
เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 18 : ช่วยกัน ช่วยด้วย!
โดย : กุลวีร์
![]()
เทพารักษ์ภัสดา โดย กุลวีร์ นวนิยายสนุกๆ ที่อ่านเอานำมาให้อ่านใน www.anowl.co กับเรื่องราวของเทพารักษ์ผู้มีสัตย์ว่าจะรักเพียงหนึ่ง ต้องลงมาใช้ชีวิตเยี่ยงมนุษย์เพราะหญิงสาวผู้เปลี่ยนหัวใจเขาตลอดกาล ภารกิจพิชิตใจจึงเริ่มต้น ท่ามกลางความวุ่นวายของเพื่อนบ้าน และบททดสอบของความรักที่ไม่ใช่แค่เรื่องบนเตียง
“อยากเจอข้านักไม่ใช่รึ เผยตัวมาคุยกันบ้างสิ”
เมื่อรับรู้ถึงการมาเยือนของอีกฝ่าย เขาปรากฏกายข้างรั้วหน้าบ้านพร้อมทั้งส่งเสียงออกไป
เวธัสพยายามเสาะหาหญิงผู้นั้น โดยการสอบถามพระภูมิและเจ้าที่เจ้าทางบริเวณใกล้เคียง ซึ่งบอกตรงกันว่ามีนางผู้หนึ่งปรารถนาตัวเขา จึงเฝ้าคอยเวลาที่จะได้เจอตัวเสียที
“เหตุใดจึงต้องอำพราง ถ้าเจ้ามาดี” เขายังเอื้อนเอ่ยกับอากาศ เพราะมองไม่เห็นผู้ใด “ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ไม่ไกล อย่าทำเหมือนที่แล้วมาที่ทำให้ข้าไม่รู้เลย”
ทันทีที่จบคำของเขา หญิงสาวร่างสะโอดสะองก็ปรากฏให้เห็น
“ข้ารู้ว่าท่านไม่ใช่มนุษย์”
“เจ้าเองก็เช่นกัน” เวธัสต่อคำของนางทันควัน
หญิงสาวหน้าตาโสภา สวมใส่อาภรณ์ทันสมัย หากมนุษย์ได้เห็นคงคิดว่าเป็นพวกเดียวกัน แต่เวธัสทราบดีว่าเป็นนางไม้ที่ลุ่มหลงเสน่ห์ในตัวเขา
“ข้ามองท่านมาเนิ่นนาน เห็นท่านออกจากบ้านนี้ไปบ้านนั้น” นางยังกล่าวด้วยท่าทีและน้ำเสียงสุภาพ “เป็นไปได้ไหมที่ขอพาท่านไปยังวิมานของข้า”
เวธัสยิ้มอย่างรู้ทัน “โปรดหยุดความคิดของเจ้าเดี๋ยวนี้”
“ท่านไม่อยากสำเริงสำราญกับข้าบ้างรึ เทพท่านอื่นติดใจตัวข้ากันทั้งนั้น อยากให้ท่านลองสักครั้ง”
“ยิ่งเจ้าเสนอตัว ข้ายิ่งรังเกียจ” เขาทำเสียงแข็งพลางแลตาไปทางที่ไม่เห็นนาง
“ช่างมีวาจาไม่ถนอนน้ำใจกันยิ่งนัก” นางไม้ยิ้มเยาะ
“เจ้าจงไปอยู่ในที่ของเจ้า ปล่อยให้ข้าอยู่ในที่ของข้า”
“ที่ที่มีนางมนุษย์ผู้นั้น มันดีเยี่ยงไร”
“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า” เขาเริ่มมีอารมณ์ขุ่นมัวที่อีกฝ่ายพูดถึงแพรพิไล “เหตุใดเจ้าต้องถามถึงข้ากับนาง”
“ข้าอยากรู้ว่านางมนุษย์ผู้นั้นจะรู้หรือไม่ว่าท่านไม่ใช่มนุษย์” นางไม้ยังตอบโดยดี “ท่านไม่คิดหรือว่า ถ้านางมนุษย์ผู้นั้นรู้ความจริงเข้า นางคงไม่สนใจไยดีท่านหรอก”
“ไปให้พ้นจากที่แห่งนี้ซะ” เขาหวังตัดเยื่อขาดใยกับนางไม้ผู้นี้ให้หมดสิ้นเพื่อไม่อยากให้หล่อนเข้าใจผิด
“ข้าไม่งดงามตรงไหน ข้ากับท่านก็อยู่ภพภูมิเดียวกันแท้ๆ ท่านช่างไร้มารยาทสิ้นดี”
“ไปซะ” เวธัสทำเสียงขึงขัง แล้วบอกถึงสิ่งที่ตั้งมั่นในใจ “ข้าขอเสพสังวาสแค่นางหนึ่งเดียวตลอดอายุขัยของข้า”
นางไม้ยังสงบท่าที “อย่าบอกนะว่าท่านกับนางมนุษย์ผู้นั้น”
“อย่าทำตัวเยี่ยงมนุษย์ ชอบรู้ในสิ่งที่ไม่ต้องรู้ก็ได้ เพราะรู้ไปก็เท่านั้น”
“ท่านโง่เง่าเสียจริงๆ มีของสวยๆ งามๆ อยู่ตรงหน้า ยังคิดจะปัดทิ้งไป” นางไม้ส่งเสียงขบขันในลำคอ
“ข้ายอมโง่ เพราะข้าได้เจอนางผู้นั้นแล้ว” เวธัสยังเสวนาด้วยน้ำเสียงไม่ผูกมิตรและมีสีหน้าขึงขังดุจเดิม
“ถ้าไม่มีนางมนุษย์ผู้นั้น…”
“เพื่อนาง อย่าคิดว่าข้าทำลายเจ้าไม่ได้” เขาแทรกทันควัน
นางไม้ยังตลกขบขันกับท่าทีของเขา “ท่านคิดจะเป็นคู่ครองกับนางมนุษย์ได้จริงรึ ท่านย่อมรู้ตัวเองดีว่าเป็นอันใด”
“แค่ข้าทำให้นางรักข้าหมดทั้งใจได้ก็พอ” เวธัสเสียงอ่อนลง
“ข้าไม่เชื่อหรอกว่านางจะรักท่านหมดใจได้” นางไม้ทิ้งท้ายด้วยเสียงหัวเราะ
“มันเรื่องของข้ากับนาง ไม่เกี่ยวกับเจ้า”
“ข้าขอสาปแช่ง เอ้ย! อวยพรให้ท่านเทพารักษ์กับนางมนุษย์ได้ถึงฝั่งฝัน ฝันที่เป็นได้แค่ฝันเหมือนที่มนุษย์เป็นกัน หากความจริงนั้น ท่านย่อมรู้ดี” หลังจากกล่าวจบ นางไม้ก็เร้นกายทิพย์ไม่ให้มองเห็น แต่เสียงขบขับยังคงมีให้แว่วได้ยิน
เวธัสรู้อยู่เต็มอก สิ่งใดจะกลายเป็นสิ่งใด เมื่อสามารถเป็นได้อย่างที่ปรารถนา
เขาหวังเพียงแค่ว่าอย่ากลับมาสร้างปัญหาให้กันอีกเลย
“คุณจะทำอะไรของคุณ”
หล่อนถามทันทีที่ก้าวลงมาชั้นล่าง แล้วมองเห็นเขาพร้อมของในมือ
แพรพิไลตื่นแต่เช้าในวันที่ไม่ต้องออกไปทำงาน พอจัดการธุระส่วนตัวในห้องนอนจนเสร็จสิ้น ก็ได้เวลาที่ต้องลงมาเตรียมอาหารเช้า แต่ไม่เห็นเขานั่งอยู่บนโซฟาเหมือนที่เคยเป็น
“ผมจะช่วยคุณแพร” เวธัสตอบคำถาม
“ช่วยอะไร” หล่อนเดินมาใกล้เขา
“ช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ในบ้าน” เขาจดจำหลายสิ่งหลายอย่างที่หญิงชรากล่าวถึงสามีที่ดี อย่างหนึ่งก็คือการช่วยภรรยาทำงานบ้าน “คุณแพรออกไปทำงานคงเหนื่อยแล้ว วันหยุดยังต้องทำงานบ้านอีก ผมขอรับผิดชอบเองในส่วนนี้ คุณแพรจะได้มีเวลาพักผ่อนบ้าง”
พอได้ยินดังนั้น หล่อนก็ชื่นใจที่วันหยุดจะได้ไม่ต้องทำความสะอาดบ้านทั้งหลัง หากแพรพิไลยังซ่อนความยินดียิ่งไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉย
“คุณพูดจริง หรือแกล้งอำฉันเล่น”
“ผมไม่เคยพูดไม่จริงกับใคร” เวธัสกระชับมือที่ถือด้ามไม้กวาด หากมืออีกข้างกำไม้ถูพื้นไว้ ซึ่งมีกระป๋องใบย่อมใส่น้ำเปล่าวางอยู่ใกล้ๆ
หล่อนเห็นความจริงจังของคนตรงหน้าจึงไม่คัดค้าน หากยังอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “คุณทำไหวหรือเปล่า กวาดถูบ้านทั้งหลังไม่ใช่งานง่ายๆ ต้องเช็ดฝุ่นตามซอกต่างๆ ด้วยนะ ฉันทำก็ใช้เวลาเป็นครึ่งวัน”
เขาเคยฝึกทำในบ้านของหญิงชรา จึงพูดอย่างมั่นใจ “ผมทำได้ ไม่ต้องห่วง”
“อยากทำอะไรก็ทำ แต่ระวังข้าวของในบ้านด้วยล่ะ ก็ดีเหมือนกันนะ คุณจะได้ไม่ต้องอยู่บ้านเฉยๆ หรือมีเวลาว่างไปคุยกับใคร ถ้าคุณทำทุกวันได้ยิ่งดี”
ก่อนแพรพิไลจะผละไปที่ห้องครัว เขาถามขึ้น
“แบบนี้ ผมเป็นพ่อบ้านได้รึยัง”
“พ่อบ้านต้องทำได้ทุกอย่าง นี่แค่กวาดถูบ้าน อย่าเพิ่งคิดไปไกลขนาดนั้นเลย”
“ต้องทำอะไรอีก โปรดบอกให้ทราบด้วยเถิด” เวธัสยิ้มให้หล่อน
“ว่างๆ ฉันจะบอกให้รู้แล้วกัน” แพรพิไลเห็นเขามีท่าทีแข็งขันก็อดถามไม่ได้ “คุณจะกินข้าวเช้าด้วยกันไหม หรือจะไปกวาดบ้านเลย”
“ถ้าผมเป็นพ่อบ้าน คงมีคุณแพรเป็นแม่บ้านในบ้านหลังเดียวกัน ช่างเป็นเรื่องน่ายินดียิ่งนัก” เขาพูด ยามหล่อนเดินผ่านหน้าไป
แพรพิไลทำเป็นหูทวนลม แต่ใจนั้นมีความสุขชอบกล
เวธัสกวาดถูบ้านเสร็จเรียบร้อย ขณะที่หล่อนยังใช้ชีวิตอยู่ที่ชั้นล่าง บางคราวก็เดินมาเมียงมองเขา แต่ไม่ได้เอ่ยวาจาใด จนเขาหิ้วกระป๋องไปตรงบันไดพร้อมด้วยไม้กวาดกับไม้ถูพื้น หล่อนจึงถามขึ้น
“คุณจะไปไหน”
“ผมต้องทำความสะอาดทั้งบ้าน ยังเหลือชั้นสอง” เขาก้าวขาขึ้นบันได โดยไม่ได้หันมองหล่อน
แพรพิไลรีบสาวเท้าเร็วไวเพื่อไปยืนขวางเขาไว้ได้ทันตรงด้านหน้าประตูห้องนอน
“คุณไม่ต้องทำหรอก ฉันทำเองก็ได้”
เวธัสวางกระป๋องบนพื้น เงยหน้ามองหล่อน
“ไม่เป็นไร ยังไม่เหนื่อย ผมทำได้ คุณแพรไปพักผ่อนดีกว่า”
“ไม่ดีแน่ๆ ถ้าคุณจะเข้าห้องนอนของฉัน”
“ผมเคยเข้าไปครั้งหนึ่งแล้ว จำไม่ได้เหรอ” เขายิ้มมีเลศนัย “หรือจะเข้าไปพร้อมผมอีกก็ได้”
แพรพิไลเริ่มเขินอาย เมื่อนึกถึงสิ่งที่เคยทำไว้กับเขา หากสายตาที่จ้องมองกันและรอยยิ้มซึ่งบ่งบอกเจตนาชัดเจน จึงปล่อยให้เขาทำตามความตั้งใจเดิม โดยไม่คิดจะตามเข้าไปในห้องด้วยกัน
ยังไม่ทันที่เวธัสจะก้าวพ้นประตูก็ต้องชะงักขาไว้
“คุณได้ยินเหมือนที่ฉันได้ยินไหม”
เสียงเสียงหนึ่งเรียกความสนใจจากทั้งสองโดยพลัน
“ผมได้ยิน” เขามองไปทางบ้านยายเอี่ยมซึ่งเป็นที่มาของเสียงเดียวกันที่เคยได้ยินครั้งนั้น
ไม่มีคำสนทนาใด เพราะต่างฝ่ายต่างตั้งใจฟังพร้อมทั้งพิจารณา
หลังจากเสียงนั้นเงียบลง แพรพิไลก็พูดขึ้น “คุณคิดว่าเป็นเสียงอะไร”
เวธัสยังไม่รู้แน่ชัดจึงไม่มีคำอธิบาย ทั้งที่หนนี้มีเวลาพินิจพิเคราะห์เสียงปริศนานั้น
หล่อนใคร่ครวญอยู่นานวันจึงกล้าพูดกับเขาตามที่คิดไว้
“มันเหมือนเสียงคนใช้มีดสับอะไรสักอย่างบนเขียงนะ คุณคิดเหมือนกันไหม” แพรพิไลถือโอกาสปรึกษาเขา “ฉันรู้ตั้งนานแล้ว น่าจะเป็นเสียงอย่างที่บอก แต่ไม่กล้าพูดกับใคร ฉันจึงไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับยายเอี่ยม”
“อาจไม่เป็นอย่างนั้น บนโลกมนุษย์มีเสียงคล้ายกันตั้งมากมาย”
“คุณไม่เคยเข้าครัวจะรู้อะไรล่ะ ตอนฉันสับหมูก็เสียงประมาณนั้นแหละ” แพรพิไลไม่เคยคิดในแง่ดีกับเพื่อนบ้านผู้นั้น และยังคิดเลยเถิดไปไกล “ถ้าทำกับข้าวเหมือนฉันก็ไม่น่าจะดังขนาดนี้ หรือยายเอี่ยมจะสับอย่างอื่น ฉันไม่อยากจะนึกถึงเลยว่าสับอะไร มันน่ากลัว”
เวธัสวิเคราะห์เสียงนั้นซึ่งดังมาทางห้องครัวของบ้านยายเอี่ยมที่ไม่เคยย่างกรายเลยสักครั้ง เพราะเป็นเพียงห้องเดียวที่เจ้าของบ้านห้ามปรามไม่ให้เข้าไป
เพื่อนบ้านของหล่อนมีลับลมคมในกันเกือบทุกคน
หรือมนุษย์ต้องมีสักเรื่องปกปิดเพื่อสร้างความใคร่รู้ให้แก่ผู้ที่อยากรู้ ส่วนคนที่ไม่อยากข้องเกี่ยวคงจะปล่อยผ่านราวกับสายลม
“ทำยังไงดีล่ะคุณ ถ้าเป็นเรื่องไม่ดี ฉันจะทำยังไง ถ้ามีเพื่อนบ้านโรคจิตแบบนี้” หล่อนนึกถึงภาพยนตร์สยองขวัญซึ่งมีเหตุการณ์ฆ่าหั่นศพ
“อาจไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอย่างที่คิด”
“ฉันก็อยากให้เป็นอย่างนั้น แต่พอได้ยินเสียง มันอดคิดไม่ได้ ยิ่งคิดยิ่งน่ากลัวขึ้นทุกที กลัวยายเอี่ยมถือมีดมาหาฉัน จะทำยังไงล่ะ”
“ถ้ามีผมอยู่ที่นี่ คุณแพรไม่ต้องกลัวสิ่งใดทั้งนั้น”
ถ้อยคำของเขาทำให้หล่อนรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
“คุณเข้าไปในห้องของฉันเถอะ แค่กวาดถูพื้นก็พอ” แพรพิไลหลบเลี่ยงความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้น โดยอยู่ให้ห่างกันสักพักหนึ่ง “ฉันจะลงไปรอข้างล่าง คุณทำเสร็จแล้วก็เรียกด้วยล่ะ ฉันจะขึ้นมาจัดของและเปลี่ยนผ้าปูกับปลอกหมอนเอง”
เวธัสปล่อยให้เจ้าของบ้านทำตามอัธยาศัย ระหว่างทำหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบตามที่เอ่ยปากไว้ก็ยังไม่วายนึกถึงเสียงปริศนาจากบ้านยายเอี่ยมซึ่งต้องเร่งหาคำตอบให้ได้ในเร็ววัน
ขณะที่เขาถูพื้น เสียงกรี๊ดของหล่อนดังขึ้น ต่อด้วยเสียงตะโกนเรียกเขา
“ช่วยด้วย คุณช่วยฉันด้วย มันมาแล้ว”

- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 18 : ช่วยกัน ช่วยด้วย!
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 17 : มีแต่เรื่องพิกล
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 16 : มองไม่เบื่อ
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 15 : อยู่นานนาน
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 14 : จีบจริงจัง
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 13 : ดูไม่ออกเหรอ
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 12 : มีเรื่องให้ร้อนรน
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 11 : ของดีจริงจริง
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 10 : บอกให้รู้ไว้ก่อน
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 9 : เหตุใดมันจึงร้อง
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 8 : ฝากด้วยนะ
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 7 : อย่างนั้นก็แย่เลย
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 6 : เชื่อสิ!
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 5 : ขอไปทำไม
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 4 : เลิกพูดเถอะ
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 3 : ดีหรือไม่ดี
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 2 : ไม่ใช่ใช่ไหม
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 1 : ขออยู่ที่นี่ได้ไหม
- READ เทพารักษ์ภัสดา : บทนำ







