหน่าย

“เออ…เก่ง…เราชอบหลายตอนเลยว่ะ” แต่ครั้นหันไปมองเมื่อรู้สึกว่าทุกคนเงียบ จึงได้แต่บ่น “ยังไม่ทันไร ม่อยกันไปหมด ไอ้พวกนี้”

ชายหนุ่มก็เลยใช้ไม้ไผ่เล็กๆ แทนที่คั่นตรงหน้าที่เขาจะต้องให้เก่งอ่าน

แต่ยิ่งอ่านยิ่งพลิกไปทุกหน้า ก็ยิ่งมีแต่นามต้นไม้มงคลที่น่าสนใจ

ท้ายสุดก็เลยต้องตั้งอกตั้งใจอ่านให้จบ เพราะปรากฏว่า มีแต่นามต้นไม้ดอกไม้ที่สำคัญในการตั้งต้นชีวิตใหม่ ที่เขากะการไว้ตลอดวันนี้ว่า จะพยายามก่อร่างสร้างทำให้สมบูรณ์แบบ และเป็นฤกษ์เป็นชัยอันยอดเยี่ยมมากที่สุดเท่าที่จะสามารถบันดาลให้เป็นได้

นั่นก็คือ คัดสรรไม้ต้นแรกที่จะนำมาลงดิน

เนื่องด้วยแลเห็นในตัวอักษรกล่าวว่า

สิทธิการิยะ ผู้ใดจะสร้างบ้านให้อยู่สุขสำราญเป็นมงคล ให้ปลูกต้นไม้ไว้เป็นผลก่อนอื่นใด จึงจะอยู่สุขสบายใจแฮ

ทิศบูรพา ให้ปลูกไม้ไผ่ ไม้กุ่มและมะพร้าว

อาคเนย์ ปลูกสารภีและยอกันจัญไร

ทักษิณ ปลูกมะม่วง โตนด พลับและหว้า

หรดี ปลูก พิกุล ขนุน กันโทษภัย

ประจิม ปลูก มะขาม มะยม กันถ้อยความ

พายัพ ปลูก มะกรูด ส้มป่อย มะนาว มะงั่ว ให้ท่านเกรงกลัว สระหัวมิต้องเสก

อุดร ปลูก พุทรา ไม้หว้า ทุเรียน จำเริญผลคุ้มโทษภัย เป็นมงคลสถาพรแล

อีสาน ปลูก สารพัดดอกไม้ถวายพระ อยู่สำราญ ไม่มีภัย

ข้อห้ามพิเศษที่กรมสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ในรัชกาลที่ 2 ทรงห้ามไว้ก็คือ

ต้นข้าวเหนียว ต้นข้าวเจ้า สารพัดต้นไม่ให้ปลูกลงในดินหรือในท้องร่อง หรือในสระแลในที่น้ำขังทั้งปวงที่อยู่ในแวดวงกำแพงบ้าน จะปลูกได้แต่ในอ่างในถังที่เป็นของยกได้ไม่ห้าม’

 



Don`t copy text!