“รัฐดารา วิจารณ์” จากความทรงจำสุดประทับใจ สู่ นิยายเรื่องแรกในชีวิต ‘แสนฟ้าพันธุ์คำ’

“รัฐดารา วิจารณ์” จากความทรงจำสุดประทับใจ สู่ นิยายเรื่องแรกในชีวิต ‘แสนฟ้าพันธุ์คำ’

โดย : กิ่งสุรางค์ อนุภาษ

Loading

จากความประทับใจในวัยเด็กและคำบอกเล่าของปู่ย่าตายาย ทำให้ ‘ฝน-รัฐดารา วิจารณ์’ ผูกเรียงเรื่องราวผสมผสานความชื่นชอบอีกหลายๆ เรื่องจนกลายเป็น ‘แสนฟ้าพันธุ์คำ’ นิยายเรื่องแรกในชีวิตของเธอ

“แรงบันดาลใจในการเขียนเรื่องนี้มาจากความรู้สึกคิดถึงบ้านค่ะ ฝนเข้ามาเรียนและทำงานที่กรุงเทพสิบกว่าปี ก็เลยอยากเขียนถึงเชียงใหม่ อยากถ่ายทอดสิ่งที่เคยได้เห็น ได้ฟัง ได้สัมผัส อยากจะเขียนถึงบรรยากาศ เรื่องเล่าจากความทรงจำตอนเด็กๆ ที่ปู่ย่ามักจะเล่าให้ฟังเพื่อรำลึกถึงทั้งสองท่าน ทั้งวิถีชีวิตของคนสมัยนั้น ประเพณีและอัตลักษณ์บางอย่างของภูมิภาคที่กำลังจะสูญหายไปตามยุคสมัย

“ฝนโตมากับการถูกหล่อหลอมให้สืบสาน อนุรักษ์และรักษาวัฒนธรรมมาโดยตลอด เป็นช่างฟ้อนของโรงเรียน ศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่น พูดภาษาถิ่น ชีวิตคลุกคลีกับพี่น้องชาวไทใหญ่และกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ (เคยเป็นครูจิตอาสาสอนภาษาอังกฤษ) และมีโอกาสได้ไปท่องเที่ยวผจญภัยที่รัฐฉานในหลายๆ เมือง เลยนำทุกอย่างมารวมกันจนเกิดเป็นแสนฟ้าพันธุ์คำค่ะ”

แสนฟ้าพันธุ์คำ เป็นนิยายที่ได้รับรางวัลชมเชยจากโครงการอ่านเอาก้าวแรก รุ่น ๔ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่ารู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้

“ฝนรู้สึกปลื้มใจมากๆ ค่ะ เพราะเป็นครั้งแรกที่เข้าร่วมการประกวดแบบนี้ และไม่ได้คาดหวังเรื่องรางวัลมาก่อน ส่วนตัวแค่ได้เข้าอบรม ได้ลองเขียนนิยายจนจบ ได้ฝึกฝนตัวเองก็รู้สึกภูมิใจประมาณหนึ่งแล้ว แต่พอได้รับการประกาศชื่อว่าได้รับรางวัลก็อึ้งค่ะ เกือบเป็นลม…ต้องขอขอบคุณทุกคนที่คอยสนับสนุน ผลักดันจนชิ้นงานสำเร็จ ขอบคุณอ่านเอาที่ให้โอกาส ‘แสนฟ้าพันธุ์คำ’ ได้รับรางวัลค่ะ”

 

เจ้าของนามปากกา ‘ดาราวดี’ เล่าให้ฟังต่อไปอีกว่านอกจากจะได้รับรางวัลจากโครงการแล้ว อ่านเอาก้าวแรกยังให้อะไรเธอกลับมาอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวิธีการคิด ทักษะการเขียน ปลุกจินตนาการ มิตรภาพที่ดี ฯลฯ

“ก่อนเข้ามาร่วมโครงการช่วงนั้นทำงานหนัก รู้สึกตึงเครียดและเหนื่อยล้า เริ่มหมดไฟ เลยมีความรู้สึกที่อยากจะพาตัวเองไปอยู่ในสังคมใหม่ๆ ลองทำสิ่งใหม่ๆ ที่ตัวเองรัก อยากค้นหาแรงบันดาลใจและความสามารถอีกหลายๆ ด้านของตัวเอง ประกอบกับเป็นแฟนเพจของอ่านเอามาก่อน พอเห็นโครงการเปิดรับสมัครก็เลยสมัครเข้ามา

“สิ่งที่ได้จากการเข้าร่วมโครงการนี้น่าจะเป็นเรื่องการฝึกสังเกตและการใส่ใจรายละเอียดเรื่องที่อยู่รอบตัว ตอนช่วงของการทำกิจกรรมเขียนพล็อต พี่ๆ ได้แนะนำว่าสิ่งต่างๆ รอบตัวสามารถนำมาสร้างเป็นพล็อตได้ทั้งนั้น เพียงแค่เราหัดสังเกต เช่น ข่าวสารบ้านเมือง การพูดคุยและแลกเปลี่ยนทัศนคติกับผู้อื่น การท่องเที่ยว หรือแม้แต่ความฝัน เจออะไรก็ให้จดใส่สมุดเล็กๆ เอาไว้

“โครงการยังทำให้ฝนนำมาต่อยอดในเรื่องจุดประกายจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ที่ตัวเองมี และน่าจะสามารถกลั่นกรองออกมาเป็นเรื่องราวได้อย่างมีชั้นเชิง มีระเบียบแบบแผนมากขึ้นด้วยค่ะ และด้วยความที่เป็นนักเขียนน้องใหม่ เลยคิดว่าสิ่งที่ได้รับมีประโยชน์กับตัวเองมากๆ เหมือนเริ่มนับหนึ่งใหม่ทั้งหมด ทั้งเรื่องของโครงสร้าง การสร้างพล็อต แก่นเรื่อง การสร้างตัวละครให้มีมิติ วิธีการเขียนนิยายให้จบ”

ดาราวดีบอกถึงที่มาของการตั้งชื่อนิยายที่แสนสละสลวยเรื่องนี้ว่า “แสนฟ้าพันธุ์คำเป็นคำสองคำที่มารวมกัน ระหว่าง ‘แสนฟ้า’ ซึ่งเป็นเมืองสมมติที่มีไอเดียมาจากหลายๆ เมืองในรัฐฉาน ส่วน ‘พันธุ์คำ’ หมายถึงเครือเผ่าพันธุ์ทองคำ สื่อความหมายถึงเจ้าฟ้าผู้ครองเมืองและสมาชิกในราชสำนัก เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของเด็กสาวคนหนึ่งที่หลบหนีจากชะตาชีวิตที่โหดร้าย จากการถูกครอบครัวขายเพื่อใช้หนี้สิน แต่ว่าระหว่างการหลบหนีก็ยังโชคร้ายไปอีก เพราะหนีไปเจอกับโจรแถวชายแดนและถูกจับตัวไปเพื่อหวังค้าส่งมนุษย์ จุดเปลี่ยนของเรื่องอยู่ที่การถูกส่งตัวไปที่โรงการพนัน เพราะที่นั่นเด็กสาวได้พบกับใครบางคนที่จะเปลี่ยนชีวิตของเธอให้กลายมาเป็นหนึ่งในพันธุ์คำของเมืองแสนฟ้านั่นเอง”

นิยายเรื่องนี้เป็นแนวโรแมนติก-พีเรียด โดยมีฉากหลังเป็นรัฐฉานในยุคล่าอาณานิคมของชาวตะวันตกซึ่งเจ้าตัวบอกว่าเป็นการท้าทายตัวเองอย่างมาก

“ทั้งการดำเนินเรื่องราว วรรณศิลป์และบรรยากาศ แรงบันดาลใจในเรื่องต่างๆ ที่เป็นทัศนคติการใช้ชีวิตของนักเขียนเอง รวมถึงกลวิธีการเรียบเรียงเรื่องราวก็ต้องเคี่ยวกรำอย่างเข้มข้น มีการศึกษาหาข้อมูล มีการจำลองบรรยากาศจากข้อมูลที่เป็นประสบการณ์ส่วนตัว ผสมผสานกับข้อมูลจากหนังสือ สารคดี เพื่อให้ตัวนวนิยายมีความสมบูรณ์และมีกลิ่นอายเฉพาะที่แปลกใหม่ออกไป อีกทั้งการเขียนนวนิยายที่เป็นพีเรียดล้วนๆ ก็จะท้าทายเราว่าจะเขียนยังไงให้บรรยากาศคงเส้นคงวามากที่สุด และหาทางมาบรรจบกันได้ในที่สุด ซึ่งสิ่งที่ทำให้ผ่านมาได้คือเขียนไปเรื่อยๆ พยายามนึกให้เป็นเหมือนเราดูหนังหนึ่งเรื่อง ตาของเราคือกล้อง กล้องจับตรงไหน จับอะไร พยายามบรรยายสิ่งนั้น ส่วนบทสนทนาของตัวละครระหว่างเขียนก็ต้องพูดไปด้วย อย่างบทเข้าพระนางก็จะมีความเขินตัวเองหน่อยๆ เขียนให้จบก็ยากเหมือนกันค่ะ เพราะต้องสู้กับเวลาที่จำกัดอีกหนึ่งเรื่อง

“จากเรื่องเหล่านี้เลยทำให้รู้ว่าการจะเป็นนักเขียนนี่ก็เอาเรื่องเหมือนกันนะ เหมือนทำธีสิสเลย (หัวเราะ) ขอบคุณมิตรภาพของเพื่อนๆ นักเขียนที่คอยให้คำปรึกษา คอยช่วยสนับสนุนพลักดันกันมาตลอด จนทำให้ผลงานชิ้นนี้สำเร็จสร็จสิ้น และมีโอกาสได้ลงให้ผู้อ่านได้อ่านในเว็บไซต์อ่านเอา นอกจากนี้ยังค้นพบตัวเองว่า เราเองก็เขียนใช้ได้นี่นา มีแฟนๆ ติดตามอ่านด้วยนะ (หัวเราะ)”

ตอนนี้แสนฟ้าพันธุ์คำที่ลงให้อ่านในเพจอ่านเอารูดม่านลงเรียบร้อยแล้ว และกำลังจะมี E-Book รวมถึงเปิดพรีออเดอร์ในช่วงเดือนมกราคมนี้

ใครที่สนใจอยากติดตามผลงานของดาราวดีต่อ สามารถตามไปให้กำลังใจเธอได้ในเรื่อง ‘จันทรานิรมิต’ นิยายแนวพีเรียดสมัยอยุธยาที่ลงให้อ่านใน readAwrite ธัญวลัยและ Dek-D.COM ทั้งยังมีเรื่องสั้นแนวสะท้อนสังคมเรื่องคำสุดท้ายในวันที่สายไป ในเพจช่างเขียนพยัญชนะ และตอนนี้เธอกำลังจะเขียนเรื่องสั้นแนวไซไฟ-พุทธศาสนา สะท้อนสังคม เกี่ยวกับลัทธิผู้วิเศษที่มีความเชื่อเรื่องการอุบัติใหม่ของพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป รวมถึงในอนาคตยังวางแผนไว้ว่าอยากลองเขียนวรรณกรรมเด็กอีกด้วย

 นอกจากนี้ FC แสนฟ้าพันธุ์คำยังสามารถติดตามผลงานของดาราวดี ได้ที่เพจดาราวดี ซึ่งนักเขียนเขาสัญญาว่าจะพยายามอัปเดตกันบ่อยๆ ด้วยค่ะ

 

Don`t copy text!