“รักนี้ไม่มีตำหนิ” นิยายรักเรื่องแรกของ ตวงทิพย์ ยุวชิต

เพื่อนๆ นักอ่านหลายท่านเริ่มคุ้นเคยกับชื่อ ตวงทิพย์ ยุวชิต กันบ้างแล้ว เพราะ “ดวงใจภาดา” ผลงานเรื่องล่าสุดที่ออนไลน์ในเว็บไซต์ anowl.co ของเธอ เป็นที่ชื่นชอบอยู่ไม่น้อย และครั้งนี้ เธอมาพร้อมผลงานเรื่องที่สาม “รักนี้ไม่มีตำหนิ”

เพราะความไม่หยุดเรียนรู้ และต้องการเดินทางบนเส้นทางนักเขียนให้แข็งแรงมากขึ้น หลังจากจบจากโครงการช่องวันอ่านเอาปีที่ 2 ตวงทิพย์จึงสมัครเข้าร่วมอบรมและเรียนการเขียนนวนิยายในโครงการอ่านเอาก้าวแรก รุ่นที่ 3 ต่อทันที

“หลังจากเขียนดวงใจภาดาจบแล้วก็เริ่มมั่นใจว่าพอจะเขียนนิยายเป็นบ้างแล้ว แต่ก็ยังอยากศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเขียนนิยาย ซึ่งตอนนั้นเป็นจังหวะเหมาะพอดีที่อ่านเอาเปิดอบรมโครงการนี้ขึ้น และในครั้งนั้นเป็นการอบรมผ่านโปรแกรมซูม จึงสะดวกสำหรับคนที่เดินทางไปไหนมาไหนลำบากอย่างเรา จึงไม่พลาดที่จะเข้าร่วม และก็ส่งนวนิยายเรื่อง ‘รักนี้ไม่มีตำหนิ’ ไปในโครงการนี้ ถ้านับเวลาแล้วก็จะห่างจากดวงใจภาดา 6 เดือนค่ะ”

“รักนี้ไม่มีตำหนิ” นิยายรักเรื่องแรกของตวงทิพย์

จุดเด่นของ “รักนี้ไม่มีตำหนิ” ที่ต่างจากเรื่องก่อนๆ คือ เป็นนิยายรัก ไม่ใช่นิยายครอบครัว แต่เธอก็การันตีว่า เป็นรักที่กระชับฉับไว แม้ไม่ใช่รักหวานฉ่ำ แต่เป็นรักลึกซึ้ง

“นอกจากเรื่องนี้จะบอกเล่าถึงความรักแล้ว ก็ยังมีข้อคิดในการแก้ปัญหาชีวิตและเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ ในการดูแลคนพิการสอดแทรกอยู่ด้วยนะคะ แต่ถึงจะเน้นสาระมากแค่ไหนก็ไม่ทิ้งความสนุกแน่นอน เพราะจากการอบรมและการได้เขียนนวนิยายเรื่องนี้ ทำให้ได้เรียนรู้และเขียนงานแบบใหม่ที่ไม่เคยเขียนมาก่อน คือเขียนนิยายรักที่โฟกัสเรื่องรักเป็นแกนหลัก เป็นเรื่องรักที่มีพระนางสองคู่ทั้งคู่พระเอกและพระรอง และยังเป็นเรื่องแรกที่เป็นละครซ้อนละคร เพราะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในกองถ่ายละครโทรทัศน์”

“เอม อัจจิมา” คาแรกเตอร์ไกลตัวที่พบเจอได้จริง

ตัวเอกของ “รักนี้ไม่มีตำหนิ”  คือ เอม อัจจิมา นางเอกตัวแม่ที่มั่นใจในรูปร่างหน้าตาและความสามารถของตัวเองว่าไม่เป็นสองรองใคร ดังนั้นคนธรรมดาทั่วไปจึงไม่อยู่ในสายตาเธอ แต่แล้ววันหนึ่งชีวิตเธอก็พลิกผันในชั่วข้ามคืน!!

“แรงบันดาลใจในการสร้างตัวละครเอม อัจจิมา มาจากตัวเองค่ะ เพราะสร้างตัวละครนี้ขึ้นมาด้วยเหตุผลสองข้อ ข้อแรก ตามหลักการเขียนนิยาย ผู้เขียนควรเขียนเรื่องที่ตัวเองรู้มากที่สุด ซึ่งเราเป็นคนมีประสบการณ์ชีวิตน้อย เคยทำงานเขียนบทโทรทัศน์มาบ้าง ดังนั้นถ้าจะหาพล็อตเรื่องที่รู้และเข้าใจมากที่สุด เรื่องราวที่จะเขียนได้ในเวลาจำกัดของการอบรมการเขียนนวนิยายก็คงไม่พ้นเรื่องในกองถ่ายละครโทรทัศน์และเรื่องของคนพิการ

“เหตุผลอีกข้อหนึ่งก็คือ ที่ผ่านมาเคยเขียนวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง “เด็กชายในเงา” ที่เป็นเรื่องเด็กพิการไปแล้ว มาครั้งนี้ก็อยากจะเขียนเรื่องผู้ใหญ่พิการบ้าง เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจมุมมองความคิดของคนพิการมากขึ้น เพื่อช่วยให้คนพิการและคนไม่พิการดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างราบรื่นมากขึ้นค่ะ”

แล้วอะไรคือ จุดเด่นของนิยายตวงทิพย์?

เมื่อเราถามว่า ณ จุดนี้ ตวงทิพย์ค้นพบหรือยังว่า นิยายแบบไหนคือลายเซ็นของตัวเอง? คำตอบที่ได้คือ…

“เราทำงานเหมือนเป็ด คือเคยเขียนงานมาหลายรูปแบบทั้งบทละครทีวี บทละครวิทยุ เรื่องสั้น เรื่องยาว รวมถึงนิทาน เขียนมาทุกอย่าง แต่ยังไม่เชี่ยวชาญสักอย่าง ยอมรับว่าเอกลักษณ์ของงานแต่ละประเภทยังไม่ค่อยเด่นชัด แต่ถ้าจะให้หาจุดเด่นของงานคงเป็นความเรียบง่ายค่ะ ไม่ค่อยมีฉากหวือหวาถ้าไม่จำเป็น เล่าเรื่องให้เข้าใจง่ายๆ ชอบเล่าเรื่องผ่านบทสนทนา ชอบที่จะส่งสารสำคัญผ่านเรื่องราวธรรมดา เขียนฉากน้อยแต่กินความหมายมาก เดินเรื่องเร็วทันใจ เพราะเขียนบทบรรยายไม่ค่อยเก่งค่ะ (หัวเราะ)

“ในแง่เนื้อหานิยายตวงทิพย์มักจะเล่าเรื่องเศร้า แต่เป็นความเศร้าที่สุขซึ้ง และมักจะจบแบบมีความหวังค่ะ”

สำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่านผลงานของตวงทิพย์ อ่านเอาอยากให้เปิดใจลองอ่าน “รักนี้ไม่มีตำหนิ” กันดู อ่านแล้วคอมเม้นมาได้ไม่ว่ากัน เธอตวงทิพย์บอกว่า เธอยังใหม่มากกับแวดวงวรรณกรรม แต่ก็น้อมรับทุกคำติชม

“แม้ผลงานเรื่องนี้จะไม่ได้รับรางวัล แต่ก็ดีใจและภูมิใจมากค่ะที่ผลงานผ่านมาตรฐานของคณะวิทยากร ให้ได้เผยแพร่บนเว็บไซด์อ่านเอานะคะ ปอจึงอยากให้ทุกคนมาเอาใจช่วยและร่วมเดินทางภายในไปกับเอม อัจจมา รับรองว่าเรื่องนี้สนุกครบรส และหวังว่าเมื่ออ่านจบแล้วทุกคนจะมีกำลังใจในการฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ  ในชีวิตนะคะ”