ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 4 : แรกพบสบตา

ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 4 : แรกพบสบตา

โดย : พงศกร

Loading

ดอกฟ้ายาใจ นวนิยายแนวยั่วล้อที่ พงศกร เขียนเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน ได้รับความนิยมทั้งแบบรูปเล่มและนำไปเป็นละครโทรทัศน์ แต่หนังสือขาดหายไปนานและมีเสียงเรียกร้องให้นำกลับมาพิมพ์ใหม่เป็นจำนวนมาก สำนักพิมพ์กรู๊ฟพับลิชชิ่งจึงได้จัดพิมพ์ ‘ดอกฟ้ายาใจ’ อีกครั้ง เพื่อแทนคำขอบคุณแฟนๆ ที่ติดตามเว็บไซต์อ่านเอาและสำนักพิมพ์มาโดยตลอด

เขาติดตามทินพันธ์มานานจนรู้ว่าเจ้านายของเขาเนื้อหอมขนาดไหน สาวๆ ทั่วทั้งเมืองอยากเป็นแฟนนายกันทั้งนั้น แต่ทินพันธ์ไม่เคยคบกับสาวคนไหนจริงจังเลยสักคนเดียว

วิกกี้ที่เขาพูดถึงนั้นเป็นลูกสาวของเสี่ยช้วน เจ้าของห้างทองใหญ่ในเยาวราช

เสี่ยช้วนกับเตี่ยของทินพันธ์นั้นเป็นเพื่อนสนิทกัน หอบข้าวของอพยพหนีความยากลำบากลงเรือมาจากเมืองจีนด้วยกัน ธงชาติพี่ชายของวิกกี้นั้นก็เป็นเพื่อนนักเรียนกันมากับทินพันธ์ จึงไม่แปลกอะไรที่เสี่ยช้วนจะสนับสนุนให้ลูกสาวของตนเองได้เป็นคนรักกับทินพันธ์ เพื่อสองตระกูลจะได้เกี่ยวดองเป็นทองแผ่นเดียวกัน

วิกกี้นั้นรักทินพันธ์แน่ เพราะเจ้าหล่อนเที่ยวติดตามทินพันธ์ไปทุกที่ ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ คอยประกบติดจนนายของเขาแทบขยับตัวไปไหนไม่ได้

แต่สำหรับทินพันธ์ โชติไม่แน่ใจว่านายของเขารักวิกกี้หรือไม่ หลังๆ นายเขาพยายามหนีวิกกี้เสียด้วยซ้ำ เพราะรู้สึกรำคาญที่ถูกตามทุกฝีก้าวจนแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง

“งั้น…นี่เลยครับนาย”

โชติไม่สนใจวิกกี้อีกต่อไป หากรีบยื่นแก้วน้ำหวานให้กับชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ล่ำสันผู้เป็นเจ้านาย เขาเห็นกรผกามารศรียืนยิ้มและถ่ายภาพจนเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายบนดวงหน้า ก็รีบคิดแผนการให้เจ้านายทันที

“นายเอาน้ำหวานไปให้คุณกรผกาเธอสิครับ ท่าทางแสงไฟสปอตไลต์ส่องจนร้อนแบบนี้ น่าจะเหนื่อยและคอแห้ง”

ทินพันธ์คิดว่าแผนการของโชติดูไม่ค่อยเหมาะเท่าไร ให้เขาเดินทะเล่อทะล่าถือแก้วน้ำหวานเข้าไปให้แบบนี้อาจจะไม่เป็นที่ประทับใจหญิงสาวคนนั้นนัก แต่ในยามที่เขากำลังงวยงงต้องมนตร์เสน่ห์ความงามของกรผกามารศรีอย่างในเวลานี้ คนเฉลียวฉลาดอย่างทินพันธ์คิดอะไรไม่ออก นอกจากทำตามแผนของลูกน้องคนสนิทแต่โดยดี

“ขอโทษฮะ คุณ…เอ้อ…กร…กรผกาบารมี”

ทินพันธ์กลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก ไม่เข้าใจว่าทำไมเมื่อมายืนตรงหน้าหญิงสาวคนนี้ตัวเองถึงได้ขัดเขินไปเสียทุกอย่างด้วย ทั้งๆ ที่เขานั้นเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์เชี่ยวชาญในวงสังคมไม่แพ้ใคร

“ฉันชื่อกรผกามารศรีย่ะ”

หญิงสาวหันกลับมามองชายหนุ่มด้วยดวงตาขุ่นขวาง…ใครกันนะ…เรียกชื่อหล่อนผิดๆ อย่างไม่น่าให้อภัย ทั่วทั้งกรุงเทพฯ มีใครบ้างไม่รู้จักกรผกามารศรี

“เอ้อ…ครับ…คุณ กรผกามารศรี” ชายหนุ่มรูปหล่อคนนั้นหน้าเจื่อนไปถนัดใจ

“คะ มีอะไรหรือคะ” พอเขาเรียกชื่อหล่อนถูก หญิงสาวก็รีบเปลี่ยนสีหน้าในทันใด

แบบนี้ค่อยมีอารมณ์คุยด้วยหน่อย…หญิงสาวส่งยิ้มอ่อนหวานให้กับเขา ทำเอาหัวใจของทินพันธ์ฟูฟ่อง

“น้ำหวานสักแก้วไหมครับ ดูท่าทางคุณคงจะร้อนและคอแห้ง” ชายหนุ่มพูดตะกุกตะกัก พร้อมกับยื่นแก้วน้ำหวานในมือออกไปตรงหน้า

“เอ้อ…” กรผกามารศรีอึกอัก

ที่อึกอักเพราะเธอไม่ชอบคุยกับผู้ชายแปลกหน้า ถึงแม้ว่าผู้ชายคนนี้จะมีหน้าตาหล่อเหลา มีดวงหน้าคมสัน มีเรือนร่างสูงสง่า ล่ำสันสมชายก็ตาม

และประการสำคัญที่สุด คุณหญิงอรสาเพื่อนสนิทของคุณหญิงสายหยุดเพิ่งจะชี้ให้เธอแอบดูชายหนุ่มผู้หล่อเหลาราวกับเทพบุตร และกระซิบเตือนให้เธอคอยระวังตัวว่า นายทินพันธ์ ที่มีนามสกุลยาวเหยียดจนหล่อนจำไม่ได้คนนี้ ที่จริงไม่ใช่ใครมาจากไหน แต่เป็นลูกคนจีนขายข้าวสาร เป็นเศรษฐีใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มเข้าสู่วงสังคมได้ไม่นาน

“ไม่ดีกว่าค่ะ ขอบคุณ”

หล่อนยิ้มแต่น้อยตามมารยาทสังคมอันดีงาม แล้วรีบกล่าวปฏิเสธไมตรีของชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว

“ดื่มสักหน่อยสิครับ หรือว่าคุณรังเกียจผม” ทินพันธ์คะยั้นคะยอ รู้สึกเสียหน้าเพราะในชีวิตนี้ ไม่เคยมีหญิงสาวคนใดปฏิเสธน้ำใจไมตรีของเขาแบบที่กรผกามารศรีกำลังทำมาก่อน

“ค่ะ ฉันรังเกียจคุณ” หญิงสาวตอบไปโดยซื่อ “ฉันไม่ชอบคบกับพวกเศรษฐีใหม่ ไม่ชอบคบค้ากับพวกพ่อค้าคนจีน รู้สึกไม่สะดวกใจยังไงไม่รู้สิคะ ทางใครทางมันดีกว่านะคะ หลีกไป ฉันจะเดินไปตรงโน้น”

คำตอบของกรผกามารศรีทำให้ทินพันธ์ถึงกับชะงักไป เขารู้สึกทึ่งแกมโมโห

ทึ่งที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ท่าทางใสซื่อไม่มีพิษสงอย่างกรผกามารศรีกล้าตอบออกมาตรงๆ อย่างที่ใจคิด ไม่ใส่หน้ากากแบบที่เศรษฐีผู้ดีเก่าในแวดวงไฮโซชอบทำกัน

แต่เขาโมโหที่หล่อนดูถูก…ดูถูกลำพังตัวเขาเท่านั้นไม่พอ แต่ยังเลยดูถูกไปถึงเตี่ยและแม่กิมเฮียงของเขาอีกด้วย

ด้วยแรงโมโห ทินพันธ์จึงฮึด อยากเอาชนะสาวสวยคนนี้ให้ได้ เขาจึงไม่ถอยหลบกรผกามารศรีอย่างที่หล่อนขอร้อง แถมยังยื่นแก้วน้ำหวานไปขวางตรงหน้าหญิงสาว พร้อมกับพูดแกมบังคับว่า

“ถ้าคุณไม่ดื่มน้ำหวานแก้วนี้เสียก่อน ผมจะไม่หลีกทางให้คุณ”

“ไม่ ฉันไม่ดื่ม” กรผกามารศรีเม้มริมฝีปากแน่น หล่อนเชิดหน้าทระนง “กล้าดียังไงมาบังคับฉันแบบนี้ ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย เคยเรียนหนังสือเรื่องสมบัติผู้ดีหรือเปล่าคะ อ้อ ลืมไป คุณเป็นพวกเศรษฐีใหม่ คงไม่เคยเรียนอะไรแบบนี้หรอก”

“ผมบอกให้คุณดื่ม คุณก็ต้องดื่มสิ จะดื่มไหม กรผกามารศรี” เขายื่นแก้วไปตรงหน้าหล่อน ดวงตาลุกวาวด้วยความรู้สึกไม่พอใจ

“ไม่ดื่ม” หญิงสาวจ้องตาของทินพันธ์โดยไม่หวั่นเกรง

“อะไรกันคะ อะไรกันคะ”

คุณหญิงอรสายืนรอกรผกามารศรีเดินไปถ่ายภาพด้วยกันอยู่นานแล้ว เห็นหญิงสาวผู้เป็นประธานของงานไม่เดินไปหาสักที หันมาเห็นหล่อนกำลังยืนจ้องหน้าจ้องตา ท่าทางเอาเรื่องกับทินพันธ์ ก็รู้สึกไม่สบายใจกลัวจะเกิดเรื่อง จึงรีบเดินเข้ามาแทรกกลาง

“หลานกรผกาขา คุณหญิงน้ารอถ่ายภาพอยู่ตั้งนานแล้ว มาทางนี้ดีกว่านะคะ”

คุณหญิงอรสายื่นมือไปดึงกรผกามารศรี แล้วหันไปหาชายหนุ่มร่างสูงใหญ่พร้อมกับบอกเขาว่า

“ขออนุญาตเอาตัวหนูกรผกาไปทางโน้นนิดนะคะคุณทินพันธ์ ช่างภาพสื่อมวลชนรอถ่ายรูปกันอยู่นานแล้ว”

“เดี๋ยวสิครับคุณหญิงอรสา กรผกามารศรีจะต้องดื่มน้ำหวานของผมก่อน” ชายหนุ่มยังคงไม่หลีกทางให้หญิงสาว มือที่ยื่นแก้วน้ำหวานไปตรงหน้าก็ไม่ยอมหลบ

กรผกามารศรีเห็นชายหนุ่มเสียมารยาทอย่างแรงจึงเบี่ยงกายเดินหนีเสียเอง แต่ทินพันธ์เองก็ไม่ใช่คนที่จะยอมคนง่ายๆ เขาจึงก้าวเท้าตามหญิงสาวไปติดๆ

ด้วยความที่กระโปรงของกรผกามารศรียาวระพื้นห้อง เท้าของชายหนุ่มจึงบังเอิญเหยียบชายกระโปรงของหล่อนโดยไม่ตั้งใจ

“โอ๊ย”

ร่างบางระหงของกรผกามารศรีที่กำลังก้าวหนีไปจึงเสียหลักล้มลงในทันทีนั้น

แคว่ก…

เสียงชายกระโปรงของหญิงสาวขาดเป็นทางยาว เผยให้เห็นปลีน่องนวล พร้อมกันนั้นร่างของหล่อนก็เซไปปะทะหน้าอกกำยำของทินพันธ์ และแก้วน้ำหวานในมือของชายหนุ่มก็หกราดลงไปบนชุดราตรีของกรผกามารศรีจนหมด ชุดสีชมพูอ่อนหวานของหญิงสาวผู้เป็นประธานของงานเปรอะเปื้อนเป็นดวง ดูแล้วน่าอับอายขายหน้า

ชายหนุ่มตกใจสุดขีด เพราะไม่นึกว่าเรื่องราวจะลุกลามใหญ่โตถึงขนาดนี้

“โอ๊ะ ขอโทษครับ” เขาละล่ำละลัก “ผมขอโทษคุณกรผกามารศรี ผมไม่ได้ตั้งใจ ผม…”

ยังไม่ทันที่เขาจะกล่าววาจาจบ กรผกามารศรีก็หันกลับมา พร้อมกับตวัดมือเรียวผุดผาดของเธอลงบนใบหน้าของเขาอย่างรวดเร็วและรุนแรง

“เลวทราม ต่ำช้ามาก ฉันเกลียดคุณ”

พอพูดจบ กรผกามารศรีก็ร้องไห้โฮออกมา พร้อมกับวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว

ทิ้งให้ชายหนุ่มยืนลูบแก้มตนเองด้วยใจที่เลื่อนลอย

แม้แต่สัมผัสของเธอก็ยังนิ่มนวล น่าทะนุถนอม

 



Don`t copy text!