
ตรวนใบจาก บทที่ 15 : ความตายของบุญเพิ่ม
โดย : ฉาย แสงเพชร
ตรวนใบจาก รางวัลรองชนะเลิศโครงการอ่านเอาก้าวแรกปี 5 โดย ฉาย แสงเพชร เกษตรกรจาก จ.ตราด ผู้ฝันอยากเป็นนักเขียนแนวท้องถิ่นที่ได้พลิกบทบาทจากงานเขียนเชิงวิชาการมาสู่การเขียนนวนิยายแนวแฟมิลี่ดราม่ากับเรื่องราวของอาชีพลอกใบจากและชีวิตที่เป็นปริศนาของคุณยายคนหนึ่ง เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามกันได้ในเว็บไซต์อ่านเอา
ในวัยเด็กปานนั้น เขาแทบไม่เชื่อเลยว่าแมะจะมีปัญญาฆ่าเพ่าะได้ยังไง แมะตัวเล็กกว่า ร่างผอมเพรียว ส่วนเพ่าะเป็นคนร่างใหญ่ ต่อให้เพ่าะเมาจนแทบประคองตัวไม่อยู่ เขายังไม่แน่ใจว่าแมะจะผลักเพ่าะล้มหรือไม่ เขาได้ยินเพ่าะกับแมะโต้เถียงกันแบบนี้สองสามครั้ง แมะก็ห่างไป ไม่มาเยี่ยมตาบ่อยเหมือนเดิม ส่วนเพ่าะ หลังจากแมะกลับไปครั้งสุดท้ายไม่ถึงอาทิตย์ เพ่าะก็ป่วยกะทันหัน เพียงสามวันก็เข้าขั้นตรีทูต พูดจาไม่รู้เรื่อง เพ้อเหมือนกำลังชกต่อยกับใคร เพ้อได้วันกว่าๆ ก็ขาดใจตาย ท่ามกลางเสียงซุบซิบมาเข้าหูว่าเพ่าะถูกของตาย ไม่มีใครรู้หรอกว่าเพ่าะถูกของถูกคุณจริงหรือคนคิดไปเอง สมัยนั้น ใครตายด้วยอาการประหลาดๆ ผิดไปจากที่เคยรู้เคยเห็น ล้วนถูกหาว่าตายเพราะของทั้งนั้น ไม่ได้เอาไปให้หมอตรวจว่าเจ็บไข้ได้ป่วยด้วยโรคอะไรหรือเปล่า
หลังจากเพ่าะตาย แมะแทบไม่มาเยี่ยมตากับยายเลย ได้ยินแต่ยายปลอบใจเขาว่าอย่าไปน้อยใจแมะนะ แมะส่งข่าวมาบอกว่าน้องชายของเขา ที่เป็นลูกคนโตของแมะกับพ่อเลี้ยง กำลังป่วย อาการไม่สู้ดี จนวันนั้น วันที่เขากับยายไปงานทำบุญครบรอบปีวันตายของเพ่าะ พอมาถึงบ้าน ตาบอกว่าน้องชายของเขาตายแล้ว แมะเพิ่งให้คนส่งข่าวมาบอก ตากับยายผลัดกันไปงานศพหลาน แต่ไม่ให้เขาไป
หลังงานศพน้องชายผ่านไป แมะกลับมาเยี่ยมตากับยายอีกครั้ง แมะยังใจดี มีของมาฝากเหมือนเดิม แต่แมะดูเศร้ามาก พอเจอหน้าเขา แมะกอดเขาไว้แน่นแล้วน้ำตาไหล คงคิดถึงน้องชายที่ตายไปกระมัง แต่คืนนั้น แมะกับยายแอบมาคุยกันตอนดึก คงกะว่าเขาหลับไปแล้ว แต่เขายังไม่หลับ เงี่ยหูแอบฟังด้วยความอยากรู้ และเรื่องที่เขาได้ยินนั้น ทำให้เขาถึงกับขนลุกอย่างเหลือเชื่อ
“บอกแมะมาตามตรง เอ็งใช้วิชาของยายฆ่าไอ้เพิ่มใช่ไหม”
“ฉันไม่มีทางเลือกจริงๆ แมะ แมะก็รู้ พี่เพิ่มติดพนันขนาดไหน เขาพยายามมาไถเงินฉันไปเข้าบ่อน ขู่จะไปบอกเฮียว่าฉันมาเจอเขา ฉันยอมให้เรื่องนี้ไปเข้าหูเฮียไม่ได้หรอกจ้ะ เป็นเรื่องแน่”
“แต่เอ็งก็ต้องแลกด้วยชีวิตจั๊ว ลูกของเอ็ง ใช่ไหม”
“ก่อนจั๊วจะป่วย ฉันฝันเห็นพี่เพิ่มไปทวงชีวิตเขา ให้ฉันชดใช้ พอจั๊วป่วย ฉันก็รู้สึกได้ว่าพี่เพิ่มไปเดินรอบบ้าน พยายามจะเข้าบ้านแต่เข้าไม่ได้ ฉันไม่กลัวเขาหรอก ฉันไล่เขาไปเอง แต่จั๊วไม่แข็งแรงอยู่แล้ว พอทรุดก็เป็นหลายโรค สุดท้ายก็ตาย ฉันไม่อยากให้ลูกตายหรอก แต่ฉันก็ปล่อยพี่เพิ่มให้มาทำลายครอบครัวฉันไม่ได้ ถ้าที่ฉันทำมันบาป ที่พี่เพิ่มทำกับฉันมาตลอดก็บาปกว่า เขาไม่คิดเลยว่าถ้าครอบครัวฉันพัง ลูกฉันห้าคนก็ลำบาก เพ่าะกับแมะก็ลำบาก เขาใจดำกว่าที่ฉันคิด”
“เอ็งใจแข็งเหมือนยายเอ็ง แต่เอ็งก็ต้องระวัง เอ็งก็เห็น ยายเอ็งใจแข็งขนาดนั้นก็ยังพลาด แมะคนนึงละ ไม่กล้ากับของพวกนี้ แมะกลัว”
สิ่งที่เขาได้ยินทำให้เขามองแมะแปลกไปกว่าเดิม เขาเคยคิดมาตลอดว่าแมะที่เป็นคนสวย เอวบางร่างน้อย ผิวเหลืองลออ รอยยิ้มอ่อนหวาน พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนนั้น ต้องเป็นคนใจดี อารีอารอบ เหมือนนางฟ้านางสวรรค์ ไม่เคยคิดว่าแมะจะเป็นภาคที่เป็นนางมาร เจ้าคิดเจ้าแค้น เล่นของฆ่าคนโดยไม่มีความเสียใจแม้แต่น้อย เมื่อภาพวาดที่สวยงามของแมะแหลกสลาย กลายเป็นภาพของนางมารมาแทนที่ สุดท้าย มันกลายเป็นเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดกลัวที่เพาะลงบนจิตใจ เมื่อเขาเผชิญกับความใจร้ายของแมะอีกเมื่อใด ต้นกล้านี้ค่อยๆ งอกออกมาและเป็นไม้ใหญ่แผ่คลุมจิตใจเขาไว้ได้หมด ทำให้สุดท้าย แมะกับเขาก็ต้องจบลงด้วยการแยกกันอยู่
“ยายฆ่าสามีคนแรก ที่เป็นพ่อของลุงตายจริงๆ หรือคะ” โบตั๋นอุทานออกมาอย่างไม่เชื่อหู หันไปมองจักรวาล เขาดูอึ้งไปเหมือนกัน แม้ว่าก่อนหน้านี้ เขาจะเคยประณามว่ายายทำมาก่อนก็ตาม
“แมะเป็นคนพูดออกมาเอง ถ้าไม่ได้ทำจะพูดทำไม” ลุงบุญทิ้งเอ่ยเสียงเรื่อยๆ “อีกอย่างที่ทำให้ลุงเชื่อ ตั้งแต่เพ่าะตาย ชีวิตแมะก็ดิ่งลงเร็วมาก น้องชายลุงตาย จากนั้นอีกไม่นาน แมะก็มีปัญหากับครอบครัวของพ่อเลี้ยง พ่อเลี้ยงตาย จากนั้นแมะก็มีปัญหากับลูกๆ ทุกคน แล้วก็อย่างที่เห็น”
“แล้วยายฆ่าพ่อเลี้ยงของลุงอีกคนไหมคะ”
“ลุงไม่รู้”
หลังจากที่แมะกลับไปคราวนั้น คราวที่เขาแอบฟังแมะคุยกับยาย แมะไม่ได้มาหาตากับยายที่หนองชิ่ม อีกเลย แมะส่งข่าวมาบอกเพียงว่าที่พลิ้วกำลังยุ่งมาก มาบ้านไม่ได้ เขามารู้ทีหลังเมื่อเขามาอยู่พลิ้วแล้วว่า พี่ชายของพ่อเลี้ยงถูกยิงตายหลังจากน้องชายต่างพ่อของเขาตายไปไม่กี่เดือน และเพราะคนที่ตายเป็นคนสำคัญที่ดูแลกิจการของครอบครัว กลายเป็นว่าพ่อเลี้ยงกับน้องชายของพ่อเลี้ยงเกิดแก่งแย่งกันเอง แต่ผลสุดท้ายไม่มีใครได้ พ่อเลี้ยงตายไปก่อน อีกราวๆ ครึ่งปี น้องชายของพ่อเลี้ยงก็ตาย
ความที่เขาถูกกีดกันไม่ให้ติดต่อกับครอบครัวของพ่อเลี้ยง เขาจึงไม่ได้รู้เรื่องราวทางพลิ้วมากนัก รู้แต่ว่าก่อนพ่อเลี้ยงตายไม่นาน แมะน่าจะท้องกิมหลิวแล้ว แมะแวะมาหายาย มาปรับทุกข์ด้วยอาการหม่นหมอง เขาแอบฟังพอได้ยินเป็นบางคำ แต่ก็ไม่ได้เข้าใจอะไรมากนัก ดูเหมือนแมะกับยายพยายามระวังปากระวังคำมากขึ้น
“เอ็งจะคิดจะทำอะไรก็ให้รอบคอบนะสีไพล ถ้าไม่จำเป็น แมะไม่อยากให้ทำแบบเดิมอีก”
“ฉันรู้จ้ะแมะ ฉันจะอดทนให้ถึงที่สุด แต่ถ้าใครมาทำร้ายครอบครัวของฉัน ฉันไม่ยอมแน่”
หลังจากพ่อเลี้ยงตาย ในช่วงที่ยังวุ่นวายกับงานศพอยู่นั้น เขาได้ยินตากับยายคุยกันถึงพ่อเลี้ยงของเขาแต่ก็ยากจะจับใจความได้ว่าตกลงแล้ว แมะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการตายของพ่อเลี้ยงหรือไม่
“เห็นเขาว่าแม่ผัวเขาชี้หน้าด่าสีไพลกลางงานเลยรึว่ามันฆ่าลูกชายเขา” เสียงตาเอ่ยถาม
“ก็ได้ยินมาเต็มสองหูเลยแหละ แต่ถามมันแล้ว มันไม่ยอมรับ มันบอกว่ามันจะฆ่าทำไม ก็น่าจะจริงของมันนะ ผัวมันตายไป มันน่าจะลำบากกว่าเดิม”
“แล้วเรื่องเมียใหม่ล่ะ”
“เห็นเงียบๆ ไปนะ งานศพก็ไม่เห็นมา มีแต่น้องผัวมันกะเมียเขา เดินยืดไปทั่วงาน ก็เหลือลูกชายคนเดียวแล้วนี่ คงได้ไปหมด สีไพลมันจะเหลือแต่ตัวหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“เรื่องสมัยแมะกับเพ่าะกับพ่อเลี้ยงลุงก็รู้แค่นี้แหละ ที่เหลือมันก็เป็นขี้ปากคนพูดไปทั่ว ยิ่งญาติของพ่อเลี้ยงนั่นแล้ว พวกนั้นเชื่อกันจริงกันจังว่า แมะเป็นคนฆ่า แต่มีหลักฐานไหม ก็ไม่มี คิดง่ายๆ นะ พวกเขาไม่ชอบแมะขนาดนั้น ถ้าเขามีหลักฐานสักนิดว่าแมะทำจริงละก็ มีรึจะไม่เอาตำรวจมาจับ”
“แล้วตอนน้องชายของพ่อเลี้ยงตาย เขาไม่สงสัยว่ายายสีไพลทำกันหรือครับ” จักรวาลถาม
“ไม่มีอะไรน่าสงสัย ก็มันเป็นอุบัติเหตุ ตกรถหรือตกเรือไรนี่แหละ จำไม่แน่แล้ว แมะจะมีปัญญาไปทำอะไรเขาได้ อีกอย่าง ก็ไม่มีอะไรขัดแย้งกัน น้องพ่อเลี้ยงนั่น เขาไม่สนใจการค้าใบจากที่พ่อเลี้ยงทำอยู่ เขาสนแต่กิจการที่ค้าขายกับทางกรุงเทพนั่นมากกว่า แล้วเขาตายไป ก็มีน้องคนอื่นมารับช่วง แมะไม่มีสิทธิ์อะไรด้วยเลย แล้วจะไปฆ่าให้ได้อะไรขึ้นมา”
“อ้าว แล้วทำไมตอนตา…” โบตั๋นเอ่ยแทรกขึ้นมา
“พ่อเลี้ยงของลุงตายด้วยยาเบื่อ ไม่เหมือนเพ่าะกับน้องชายของลุงที่ป่วยตาย ใครๆ ก็รู้ว่าแมะเป็นหมอพื้นบ้าน รักษาโรคเล็กๆ น้อยๆ ได้ คงคิดว่ารู้เรื่องยา ก็ต้องทำยาเบื่อได้มั้ง”
“ลุงพอรู้ไหมว่าที่ยายมีปัญหาก่อนสามีแกจะตาย มันเรื่องอะไร สามีแกมีเมียน้อยหรือครับ”
“เรื่องเมียน่ะ ลุงได้ยินแต่ที่ตากับยายคุยกันเท่านั้นนะ กับคนอื่น ได้ยินแต่ว่าแมะงกสมบัติอย่างเดียว” ลุงบุญทิ้งพูดพลางหยิบยอดจากอ่อนข้างตัวมาเลาะใบออกอย่างคล่องแคล่ว “แต่ก็อย่างว่านะ คนเขาเกลียดแมะอยู่แล้ว ก็มีแต่ว่าแมะเสียๆ หายๆ ผู้หญิงที่มีผัวแล้วผัวตายหมด คนสมัยนั้นก็ชอบมองว่าเป็นคนกินผัว เป็นกาลกิณีไปโน่น เป็นผู้หญิงยังไงก็ผิด โดยที่ไม่สนใจว่าผู้ชายน่ะเป็นยังไงบ้าง”
“แล้วตาเป็นยังไงหรือคะ”
ลุงบุญทิ้งถอนใจยาว พลางเอ่ย “ในสายตาของญาติพี่น้องเขา เขาก็มองว่าพ่อเลี้ยงเป็นคนดี อย่างงั้นอย่างงี้ แต่สำหรับลุง ลุงว่าเขาใจแคบ อย่างตัวลุง ทั้งที่แมะเป็นแม่หม้ายลูกติดมาก่อน แต่เขาก็ยอมรับลุงไม่ได้ เขาก็คงเคยพูด เคยแสดงออกบางอย่างแหละ ทั้งแมะ ทั้งตา ทั้งยาย ถึงไม่ให้ลุงไปที่พลิ้วเลยตอนที่เขายังอยู่ พอเขาตายแล้ว ลุงก็ยังรู้สึกว่าพวกน้องๆ ต่างพ่อมองลุงแปลกๆ ทำเหมือนลุงไม่ใช่พี่เขา ยิ่งมีเรื่องใบจากเข้ามาด้วยก็ยิ่งไปกันใหญ่”
พอชื่อใบจากหลุดออกมาจากปากลุงบุญทิ้งอีกรอบ โบตั๋นไม่ยอมปล่อยให้ผ่านเลยไป “แล้วเรื่องของใบจากกับกิมบ๊วยล่ะคะ ลุงพอรู้บ้างไหม”
“แน่ใจนะว่าจะทนฟังความใจดำของยายเราได้” ลุงบุญทิ้งสวนคำมาทันที
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 15 : ความตายของบุญเพิ่ม
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 14 : ใบจากในรอยจำ
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 13 : เรื่องเล่าของฉลอง
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 12 : คำลือที่บ้านเก่า
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 11 : ความเสียใจของสีไพล
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 10 : ข้อสงสัยของโบตั๋น
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 9 : ความรักของจักรวาล
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 8 : เรื่องเล่าของจักรวาล
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 7 : แตกร้าว
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 6 : เรื่องเล่าของกิมเต้ง
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 5 : ชีวิตคู่ของกิมเหมย
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 4 : เรื่องเล่าของกิมเหมย
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 3 : ผู้ชายคนใดชื่อใบจาก
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 2 : ผู้หญิงคนใดชื่อกิมบ๊วย
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 1 : ฤดูมรสุม
- READ ตรวนใบจาก บทนำ : ผู้ซ่อนกายในความมืด