
ยาใจด้วยรัก บทที่ 4 : ความล้มเหลวของความพยายาม
โดย : ลิลนิล
![]()
ยาใจด้วยรัก โดย ลิลนิล เรื่องราวฟีลกู้ดของสาวไทป์แมวดำและเด็กหนุ่มไทป์หมาโกลเด้นที่จะช่วยให้คุณเข้าใจความหมายของการใช้ชีวิตให้มีความสุขมากขึ้น นวนิยายโรแมนติก คอมเมดี้ อบอุ่นหัวใจ ดราม่า ที่อ่านเอาเชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่จะมอบความสุขให้กับทุกคนได้อย่างแน่นอน
ท่ามกลางบรรยากาศปีติยินดีของคนรอบข้าง เบสต์หูดับไม่ได้ยินอะไร ในหัวของเธอมีแต่คำว่าทำไม ทำไม และทำไม ในเมื่อพี่ชัยให้เธอทำโปรเจกต์ล่วงหน้า เขาให้คำสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะ แต่อีเมลแจ้งการเลื่อนตำแหน่งกลับถูกส่งไปให้คะนิ้ง…ไม่ใช่เธอ
เบสต์มองไปทางสาวร่างเล็กที่กำลังยิ้มกว้างหัวเราะร่ากับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ด้วยสีหน้าซีดเซียว ดวงตาไร้แวว
คะนิ้งรู้สึกเหมือนถูกจ้อง เธอหันหน้าไปตามทิศทางที่มาของความรู้สึกนั้นทำให้เพื่อนสนิททั้งสองคนสบตากันเพียงชั่วแวบ ก่อนคะนิ้งจะรีบสะบัดหน้าหนีไปทางอื่นด้วยท่าทีลุกลน
เห็นดังนั้นเจ้าของผมสีดำทนความอึดอัดใจไม่ไหว เธอลุกขึ้นยืนก่อนจะตรงดิ่งไปยังห้องด้านในสุดที่คุ้นเคยเพื่อต้องการคำตอบ
“พี่ชัยคะ ที่คะนิ้งได้เป็นหัวหน้าเป็นความจริงรึเปล่า” เธอเปิดประตูพรวดเข้าไปโดยที่ไม่ได้เคาะ ชัยละสายตาจากการอ่านพรีเซนต์ของเธออย่างเชื่องช้าพร้อมเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
“จริง”
“ทำไมล่ะคะ! ก็ไหนพี่ชัยสัญญากับเบสต์แล้วไงว่าจะเลื่อนตำแหน่งให้เบสต์” อารมณ์ของหญิงสาวไม่มั่นคงเท่าไรนัก
“อย่ามาขึ้นเสียงกับพี่นะ พี่ก็เสนอชื่อเธอให้กับบอร์ดบริหารแล้ว แต่เขาไม่อนุมัติ เขามองว่าผลงานของเธอยังไม่มากพอ”
คำพูดของผู้จัดการทำให้หญิงสาวเกิดคำถามขึ้นในใจมากมาย
ที่ผ่านมาเธอยังทำงานหนักไม่พออีกหรือ ทั้งมาเช้าที่สุด กลับคนสุดท้าย ต้องทำทั้งงานตัวเองและงานที่อยู่นอกเหนือจากขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบ มีใครมาขอความช่วยเหลือเธอก็ไม่เคยปฏิเสธ ทำงานล่วงเวลาก็เยอะโอทีก็ไม่เคยได้ นี่คือผลตอบแทนของสิ่งที่เธอทุ่มเทมาตลอดอย่างงั้นหรือ
“พี่ชัย เบสต์ไม่โอเคค่ะ ถ้าพี่จะไม่โปรโมตให้เบสต์ แล้วพี่ให้เบสต์ทำโปรเจกต์ของคนเป็นหัวหน้าทำไม”
ชายวัยกลางคนถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างรำคาญใส่คนที่ไม่ยอมลดราวาศอก
“ก็แล้วเธอรับทำทำไมล่ะ พี่แค่ขอให้ช่วย มันไม่ใช่หน้าที่เธอสักหน่อย”
เบสต์ไม่อยากจะเชื่อว่าคำปัดสวะให้พ้นตัวนั้นจะออกมาจากปากของคนที่เธอเคยนับถือว่าเป็นพี่ชาย ขณะที่ชัยยังคงพูดต่อโดยไม่สนความรู้สึกของอีกฝ่าย
“แล้วเธอจะดีใจกับคะนิ้งไม่ได้เลยรึไง นั่นเพื่อนสนิทไม่ใช่เหรอ”
ได้ยินดังนั้นเบสต์เงียบไป…เธอก้มหน้าลงหลบตาคู่สนทนา ร่างกายสั่นเทาและร้อนวูบตามอารมณ์ที่แปรปรวน ผู้จัดการถอนหายใจอีกครั้งก่อนไล่ให้ลูกน้องกลับออกไปสงบสติ
แม้ห้องจะเย็นเฉียบแต่มือของเธอกลับชุ่มไปด้วยเหงื่อ หญิงสาวพยายามกดความรู้สึกและเปิดไฟล์ขึ้นมาทำงานเพื่อหลีกหนีความโกรธ เศร้า และเจ็บเช้าที่ผสมปนเปกันอยู่ภายใน แต่ยังไม่ทันได้ลงมือทำอะไร ฟ้าใสเดินเข้ามาพร้อมกับงานที่เธอสั่งแก้ไปครั้งที่แล้ว
“พี่เบสต์คะ ฟ้าแก้มาตามคำแนะนำพี่แล้ว รบกวนตรวจให้หน่อยนะคะ” เด็กสาวเข้ารุ่นพี่อย่างสบายๆ ไม่ได้รู้สึกกดดันเหมือนกับครั้งแรก
เบสต์รับไอแพดจากรุ่นน้องมาอ่าน เธอกวาดสายตาคบกริบอย่างรวดเร็ว ก่อนจะถอนหายใจแรงๆ จนทำให้คู่สนทนารู้สึกผิดปกติ
“ฟ้าใส พี่บอกให้แก้ตรงนี้แล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่แก้มา” เสียงของเธอดังกึกก้องจนคนอื่นๆ แทบไม่กล้าหายใจแรง ฟ้าใสเงยหน้าขึ้นมองรุ่นพี่ด้วยดวงตาสั่นไหว รับมือไม่ถูกกับบุคลิกที่เปลี่ยนไปแบบฉับพลัน
“ขอโทษค่ะพี่ ฟ้าไม่ได้ทวน…”
“สะเพร่ามาก! เรื่องเล็กๆ แค่นี้ยังผิด ต่อไปจะไปทำอะไรได้ เธอรู้ไหมว่าถ้าเป็นลูกค้า เขาสามารถเลิกจ้างบริษัทเราได้เลยนะ ถ้าเป็นอย่างงั้นขึ้นมาเธอรับผิดชอบไหวเหรอ”
ฟ้าใสกลืนน้ำลายเหนียวลงคออย่างยากลำบาก “ฟ้าขอโทษจริงๆ คราวหน้าฟ้าจะระวังกว่านี้”
“คราวหน้า…พี่ก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสคราวหน้าให้น้องรึเปล่า ทดลองงานสามเดือนยังไม่ใส่ใจขนาดนี้ ถ้าได้ประจำพี่ไม่ต้องมาตามเช็ดตามล้างให้เราตลอดไปเลยรึไง” รุ่นพี่ต่อว่ารุ่นน้องอย่างหนักหนาและยาวนานจนคนรอบข้างเห็นใจ
เมื่อสั่งสอนเสร็จสิ้น เบสต์ส่งไอแพดกลับให้ฟ้าใสที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อแล้ว พลางหันกลับไปทำงานของตัวเองที่ค้างเอาไว้ด้วยอารมณ์หงุดหงิด
ฟ้าใสแอบไปร้องไห้กับมินนี่ตรงบันไดหนีไฟ ถึงจะพยายามอดทนแล้ว แต่การถูกด่าทอต่อสาธารณะก็ทำให้เด็กสาวเครียดเกินกว่าจะรับไหว มินนี่ลูบหลังปลอบเพื่อนที่สะอื้นไม่หยุด
“แก ไม่เป็นไรนะ”
“ก็รู้ว่าผิด แต่ทำไมต้องด่ากันแรงขนาดนี้ด้วย” ฟ้าใสเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ มินนี่ถอนหายใจเบาๆ ก่อนพูดปลอบเพื่อน
“คงเพราะถูกพี่คะนิ้งแย่งตำแหน่งไปนั่นแหละ แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาระเบิดอารมณ์ใส่พวกเราแบบนี้ เสียดายที่เคยเคารพ” มินนี่บ่นด้วยความไม่พอใจ
“ปกติพี่เขาไม่เป็นแบบนี้นะ อาทิตย์ที่แล้วยังดีๆ อยู่เลย” ฟ้าใสพยายามมองในแง่ดี
“โอ๊ย แกยังจะไปเข้าข้างมันอีก นี่ถ้าขึ้นเป็นหัวหน้า ไม่บ้าอำนาจจนออฟฟิศแตกเล…”
ปึง!
เสียงปิดประตูทางเดินหนีไฟดังขึ้น พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ค่อยๆ ไกลออกไป
“แก เมื่อกี้เสียงประตูใช่ไหม” ฟ้าใสพูดอย่างหวั่นๆ เพราะไม่รู้ว่าใครมาได้ยินพวกเธอกำลังนินทารุ่นพี่
“ช่างแม่งสิ เราก็พูดความจริง ไม่มีอะไรต้องกลัวสักหน่อย” หญิงสาวอีกคนที่มีนิสัยโผงผางเอ่ยขึ้นอย่างไม่เกรงกลัว แม้ในใจจะสงสัยว่าใครกันนะเป็นคนแอบฟังก็ตาม
- READ ยาใจด้วยรัก บทที่ 8 : คนข้างห้อง
- READ ยาใจด้วยรัก บทที่ 7 : ความฝันที่กินไม่ได้
- READ ยาใจด้วยรัก บทที่ 6 : หลุมดำในใจ
- READ ยาใจด้วยรัก บทที่ 5 : ความเจ็บปวดที่ไม่มีเสียง
- READ ยาใจด้วยรัก บทที่ 4 : ความล้มเหลวของความพยายาม
- READ ยาใจด้วยรัก บทที่ 3 : บ้านที่ไม่อยากกลับ
- READ ยาใจด้วยรัก บทที่ 2 : ออฟฟิศที่อยู่กันแบบครอบครัว
- READ ยาใจด้วยรัก บทที่ 1 : การพบกันครั้งแรกของกลางคืนและกลางวัน
- READ ยาใจด้วยรัก : บทนำ








