ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 16 : ทุกหนแห่งล้วนมีราคา

ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 16 : ทุกหนแห่งล้วนมีราคา

โดย :

Loading

“ขุนเขาแมกไม้” นวนิยายเรื่องเยี่ยมในชุดโหราศาสตร์ ผลงานเรื่องล่าสุดของ ’กฤษณา อโศกสิน‘ ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ประจำปีพุทธศักราช 2531 กับเรื่องราวของเดินดงและอิทธิพลของดาวเสาร์ที่มีต่อชีวิตของเขาได้ในอ่านเอา

ท่าทางผู้มาใหม่คงเริ่มติดใจอยากคุยนาน ดังนั้นจึงบอกเดินดงว่า

“ปลีกตัวไปบ้านผมซักแป๊บนึงดีกว่า…เราจะได้รู้จักกันมากขึ้น…เพราะบางที…คนก็เอาผมไปพูดผิดๆ ว่าผมเป็นนักเลง เป็นเจ้าพ่อที่นี่…แต่ถ้าเห็นบ้านช่องห้องหับแล้วจะรู้เลยว่าไม่มี ไม่ใช่…บ้าน…ก็เรือนไม้ธรรมดา…” นายโอกาสบรรยายสืบไป

แต่ชายหนุ่มก็จำได้แม่นยำถึงคำสั่งของบิดา

นายเดช พ่อของเขา นางอัมพวาผู้เป็นแม่อาชีพขายของชำ พบเห็นผู้คนมาแล้วหลายจำพวก เท่าที่พอจำได้รางๆ เวลาคนทั้งคู่เล่าให้ฟัง แม้เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา แต่ก็ยังพอติดอยู่ในความทรงจำรำลึก มิได้ลืมจนหมดสิ้นเสียทีเดียว

‘เห็นบ้านช่องเขาโอ่อ่าก็อย่าได้ไว้ใจ’

ดังนั้น ยามนี้ เขาจึงลำบากมากเอาจริงๆ เป็นความลำบากแปลกๆ คือลำบากทั้งกายและอารมณ์ความรู้สึก

ลำบากแม้ในยามนอน ก็หาได้หลับสนิทไม่เพราะในส่วนลึก ก็แสนเกรงกริ่งไปทุกเรื่อง

“เอายังงี้ดีกว่าพี่ครับ” ท้ายที่สุด เดินดงก็เลยชี้แจง “ขอผมอยู่ดูคนงานล้อมรั้ว ทำม้ายาวให้เสร็จก่อนดีกว่า…ไม่งั้นก็จะมีกังวลอยู่นั่นละ…รอไว้ทุกอย่างเรียบร้อย ผมไปแน่…เพราะตัวเองก็ต้องอยู่ที่นี่อีกนาน…จะต้องลงต้นไม้อีกเยอะฮะ”

“ถ้า…” นายโอกาสฟังพลางนิ่งคิดนิดหนึ่งก่อนเอ่ยตะกุกตะกัก “ถ้า…คุณติดขัดเรื่องไร…แม้แต่เรื่องค่าใช้จ่าย…ก็…บอกได้เลยนะ…ค่าตอบแทนแค่นิดหน่อย”

“ขอบคุณครับพี่…” ชายหนุ่มค่อนข้างสะดุ้งอยู่เหมือนกันเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยมาถึงตรงนี้

แต่จะทำท่าเย่อหยิ่งไม่พึ่งพา เจ้าถิ่นก็อาจจะไม่พอใจ

“ถ้าลำบากจริงๆ เมื่อไหร่ ผมก็ต้องบอกเจ้าของถิ่นละฮะ…จะไม่สนใจคำชี้แนะ…คงไม่ได้”

“ถ้างั้นผมกลับไปก่อนดีกว่า…มีนัดลูกค้าอีกสองราย” นายโอกาสก็เลยตัดบทเมื่อเห็นว่ามิอาจหักหาญรานรุกผู้มาใหม่ได้แน่

เก่งยืนฟังอยู่เงียบๆ ถัดไปทางท้ายกระท่อม ครั้นจักรยานยนต์พาสองพ่อลูกลับไปแล้ว จึงเดินออกมา พลางลดเสียง

“สองรายซ้อนแล้วนะฮะ”

เขาก็เลยพยักหน้า…หากก็ยังนิ่งนึกพลางตัดบท

“วันนี้ ไงๆ ก็ขอม้ายาวสองตัวกับรั้วบ้านแค่นั้นก่อนละกัน” เพราะถึงอย่างไร นายจังก็เป็นฝ่ายเอื้อเฟื้อเขาตั้งแต่นาทีแรกที่มาถึง อย่างน้อย คนงานที่กำลังขุดดินตั้งเสาทำรั้วทำม้ายาวก็เป็นคนของเขาผู้นั้น แม้ดูเหมือนจะพิถีพิถันเรื่องค่าแรงก็ไม่ว่ากัน

เนื่องจากคนทั้งคู่ ไม่ต่างกันก็ตรงเอ่ยถึงเงินที่ต้องจ่าย

ทุกหนแห่งล้วนมีราคา

ดีแล้ว…เขาเองก็อยากจ่าย

ใกล้ค่ำ…แต่รั้วก็เพิ่งล้อมไปได้แค่ครึ่งเดียว มีเพียงม้ายาวสองตัวที่เสร็จเรียบร้อยด้วยไม้ไผ่ล้วนๆ สวยงามเรียงเป็นแนวแน่นแข็งแรงจนทั้งเดินดงและเก่งชมเปาะ

“ขอบคุณพี่สองคนมากเลยนะฮะ” เก่งบอกอีกฝ่ายผู้อยู่ในเกณฑ์กำยำล่ำสัน หมวกผ้าสวมหัวไว้ตั้งแต่เช้ายันเย็น กินอาหารที่ห่อมากับน้ำขวดภายในย่าม มีข้าวของพร้อมสรรพอยู่ในนั้นโดยไม่ต้องรบกวนผู้ใด

“ชอบม้ายาวคู่นี้มากๆ”

อีกฝ่ายไม่ว่ากระไร ได้แต่ยิ้มๆ พยักหน้า

เขายังจะต้องมาที่นี่ทุกวัน

นายจังเลือกเอง คือเลือกคนงานละเอียดพูดจาดีและใจเย็น

“พรุ่งนี้มาต่อรั้วให้นะฮะ…พรุ่งนี้เสร็จแน่” คนอายุมากบอกกล่าว “วันเต็มๆ ก็คงเสร็จละ คือวันนี้มันเสียเวลาขุดหลุมปักเสา”

“เห็นละฮะ” เก่งพยักหน้า “มาเริ่มต้นใหม่ก็แบบนี้”

“พรุ่งนี้นายให้เอารถไถมา พอทำรั้วเสร็จก็เริ่มไถหน้าดิน”

 

ดังนั้น ค่ำคืนนี้ก็เช่นเคย ต่างก็กินอาหารเย็นที่เก่งทำรอไว้อย่างไม่สู้อร่อยสักเท่าไร คล้ายกับถูกบีบสองข้างด้วยคีมเหล็กอย่างไรอย่างนั้น

เดินดงเป็นมากกว่าหนุ่มคู่ใจ เนื่องด้วยเป็นเจ้าของเรื่องราวทั้งดีและร้าย เกิดอันใดเมื่อไหร่ เขาคือผู้รับผิดชอบทั้งหมดทั้งสิ้น

แม้ดินฟ้าที่อยู่ถัดไปโน่น ที่แลเห็นเป็นเงาตะคุ่มทอดยาวขนานไปกับไร่นาเบื้องล่าง เป็นดินแดนที่ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เดินสวนทาง งดงามประหนึ่งภาพเขียนฝีมือเลิศ ก็ยังมิอาจเปิดโลกแห่งความสุขได้เต็มที่

จึงมีแต่เสียงถอนใจ

“อย่ากลุ้มไปเลยพี่ พรุ่งนี้รั้วเสร็จก็สบายละ…ทั้งคุณจัง คุณโอจะชวนไปบ้านเขาก็ไปเลย” เก่งแนะแนวอย่างรู้ดี

ผู้มาใหม่ก็เช่นนี้แทบทุกราย

“ไงๆ ที่บ้านคุณจังก็ยังมีสาวงามนามหนูใบจันอยู่คนนึงนาพี่…”

“นางยักษ์ชัดๆ” ชายหนุ่มยังคงมีภาพของหล่อนลอยเด่น ติดตาตรึงอารมณ์มิรู้วาย

“แต่ผมว่า…ไม่นะ…คงมีหนุ่มแถวนี้หมายตาเยอะเหมือนกัน ไม่เฉพาะแต่คุณอุกกาบาต”

เมื่อเก่งเอ่ยถึงตรงนี้ เดินดงก็เลยหัวเราะก้ากออกมาอย่างขำจัด

 

ครั้นแล้วก็เริ่มอีก…คือเพียงแต่เขาเอนตัวลงบนฟูก ก็ได้แต่อึดอัดจนต้องลุกขึ้นนั่ง ขณะถามตัวเองว่า เกิดอะไรขึ้นกับอารมณ์ความรู้สึกของเขา

จะใช่เจ้าพ่อเจ้าของไร่สองข้างที่ต่างก็รุกเข้ามาสมัครเป็นเพื่อนใหม่หรือไม่ เนื่องด้วยต่างก็อยากกลายเป็นผู้อุปถัมภ์เขาในวันเวลาต่อไปนี้…ด้วยวิธีการนานา เช่นให้เงินเขากู้ เพื่อจะได้ได้ดอกเบี้ยจำนวนงาม หรือเพื่อเก็บไว้เป็นลูกน้องคอยก่อความยุ่งยากในบางโอกาสที่ตนเองปราชัย

โอย…ยิ่งคิดก็ยิ่งบานปลายหนักในอก เนื่องด้วยไม่เคยลำบากถึงเพียงนี้

พ่อ แม่ พี่ น้อง ก็อยู่ราวกับจะนัดกันหายเงียบ ไม่ไลน์หรือโทร.มา

อาจเนื่องด้วย รอฟังแต่ข่าวสารที่เขาจะอุทธรณ์ไปทันทีที่ผจญกับความยุ่งยากโดยตนเองไม่สามารถจะแก้ไขได้

แต่ไม่เอาละ…เดินดงฮึดสู้อยู่ในใจ

คราวนี้ ถึงอย่างไรก็จะปลุกเร้าตนเองให้จงได้ มิให้พ่อแม่เดือดเนื้อร้อนใจจนท้ายที่สุดอาจกินไม่ได้นอนไม่หลับเหมือนตอนที่เขายังเป็นหนุ่มเจ้าสำราญแห่งเมืองหลวงดังวันวารที่ผ่านไป

เนื่องด้วยตกลงใจไว้กับคนทั้งคู่ กับบอกกล่าวไว้กับเก่งเรียบร้อยแล้วก่อนมา

‘แกคอยดูได้เลยว่า ฉันจะทำให้ได้ จะกลายเป็นเจ้าของไร่รุ่งเรืองให้ได้’

ดังนั้น ขณะนี้ ชั่วโมงนี้ นาทีนี้ จึงควรเป็นชั่วโมงทอง นาทีทองที่เขาจะต้องพาตัวเองลุยเข้าไปแม้ในดงดอนที่ยากแสนยาก

นั่นไง…เสียงมอเตอร์ไซค์ดังแว่วๆ เบาๆ ครั้นแล้วจึงค่อยๆ ใกล้เข้ามาทางขวามือ

แต่เขาบอกกับเก่ง

“ถ้ามันไม่เรียกก็ไม่ต้องตื่นนะ…ปวดกบาลแล้วซีเนี่ย”

เก่งหัวเราะเบาๆ

รถแล่นเข้ามาจริงๆ แต่มาจอดสนิทอยู่นอกรั้วที่ทำค้างไว้ ไม่เข้ามาถึงตัวกระท่อม

“เจ้าของบ้านคงหลับแล้ว…พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่”

เสียงนายจัดดังแว่วผ่านหน้าต่างไม้ไผ่เข้ามา

เจ้ากรรมจริงๆ คนพวกนี้ เหตุไฉนจึงชอบมารบกวนใครต่อใครตามใจชอบ หรือว่า เคยตัว

เคยต่อการทำตามอำเภอใจดังเช่นผู้มีอำนาจทั้งหลาย

เดินดงเลยจำเป็นต้องชั่งใจ เพราะถึงอย่างไร นายจังนายจัดก็เอื้อเฟื้อเขาตั้งแต่คนงานและเครื่องมือกรุยดินไถหว่าน

จึงในที่สุด ก็ไขตะเกียงขึ้นจนสว่าง บอกเก่งว่า

“ลงไปซะหน่อยนะ…ไหนๆ ก็เป็นหนี้บุญคุณมันแล้ว”

เก่งก็เลยหิ้วตะเกียงก้าวลงไป

“นายนอนละยัง” นายจัดถาม คนที่เกาะหลังจักรยานยนต์มาด้วยนั้นนุ่งกางเกงสีคล้ำสวมเสื้อดำโพกผ้าแดง ขับขึ้นกับผิวหน้าขาวเปล่งปลั่งที่แสงจันทร์สาดลงมา

“มาแล้วฮะ” เดินดงก็เลยเอ่ยดังๆ

ในที่สุด ชายหนุ่มก็ก้าวลงไปในชุดนอน กางเกงผ้าเบาๆ ลายทางสีเนื้อริ้วขาว แลเห็นเด่นชัดในแสงตะเกียง

“พ่อให้มาบอกว่า…จะขอตั้งศาลพระภูมิให้คุณดงด้วย…คือพ่อจะซื้อเอง เชิญลุงเดี่ยวมาตั้งให้ ค่าครูพ่อออกเอง ก็เลยจะเอาเงินที่จ่ายไปแล้วมาคืน”

 



Don`t copy text!