เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 11 : ของดีจริงจริง

เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 11 : ของดีจริงจริง

โดย : กุลวีร์

Loading

เทพารักษ์ภัสดา โดย กุลวีร์ นวนิยายสนุกๆ ที่อ่านเอานำมาให้อ่านใน www.anowl.co กับเรื่องราวของเทพารักษ์ผู้มีสัตย์ว่าจะรักเพียงหนึ่ง ต้องลงมาใช้ชีวิตเยี่ยงมนุษย์เพราะหญิงสาวผู้เปลี่ยนหัวใจเขาตลอดกาล ภารกิจพิชิตใจจึงเริ่มต้น ท่ามกลางความวุ่นวายของเพื่อนบ้าน และบททดสอบของความรักที่ไม่ใช่แค่เรื่องบนเตียง

“แค่เห็นหน้าคุณเทพ โลกนี้ก็พลันสดใสขึ้นมาทันที”

เสียงของเพื่อนชายซึ่งมีท่วงท่าอ้อนแอ้นอรชรดังขึ้นตั้งแต่ก้าวขาเข้ามาในบ้านของหล่อน

เวธัสยิ้มให้คณิศรที่รีบเดินมานั่งข้างๆ กันราวกับกลัวจะถูกแย่งที่นั่งจากหญิงสาวอีกสองคนซึ่งมาด้วยกัน

“ห่างๆ หน่อยก็ได้นะแคนดี้ ทำไมต้องชิดกันขนาดนั้น” แพรพิไลเอ่ยขึ้น

“น้องนุ่งก็ไม่ใช่ จะมาหวงอะไรกัน” คณิศรทำเป็นสะบัดสะบิ้งพลางเขยิบห่างจากเขาเล็กน้อย

หล่อนไม่สนใจเพื่อนผู้นั้น หันหน้าไปแนะนำเพื่อนสาวสองคนที่ยืนปิดปากหัวเราะอยู่ไม่ไกล

“นี่ปรางกับฝน”

เวธัสทำแค่พยักหน้ารับรู้ถึงการมีมิตรสหายของแพรพิไล

คณิศรบอกหล่อน “ไม่ต้องแนะนำคุณเทพให้พวกนั้นรู้จักหรอก ฉันบอกให้รู้ตั้งแต่วันแรกที่ฉันได้เจอคุณเทพแล้ว”

หล่อนยังจำวันนั้นได้ดี หลังจากคณิศรกลับไปได้ไม่นาน เพื่อนสาวอีกสองคนก็โทร.มาไถ่ถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น จนวันนี้มีเวลาสะดวกมาดูว่าเขาจะหล่อน่ากินตามที่คณิศรคุยโว้ไว้หรือไม่

“ผมขอไปเอาน้ำมาให้เอง” เวธัสบอกเจ้าของบ้านที่ทำท่าจะลุกขึ้นยืน

“คุณเทพนั่งคุยกับแคนดี้ดีกว่านะคะ ปล่อยให้ยัยแพรคอยต้อนรับแขกอย่างพวกเราก็พอ”

เวธัสไม่ฟังคำของผู้ที่นั่งเคียงข้าง ปล่อยคนทั้งสี่ได้พูดคุยกันในห้องนั่งเล่น

“หล่อจริงๆ ด้วย” ปรางพูดเสียงเบา

“น่ากินม้ากมากต่างหาก” คณิศรเอ่ยต่อ “ทีนี้ก็ไม่ต้องด่ากันแล้วนะที่ฉันคอยเพ้อถึงแต่คุณเทพ บอกแล้วไม่เชื่อ”

“พวกฉันไม่ได้ไม่เชื่อ แค่อยากจะเห็นกับตาว่าหล่อสักแค่ไหนกันเชียว” ฝนกล่าวขึ้นบ้าง “ทั้งหน้าทั้งหุ่น ทุกอย่างดูดีไปหมดเลย”

“หล่อแบบเห็นแล้วก็อยากขออยู่แต่ในอ้อมแขน” คณิศรคว้าหมอนอิงมาซบหน้าลงไปด้วยความเคลิบเคลิ้ม

“ก็ลองดูสิ” ปรางสนับสนุน

“อยากลองเหมือนกัน แต่ให้ตายใจอีกสักหน่อย ทำไปตอนนี้ก็กลัวคุณเทพจะไม่ให้เข้าใกล้กันอีก” คณิศรพูดออกมา

“พวกแกพอเลย คุณเทพอยู่ในครัว มาพูดอะไรให้เขาได้ยิน” แพรพิไลปรามเพื่อน

“คืนนั้นใช่ไหมที่แกหนีไปผับคนเดียว ฉันบอกแล้วว่าอย่าเพิ่งไป ให้รอไปด้วยกัน” ปรางชวนคุย

“ฉันไม่ได้หนี แต่ชวนพวกแกแล้ว มีใครว่างไปกับฉันบ้างล่ะ” หล่อนรีบแก้ต่าง “ถ้าฉันเชื่อก็คงดี เพราะไปแล้วก็เจอดีเข้าน่ะสิ”

“แต่ที่แกเจอก็ของดีจริงๆ นะ”

เพื่อนอีกสองคนเห็นด้วยกับคำพูดของฝนจึงพยักหน้าพร้อมเพรียงกัน ก่อนเขาจะถือถาดที่มีกระบอกน้ำเย็นกับแก้วสามใบมาให้พวกหล่อน

คณิศรจัดการรินน้ำใส่แก้ว “คุณเทพไม่น่าไปเอาน้ำให้พวกเราหรอกค่ะ ถ้าใครอยากกินก็ไปหยิบเองได้ มาบ้านนี้จนรู้หมดทุกซอกทุกมุมแล้ว”

“มีคนมาเยือนบ้านทั้งที ต้องคอยต้อนรับเป็นอย่างดี” เวธัสเอ่ย

“พูดอย่างกับว่าบ้านนี้เป็นของคุณเทพเลยนะคะ ตัวคนเช่าแท้ๆ ยังปล่อยให้พวกแคนดี้หากินกันเองเลย” คณิศรพูดกลั้วหัวเราะ “หรือคุณเทพอยากจะเป็นเจ้าของบ้านร่วมกับยัยแพร”

“แกหยุดคิดอย่างนั้นเลยนะแคนดี้ คุณเทพแค่อยากทำอะไรตอบแทนฉันที่ให้อยู่ในบ้านหลังนี้” คำกล่าวตอนท้าย แพรพิไลใช้เป็นเหตุผลสำหรับทุกการกระทำของเขาที่ผิดแปลกไปตั้งแต่เย็นวาน

“น่าสงสารนะคะ จำอะไรแทบไม่ได้เลย ปรางขอเป็นกำลังให้คุณเทพหายไวๆ ค่ะ”

“ฝนก็ขอให้คุณเทพจำทุกอย่างได้เร็วๆ นะคะ”

“พวกแกพอเลย ไม่ต้องพูดอะไรหรอก พอคุณเทพจำอะไรขึ้นมาได้ก็บอกยัยแพรเองแหละ”

หล่อนหวังให้เป็นไปตามคำพูดของคณิศร

“ผมจะพยายาม” เวธัสตั้งใจจะทำให้ทุกอย่างสมความปรารถนาโดยไว จากนั้นจึงบอกความจริงกับหญิงสาว

“ไม่เป็นไรนะคะคุณเทพ อยู่บ้านยัยแพรไปก่อนก็ได้ แคนดี้จะมาเป็นเพื่อนคุยบ่อยๆ พวกนี้ก็คุยเก่งไม่แพ้กันหรอกค่ะ รับรองไม่มีเหงา” คณิศรเอ่ยกับเขา

เวธัสนั่งฟังทุกคนในที่แห่งนี้สรวลเสเฮฮากันอย่างไม่รู้เบื่อ บางครั้งก็ชวนเขาเข้าร่วมวงสนทนาด้วยความเป็นกันเอง แม้เขาจะพูดแค่ไม่กี่คำก็ตาม เพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็รับรู้หลากหลายเรื่องราวของพวกมนุษย์มากเหลือเกิน

เมื่อบรรดาผู้มาเยือนขอตัวกลับ ทั้งเจ้าของบ้านและเขาก็เดินออกมาส่งถึงหน้าบ้าน โดยคณิศรทำทีเป็นผู้ชายมาดแมนต่างจากตอนอยู่ในบ้านด้วยกัน

“อ้าว! หนูแพรเจอหน้ากันพอดี” บุษบงเดินเข้ามาทักหล่อน แล้วส่งสายตามองชายหนุ่มสองคนที่ยืนใกล้ๆ กัน “ตกลงกันดีแล้วใช่ไหม ใครเป็นหลวงใครเป็นน้อย”

“อะไรนะคะ” แพรพิไลไม่เข้าใจคำถามนั้น

“อย่าให้น้าพูดเลย สุดหล่อคนนี้กับหนุ่มคนนั้น” บุษบงชี้มือไปที่เวธัสกับคณิศร “ตกลงใครเป็นผัวหลวง ใครเป็นผัวน้อยล่ะ หรือแบ่งเวลากันยังไง แต่ดูสนิทกันขนาดนี้คงเข้าใจกันดีแล้วใช่ไหม”

เป็นการขยายความที่เหมือนพูดคุยกันถึงเรื่องสามัญ ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องปกติของผู้คนแม้แต่น้อย

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ” หล่อนปฏิเสธ หากได้ยินเสียงขบขันของเพื่อนสาวสองคนทางด้านหลัง

“ผมเป็นเพื่อนกับแพรครับ” คณิศรเก๊กเสียงให้มาดแมน

“อ้าว! เหรอ น้าคิดมาตลอดว่าเป็นแฟนกัน” บุษบงหัวเราะแก้ความเข้าใจผิด ก่อนหันหน้าไปทางเวธัส “สุดหล่อคนนี้ก็ไม่ได้เป็นชู้ของหนูแพรน่ะสิ”

“ใช่แล้วค่ะ” หล่อนยืนยันชัดเจน

“ไม่ได้เป็นชงเป็นชู้ก็ดีแล้ว” บุษบงมีหน้าตาคล้ายเสียดาย ก่อนเดินผละออกไป ปล่อยให้ทุกคนที่ยังยืนอยู่บริเวณเดียวกันมองด้วยความงุนงงที่เข้ามาทักทายกัน

“เพื่อนบ้านที่สร้างปัญหาให้แกเหรอ” ปรางกระซิบถามหล่อน “แต่ละคำที่พูดเหมือนจะมีแต่ปัญหามาให้ทั้งนั้น”

“ไม่ใช่หรอก น้าบุษเป็นเพื่อนบ้านที่ดีกับฉันมากนะ คงได้ยินเรื่องที่ชาวบ้านพูดกันก็เลยถามฉันแบบนั้น” แพรพิไลตอบเพื่อนสาว “แต่ดีนะที่มาถามกัน จะได้รู้กันไปเลย ฉันไม่จำเป็นต้องบอกทุกคนหรอก ให้รู้แค่คนที่บ้านอยู่ใกล้ๆ กันก็พอ อย่างน้อยยังมีเพื่อนบ้านที่เข้าใจกันบ้าง”

“แต่ดูท่าแล้ว เรื่องที่แกบอกเมื่อกี้คงไม่รู้เพียงแค่คนเดียวหรอก คุณน้าช่างพูดช่างคุยขนาดนั้น” ฝนเอ่ยขึ้น

“ข่าวลือไม่นานก็หายไปเอง ความจริงสิที่ยังคงมีให้เห็น แล้วคนที่ชอบพูดแต่เรื่องไม่ดีก็มีแค่ไม่กี่คนหรอก ที่คอยสร้างปัญหาให้กับฉัน” แพรพิไลนึกถึงแต่เพื่อนบ้านเจ้าปัญหาซึ่งมักจะสร้างความวุ่นวาย อีกทั้งยังลามจนเกือบเสื่อมเสียชื่อเสียง

“พวกเรากลับกันดีกว่า” คณิศรตัดบท “ขืนอยู่ตรงนี้นาน เดี๋ยวคนอื่นจะคิดแบบนั้นอีก จะหลวงจะน้อยฉันก็ไม่เอาหรอกย่ะ”

“ทำไมแกไม่เลิกแอ๊บแมนมาหาฉันล่ะ”

“แกนั่นแหละ บอกให้ฉันเป็นผู้ชาย จะได้ไม่มีคนมาวอแว ฉันเกือบจะได้เป็นผัวคนหนึ่งของแกแล้วน่ะสิ” คณิศรค้อนใส่หล่อน “เสียภาพพจน์ของฉันหมดเลย”

“คุณแคนดีทำดีแล้ว” เขาให้กำลังใจอีกฝ่าย แม้จะรู้ดีว่าเอ่ยบางคำไม่ถูกต้อง

เพื่อนสาวของหล่อนสองคนหัวเราะทุกครั้งที่ได้ยินเขาเรียกขานคณิศรเช่นนั้น

“บอกกี่ครั้ง คุณเทพก็ยังพูดเหมือนเดิม จะให้โกรธก็โกรธไม่ลง แคนดี้คงเป็นคนดีในสายตามากเลยสิคะ ถึงมีแต่แคนดีทุกคำ แล้วอย่างนี้ ถ้าแคนดี้เผลอคิดไม่ดีจะทำยังไง” คณิศรเอ่ยลอยๆ

เวธัสตอบคำถามนั้นด้วยความสัตย์จริง

“มนุษย์ต้องกระทำแต่ความดี แล้วผลบุญจะช่วยให้เจอสิ่งดีๆ ตามมา”

หลังจากผู้มาเยือนทั้งสามคนนั่งรถห่างออกไป หล่อนก็เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับเขา หากไม่วายตั้งคำถามด้วยความข้องใจ

“ทำไมคุณชอบพูดถึงเรื่องบุญเรื่องบาปบ่อยนักล่ะ”

 



Don`t copy text!