“บุพเพข้ามฟ้า” เมื่อการท่องเที่ยวทำให้ค้นพบตัวตนของ ‘รตี’

“บุพเพข้ามฟ้า” เมื่อการท่องเที่ยวทำให้ค้นพบตัวตนของ ‘รตี’

โดย : YVP.T

Loading

ถือว่าเป็นที่มาของอาชีพนักเขียนที่แหวกแนวสำหรับอ่านเอาพอสมควร เพราะ ‘รตี’ หรือ ฟ้า – รตี วรรลยางกูร เจ้าของผลงาน “บุพเพข้ามฟ้า” ที่ทุกคนจะได้อ่านกันเร็วๆ นี้ เธอเป็นเจ้าของบริษัททัวร์ที่ไทยและพม่า ประเทศที่หลายคนอาจนึกไม่ออกว่า จะมีมุมไหนที่น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดนวนิยายแสนโรแมนติกเรื่องนี้ แต่สำหรับ ‘รตี’ พม่าคือดินแดนที่คุ้นเคย และเป็นดินแดนที่เธอรักไม่แพ้แผ่นดินไทย

“ก่อนหน้าที่จะมาเปิดบริษัททัวร์ ฟ้าเป็นพนักงานบริษัทขายส่งสินค้าไอทีไปที่พม่าค่ะ ด้วยความคุ้นเคยและเห็นช่องทางที่น่าสนใจที่จะสร้างธุรกิจของตัวเองได้ เลยลาออกมาเปิดบริษัททัวร์ของตัวเองมีทั้งที่ไทยและก็ที่พม่า เพราะความรู้สึกเราไม่เคยเปลี่ยนเลยตั้งแต่วันแรกที่รู้จักย่างกุ้งจนถึงทุกวันนี้ ย่างกุ้งเป็นเมืองที่เจ๋งมากสำหรับเรา

“ฟ้าได้สัมผัสพม่าแบบคนพม่าจริงๆ เพราะเราได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น ซึ่งต่างจากแค่ไปเที่ยว  มันทำให้เราเห็นมุมมองหลายๆ แบบที่มันอาจไม่ได้ทันสมัย สวยงาม หรูหรา แต่มันว้าวสำหรับเรามาก  โดยเฉพาะในจุดที่ว่า โลกเทคโนโลยีหมุนเร็ว แต่พม่ากลับมีความเป็นยุคเก่าที่สามารถหมุนไปพร้อมโลกสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว นั่นทำให้เมืองเขาน่ารักมาก และกลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนเรื่องบุพเพข้ามฟ้า”  

 

นวนิยาย..คือการได้สร้างเรื่องราวได้อย่างใจที่ตัวเองต้องการ

สำหรับในการเขียนนวนิยายนั้น รตีย้อนความหลังว่า “เริ่มต้นเขียนนวนิยายตั้งแต่ยังเด็กๆ เลยค่ะ เพราะเมื่อตอนเด็กๆ ต้องตามคุณแม่ไปทำงาน ช่วงระหว่างที่รอก็จะให้อ่านหนังสือไปเรื่อยๆ ซึ่งการอ่านเยอะๆ ทำให้เราคิดว่าเขียนเองบ้างดีกว่า แต่ความที่เด็กมากก็เลยจำไม่ได้ว่า เริ่มเขียนได้ยังไง สิ่งที่คิดเสมอคือ เรื่องราวที่เขียนเป็นเรื่องราวที่ตัวเองอยากสร้างขึ้นมา และอยากให้คนอื่นได้อ่านแบบที่เรานั่งอ่านหนังสือคนอื่นบ้าง”

2 โครงการจากอ่านเอาคือเข็มทิศชีวิตนักเขียน

แม้รตีจะไม่ใช่คนแรกและคนเดียวที่เข้าร่วมในโครงการต่างๆ ของอ่านเอา แต่เธอเข้าร่วมโครงการแบบต่อเนื่อง เพียงเพราะคำๆ เดียวคือ ‘โอกาส’

ครั้งแรกที่รู้จักอ่านเอาคือเห็นโครงการช่องวันอ่านเอาบนเฟสบุ๊ก เรารู้สึกว่าคือโอกาสที่จะได้ลองส่งพล๊อตเข้าประกวดดู สรุปว่าตัวพล๊อตผ่าน ได้เข้าเวิร์คช้อปกับพี่ๆ และกรรมการจากช่องวัน 31 แต่ตัวนิยายไม่ได้รับรางวัล ต่อมาพอเห็นโครงการอ่านเอาก้าวแรกเปิด ก็รู้สึกว่านี่เป็นโอกาสดีอีกครั้ง ที่เราจะได้หาความรู้เพิ่มเติมจากพี่ๆ นักเขียนที่มีประสบการณ์ และเราก็ได้มากกว่าประสบการณ์กลับมาจริงๆ นั่นคือ เราได้สติค่ะ

“เมื่อก่อนฟ้าเขียนนิยายแบบตามใจฉัน นึกอะไรก็เขียนไปเรื่อย ไม่มีการวางโครงเรื่องที่แน่นอน  พอได้เข้าอบรมกับนักเขียนแต่ละท่าน  ทำให้เข้าใจมากขึ้นว่า นิยายที่ดีควรเป็นอย่างไร รู้ว่าอะไรเป็นองค์ประกอบของนิยายที่เราควรสร้างก่อนหลังเพื่อที่จะทำให้เราเขียนได้ลื่นไหลขึ้น  ไม่เขียนแล้วตันเหมือนที่ผ่านมา ที่สำคัญการอบรมทำให้เรารู้วิธีที่จะเขียนนิยายธรรมดาๆ ให้กลายเป็นนิยายที่มีคุณภาพ เมื่อนิยายออกมาดี เราก็มีความรู้สึกสนุกไปกับการเขียนนิยายของตัวเองมากขึ้นค่ะ”

“บุพเพข้ามฟ้า” เมื่อพม่าคือแรงบันดาลใจสุดๆ

สปอยให้รู้กันตรงนี้เลยว่า บุพเพข้ามฟ้า คือนิยายที่มีฉากของประเทศพม่าเป็นส่วนใหญ่ ด้วยเหตุผลที่หลายคนพอจะเดาออกว่า เธอคนนี้หลงใหลในประเทศนี้มากน้อยเพียงใด แต่ถ้านับว่าเป็นผลงานเขียนนิยาย เรื่องนี้เป็นผลงานที่เท่าไหร่ของรตีกันล่ะ??

“เป็นผลงานที่เท่าไหร่นี่นับไม่ถูกเลยค่ะ เพราะไม่รู้จะนับอันไหนเป็นผลงานได้ (หัวเราะ) อย่างที่บอกว่า เขียนมาตั้งแต่เด็กๆ แต่เขียนแบบสะเปะสะปะมาหลายเรื่อง จบบ้าง ไม่จบบ้าง มีได้รับการตีพิมพ์อยู่บ้าง โดนปฏิเสธก็เยอะ เพราะเราไม่เข้าใจหลักในการเขียนนิยายที่ดี มันเลยกระท่อนกระแท่นมาก

“กระทั่งได้สั่งสมประสบการณ์ และด้วยวัยที่โตขึ้น บวกกับการเข้าอบรม 2 ครั้งกับอ่านเอา ก็มี 2 เรื่องที่เขียนแล้วรู้สึกว่ารักและภูมิใจกับผลงานของตัวเองมาก ซึ่งเรื่องแรกเป็นผลงานที่เขียนส่งช่องวันอ่านเอา คือ ‘เล่ห์รักสัจจา’ เรื่องนี้ได้ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์  และก็มีเรื่อง ‘บุพเพข้ามฟ้า’ นี่แหละค่ะ ที่ได้รับเลือกลงเว็บไซต์ของอ่านเอา

“สำหรับความเป็นมาของพล็อตเรื่องนี้ เกิดจากความที่คลุกคลีอยู่กับพม่ามานานพอควร และเชื่อมาตลอดว่าการเขียนนิยายนั้น ถ้าเขียนจากเรื่องที่รู้จริง คุ้นเคย จะง่ายแล้วเราก็จะสนุก พม่าจึงเป็นหนึ่งในหัวข้อที่อยากเขียนถึงมาตลอด  แต่ไม่อยากได้อารมณ์สงครามเสียกรุงหรือวิญญาณภพชาติที่แล้ว ซึ่งเป็นมุมมองที่คนอ่านมักจะได้อ่านถ้าเป็นนิยายที่เขียนเกี่ยวกับพม่า แต่เราอยากได้ความปัจจุบัน  โชว์ความว้าวของพม่า  นำเสนอสถานที่แปลกๆ ใหม่ๆ สวยๆ ให้คนอ่านได้เห็นเหมือนอย่างที่เราไปเห็นมาแล้วประทับใจค่ะ”    

การออกเดินทางตามหาหัวใจของคนอื่นที่เมืองต่างแดนใน “บุพเพข้ามฟ้า”

“บุพเพข้ามฟ้า” เป็นเรื่องราวของอนล ผู้บริหารหนุ่มสุดเพอร์เฟคต์ที่สนใจแต่ตัวเลขยอดขาย  แต่เขาจำใจต้องทิ้งงานและจับไฟล์ทมาย่างกุ้งแบบด่วนที่สุด หลังจากได้ข่าวว่าคู่หมั้นของเขาประสบอุบัติเหตุจนความจำเสื่อมระหว่างเดินทางมาเที่ยวที่พม่า แต่อาการความจำเสื่อมนี้ไม่ได้เสื่อมร้อยเปอร์เซนต์ เธอจำได้เรื่องเดียวคือเรื่องของผู้ชายคนหนึ่งที่เธอบันทึกถึงและแชร์เรื่องราวลงบนโลกโซเชียลระหว่างเดินทางของเธอที่พม่า อนลรู้แค่ว่าเขาต้องทำให้เธอกลับมาจำทุกอย่างได้ให้เร็วที่สุด เพราะไม่งั้นจะกระทบกับพิธีวิวาห์ที่จะช่วยสร้างมูลค่าทางธุรกิจมหาศาลให้กับบริษัทของเขา การออกเดินทางตามหาหัวใจของคนอื่นที่เมืองต่างแดนจึงเกิดขึ้น

แต่สุดท้าย…สิ่งที่อนลได้พบจะเป็นอะไร อ่านเอาไม่ขอบอกนะคะ เพราะเราจะได้อ่านไปเดาไปด้วยกัน

รตี ยอมรับว่า เธอคือคนที่ตกหลุมรักพม่า ถึงขนาดข้ามฟ้าไปถ่ายฟรีเวดดิ้งถึงที่นั่น ในการเขียนนิยายเรื่องนี้ เธอจึงอยากให้ทุกคนลองเปิดใจรับพม่าไว้ในหัวใจอีกสักที่

“หลายคนอาจจะงงๆ ว่า พม่าไม่เห็นมีอะไรเลย แต่ลองไปสัมผัสแล้วจะรู้ว่าที่นี่ โดยเฉพาะที่ย่างกุ้ง เป็นเมืองน่ารักและน่าเที่ยวมาก ถ้าคุณผู้อ่านได้ไปสัมผัสสายลมบนเจดีย์ชเวดากองในตอนค่ำ ได้เดินบนพื้นหินอ่อนเย็นๆ ฟังเสียงระฆัง เห็นแสงเทียนเป็นพันๆ ดวง ได้ดูเจดีย์สีทองที่ข้างหลังเป็นท้องฟ้า 3 สีก่อนพระอาทิตย์ตกดิน รับรองเลยค่ะว่า คุณจะได้สัมผัสกับความรู้สึกที่อิ่มเอิบหัวใจมากจริงๆ

“เพราะแม้ความงามของสถานที่แต่ละที่ เราจะเขียนบรรยายเป็นตัวอักษรให้ได้จินตนาการตาม แต่เชื่อเอะค่ะ เมื่ออ่านบุพเพข้ามฟ้าแล้ว คุณจะอยากไปที่ย่างกุ้ง และเห็นความงามนั้นด้วยสองตา” 

Don`t copy text!