สาปไอยรา บทที่ 7 : เจอผู้ชายรักสัตว์ เลยอยากเกิดเป็นสัตว์ให้เขารัก

สาปไอยรา บทที่ 7 : เจอผู้ชายรักสัตว์ เลยอยากเกิดเป็นสัตว์ให้เขารัก

โดย : ต้นไผ่กวนอิมสีทอง

Loading

สาปไอยรา เรื่องราวของ สัตวแพทย์หนุ่มผู้ต้องคำสาปได้ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาช่วยเหลือรักษาสัตว์ โดยหวังว่าผลบุญจะลบล้างคำสาปไปได้บ้าง แต่เจ้ากรรมนายเวรก็ไม่ได้ใจดี เพราะต้องมีความรักที่จริงใจเท่านั้นถึงจะช่วยได้! นวนิยายน่าอ่านโดย ต้นไผ่กวนอิมสีทอง ที่อ่านเอานำมาให้ทุกท่านได้อ่านใน anowl.co และเพจอ่านเอา

 

จารุมาสแอบเห็นไอยราขับรถกลับบ้านด้วยสีหน้าเป็นกังวล เธอเองไม่กล้าที่จะเอ่ยถามว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า เพราะเขามัวแต่จดจ่ออยู่แต่กับการขับรถที่เร็วมากกว่าขามามากนัก เธอจึงทำได้เพียงนั่งเกร็งไปตลอดทาง

“เกิดอะไรขึ้นที่ปางหรือเปล่าครับพี่ช้าง”

เป็นขันติธรรมที่เอ่ยถามคนเป็นเจ้านายของบิดาออกมาอย่างไม่กลัวเกรงว่าจะถูกดุ พลางหยิบขนมครกในถุงกินไปด้วย ไอยราคงให้คนงานซื้อมาให้เขาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

“แม่บัวท้องอืดน่ะ พี่เป็นห่วง”

ไอยราเอ่ยตอบเด็กชายด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล นอกจากท้องจะอืดแล้วยังปวดท้องรุนแรงอีกด้วย เขาจึงต้องรีบกลับไปดู

“โธ่…ป้าบัว กินอะไรเข้าไปเนี่ย”

หญิงสาวคนเดียวในรถได้ยินในสิ่งที่ชายหนุ่มบอกกับลูกศิษย์ของเธอ และได้ยินเด็กชายอุทานออกมาด้วยความสงสารก็เข้าใจว่าแม่ของเขาป่วย เลยเอาใจช่วยให้เขากลับไปถึงบ้านได้เร็วๆ อย่างปลอดภัย และก็ภาวนาขอให้คนดีๆ อย่างแม่ของเขาปลอดภัยไม่ให้เป็นอะไรมากด้วย

“ครูมาสไปที่ปางกับผมก่อนได้ไหม เดี๋ยวดูแม่บัวเสร็จแล้วผมไปส่งที่บ้านพัก”

ชายหนุ่มหันมาเอ่ยชวนคนที่อยู่ร่วมเหตุการณ์เดียวกัน เขาจะได้ไม่ต้องเสียเวลาแวะส่งหญิงสาวที่บ้านพักครูก่อน เพราะตอนนี้ใจเขาบินไปอยู่ที่ปางช้างด้วยความเป็นห่วงแม่บัวเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งเวลานี้ก็เพิ่งสิบโมงเช้าเอง ยังไม่ได้มืดค่ำให้หญิงสาวต้องรีบกลับบ้าน ดังนั้นเขาจึงคิดว่าพาเธอไปที่ปางด้วยคงไม่ผิดอะไร

“ได้ค่ะ ไม่มีปัญหาเลย”

จารุมาสเอ่ยตอบ พลางยิ้มหวานส่งให้เขาเป็นกำลังใจ แล้วคนที่ได้รับรอยยิ้มหวานนั้นก็ยิ้มตอบเช่นเดียวกัน ก่อนจะหันกลับไปตั้งหน้าตั้งตาขับรถตามเดิม โดยไม่ทันได้เห็นผิวแก้มของหญิงสาวคนเดียวในรถขึ้นริ้วแดงด้วยความเขินอาย ตาพร่าลายไปชั่วขณะ

เด็กชายขันติธรรมมองภาพผู้ใหญ่สองคนด้วยความมึนงงหนักกว่าขามา ตอนนั้นเหมือนโกรธกัน แต่ตอนนี้กลับมาดีกันแล้ว เด็กอย่างเขาไม่เข้าใจอารมณ์ผู้ใหญ่เอาเสียเลย

เมื่อรถเลี้ยวเข้ามาในปางช้างจันทร์ส่อง จารุมาสก็มองไปทั่วอย่างตื่นตาตื่นใจ เธอเห็นนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้ามาเยี่ยมชมปางช้าง ซึ่งมีช้างกำลังทำการแสดงวาดรูปโชว์ให้นักท่องเที่ยวดูอยู่สี่เชือกด้วยกัน อีกด้านหนึ่งก็มีนักท่องเที่ยวขี่ช้างเดินชมวิว และมีโซนที่ให้นักท่องเที่ยวได้ให้อาหารช้างด้วย ช้างทุกเชือกมีควาญหนึ่งคนคอยดูแลและควบคุมตลอด เธอมองภาพพวกนั้นอย่างรู้สึกเอ็นดู มันช่างน่ารักเหลือเกินถึงแม้ว่าตัวมันจะใหญ่ก็ตาม

จนกระทั่งรถขับเลยโซนที่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้เข้าไปลึกยังด้านใน แล้วจอดลงตรงหน้าคอกช้างคอกหนึ่ง ไอยรารีบร้อนลงจากรถจนเธอต้องรีบเปิดประตูลงตามไปดูด้วย แถมมีความแปลกใจว่าทำไมเขาถึงไม่ไปที่บ้าน แต่มาที่คอกช้างทำไม

“นะโมพี่ฝากดูแลครูมาสด้วยนะ”

ไอยราฝากฝังหญิงสาวไว้ให้ขันติธรรมคอยดูแล ระหว่างที่เขาต้องไปดูแลแม่บัว

“ได้ครับ”

จารุมาสมองตามหลังไอยราที่รีบร้อนเดินไปหาช้างเชือกหนึ่งที่ยืนอยู่ในคอกพร้อมกับควาญสูงอายุคนหนึ่ง จึงหันมาถามลูกศิษย์ให้หายสงสัยเมื่อเข้าใจอะไรได้รางๆ

“แม่บัวคือช้างเชือกนั้นเหรอนะโม”

“ใช่ครับครู”

“อ๋า…”

หญิงสาวยกมือตบหน้าผากตัวเองอย่างเก้อๆ เกือบไปแล้ว เกือบปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่มออกไปแล้ว พอตั้งสติได้ก็เอ่ยถามลูกศิษย์ที่ยืนอยู่ข้างๆ อีกครั้ง คราวนี้มีแต่ความอยากรู้อยากเห็นโดยเฉพาะเลย

“เราเข้าไปดูใกล้ๆ ได้ไหม”

“ได้ครับ ตามมาเลยครับครู”

 

ทางด้านไอยราก็รีบสอบถามอาการของแม่บัวกับลุงปั้น ควาญที่ดูแลพังใบบัวมาทั้งชีวิตทันทีที่เดินมาถึงตัว

“เป็นไงบ้างครับลุง”

“มันไม่กินอาหารเลยครับหมอช้าง ดูซึมๆ ลง และเหมือนจะปวดท้องจนยืนไม่ไหวแล้วครับ”

ระหว่างที่ฟังลุงปั้นเล่าอาการของพังใบบัวอยู่นั้น ไอยราก็คอยสังเกตอาการไปด้วย เขาเห็นว่าแม่บัวนั้นเดินไม่ค่อยไหว ยืนเหยียดขามาทางด้านหลัง และช่องท้องกางขยายใหญ่มาก สงสัยจะไม่ได้ขับถ่ายออกมาเลยเป็นแน่

“ก่อนที่จะมีอาการแบบนี้ แม่บัวกินอะไรเข้าไปครับ”

ควาญปั้นหยุดคิดนิดหนึ่งก่อนจะเอ่ยตอบ

“กินอ้อยไปประมาณสามเข่ง และช่วงนี้ก็ไม่ค่อยกินน้ำเลยครับ”

“สามเข่ง!”

จารุมาสที่เดินตามมาทันได้ฟังคำตอบของควาญปั้นก็อุทานอย่างตกใจ ช้างกินอาหารเยอะขนาดนี้เชียวเหรอ เธอมีเรื่องสงสัยเต็มไปหมด

“อึครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ครับ”

ไอยราสอบถามอาการของพังใบบัวต่อ ไม่ได้ว่าอะไรที่จารุมาสตามเขาเข้ามาที่คอกช้างด้วย ยิ่งเห็นสายตาอยากรู้อยากเห็นของเธอเขาก็เอ่ยไล่ไม่ลง เธอคงไม่กลัวช้างสินะ ถึงได้กล้าเข้าใกล้ช้างขนาดนี้ ในเมื่อเธออยากรู้เขาก็จะให้รู้ อยากเห็นเขาก็จะให้เห็น

“เอ…ลุงก็จำไม่ค่อยได้ แต่เหมือนไม่ได้อึมาหลายวันแล้วนะครับ”

ควาญปั้นตอบคำถามไอยราแต่สายตากลับลอบมองหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มที่มากับเจ้านะโมด้วยความสงสัยไปด้วย ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันถึงมีสิทธิ์ได้เข้ามาถึงตรงนี้ และไอยราก็ไม่ได้ตำหนิหรือเอ่ยไล่ให้ออกไปด้วยซ้ำ

“งั้นเดี๋ยวผมไปเตรียมยาก่อน มีใครเอากระเป๋ายามาให้หรือยังครับ”

ไอยราปล่อยให้ควาญปั้นสงสัยในตัวจารุมาสไปก่อน เพราะตอนนี้อาการของพังใบบัวสำคัญกว่า เดี๋ยวค่อยแนะนำให้รู้จักกันทีหลังก็ได้

“เอามาแล้วครับ ว่าแต่มันเป็นอะไรเหรอครับหมอช้าง”

ควาญปั้นเอ่ยตอบ พลางกวักมือเรียกควาญรุ่นน้องให้หยิบกระเป๋ายาของไอยรามาให้

“สงสัยว่าชานอ้อยที่แม่บัวกินเข้าไปอาจจะแห้งและเกิดการอุดตัน ทำให้แม่บัวมีภาวะท้องอืด และถ่ายไม่ออก จึงมีอาการปวดท้องอย่างที่เห็นครับ”

ระหว่างที่ชายหนุ่มอธิบายอาการของพังใบบัวให้ทุกคนฟัง เขาก็เปิดกระเป๋ายาและทำการเตรียมยาพร้อมอุปกรณ์เพื่อที่จะเปิดเส้นให้ยากับพังใบบัวไปด้วย

“หมอ…ช้าง…เหรอ”

นี่เขาเป็นสัตวแพทย์เหรอเนี่ย แม่เจ้า! จารุมาสทั้งอึ้งและทึ่ง ผู้ชายรักสัตว์ อยากเกิดเป็นสัตว์ให้เขารักเลยทีเดียว และดูเหมือนเขาจะรักช้างเชือกนี้มาก หลักฐานคือสีหน้ากังวลของเขาตอนขับรถ และการเรียกขานว่าแม่บัวจนทำให้เธอเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแม่ของเขาจริงๆ เธอรู้สึกอิจฉาแม่บัวเสียแล้วสิ!

 



Don`t copy text!