แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 2 : วิศรุตและธิปก (1)

แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 2 : วิศรุตและธิปก (1)

โดย : ณรัญชน์

Loading

แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ นวนิยายเรื่องล่าสุดจาก ณรัญชน์ ที่อ่านเอาคัดสรรมานำเสนอ กับเรื่องราวของกระจกโบราณที่สามารถทำนายอนาคตมนุษย์ทุกคนได้อย่างแม่นยำ ‘วิศรุต’ จึงใช้มันมาลิขิตชะตาชีวิตตัวเอง แม้นั่นจะหมายถึงการทำลายล้างคนรอบข้างอย่างโหดเหี้ยม ไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิงที่เขารัก นวนิยายออนไลน์จาก www.anowl.co

คฤหาสน์หลังใหญ่ของนายมงคลยังคงโอ่อ่าเหมือนครั้งสุดท้ายที่ย่าแหวนเคยเห็น ทว่าท่ามกลางความอัครฐานนั้น เหมือนจะมีเงาทะมึนของความวิปโยคแผ่กระจายออกมาจนผู้มาเยือนรู้สึกได้

ย่าแหวนพาธิปกเข้าไปในห้องโถง บอกให้เด็กชายทำความเคารพผู้ชายผมสีดอกเลา มีวัยสูงพอๆ กับย่า จะผิดกันก็ตรงที่อีกฝ่ายนั่งเป็นสง่าอยู่บนเก้าอี้ยาว ไม่ใช่พับเพียบเรียบร้อยอยู่บนพรมเปอร์เซียเนื้อดีอย่างเขา

“นี่หรือหลานชายของแก ยายแหวน” เจ้านายของย่าถาม

“เจ้าค่ะคุณท่าน มีกันอยู่สองคนย่าหลาน ฉันไปไหนก็ต้องหอบหิ้วมันไปด้วย ทิ้งกันไม่ได้เจ้าค่ะ”

ธิปกนั่งฟังย่าคุยกับคนที่ย่าเรียกว่า ‘คุณท่าน’ บ้าง ‘คุณมงคล’ บ้าง อยู่ครู่หนึ่ง ก็จับใจความได้ว่าพวกเขากำลังจะย้ายจากบ้านไม้เก่าๆ ที่อยู่กันทุกวันนี้ เข้ามาอยู่ในตึกยุโรปหลังโอฬารของคุณท่าน

เปล่า…ไม่ใช่ว่าย่าแหวนเกิดบุญหล่นทับได้เลื่อนฐานะมาเป็นญาติกับเจ้าของบ้าน แต่เพราะคุณธงชัย ลูกชายของนายมงคลประสบอุบัติเหตุร้ายแรงจนถึงขั้นเป็นอัมพาต

สมัยสาวๆ เมื่อสักสามสิบปีมาแล้ว ย่าแหวนเคยเป็นแม่นมช่วยดูแลเด็กชายธงชัยจนกระทั่งเขาโตพอจะเข้าโรงเรียน จึงได้ลาออกไป บัดนี้เมื่อเขาต้องนอนแซ่วเป็นท่อนไม้อยู่บนเตียง จำเป็นต้องมีผู้ดูแลที่ไว้ใจได้ว่าจะไม่รังเกียจหรือเบื่อหน่ายคนป่วย นายมงคลก็คิดถึงพี่เลี้ยงเก่าแก่ขึ้นมาได้ จึงให้คนไปตามย่าแหวนกลับมาพยาบาลลูกชาย พร้อมกับจัดที่พักให้กินอยู่ในบ้านเสร็จสรรพเพื่อความสะดวกในการดูแลธงชัยในยามกลางคืน

ย่าแหวนแทบน้ำตาร่วงเมื่อรู้ข่าว นางรับปากโดยดีแต่ขอร้องว่าขอพาธิปกมาอยู่กับนางที่บ้านนี้ด้วย นายมงคลมองเด็กชายรุ่นหนุ่มหน้าตาคมสัน มีแววตาซื่อๆ ละม้ายคล้ายแววตาของผู้เป็นย่า ก่อนจะยอมอนุญาตอย่างไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่

เข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหม่ได้ไม่กี่วัน ธิปกก็ได้รู้ประวัติเจ้าของบ้านว่าที่จริงแล้วนายมงคลมีลูกชายสองคน นอกจากธงชัยซึ่งเป็นลูกคนเล็ก เขายังมีลูกชายคนโตซึ่งอายุห่างจากน้องชายถึงสิบสองปี ชื่อว่าบพิตร บพิตรเป็นลูกรักของพ่อมาตั้งแต่เด็ก ทว่าพอโตขึ้นเขาก็ขัดใจผู้เป็นพ่อด้วยการเลือกเรียนเพาะช่าง แทนที่จะหาความรู้ทางการค้าอย่างที่นายมงคลต้องการ

 

ต่อมาพอเรียนจบมหาวิทยาลัย บพิตรก็ทำให้นายมงคลขุ่นเคืองเป็นครั้งที่สอง ครั้งนี้โกรธจัดกว่าคราวแรกเพราะลูกชายไปคว้าเอาลูกสาวแม่ค้าขายข้าวแกงมาเป็นภรรยา

วันที่บพิตรพาอรสาและเด็กชายวิศรุตวัยสามเดือนมากราบขอขมา นายมงคลเพียงแต่มองหลานแบเบาะอย่างขอไปที ไม่ยอมแตะต้องแม้แต่ปลายนิ้ว ฝ่ายลูกชายที่คอยจับสังเกตอยู่แล้ว เห็นพ่อรังเกียจลูกของเขาก็เกิดเลือดขึ้นหน้าขึ้นมาบ้าง สองพ่อลูกจึงมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง

ผลจากการระเบิดอารมณ์อย่างไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร สุดท้ายบพิตรก็ผลุนผลันออกจากบ้าน แล้วอพยพครอบครัวย้ายไปปักหลักอยู่ที่จังหวัดทางภาคใต้ จนวิศรุตอายุได้ 13 ปี บพิตรก็ถูกคนร้ายที่มาชิงทรัพย์แทงเสียชีวิต ซ้ำบ้านที่อยู่กันอย่างร่มเย็นมานานก็เกิดไฟไหม้วอดวายหมดทั้งหลัง อรสาสิ้นเนื้อประดาตัวไม่มีแม้แต่หลังคาจะคุ้มหัว จึงต้องพาลูกบากหน้ากลับมาขอพึ่งพ่อสามีที่พระนคร

นายมงคลแทบขาดใจเมื่อรู้ว่าลูกชายคนโตเสียชีวิตไปแล้ว ความตายพรากบพิตรไปเร็วเกินคาด ไม่แม้แต่จะให้โอกาสเขาได้คลี่คลายความขุ่นหมองที่มีต่อกัน โชคดีที่ยังเหลือหลานชายไว้เป็นตัวแทนอีกคนหนึ่ง นายมงคลจึงอ้าแขนรับวิศรุตและอรสาเข้ามาอยู่ในครอบครัวโดยไม่เกี่ยงงอน

วิศรุตได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี เข้าเรียนในโรงเรียนอัสสัมชัญจนจบชั้นมัธยมปลาย ปู่ก็ส่งเขาไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ เมื่อธิปกเข้ามาอยู่ในบ้านพร้อมกับย่าแหวน เป็นเวลาที่อีกฝ่ายกำลังจะเดินทางพอดี ธิปกจึงแทบไม่เคยได้พูดจากับคุณวิศรุตเลย

ความทรงจำเดียวที่เขามีต่อหลานชายของนายมงคล คือแววตาแปลกใจแกมหวาดระแวงที่ธิปกไม่เคยเห็นจากใครมาก่อน แต่มันกลับฉายอยู่ในหน่วยตาคมดำของคุณวิศรุตอย่างชัดเจนยามอีกฝ่ายมองมาที่เขา ทิ้งความฉงนสนเท่ห์ไว้ให้คนถูกมองต้องครุ่นคิดไปอีกหลายวันทีเดียว

ระหว่างที่วิศรุตไปศึกษาต่อในต่างแดน ธิปกก็เข้าเรียนระดับมัธยมในโรงเรียนใกล้บ้าน จนจบมัธยมศึกษาปีที่ห้า นายมงคลก็ให้เขามาทำงานที่บริษัท ธิปกได้เรียนรู้กลยุทธ์การค้าขายรูปแบบต่างๆ จนมั่นใจว่าความสามารถที่ตนสั่งสมมาจากประสบการณ์ เข้มข้นและใช้งานได้จริง ไม่ได้ด้อยไปกว่าบัณฑิตที่มีปริญญาพ่วงท้ายชื่อเลย

จนกระทั่งอีกหลายปีต่อมา เมื่อวิศรุตคว้าปริญญากลับมาถึงเมืองไทย และเข้าทำงานในบริษัทของครอบครัว เด็กหนุ่มหลานแม่นมก็ได้กลายเป็นลูกน้องฝีมือดีที่คุณปู่ของเขาไว้ใจไปเสียแล้ว ท่ามกลางความฉงนฉงายของธิปก ชายหนุ่มมั่นใจว่าไม่ได้คิดไปเองแน่ๆ ที่เห็นว่าความหวาดระแวงที่เคยปรากฏในแววตาของวิศรุตยามมองเขาเมื่อหลายปีก่อน ยังคงติดตรึงอยู่ที่เดิม…

และยามนี้น้ำหนักของมันเหมือนจะทวีความรุนแรงขึ้นอีกหลายเท่า!



Don`t copy text!