บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 41 : แผนสูง
โดย : ปราณประมูล
บุษบาลุยไฟ โดย ปราณประมูล เรื่องราวของ ลำจวน หญิงสาวผู้ต่อสู้กับค่านิยมทางสังคมในยุค ร.3 เธอลุกขึ้นทำสิ่งที่คนในห่วงเวลานั้นไม่ทำกัน หนทางจึงไม่ได้ราบรื่น หากเต็มไปด้วยอุปสรรคและถ้าไม่ใช่เพราะแรงรักแรงใจที่หนุ่มจีนคนนั้น คงยากที่บุษบาดอกนี้จะไปสู่จุดหมาย ‘บุษบาลุยไฟ’ นวนิยายเรื่องเยี่ยมที่อ่านเอานำมาให้อ่านออนไลน์
เรือลำเปรียว พายมาในคลองละแวกสวนบางพลัด น้ำใส เห็นปลาเสือ ปลาหมอ ปลากระดี่ชุกชุม สองข้างทางเขียวครึ้มชอุ่มไปด้วยต้นผลไม้ใหญ่ๆ มะเดื่ออุทุมพร ลำพู จิกน้ำ มะกอกน้ำ พบเห็นได้ทั่วไป
ผู้โดยสารในเรือคือครูพุดและฮุน
“ มีคนมาหาครูท่านบ่อยเหมือนกันขอรับ ”
คนพายเรือผู้เคยเส้นทาง ด้วยรับจ้างพาใครต่อใครมาบ้านหลังนี้อยู่เนืองๆ
ที่ท่าน้ำตรงหน้า นายพัดกำลังนั่งซักผ้าอยู่ ครั้นเห็นเรือมุ่งมา ก็ลุกขึ้นรับ
ฮุนยิ้มกว้างขวาง ยกมือไหว้แต่ไกล
“ พี่พัด! ”
“ ครูพุด เจ้าฮุนเปีย..มาถึงนี่! ”
บุตรอดีตอาลักษณ์ภู่กระตือรือร้นยินดี
“ ครูคงแป๊ะมีกิจอันใดรือ? ”
“ มิใช่กิจของครูท่านดอกพ่อพัด กิจของอ้ายเปียนี่ ”
ครูพุดบอก เมื่อโดดขึ้นจากเรือ
“ ฮ้า..จริงรือ เจ้าฮุน รือจักมาขอเรียนเขียนกลอนกับพ่อข้า? ”
ชายหนุ่มผู้วางตัวเป็นพี่เดาด้วยความแปลกใจยิ่ง
ที่ใต้ถุนเรือน หญิงสาวเจ้าของบ้าน ผู้งามละมุนละไมแต่คิ้วกับตาฉายแววเฉียบขาด กำลังตั้งท้องพอมองเห็นได้ นั่งขูดมะพร้าวแก่เพื่อคั้นกะทิทำแกงอยู่
แม่ไก่วิ่งกุ๊กไปทั่ว ส่วนหมาเฝ้าสวนก็มาเห่าข่มคนแปลกหน้าอย่างดุเดือด
พัดใช้ผ้าพาดบ่าสะบัดขู่ชู้วๆๆ..ไล่หมา เมื่อเดินนำครูพุดกับฮุนเข้ามา
“คุณแม่ม่วง นี่ช่างเขียนลูกน้องครูคงแป๊ะ ”
นายพัดแนะนำ
ทั้งสองยกมือไหว้ภรรยาเจ้าของบ้าน
เธอมองยิ้มแย้มอย่างคุ้นเคยดี กับการมีแขกแปลกๆมาหาสามี
“ ครูอยู่บนเรือน ขึ้นไปเลยจ้ะ ”
พัดล้างตีนทีข้างบันได แล้วเดินนำขึ้นไป
“ ขึ้นมาๆ ”
ครูพุดกับฮุนถอดเกือก เดินตามขึ้นไป
ตรงชานเรือน ที่มีเงาไม้ใหญ่ทอดร่มเงาเย็นชื่นมาถึง
ที่ยกพื้น มีตั่งให้ตาบ..ลูกชายหนุ่มน้อยคนรอง นั่งคัดหนังสืออย่างสะดวกสบาย จากสมุดดำเล่มเก่า ลงในสมุดขาวเล่มใหม่
ตาบเงยมอง แล้วฉวยโอกาสพักงาน ลุกมาไหว้ครูพุด มองฮุนอย่างแปลกใจ ขณะบิดเนื้อตัวแก้เมื่อยขบ
“ เจ้าตาบ..คุณพ่อล่ะ? ”
พัดมองหา
“ โน่น..”
ตาบพยักหน้าไป
ท่านภู่ไม่สวมเสื้อ มีผ้าพาดบ่า กำลังก้มๆเงยๆเลือกหยิบเรียงผลไม้ใส่กระจาดใบเล็ก คือผลมะปรางงามๆ ที่วางบ่มในกระด้งเต็ม ที่เฉลียงด้านหนึ่ง
“ มีสุกๆงามๆหลายลูก..กำลังกินเลย ”
ท่านภู่หันมา เห็นสองศิษย์ของสหาย รีบลุกมาต้อนรับ
ครูพุดและฮุน ไหว้นอบน้อม ก้มศรีษะต่ำอย่างเคารพจากเบื้องลึก
“ ลมอะไร พัดบรรดาช่างเขียนมือฉมังมาจนถึงนี่ ”
ฮุนมองสิ่งที่ตาบคัดลอกค้างอยู่
ลายมือตาบสวยงาม เล่นหางพลิ้ว
“ ลูกผู้ชายลายมือนั้นคือยศ เจ้าจงอตส่าห์ทำสม่ำเสมียน..”
ฮุนเปรย ตาบชงัก สบตา ยิ้มให้อย่างชอบใจ
แต่ท่านภู่มองอย่างคาดไม่ถึง เช่นเดียวกับที่ครูพุดเอง ก็ยังไม่เชื่อหู
ฮุนยิ้มให้ทุกคนอย่างเปิดเผย แจ่มใส
“ กระผมอยากได้หนังสือพระอภัยมณีขอรับ หากมีที่คัดลอกไว้แล้ว ก็จะขอปันซื้อไปสักหลายเล่ม หรือจะขอจ้างให้คัดลอกใหม่ก็ได้ขอรับ ”
ท่านภู่คลางแคลง
“ เจ้ามีอัฐมากนักรือ ร่ำรวยขนาดซื้อหนังสือนิทานอ่านเล่นเป็นหลายเล่มเชียวรือ? ”
“ ไม่ร่ำรวยดอกขอรับ ..แต่เรื่องที่ท่านครูมีแขกเป็นพระเอก เป่าปี่ไปทำให้คนหลับก็ได้ คนตายก็ได้ กระผมอยากได้จริงๆ.. ”
ท่านภู่ยิ้มกับครูพุดอย่างต่างก็เอ็นดูเจ้าจีนแปลกๆคนนี้
“ เออหนอ ข้าเห็นจักต้องมองเจ้าหนุ่มผู้นี้ใหม่เสียแล้ว ”
แม่ม่วงจัดมะปรางแก่จัดลงในตะกร้าอย่างสวยงาม ขณะที่ท่านภู่เอาสมุดขาวใหม่เอี่ยมสามเล่ม มาวางตรงหน้าฮุน
“ ข้ามีเล่มหนึ่ง เล่มสอง เล่มสาม ที่คนเขามาคัดลอก จ่ายค่าคัดลอกแล้ว แต่ดันล้มหายตายจากไปเสีย แลไม่มีใครมารับ เจ้าเอาไปอ่านเถิด ไม่คิดสตางค์ ”
“ แต่ว่า..”
“ ไม่ต้องแต่ ข้าให้เจ้าด้วยความพอใจ ”
ดวงตาท่านภู่เปี่ยมด้วยเมตตา
“ เช่นนั้น..กระผมจะเพียงยืมไป..เสร็จแล้วจักนำมาคืน ”
“ ไม่ต้องเกรงใจไป..ดูนั่น..”
ท่านภู่มองไปทางผลงานของตาบ
“ ที่เจ้าตาบคัดลอกอยู่นั้น ก็พระอภัยมณีนี่แล มีคนเขาติดพัน ชอบอ่านนักหนา มาจ้างให้คัดทีละเล่มๆ อ่านไปสิบกว่าเล่มแล้วก็มี แต่อยากอ่านเล่มต่อไปๆ เจ้าอ่านสามเล่มนี้ แล้วอยากได้เล่มสี่ห้า.. ค่อยมาจ่ายอัฐเมื่อมาซื้อหาคัดลอกเล่มต่อๆไปก็แล้วกัน ”
ฮุนก้มลง กราบอย่างซึ้งใจ
แม่ม่วงถือตะกร้ามะปรางมาวางให้ครูพุด
“ นี่ค่ะ มีที่กินได้วันนี้สี่ห้าผล นอกนั้นคงต้องรอวันพรุ่ง ก็น่าจะสุกหวานพอดีทั้งหมด ”
“ ฝากไปให้คุณหลวงเสนีย์ฯด้วย ข้าไม่มีอะไรจะให้ มีแต่ผลไม้ของสวนแม่ม่วงเขานี่แหล ”
“ กระผมมามือเปล่าแท้ๆ คิดจะซื้อหนังสือ แต่ไม่ได้ซื้อ กลับมารับมะปรางไปอีก ”
ฮุนเกรงใจ
ท่านภู่หัวเราะ
“ เอาเถิด สักวันข้าคงได้พึ่งพาพวกเจ้าบ้าง ”
ฮุนพูดไม่ออก ได้แต่กราบแล้วกราบอีก
ฮุนอุ้มสมุดขาวสามเล่มที่อยู่ในถุงย่าม กับตะกร้ามะปรางผลงามนวล เดินลิ่วๆ
ครูพุดเดินตัวเอียง เคียงมากับนายพัด ช่วยกันหิ้วหูเข่ง ที่มีทั้งกล้วยเป็นเครือ ขนุนผลเบิ้ม และผักหลายอย่างที่เก็บจากต้น
“ ดูซี เที่ยวมา มาตัวเบา เที่ยวกลับ กลับไปกับของกินหนักอึ้งเทียว ”
ครูพุดเอ่ยล้อตัวเองแก้เขิน
“ บ้านสวนก็อย่างนี้แลขอรับ สมัยอยู่วัด พ่อไม่มีอะไรจะให้ใคร นอกจากให้ศีลให้พร นี่มาอยู่กับแม่ม่วง ได้มีบ้านสวน ที่พอจะเก็บส้มสูกลูกไม้แจกเพื่อนฝูงแขกไปใครมาบ้าง ”
พัด ครูพุดและฮุน ช่วยกันยกเข่งลงเรือ
“ พ่อฮุนนี่มีบุญหนา พ่อให้หนังสือ ของรักของหวงทีเดียว ”
พัดทึ่งไม่หาย
“ กระผมขออาสาพาครูท่านแลพี่พัด น้องตาบ ไปกินดื่มร้านของชาวจีนบ้างวันหลัง มีของอร่อยๆให้ลองชิมมากมายหลายสิ่งขอรับ ”
“ เจ้าฮุนนี่มันไม่ใช่เบา มีสินบาทสินบนตอบแทนเสียด้วย ”
เมื่อเรือพายของพวกช่างเขียนพายออกมา ก็มีเรือประทุนลำหรูหราวิจิตรลำหนึ่ง พายสวนเข้าไปเทียบท่าบ้านท่านภู่
พวกที่ขึ้นจากเรือคือชายหนุ่มแต่งกายอย่างมหาดเล็กที่แปลกตา เพราะตัดเย็บเข้ารูปทรงอย่างฝรั่ เห็นได้เด่นชัด
“ เจ้าพนักงานที่ไหนมาหาท่านอาลักษณ์ แต่งกายสมาร์ททีเดียว ”
ฮุนหลุดภาษาแบบที่เคยได้ยินมาจากโอสถศาลา ขณะมองจนเหลียวหลัง
“ สะม้าด..? คืออันใด นั่นคนจากวังเจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรร แต่งกายแบบนี้ไม่มีวังอื่นเสมอเหมือน สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอท่านคงให้มหาดเล็กมาขอคำปรึกษาหารืออะไรจากท่านกระมัง ”
“ ท่านภู่ก็มิได้เงียบเหงาโดดเดี่ยวแต่อย่างใดนี่ครับครู ”
“ ไม่ดอก..ใครๆก็อยากได้ท่านภู่ไปช่วยทำงานหนังสือหนังหาต่างๆมาก เจ้านายสูงๆทั้งนั้น ตั้งแต่ท่านสึกมา ก็เป็นที่ต้องการอยากให้ไปอยู่รับใช้ แต่ตัวท่านภู่เองแล ชอบอยู่อย่างตามใจตัวเอง สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอท่านทรงโปรดเรื่องกลอน..เพลงยาว สักวาอะไรต่างๆมาก ท่านก็ทรงเรียกท่านภู่เสมอ เรื่องดนตรี ท่านก็ทรงเรียกครูมีแขก..พระอภัยมณีของเจ้า ให้ไปเข้าเฝ้าอยู่เนืองๆ ”
ฮุนตื่นเต้น
“ คนที่ครูคงแป๊ะรู้จัก ล้วนเป็นคนที่ดีเด่นเป็นเอกในพระนครทั้งนั้นเลยนะขอรับ ”
“ ก็ครูคงแป๊ะของเรา ท่านก็เป็นเอกเช่นกันนี่นา ”
หลวงสุนทรโวหาร ส่งเครื่องปรุงหมากแต่ละอย่างเข้าปากอย่างประณีต เคี้ยวกร้วมช้าๆอย่างสบายใจ มองดูสองมหาดเล็กรูปงามโก้ ที่นั่งเขลงกินหมากร่วมด้วยกันอย่างคุ้นเคย
ตาบนั่งคัดลอกสมุดไทยอยู่ไม่ห่างบิดา คอยเงี่ยฟังเรื่องราว
“ จะทรงโปรดให้กระผมไปเจรจากับคุณพุ่มแทนพระองค์รือ? ”
สองมหาดเล็กสบตากันยิ้มๆ หันมาพยักเพยิด
“ ขอรับ”
“ ท่านอยากจะร่วมจัดงานลอยพระประทีปครั้งหน้าด้วย ทรงเกรงว่าถ้าไม่มีผู้ใดรีบทาบทามคุณพุ่มไว้เสียแต่เนิ่นๆ หากเธอมีกิจ จักคลาดไปเสีย ”
“ เหตุไรไม่มีพระบัญชาให้พวกคุณรับเธอไปเข้าเฝ้าเอง กะอีแค่แจวเรือข้ามน้ำไปเพียงนิด ”
หนุ่มๆหัวเราะกัน
“ คงทรงกลัวว่าพวกเราจะไม่ปลอดภัย ”
“ กาลเวลาผ่านไปดุจสายน้ำ แต่ยังไม่ทรงลืมที่อุณากรรณเคยแย่งกริชอิเหนาจะแทงพระองค์กระมัง ”
มหาดเล็กนายหนึ่งส่ายหน้าเศร้าๆ
“ทิวคลื่นนั้น ลบรอยบนผืนทรายได้ แต่กาลเวลา หาได้ลบรอยกรีดบนเนื้อใจคนได้ไม่ ”
ท่านภู่ตบเข่าฉาด
“ นั่น!!..คุณก็เป็นนักกลอนกับเขาได้เหมือนกันหนา ”
“ ทรงมีพระประสงค์..จักให้คุณหลวงสุนทรฯอยู่ในเรือกับพระองค์ท่าน แลช่วยคิดสักวากับพระองค์ท่าน โต้ตอบกับคุณพุ่มอย่างที่เคยในครั้งเก่าก่อน ”
มหาดเล็กอีกท่านกล่าว
“ จักทรงรับบทอิเหนาเหมือนครั้งกระโน้นรือ..? ”
ท่านภู่สงสัย
“ ขอรับ..แต่หากท่าไม่ดี คุณพุ่มไม่ยอมเล่นกับท่าน ก็จะขอให้คุณหลวงเล่นแทน ”
ท่านภู่หัวเราะ
“กระผมบุญไม่ถึงว่าบทอิเหนา เกรงว่าเหาจะกินหัว ”
“จะอย่างไร ก่อนอื่น คุณหลวงต้องช่วยไปทาบทามให้คุณพุ่มมาเล่นสักรวาเป็นบุษบา แลสืบเนื้อความที่เธอจะว่า ว่าจะกล่าวหากระไรพระองค์บ้าง ส่วนความนัยใดๆ ที่ทรงอยากรับสั่งตอบเธอ จะทรงพระราชนิพนธ์ภายหลัง ”
คุณหลวงสุนทรโวหารภู่ส่ายหน้า หนักใจยิ่ง
สายวันต่อมา ที่หน้าแพคุณพุ่ม มีเรือจ้างมาเทียบ
เสียงคนเรือบอกกับผู้โดยสารดังแว่วๆเข้าไปถึงภายในเรือนแพ
“ นี่แพคุณพุ่ม ไม่มีผิดดอก ข้ารอเจ้าตรงนี้แลหนา ขึ้นไปเถิด ”
คุณพุ่มที่กำลังตรวจทานงานคัดลอกของเหล่าหลานๆ หันไปมอง
“ ใครมาแต่เช้า? ”
แม่เต็มที่กำลังเปิดหน้าต่างออกไปทุกด้าน เดินออกไปดู แล้วชะงักแปลกใจ
หนุ่มจีนเปียยาว ร่างสูงใหญ่ แต่งตัวสะอาด เรียบร้อย ผิดจีนตามท้องถนนที่เคยเห็น ถือถุงผ้าใส่หนังสือ สวมหมวกกุ้ยเล้ยกันแดด ขึ้นจากเรือมายืนเก้กังบนชานแพ
“ ลื้อขื่อตีก่อ? ”
ฮุนถอดหมวกมาถือไว้ที่หน้าอก อึ้ง เพราะนั่นคือภาษาแต้จิ๋วที่ต่างออกไป และแสดงว่าตัวคนถามหาเข้าใจไม่ ว่าตัวเองพูดสิ่งใดออกมา
“ ลื้อจ๊อมิไก๊? ”
ฮุนยิ้ม ขำ
แม่เต็มยิ้มด้วย
“ อั๊วะจั่งเอ๊กเหลี่ยว ”
แม่เต็มคิดในใจชม ว่าหนุ่มจีนผู้นี้มีใบหน้าที่ดูเป็นมิตร แววตาทรงปัญญา ผิวพรรณเกลี้ยงเกลาผ่องใส และมีฟันขาวแข็งแรงสะอาดอยู่ครบทุกซี่
“ กระผมจะมาจ้างคัดลอกหนังสือน่ะขอรับ ที่นี่มีคนรับคัดลอกหนังสือ ใช่ไหมขอรับ?”
อุแหม..แม่เต็มแทบอ้าปากค้าง หนุ่มจีนผู้นี้พูดจาด้วยภาษาไทยออกเสียงอักขระชัดเจน สุภาพ มีจังหวะจะโคนนุ่มนวล ใช้ถ้อยคำอย่างคนดีมีวิชาทีเดียว
“ อ๋อ..รอเดี๋ยวๆๆ ”
เธอเข้าไปในแพ ปล่อยให้ชายหนุ่มรออยู่ สำนวนพูดที่ดังออกมา บอกให้รู้ว่ากำลังกราบเรียนกับเจ้านายที่เคารพอย่างสูง
“ มีคนจีน จะมาจ้างคัดหนังสือน่ะค่ะ”
ชายหนุ่มได้ยิน รีบขยับตัว ตั้งจิตตั้งใจสำรวมระวังเต็มที่ ด้วยออกจะตื่นเต้นไม่น้อย
ในแพ แม่เต็มรายงานคุณพุ่มอย่างฉะฉาน แจ่มใส
“ สงสัยจะเป็นพวกหนังสือราชการ ใบขออนุญาตทำการค้า หรืออะไร จะรับไหมคะ? ”
คุณพุ่มพยักรับ วางงานในมือลง
“ เอาซี หนังสือราชการ แค่สั้นๆ สักหน้าสองหน้ากระมัง เดี๋ยวข้าคัดเองก็ได้ ให้รอรับไม่ถึงชั่วยาม ให้เข้ามาเถิด ”
“ เจ้าค่ะ ”
แม่เต็มเดินออกไปกระตือรือร้น
“ เข้ามาจ้ะ เถ้าแก่ ”
น้ำเสียงยินดี แสดงอาการต้อนรับขับสู้ที่ดังเข้ามา ทำให้คุณพุ่มเดาว่าคนจีนนั้นต้องมีบุญไม่น้อย ที่แม่เต็มถูกชะตาถึงขนาด
นายหมายที่กำลังปัดกวาดเช็ดถูฝุ่น หยากไย่อยู่ในเรือน หันมามอง แล้วถึงกับผงะ
ฮุน ที่ถือหมวกกุ้ยเล้ยแนบ-อก สะพายถุงหนังสือ ก้มตัวถอดเกือกหุ้มส้นออกวางเรียง แล้วเช็ดเท้าที่พรมใยมะพร้าวหน้าเรือนจนสะอาด ก้าวย่อง ก้มศีรษะต่ำ เข้ามานั่งพับเพียบ บีบเนื้อบีบตัวเรียบร้อย
คุณพุ่มเขม้นมอง แปลกใจเพราะจำได้
ฮุนวางของข้างกาย พนมมือเพียง-อก ก้มศีรษะต่ำไหว้คุณพุ่มอย่างมีกิริยา รู้กาลเทศะเช่นคนที่เคยผ่านการฝึกอบรมมาไม่ใช่น้อย แม้แต่การแอบกวาดตามองหาคนไปรอบๆ ก็ทำอย่างสงวนท่าทียิ่ง
“ เอ๊ะ..”
คุณพุ่มไม่เก็บความสงสัย
“ ข้าเคยพบเจ้า รือไม่ใช่? ”
“ ใช่ขอรับ..คนที่..พบที่ท่าช้าง ”
นายหมายทำเสียงเข้มกร้าว รีบเข้ามานั่งคุมเชิง
คุณพุ่มหน้าเยือกเย็น
“ จริงซี เจ้า..จะมาว่าจ้างให้คัดหนังสือราชการรือ ผู้ใดบอกให้มาที่นี่? ”
ฮุนตั้งสติ รู้ทันที ว่าต้องระวังกิริยาวาจาให้จงหนัก
“ คือ..มีผู้แนะนำมาขอรับ ”
“ ไหนดูทีหรือ หนังสืออันใด? ”
คุณพุ่มเริ่มสอบสวน
ฮุนคลานเข่า เข้าไปใกล้คุณพุ่ม หยิบสมุดขาวทั้งสามเล่มออกมาจากย่าม วางเรียงลงตรงหน้า
คุณพุ่มแปลกใจกว่าเดิม รีบเปิดหนังสือดู แล้วยิ่งฉงนฉงายเป็นทวีคูณ
“ พระอภัยมณี นิทานคำกลอน..ของท่านอาลักษณ์ภู่นี่หนา! ”
“ ขอรับ ”
คุณพุ่มพิจารณาดูหน้าชายหนุ่มอย่างระแวงระไว
“ ของเจ้าเองรือ? ”
“ มิได้ขอรับ ”
ฮุนตอบตามตรง
“ อ่อ เจ้านายคงใช้ให้เอามาล่ะซี สามเล่ม..แต่ต้องรอหน่อยหนา มีผู้รอตามลำดับมากอยู่ ”
นายหมายทำเสียงข่ม วางท่าเป็นทนายหน้าหอเฉพาะกิจ
คุณพุ่มเปิดดูหนังสือช้าๆ ยิ่งงุนงงหนัก
“ เอ๊ะ..นี่..ต้นฉบับดั้งเดิม..มีลายมือท่านภู่เองบางส่วนด้วย..”
เธอจ้องหน้าลูกค้าผู้มีวาระซ่อนเร้นอย่างแน่นอน
“ ท่านครู..อาลักษณ์ภู่..ให้กระผมยืมมา..คัดลอกขอรับ ”
ฮุนประสานสายตาไม่หลบ ทว่าเป็นไปอย่างสุภาพ เปิดเผยที่สุด เท่าที่จะสามารถกระทำ
“ กระนั้นหรือ..? ”
คุณพุ่มเพ่งพินิจชายหนุ่ม รู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาที่จะปรามาสได้เสียแล้ว
“ เจ้าชื่อเรียงเสียงไร? ”
“ ฮุนขอรับ..หลิม กิมฮุน ”
ฮุนเอ่ยชื่อแซ่ที่กงมอบให้อย่างภาคภูมิใจ
“ กิมฮุน..สุวรรณเมฆา..”
คุณพุ่มอดแสดงอารมณ์สนุกออกมาไม่ได้
ทำให้ฮุนดีอกดีใจ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง
“ สุวรรณเมฆา! ใช่ขอรับ ไพเราะเหลือเกินขอรับ ”
ชายหนุ่มพนมมือขอบพระคุณอย่างสูง
คุณพุ่มขบขันอาการเนื้อเต้นนั้น
“อย่าจำเอาไปตั้งชื่อเทียวหนา เขาจะนึกว่านายโรงยี่เกที่ไหนตั้งให้ ”
ทุกคนในที่นั้นหัวเราะออกมา ทำให้อากาศในเรือนแพนั้นปลอดโปร่ง หายใจโล่งกันขึ้นมาก
พอดีหนุ่มหน้ามน คนชื่อเฉก เดินออกมา มือยังลูบนวลแป้งบนใบหน้าไปมา
“ นายหมาย..นี่..เราจะไป..”
เจ้าเฉกเห็นคนที่นั่งตัวโต โดดเด่นอยู่กลางห้อง ก็เข่าอ่อนยวบ ทรุดนั่งแปะลง ตกใจแทบสิ้นสติ
แต่ฮุนดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่
“ ท่านใต้เท้า..กระผมนึกว่า..ไม่อยู่เสียอีก ”
คุณพุ่ม นายหมาย และนางเต็ม มองดูทั้งคู่ แล้วสบตากันไปมา เครียดเขม็ง
“ เจ้าเฉก..เจ้านัดแนะนายเมฆทองคำผู้นี้มาหาถึงที่นี่รือ? ”
คุณพุ่มจ้อง ‘ หลานชาย ’ ตาดุ หน้าตึงเปรียะ
ฮุนหน้าซีด รู้ตัวว่าตนพลาดไปแล้ว
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 59 : ไม่เคยง่าย
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 58 : ปะทะ
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 57 : ท่องราตรี
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 56 : โล่งไปที
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 55 : มีเพื่อนเล่นไม่เหมือนกับเพื่อนตาย
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 54 : โลกนอกแพ
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 53 : ใกล้ชิด
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 52 : ไม่คลาดคลา
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 50 : อุปสรรคยังไม่สิ้น
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 49 : สัญชาตญาณแม่
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 48 : ผู้รับใช้รอบทิศ
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 51 : เส้นรัก
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 47 : กตเวทิตา
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 46 : ระทึก
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 45 : ฟ้อนแคน
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 44 : คืนร้อน
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 43 : กรณีชิงศิษย์
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 42 : พระอภัยมณีเป็นเหตุ
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 41 : แผนสูง
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 40 : เส้นทางสร้างทำ
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 39 : วุ่นวายข้างวัง
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 38 : ถวิลทุกขวบค่ำเช้า หยุดได้ฉันใด
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 37 : ขมิ้นกับปูน
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 36 : ดวงเดือนเคลื่อนคล้อย
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 35 : แมวกับหนู
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 34 : ที่วัดโพธิ์
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 33 : ก้าวไปไม่กลับหลัง
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 32 : พบศพ
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 31 : คุณชาย
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 30 : เกิดใหม่
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 29 : บนแพคุณพุ่ม
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 28 : รอด..หรือไม่รอด
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 27 : หนี
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 26 : ดิ้นรน
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 25 : หิ่งห้อยรือจะแข่งแสงจันทรา
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 24 : คงแป๊ะผู้พลั้งมือ
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 23 : สิ้นหวัง
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 22 : ดับฝัน
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 21 : ไม่ยอมพราก
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 20 : พบแล้ว
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 19 : อ่อยเหยื่อ
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 18 : รูปโฉมโนมพรรณหาผิดไม่
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 17 : พระรอด
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 16 : เกิดเหตุ
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 15 : สาวงาม
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 14 : นายฮุนผู้เป็นที่ต้องการ
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 13 : สตรีต้นแบบ
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 12 : ชะตากรรม
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 11 : ลงมือเขียนภาพ
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 10 : เส้นทางของลูกสาว
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 9 : การประชัน
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 8 : ทะเยอทะยาน
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 7 : ลำจวนกับฮุน
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 6 : น้อยกับนวล
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 5 : สองครู
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 4 : เด็กหนุ่มผมเปีย
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 3 : เด็กหญิงผู้อยู่นอกวง..ทุกวง
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 2 : หลวงพี่บุญลือ
- READ บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 1 : ลำจวน