จากเรื่องเล่าในครอบครัว สู่นิยายแห่งคำมั่นเหนือกาลเวลา ‘หัวใจมังกร’ โดย ‘สิรี กวีผล’

จากเรื่องเล่าในครอบครัว สู่นิยายแห่งคำมั่นเหนือกาลเวลา ‘หัวใจมังกร’ โดย ‘สิรี กวีผล’

โดย : กิ่งสุรางค์ อนุภาษ

Loading

ในยุคที่วัฒนธรรมตะวันออกและซีรีส์จีนยังคงสะกดหัวใจของนักอ่านและผู้ชมอย่างต่อเนื่อง ‘สิรี กวีผล’ นักเขียนผู้เติบโตท่ามกลางเรื่องเล่าจากครอบครัวคนจีนได้หยิบกลิ่นอายแห่งรากเหง้าวัฒนธรรมที่คุ้นเคยนั้นมาร้อยเรียงเป็น ‘หัวใจมังกร’ นิยายที่พูดถึงความรัก คำมั่น และสายสัมพันธ์อันไม่อาจถูกกาลเวลาพรากจาก

การเติบโตมาในครอบครัวคนจีน นับเป็นทั้งแรงบันดาลใจและวัตถุดิบชิ้นสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงาน หัวใจมังกร อีกทั้งเธอเองก็ชื่นชอบการเขียนแนวพีเรียดอยู่แล้ว จึงทำให้พระเอกในเรื่องได้พานักอ่านย้อนเวลาไปสัมผัสกลิ่นอายช่วงต้นรัตนโกสินทร์

“ช่วงที่เขียนเป็นช่วงที่เห็นเพื่อนกำลังชื่นชอบซีรีส์จีนอยู่ด้วยค่ะ เลยได้พล็อตนิยายเรื่องนี้ขึ้นมา” สิรี กวีผล เล่าด้วยถึงที่มาที่ไปของงานชิ้นนี้

จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่เกิดขึ้นนั้น หัวใจมังกร ค่อยๆ เติบโตขึ้นเป็นผลงานที่ผสานความเชื่อ ความรัก และจินตนาการไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

ความเป็นคนจีนที่เธอซึมซับมาตั้งแต่เด็กหลอมรวมเข้ากับความหลงใหลในแนวพีเรียด ไซไฟ และแฟนตาซีจนกลายเป็นเรื่องราวของ ‘ชาง’ และ ‘กัญญ์กุลนัช’ ที่ในภพชาติหนึ่ง ทั้งคู่เคยถูกกีดกันความรักระหว่างเชื้อชาติและถูกพรากชีวิตไปพร้อมคำมั่นสัญญาแห่งรัก

แต่ภพชาติกลับเล่นตลก ให้ชางเกิดในยุครัชกาลที่ ๒ ส่วนกัญญ์กุลนัชเกิดในยุครัชกาลที่ ๙ อย่างไรก็ตามทั้งคู่ก็ได้กลับมาพบกันโดยบังเอิญจากแรงคำมั่นและพลังของ ‘กระบี่ดอกโบตั๋น’ เมื่อปาฏิหาริย์เกิดขึ้น

ชางก็สามารถข้ามภพมาพบกัญญ์กุลนัชในปัจจุบัน ทั้งคู่ต้องฟันฝ่าอุปสรรคแห่งความรัก ความเกลียดชัง

รวมถึงการเลือกระหว่างหน้าที่ ครอบครัว และคนที่ตนรักด้วย

นักเขียนเล่าว่าด้วยคอนเซ็ปต์นี้ทำให้เธอหนักใจมาก

“เพราะชาง พระเอกของเรื่อง จะต้องตัดสินใจเลือกระหว่าง ‘ความรัก’ กับ ‘ครอบครัว’ มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อนมาก เราต้องทำให้เห็นทั้งความรักที่เขามีต่อครอบครัว และความผูกพันลึกซึ้งกับคนรัก อยากให้ผู้อ่านสัมผัสความยากลำบากของการตัดสินใจนี้ และเห็นความยิ่งใหญ่ของความรักเหนือกาลเวลาค่ะ” สิรี กวีผล เล่า

“เราเขียนลำดับตอนไว้ก่อนว่าอยากนำเสนอแนวไหน จากนั้นค่อยพัฒนาเรื่องราวในเชิงแฟนตาซี ความรัก และดราม่าครอบครัว โดยคงกลิ่นอายความเป็นจีนไว้ เพราะรู้สึกว่าประวัติศาสตร์ไทยในหลายยุคสมัยมักมีร่องรอยของคนจีนแทรกอยู่เสมอทั้งในแง่การค้า วัฒนธรรม และวิถีชีวิตในสังคมไทย”

ต่อด้วยการทำการบ้านเรื่องวัฒนธรรมจีน ตำนาน และสัญลักษณ์โบตั๋น

“เรื่องนี้ทำการบ้านเยอะมากค่ะ เช่น ไปเดินสำรวจที่ตลาดน้อย อ่านประวัติความเป็นมา ถ่ายภาพตึก วัดจีนริมน้ำ และโกดังเก่า ชื่อสถานที่ในเรื่องบางแห่งมีอยู่จริง แต่มีการเติมแต่งเพื่อให้เนื้อเรื่องสนุกขึ้น ยิ่งศึกษาเรื่องตำนานการสืบทอดอำนาจรุ่นสู่รุ่นของจีน ก็พบว่ามีความเกี่ยวโยงกับบุคคลในประวัติศาสตร์ไทยจริงๆ ส่วนกระบี่ดอกโบตั๋นที่เลือกใช้เพราะความหมายของมันค่ะ”

นักเขียนเล่าต่อไปว่า โบตั๋นหมายถึงความรักที่สมบูรณ์ ความสุข ความมั่งคั่ง โชคลาภ และเกียรติยศ “โดยเฉพาะในวัฒนธรรมจีนถือว่าโบตั๋นเป็น ‘ราชาแห่งดอกไม้’ ที่สื่อถึงความเจริญรุ่งเรือง ความร่ำรวย ความสวยงาม และความกล้าหาญ ซึ่งเห็นว่าลักษณะเหล่านี้สะท้อนตัวตนของชางและกัญญ์กุลนัชได้ดีมาก นอกจากนี้จะเห็นว่าพระเอกในประวัติศาสตร์จีนมักมีกระบี่คู่ใจ ซึ่งกระบี่ในเรื่องนี้จะมีลายดอกโบตั๋นประดับไว้ เพื่อใช้เป็นตัวแทนของความรัก เพราะในชาติภพหนึ่ง กัญญ์กุลนัชเคยชื่นชอบดอกโบตั๋นมาก ชางจึงสร้างกระบี่ลายดอกโบตั๋นขึ้นมา และสุดท้ายกระบี่เล่มนั้นก็เป็นสิ่งที่พรากชีวิตของทั้งคู่ไปค่ะ”

ไม่เพียงแต่เรื่องความรักข้ามภพ หัวใจมังกร ยังสะท้อนสายใยในครอบครัวไว้อย่างงดงาม

“ความสัมพันธ์ในครอบครัวยิ่งใหญ่เสมอค่ะ ไม่ว่าจะเป็นพี่น้อง คนรัก หรือแม้กระทั่งความเกลียดชังและการแย่งชิง แต่เราอยากให้ทุกตัวละครมีสิ่งหนึ่งร่วมกันคือ ‘ความรักและการให้อภัย’ สำหรับเฉิง พ่อของชาง แม้จะเป็นอุปสรรคใหญ่ในเรื่อง ทั้งด้านความรักและครอบครัว แต่จริง ๆ แล้วเขาเป็นคนที่แสดงออกเรื่องความรักไม่เก่ง ผู้นำครอบครัวแบบจีนมักไม่แสดงความรู้สึกมากนัก เขาอาจดูแข็งกร้าว แต่เนื้อในเต็มไปด้วยความห่วงใยและรักอยู่เสมอ”

และเมื่อให้เธอสรุปใจความของ หัวใจมังกร ได้ในหนึ่งประโยค สิรี กวีผล ก็ตอบว่า “อย่ารักใครจนเกินรัก เพราะความรักที่มากเกินมักทำลายความสุขดีๆ ไป จงรักแค่พอดี ให้ความรักมีพื้นที่เติบโตในใจก็พอค่ะ”

ปัจจุบันสามารถติดตามผลงานของ สิรี กวีผล ได้ในเพจ อ่านเอา และเธอสัญญาว่าจะอัปเดตผลงานลงช่องทางอื่นให้แฟนๆ ได้ติดตามในอนาคตค่ะ

 

 

Don`t copy text!