
‘ดั่งมนต์สุคนธา’ ผลงานนิยายที่เกิดจากการเรียนรู้และพยายามอย่างถึงที่สุดเรื่องแรกของ ‘สิปัณฑ์’
โดย : กิ่งสุรางค์ อนุภาษ
การเข้าคลาสอ่านเอาก้าวแรก รุ่น 4 ทำให้ ‘สิปัณฑ์’ หรือ ป่าน – ปัณฑ์ชนิตา อุทธา ได้มองเห็นจุดแข็งจุดอ่อนในการเขียนของตัวเอง ยิ่งเมื่อได้รับคำแนะนำจาก พี่เอียด ‘ปิยะพร ศักดิ์เกษม’ พี่ปุ้ย ‘กิ่งฉัตร’ และพี่หมอโอ๊ต ‘พงศกร’ ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มทักษะการเขียนของเธอให้แข็งแรงยิ่งขึ้น และในที่สุด ‘ดั่งมนต์สุคนธา’ ก็กลายเป็นนิยายที่เธอบอกว่าสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เขียนมา รวมทั้งยังได้เผยแพร่ให้ได้อ่านกันในเว็บไซต์อ่านเอากันเป็นที่เรียบร้อย
“ป่านเป็นคนที่ชอบอ่านและรักการเขียนมาโดยตลอด แต่เราก็เรียนรู้ว่าบางครั้งรักอย่างเดียวคงไม่พอเพราะบางเวลาที่เริ่มเขียนก็จับต้นชนปลายไม่ถูก อีกอย่างเพราะเคยเข้าร่วมโครงการช่องวันอ่านเอา ปี 3 ค่ะ เลยรู้ว่าประสบการณ์ทางการเขียนยังน้อยไป ทำให้ผลงานในเวลานั้นไม่เป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ รวมๆ เลยกลายมาเป็นเหตุผลว่าควรจะพัฒนาตัวเองให้มากขึ้น และเข้าร่วมโครงการอ่านเอาก้าวแรก รุ่น 4 ซึ่งการเข้าคลาสทำให้รู้ว่าข้อบกพร่องของเราอยู่จุดไหน มองเห็นข้อผิดพลาดที่เคยมองข้าม รวมถึงความสมเหตุสมผลต่างๆ ที่ทำให้นวนิยายดูมีมิติและมีชีวิตมากขึ้นมากกว่าการเป็นเพียงนวนิยายเรื่องหนึ่ง จึงทำให้ ดั่งมนต์สุคนธา สำเร็จได้ในวันนี้ค่ะ”
สิปัณฑ์เล่าให้ฟังต่อไปว่า คำแนะนำที่เธอประทับใจและนำมาใช้กับตัวเองจนถึงวันนี้คือ ‘อย่าหยุดเขียน’ “นี่เป็นคำที่ได้ยินบ่อยมากตอนเข้าคลาสค่ะ ทำให้กลายเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีในการเปิดงานขึ้นมาอ่านทบทวนและเขียนในทุกๆ วัน อีกทั้งพี่ๆ ทั้งสามคนยังคอยให้คำแนะนำต่างๆ ถึงจุดที่ควรแก้ไขหรือควรไปทำการบ้านเพิ่มเติมรวมไปถึงการจัดลำดับความสำคัญในการจัดสรรเวลาที่เหมาะสมในงานเขียนด้วย
“สำหรับเรื่อง ดั่งมนต์สุคนธา แรงบันดาลใจในเรื่องการเขียนเรื่องนี้เริ่มต้นจากที่ป่านมีโอกาสไปเที่ยวที่นครวัด ประเทศกัมพูชา และช่วงหนึ่งไกด์ได้บรรยายถึงจิตรกรรมฝาผนังที่ถูกสลักอยู่โดยรอบของปราสาทนครวัด มีภาพหนึ่งเป็นภาพของพิธีกวนเกษียรสมุทร ซึ่งเป็นตำนาน-ความเชื่อ ทางศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เกี่ยวกับพิธีเพื่อสร้างน้ำอมฤตโดยมีทั้งฝั่งอสูรและเทพช่วยกันชักกวนเกษียรสมุทรจนสำเร็จ ซึ่งท้ายที่สุดกลายเป็นว่าเหล่าเทวะได้ของวิเศษต่างๆ ไปจนหมด ป่านเลยสงสัยว่า ทำไมเหล่าอสูรยอมรับได้ง่ายจังทั้งที่ยอมลำบากมาด้วยกัน รู้สึกว่าไม่ยุติธรรมเลย แต่หลังจากไปหาข้อมูลเพิ่มเติมในไตรภูมิ มีบางเล่มเหมือนกันที่เล่าว่าเกิดการสู้รบกันขึ้นหลังจากพิธีกวนเกษียรสมุทร และมีการนำต้นปาริชาตกลับไปที่แดนอสูรแต่ไม่สำเร็จ แต่ข้อมูลก็ยังน้อยไป ไม่เพียงพอที่จะนำมาเล่าต่อได้เลยไม่ได้หยิบมาค่ะ
“นิยายเรื่องนี้เป็นแนวรัก-แฟนตาซี เป็นเรื่องราวของเทวะและอสุรา (อสูร) ซึ่งแย่งชิงบางสิ่งจนเกิดเป็นสงครามและติดตามมาด้วยความสูญเสียของทั้งสองฝ่าย เมื่อร่องรอยของสงครามยังคงติดตามและสร้างความเจ็บปวดให้กับผู้คนทั้งในอดีตและปัจจุบัน จึงเกิดเป็นนวนิยายเรื่อง ดั่งมนต์สุคนธา ขึ้น โดยในเรื่อง ป่านเล่าในมุมมองของผู้ที่ถูกกระทำอย่างเหล่าอสุรา (อสูร) เพราะหากมองอย่างตรงไปตรงมาจะเห็นว่าการกระทำบางอย่างของเหล่าเทวะในนิทานหรือตำนานบางตำนานก็ดูจะสวนทางกับภาพลักษณ์ความดีงามของตัวเอง หรืออาจเป็นกุศโลบายบางอย่างที่ผู้คนแต่ก่อนต้องการสื่อให้เห็นว่าบางครั้งความดี-ความชั่วก็ปะปนกันอยู่ หากแต่เรานั้นสามารถแยกแยะหรือเลือกที่จะกระทำได้ อีกทั้งโดยส่วนตัวเป็นคนชอบนิยายรักกับเรื่องตำนานความเชื่อต่างๆ อยู่แล้ว ทำให้ตอนที่เขียนเรื่องนี้รู้สึกสนุกและเป็นตัวเองมากๆ และถึงแม้จะเคยมีโอกาสประกวดในโครงการช่องวันอ่านเอา ปี 3 มาแล้ว แต่ผลงานชิ้นนี้ก็ถือว่าเป็นผลงานที่เสร็จสมบูรณ์ เผยแพร่อย่างเป็นทางการเล่มแรก ไม่นับรวมนิยายที่เขียนจบบ้างไม่จบบ้างที่เคยลงตามแพลตฟอร์มนิยายต่างๆ ค่ะ”
นักเขียนสาวไฟแรงบอกว่าสิ่งที่เธอได้เรียนรู้จากการเขียนนิยายเรื่องนี้คือเมื่อพยายามทำสิ่งใดจงทำให้ถึงที่สุด แน่นอนว่าระหว่างทางนั้นอาจมีทั้งวันที่ดีบ้างไม่ดีบ้างแต่อย่าหยุดทำในสิ่งที่รัก เพราะผลลัพธ์ที่ได้กลับมานั้นงดงามและสุขใจกว่าที่จะคาดเดาได้
นอกจากจะติดตามอ่าน ดั่งมนต์สุคนธา ได้ที่เว็บไซต์อ่านเอาแล้ว ยังสามารถติดตามผลงานของ ป่าน หรือ สิปัณฑ์ ได้ที่เฟซบุ๊กเพจ : สิปัณฑ์ ได้ด้วย ใครชื่นชอบผลงานของเธอก็ติดตามไปให้กำลังใจกันได้