
ยาใจด้วยรัก บทที่ 11 : โพสต์อิท
โดย : ลิลนิล
![]()
ยาใจด้วยรัก โดย ลิลนิล เรื่องราวฟีลกู้ดของสาวไทป์แมวดำและเด็กหนุ่มไทป์หมาโกลเด้นที่จะช่วยให้คุณเข้าใจความหมายของการใช้ชีวิตให้มีความสุขมากขึ้น นวนิยายโรแมนติก คอมเมดี้ อบอุ่นหัวใจ ดราม่า ที่อ่านเอาเชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่จะมอบความสุขให้กับทุกคนได้อย่างแน่นอน
ดวงตาสีน้ำตาลคู่สวยลืมขึ้นในความมืดมิดยามค่ำคืน เด็กหนุ่มนักดนตรีลุกขึ้นจากโซฟาขนาดเล็กที่เขา แกล้งหลับ อย่างแนบเนียน ภพเดินตรงเข้าไปหาหญิงสาวเจ้าของห้องที่บัดนี้กำลังนอนพักผ่อนอย่างไม่ระแวดระวังภัย
เขาโน้มใบหน้าเข้าไปตรวจสอบให้แน่ใจว่าเธอนอนหลับสนิทดีหรือไม่
ใช่แล้ว…เรื่องเข้าห้องไม่ได้ หรือไม่มีเพื่อนให้ไปหาน่ะเป็นข้ออ้าง เด็กหนุ่มก็แค่อยากจะดูให้แน่ใจว่าคนที่จิตใจอ่อนไหวและเปราะบางตรงหน้าจะไม่ทำร้ายตัวเองในค่ำคืนนี้
เมื่อภพมั่นใจแล้วว่าเบสต์นอนหลับจริงๆ เขาจึงค่อยๆ ย่องออกจากห้องพักของหญิงสาวเพื่อไม่ให้เสียงของเขารบกวนเวลานอนอันมีค่าของเธอ
เสียงนกร้องในยามเช้าเสมือนนาฬิกาปลุก สติที่เริ่มฟื้นคืนทำให้เปลือกตาของหญิงสาวขยับช้าๆ ก่อนค่อยๆ เปิดขึ้นรับแสงอาทิตย์ของวันใหม่ เธอขยับตัวลุกจากเตียงด้วยร่างกายที่หนักอึ้งแต่ก็ดีขึ้นกว่าเมื่อวาน
เบสต์เหลือบมองโซฟาก็พบว่ามันว่างเปล่า ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เด็กหนุ่มจากไปแล้ว
โครก
เสียงท้องร้องที่ไม่ได้ยินมานานดังขึ้นทำให้เบสต์ตระหนักรู้ได้ว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่ หญิงสาวเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหาอะไรรองท้อง แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะมันมีเพียงแค่นม 1 ขวดกับน้ำเปล่าเท่านั้น เธอจึงตัดสินใจอาบน้ำและเปลี่ยนจากชุดนอนเป็นเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น พร้อมสำหรับการเดินออกไปซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อด้านล่างตึก แต่ทันทีที่เปิดประตู หญิงสาวกลับพบสิ่งของบางอย่างแขวนไว้อยู่ที่ลูกบิด…
โจ๊กหมูสับไข่ลวกที่ยังร้อนอยู่ ภายในถุงยังแนบโพสต์อิทสีเหลืองแสบตาระบุข้อความสั้นๆ ด้วยลายมือไก่เขี่ย
กินซะ จะได้หายเป็นซอมบี้ จากสุดหล่อข้างห้อง
ริมฝีปากของเธอคลี่ยิ้มเบาบางออกมาอย่างไม่รู้ตัวพลางคิดในใจ
หล่อตายละ
หญิงสาวรับถุงข้าวเช้าเข้าไปกินในห้องอย่างอารมณ์ดี
เมื่อเสร็จสิ้นการรับประทานอาหาร เบสต์เปิดไฟล์เรซูเมของเธอขึ้นมา เธอจ้องมองมันอยู่นานและพยายามเขียนอัปเดตประวัติการทำงานของตัวเอง ถึงแม้จะพอมีเงินเก็บให้อยู่ว่างๆ ได้สบายๆ ไปอีกปีสองปี แต่เธอก็ไม่อยากปล่อยเวลาให้เสียเปล่า หญิงสาวอยากรีบหางานใหม่ แม้ว่าช่วงนี้ภาวะจิตใจของเธอจะยังไม่คงที่เท่าไรก็ตาม
เวลาผ่านไปนานโดยที่เบสต์เองก็ไม่รู้ตัว ข้อมูลในเอกสารนั้นยังไม่ถูกแก้ไขเลยแม้แต่ตัวอักษรเดียว หญิงสาวไม่มีความมั่นใจว่าจะเขียนประวัติการทำงานอย่างไรในเมื่อเธอถูกไล่ออก เบสต์รู้ดีว่าการเขียนเรซูเมนั้นต้องงัดจุดแข็งของตัวเองออกมานำเสนอ เพียงแต่ตอนนี้เธอกลับคิดถึงข้อดีของตัวเองไม่ออกเลยสักข้อ ความคิดลบวนเวียนไม่รู้จบจนเธอไม่มีสมาธิ หญิงสาวทำได้แต่คิดฟุ้งซ่านไปเรื่อยๆ
เบสต์ตัดสินใจปิดโน้ตบุ๊กลงด้วยสายตาที่พร่ามัว เธอรู้ตัวว่าถึงฝืนเค้นเท่าไรก็คงคิดไม่ออก
อยากเจอหมออีกจังเลยนะ
หญิงสาวรำพึงกับตัวเอง ขณะที่เธอลุกขึ้นเตรียมตัวจะลงไปร้านสะดวกซื้ออีกรอบ เธอกลับพบถุงใส่ไอศกรีมหวานเย็นรสผลไม้ที่เด็กๆ ชอบถูกแขวนเอาไว้ที่หน้าประตูเช่นเดียวกับโจ๊กเมื่อเช้า แม้ว่าตอนนี้ไอศกรีมแท่งนั้นแทบจะละลายเป็นน้ำไปหมดแล้วก็ตาม ข้างในถุงยังแนบโพสต์อิทเอาไว้อีกเช่นเคย
กินของหวานๆ เย็นๆ จะได้อารมณ์ดี จากผู้ชายแสนดีที่หนึ่ง
“คิก” เบสต์หลุดขำออกมาเบาๆ
ละลายหมดแล้วจะกินยังไงเล่าไอ้บ้า
ถึงเธอจะคิดแบบนั้น แต่ก็รับเอาซองไอศกรีมไปแช่ช่องฟรีซโดยหวังว่ารสชาติของมันจะไม่เสียไป หลังจากที่ความเย็นช่วยให้มันกลับมาอยู่ในสภาพเดิม หลังจากนั้นหญิงสาวเดินลงไปที่ร้านสะดวกซื้อด้านล่าง เธอเดินเลือกของกินที่คิดว่าเข้ากับชายผู้หวังดีคนนั้นมากที่สุด สายตาสอดส่องไปตามชั้นขนมถุงหลากหลายยี่ห้อ ก่อนจะสะดุดเข้ากับขนมปังอบกรอบสอดไส้ช็อกโกแลตรูปหมีโคอาลา
ใช่แล้ว โคอาลาเกาะหนึบ
หญิงสาวตัดสินใจซื้อและเอาไปแขวนไว้ที่หน้าห้องของเขาเพื่อเป็นการขอบคุณ ขณะที่หญิงสาวกำลังคล้องถุงพลาสติกเข้ากับลูกบิดห้องข้างๆ อยู่นั่นเอง เด็กหนุ่มเจ้าของห้องก็เปิดประตูออกมาพอดี
“ฮันแน่ เห็นนะ” เขายิ้มเจ้าเล่ห์ทำให้หญิงสาวรู้สึกอายจนรีบวิ่งหนีเข้าห้องและล็อกประตูแน่นหนา
“เดี๋ยวพี่ มีเรื่องอยากถาม” เด็กหนุ่มตะโกนทำให้เสียงของเขาดังก้องสะท้อนเป็นจังหวะแทนที่ความเงียบของโถงทางเดินจนเขาต้องรีบปิดปากตัวเองลงด้วยกลัวว่าเพื่อนบ้านจะเปิดประตูออกมาปากระทะใส่…
หลังจากที่เบสต์พาตัวเองหลบเข้าห้องได้สำเร็จ หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งกับพื้น หลังพิงประตู
ทำไมต้องหลบด้วยนะ ก็แค่เพื่อนข้างห้องซื้อของฝากกันแค่นั้นเอง
เบสต์แปลกใจในการกระทำของตัวเอง เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะมีกระดาษสีขาวแผ่นเล็กๆ สอดเข้ามาระหว่างช่องประตูด้านล่าง
‘พี่หาหมออีกทีเมื่อไหร่นะ’ ลายมือแสนคุ้นเคยนั้นทำให้หญิงสาวรู้ทันทีว่าผู้ส่งเป็นใคร เธอเดินไปหาปากกามาเขียนโต้ตอบทันที
‘อาทิตย์หน้า’
‘ผมไปด้วยนะ’
‘ไม่ต้องหรอก เกรงใจ เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น’
‘งั้นยิ่งต้องไปด้วยใหญ่ จะได้สนิทกันมากๆ’
หญิงสาวอ่านข้อความสุดท้ายแล้วรู้สึกอบอุ่นในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก ในช่วงเวลานี้ที่เธอไม่อยากจะเป็นภาระให้กับคนรอบข้าง ไม่อยากจะบอกใครว่าเธอป่วย กลับมีใครบางคนที่อยากจะอยู่ตรงนี้…
ขอแค่นิดเดียว แค่ตอนนี้เท่านั้น…
ให้เธอได้แสดงความอ่อนแอ และพึ่งพิงใครสักคนโดยไม่รู้สึกผิดทีเถอะ…
- READ ยาใจด้วยรัก บทที่ 11 : โพสต์อิท
- READ ยาใจด้วยรัก บทที่ 10 : แค่อยู่ข้างๆ กันก็พอ
- READ ยาใจด้วยรัก บทที่ 9 : ความห่วงใยของคนแปลกหน้า
- READ ยาใจด้วยรัก บทที่ 8 : คนข้างห้อง
- READ ยาใจด้วยรัก บทที่ 7 : ความฝันที่กินไม่ได้
- READ ยาใจด้วยรัก บทที่ 6 : หลุมดำในใจ
- READ ยาใจด้วยรัก บทที่ 5 : ความเจ็บปวดที่ไม่มีเสียง
- READ ยาใจด้วยรัก บทที่ 4 : ความล้มเหลวของความพยายาม
- READ ยาใจด้วยรัก บทที่ 3 : บ้านที่ไม่อยากกลับ
- READ ยาใจด้วยรัก บทที่ 2 : ออฟฟิศที่อยู่กันแบบครอบครัว
- READ ยาใจด้วยรัก บทที่ 1 : การพบกันครั้งแรกของกลางคืนและกลางวัน
- READ ยาใจด้วยรัก : บทนำ








