ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 3 : ทราบความในสารการใหญ่ นึกห่วงดวงหทัยมารศรี (2)

ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี บทที่ 3 : ทราบความในสารการใหญ่ นึกห่วงดวงหทัยมารศรี (2)

โดย : วันชนะ

Loading

เว็บไซต์อ่านเอา ภูมิใจเสนอ “ชายได้โชคอย่างลึกลับ เพราะเป็นแฟนคลับนิยายผี” นวนิยายรางวัลชนะเลิศจากโครงการอ่านเอาก้าวแรก รุ่นที่ 5 ผลงานโดย วันชนะ ทองคำเภา กับเรื่องราวของความตายที่มีเบื้องหลังลึกลับซับซ้อน และวรรณกรรมผีของเหม เวชกร เรื่องรวทั้งหมดสัมพันธ์กันได้อย่างไร พบคำตอบได้ในนวนิยายเรื่องนี้

ในบันทึกฉบับที่ 2 ลายมือของคุณแม่ลัดดาดูยุ่งเหยิงขึ้นกว่าฉบับแรก เหมือนกับว่าคนเขียน เขียนไม่ทันความคิดและอารมณ์ของตัวเอง

3 ธ.ค.15

นิยายคุณเหมนี่ท่าจะเป็นเรื่องรักโศกยิ่งกว่าเรื่องภูตผีปีศาจเสียแล้ว ฉันเลยพลอยอ่านเสียวางไม่ลง เรื่องหลังๆ นี่โศกเสียยิ่งกว่าเรื่องครูอรุณอีก มีเรื่องหนึ่งเป็นสองตอนต่อกัน แกเล่าเรื่องสาวชื่อยายออด หนีตามผู้ชายชื่อนายสมพงษ์มา มีเพื่อนชื่อนายนพเป็นธุระพาหนี ต่อมานายสมพงษ์พบว่ายายออดแกตั้งท้อง เลยกล่อมให้ไปทำแท้ง แล้วหนีหายไป การทำแท้งยายออดเกิดเป็นพิษขึ้นมาจนยายออดแกตาย กลายเป็นผีมาตามขอความเห็นใจจากคุณนพ

นายนพนี่แกก็ใจดีพิลึก ตอนแรกๆ ก็กลัวผียายออด คอยหนีไปที่นั่นที่นี่ แต่ไปๆ มาๆ แกเกิดเห็นอกเห็นใจกันขึ้นมา ก็เลยยอมให้ผีมาอยู่ด้วย ผียายออดก็คอยดูแลบ้านเรือนให้นายนพ อยู่ด้วยกันประสาคนกับผี ฉันอ่านถึงตรงนี้แล้วขนลุกขนพอง แต่คุณเหมนี่แกเก่ง แกไม่หยุดแค่นั้น กลับเขียนให้ที่แท้แล้วนายสมพงษ์หายตัวไปเพราะว่ากลัวผีเมียจนเสียสติและตายลง กลายเป็นผีมาขอวิญญาณยายออดไปอยู่ด้วยกัน เรื่องจบที่นายนพยอมให้ไป แต่ก็ต้องนอนร้องไห้เพราะใจแกก็รักผียายออดไปเสียแล้ว  

ฉวีเพ็ญ เดือนธันวาคมอากาศเริ่มหนาวมากแล้ว ฉันหวังว่าเธอจะสบายดีอยู่ ฉันห่วงเธอมากเพราะมันคือการห่วงตัวฉันเองด้วย พอฉันอ่านเรื่องผียายออด ฉันก็เจอเรื่องแปลกไม่แพ้กัน คือตาคนขายหนังสือพิมพ์ที่ฉันไปเจอเมื่อคราวก่อน ซึ่งหน้าแกคุ้นเหลือเกิน แกมาเดินอยู่ที่ตลาดแถวๆ บ้าน พอฉันหันไปมอง แกก็หายไปเสียแล้ว ฉันอยากเล่าให้คุณทศพลฟัง แต่ไม่กล้าหรอก เธอก็รู้นี่เพ็ญ ฉันเริ่มสงสัยว่าการอ่านนิยายผีจะทำให้ฉันเสียจริตไปบ้างไหม ฉันต้องอ่านให้น้อยลงบ้างแล้ว แต่ฉันไม่หยุดอ่านหรอก

                                                                             ลัดดาของเธอ

ป.ล. ในนิยายเรื่องผียายออด มีตอนที่พวกผู้ชายเขาคุยกันเรื่องยายออดทำแท้งตาย แล้วพอเขาจะพูดเรื่องนี้กันต่อ แต่ขณะนั้นมีผู้หญิงอยู่ด้วย เขาก็เลยไม่พูด แต่เราซึ่งเป็นคนอ่านก็ได้อ่านเรื่องสยดสยองต่างๆ ที่เขาเล่าในนิยายไปแล้ว ฉันมานึกๆ ดู การที่เราเป็นผู้หญิงแล้วได้มาอ่านหนังสือเรื่องมืดๆ แบบนี้ มันวิเศษมากเลยนะ เธอว่าไหม เพ็ญ

 อัสดงอยากจะอ่านบันทึกฉบับต่อไปตามลำดับทันทีที่อ่านจบ แต่ว่าเรื่องราว ภาษา และบรรยากาศในบันทึก ที่เขียนเหมือนจดหมายถึงหญิงลึกลับชื่อ “ฉวีเพ็ญ” ก็ตราตรึงใจเสียจนเขาต้องปิดแฟ้มและนั่งนิ่งๆ สักครู่ เขารู้ทันทีที่อ่านว่า คุณแม่ลัดดาได้อ่านเรื่องสั้นของเหมสองเรื่องต่อกัน คือเรื่อง “เข้าป่าหาระกำ” และ “คอยหา” อัสดงอดไม่ได้ที่จะพูดกับวารีซึ่งกำลังก้มหน้าทำงานให้เขาอยู่อย่างมีสมาธิ

“วารี ในวิทยานิพนธ์ของคุณเรื่อง ‘เรื่องสั้นของเหม เวชกร ในฐานะวรรณกรรมผีแนวรักโศก’ นี่คุณจะเสนอประเด็นว่า เรื่องสั้นผีของครูเหมไม่ได้เน้นแต่ความน่ากลัว แต่เน้นเรื่องรักด้วย ซึ่งทำให้มันเป็นวรรณกรรมที่ผสมผสานระหว่างงานสองประเภทใช่ไหมครับ”

“คะ อะไรนะคะ อ๋อ ค่ะ” วารีชะงักจากงานที่ทำอยู่แล้วเงยหน้ามามอง ก่อนจะรับคำแบบแปลกใจนิดๆ ที่จู่ๆ ก็ถูกขัดจังหวะ

“โทษทีครับ พอดีผมอยากชวนคุยสักนิดว่า ถ้าอย่างนั้น เป็นไปได้มั้ยว่า คนที่อ่านเรื่องสั้นของเหมจำนวนมากน่าจะเป็นผู้หญิง แล้วน่าจะเป็นคนที่ ‘อิน’ กับเรื่องราวของความรักไม่สมหวังต่างๆ มากๆ แบบอาจจะอกหักแล้วเลยชอบอ่านเรื่องแบบนี้” อัสดงชวนคุยต่อทันที

“เป็นไปได้ค่ะอาจารย์ แต่หนูว่า เวลาผู้หญิงชอบอ่านเรื่องรักหรือพวกเรื่องเศร้ามากๆ บางทีเขาก็ไม่ได้อกหักอะไรหรอกนะคะ คือเหมือนแค่เป็นรสนิยมที่ชอบอ่านนิยายรัก นิยายพาฝันน่ะค่ะ อาจจะแก้เบื่อเฉยๆ ก็ได้นะคะ” วารีพูดจบแล้วถามต่อทันควัน “อันนี้อาจารย์กำลังพูดถึงบันทึกของคุณแม่ลัดดาที่อาจารย์กำลังจะทำวิจัยหรือเปล่าคะ”

ผู้ช่วยวิจัยสาวทำความเข้าใจเรื่องราวได้รวดเร็ว และพูดคุยโต้ตอบได้ฉับพลันโดยไม่เสียจังหวะ เพราะว่าชินแล้วกับการที่อยู่ดีๆ อาจารย์ “ที่ปรึกษา” ของเธอ จะหันมา “ปรึกษา” เธอแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

“ใช่ครับ คุณแม่ลัดดาแกเหมือนจะชื่นชอบอะไรโศกๆ เศร้าๆ ผิดหวังๆ มากกว่าเรื่องผีเสียอีก ถ้าแบบนี้ ผมว่าเราน่าจะไปขอคุณทอฟ้าแกว่า จะใช้บางส่วนของบันทึกเรื่องนี้มาใส่ในวิทยานิพนธ์ของคุณด้วย เป็นข้อมูลจากแฟนคลับยุคใกล้กันกับเหม น่าจะทำให้งานคุณน่าสนใจขึ้นมากเลยนะครับ” อาจารย์หนุ่มใหญ่ตื่นเต้นขึ้นมาจริงๆ

“เห็นด้วยค่ะ ขอบคุณอาจารย์มากนะคะ” วารียิ้มอ่อนแบบผู้ช่วยมืออาชีพ แล้วหันหน้ากลับไปที่คอมพิวเตอร์ ก่อนเริ่มพิมพ์งานต่อ เสียงแอร์ดังหึ่งขึ้นประสานเสียงกับเสียงพิมพ์งานของวารีอีกครั้ง ในขณะที่อาจารย์ของเธอกำลังไล่อ่านเอกสารในแฟ้มต่อไปอย่างกระตือรือร้น

 

บันทึกฉบับที่ 3 ไปจนถึงฉบับที่ 10 ก็ล้วนแต่ให้ภาพและเรื่องราวคล้ายๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นการเล่าถึงเรื่องรักโศกในเรื่องสั้นผีของเหม เรื่องชายแปลกหน้าที่เหมือนจะคอยมาเจอคุณแม่ลัดดาไปทุกที่ ไปจนถึงการพูดกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่ชื่อฉวีเพ็ญจนทำให้บันทึกเหล่านี้ดูคล้ายกับจดหมายมากกว่า

แม้ว่าอัสดงจะตื่นเต้นยินดีกับข้อมูลที่ได้พบและข้อสังเกตทางวิชาการที่เขาพบจากบันทึกที่ได้อ่าน แต่ยิ่งอ่านไปเรื่อยๆ เขาก็เริ่มสัมผัสถึงสิ่งที่รบกวนจิตใจขึ้นมา คือน้ำเสียงที่คุณแม่ลัดดาเอ่ยถึงคุณทศพลสามีของเธอ ในบันทึกแต่ละฉบับ

“ฉันจะอ่านนิยายมืด นิยายผีพวกนี้มากไปไหมนะ เพ็ญ คุณทศพลเขาจะเห็นว่าฉันเหลวไหลอีกไหม”

“ซ่อนหนังสือและบันทึกไว้แล้ว หลายเรื่องเราก็ไม่บอกผัวหรอกนะ คงจะไม่เป็นไรหรอกนะ เพ็ญ”

“ฉันว่ามันพิลึกจนขนลุกไปหมดแล้ว ฉันเจอผู้ชายคนนี้ไปทุกหนทุกแห่ง จะต้องบอกคุณทศพลแล้วละมัง แต่จะบอกอย่างไรได้ล่ะ ไม่ให้ใครต้องเจ็บโดยเฉพาะฉัน”

ฯลฯ

ข้อความแบบนี้ปรากฏให้เห็นซ้ำในบันทึกฉบับต่างๆ ที่อัสดงอ่าน หนุ่มใหญ่รู้สึกว่าคำพูดที่เหมือนไม่สลักสำคัญพวกนี้ดูจะสะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาที่ไม่ดีสักเท่าไร เรื่องส่วนตัวของคุณแม่ลัดดานี้เหมือนจะเป็นเรื่องอ่อนไหวและจริงจังมากกว่าเรื่องผีของเหม เวชกร เสียแล้ว

ภาพคุณแม่ลัดดาและคุณทศพลที่อยู่ด้วยกันในจินตนาการของอัสดงนั้นเริ่มจะดูมืดมนจนน่าขนลุก อัสดงสงสัยขึ้นมาว่า ทำไมคุณทอฟ้าจึงได้นำเอาเอกสารส่วนตัวที่มีข้อความแบบนี้อยู่มาให้คนแปลกหน้าอย่างเขาอ่าน

อาจารย์หนุ่มใหญ่เกาหัว ความหวาดระแวงสงสัยในตัวคุณทอฟ้าที่เหมือนจะนิ่งสงบไปแล้วเมื่อได้เจอตัวจริงของเธอ ย้อนกลับมากวนใจจนอัสดงรู้สึกมวนในท้องเบาๆ เขาสงสัยว่า ถ้าเอ่ยถามวัตถุประสงค์ของคุณทอฟ้าว่าทำไมถึงให้เขาได้รู้เห็นข้อมูลพวกนี้ เธอจะตอบเขาตรงๆ ไหม

หรือว่าจริงๆ แล้วคุณทอฟ้าจะไม่ได้สังเกตน้ำเสียงแปลกๆ ที่แฝงในบันทึก เพราะมัวแต่ไปสนใจเรื่องเหม เวชกร และเธอก็อาจจะไม่ได้สงสัยอะไรในตัวคุณพ่อและแม่เลี้ยงที่เคารพของเธออยู่แล้วก็ได้

อาจารย์หนุ่มใหญ่คิดวนเวียนถามตอบกับตัวเองซ้ำๆ อยู่ในหัว จนกระทั่งเลิกงาน บอกลาวารี และขับรถกลับหอพักไปในค่ำนั้นอย่างค้างคาใจ จะทำยังไงต่อดีล่ะ อาจารย์อัสดง 

 



Don`t copy text!