สาปไอยรา บทที่ 8 : ภาพที่มีกลิ่นและเสียง

สาปไอยรา บทที่ 8 : ภาพที่มีกลิ่นและเสียง

โดย : ต้นไผ่กวนอิมสีทอง

Loading

สาปไอยรา เรื่องราวของ สัตวแพทย์หนุ่มผู้ต้องคำสาปได้ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาช่วยเหลือรักษาสัตว์ โดยหวังว่าผลบุญจะลบล้างคำสาปไปได้บ้าง แต่เจ้ากรรมนายเวรก็ไม่ได้ใจดี เพราะต้องมีความรักที่จริงใจเท่านั้นถึงจะช่วยได้! นวนิยายน่าอ่านโดย ต้นไผ่กวนอิมสีทอง ที่อ่านเอานำมาให้ทุกท่านได้อ่านใน anowl.co และเพจอ่านเอา

“แม่บัวครับ ช้างกำลังจะเจาะเส้นเลือดที่ใบหูเพื่อให้น้ำเกลือกับยาลดปวด อดทนหน่อยนะครับแม่บัวคนเก่งของช้าง”

ไอยราใช้มือลูบหัวของพังใบบัวเป็นการปลอบโยนและเพื่อให้อยู่นิ่งๆ ก่อนจะเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอบอุ่นอ่อนโยนจนจารุมาสที่ยืนฟังอยู่ด้วยสัมผัสได้ พ่อไมโครเวฟ!

แล้วเขาก็พลิกใบหูของพังใบบัวมาข้างหน้า แล้วลูบคลำหาเส้นเลือด โดยมีควาญปั้นคอยดูแลไม่ให้พังใบบัวตื่นตกใจอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ด้วยอายุที่เยอะถึง 50 กว่าปีแล้วทำให้เส้นเลือดบริเวณใบหูนั้นหายากกว่าช้างปกติ แต่เขาก็สามารถหาจนเจอ แล้วทำการเปิดเส้นให้ยาจำนวนสองเส้น

ยาที่เขาให้อันดับแรกคือยาลดปวด ให้พร้อมกับน้ำเกลือ เพราะตอนนี้แม่บัวปวดท้องจะไม่ไหวแล้ว

“นะโมไปบอกพ่อเรายกน้ำเกลือหลังรถกระบะมาให้พี่หน่อย”

ไอยราเรียกใช้เด็กชายขันติธรรมที่ยืนอยู่ข้างจารุมาสให้ไปบอกควาญหนุ่มผู้เป็นพ่อของเด็กชาย ให้ช่วยขนลังน้ำเกลือที่เขาเพิ่งไปเอามาจากคลินิกรักษาสัตว์มาที่นี่ เพราะดูอาการของพังใบบัวแล้วต้องให้น้ำเกลืออีกหลายสิบลิตรแน่นอน

“ได้ครับ”

ลูกศิษย์ของจารุมาสรับคำอย่างแข็งขัน แล้ววิ่งออกไปจากคอกช้างทันที ทิ้งให้หญิงสาวยืนอยู่คนเดียวอย่างโดดเดี่ยวแต่ไม่เดียวดาย เพราะเขาเดินมาหาเธอแล้วเอ่ยถาม โดยใช้น้ำเสียงเดียวกันกับที่เอ่ยปลอบพังใบบัวเมื่อกี้เลย

“ครูมาสไม่กลัวช้างใช่ไหมครับ”

“เอ่อ…ใช่ค่ะ”

“ดีเลย ผมมีอะไรให้ครูมาสช่วยหน่อย ได้ไหมครับ”

“ได้ค่ะ”

จารุมาสรับปากอย่างยินดีช่วยเหลือ โดยไม่รู้ชะตากรรมของตนเองเลยสักนิด

“เดี๋ยวผมบอกอีกครั้งนะครับว่าให้ช่วยอะไร”

ไอยราเอ่ยบอกบนริมฝีปากมีรอยยิ้มนิดๆ ก่อนจะหันกลับไปสนใจกับอาการของพังใบบัวต่อ หญิงสาวจึงยืนสังเกตการณ์อยู่ใกล้ๆ ไม่ห่าง เผื่อเขาเรียกใช้ เธอจะได้ช่วยเหลือได้ทันท่วงที

ระหว่างที่ให้ยาลดปวดอยู่นั้น พังใบบัวเหมือนจะมีอาการปวดท้องรุนแรงขึ้น เหยียดตัวดิ้นไปดิ้นมา เอางวงมาเกาะเสาเหมือนจะยืนไม่ไหว ไอยราต้องคอยดูอาการและคอยเติมยาลดปวดให้ตลอดเวลา เขาลองกดท้องของพังใบบัวดู ท้องก็แข็งแน่นแทบกดไม่ลง เขาให้จารุมาสมาลองกดท้องพังใบบัวดูด้วย และอธิบายอาการต่างๆ ให้เธอได้รับรู้ เห็นเธอไม่ได้รังเกียจที่จะสัมผัสตัวช้าง เขาก็รู้สึกดีใจอยู่ลึกๆ เหมือนเห็นแสงสว่างเรืองรอง พลางคิดอย่างมีความหวังว่า ชะตากรรมที่เขากำลังเผชิญอยู่อาจจะมีใครบางคนรับในสิ่งที่เขาเป็นก็เป็นได้

“ท้องแม่บัวแข็งมากเลยค่ะคุณช้าง”

หญิงสาวเอ่ยบอกอย่างตื่นเต้น ถ้าไม่นับในความฝันนี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอได้เข้าใกล้ช้างตัวเป็นๆ อย่างใกล้ชิดขนาดนี้

“แม่บัวไม่ได้อึมาหลายวัน เดี๋ยวเราคงต้องช่วยกันทำให้แม่บัวอึ”

“ช่วยยังไงคะ”

ไม่ใช่หน้าที่ของเขาเหรอที่ต้องเป็นคนรักษาให้หาย จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“เดี๋ยวก็รู้”

ไอยราบอกอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วเลี่ยงออกไปโทรศัพท์สั่งอาหารหนีการอยากรู้ของหญิงสาวไปทันที

อาหารกลางวันของคนที่ช่วยกันรักษาพังใบบัวเป็นข้าวกล่องคนละกล่องและน้ำดื่มคนละขวด โดยเด็กชายขันติธรรมเป็นคนเอามาให้ ทั้งสี่คนจึงนั่งทานอาหารกลางวันกันบริเวณนั้นระหว่างที่เฝ้าดูอาการของพังใบบัวไปด้วย

ไอยราเฝ้าดูอาการและให้น้ำเกลือไปถึงบ่ายๆ โดยมีควาญปั้น จารุมาส และขันติธรรม ร่วมดูแลรักษาไปด้วยกัน อาการปวดท้องของพังใบบัวก็ลดลง เขาสังเกตเห็นแม่บัวเริ่มใช้งวงหยิบหญ้าที่พื้นเข้าปากได้แล้ว เริ่มหยิบอาหารกินแล้ว หลังจากที่ไม่กินอาหารเลยทั้งวัน

“นะโมไปหยิบเสื้อกันฝนให้พี่สองตัว”

ชายหนุ่มเรียกใช้งานเด็กชายที่รู้ดีว่าสิ่งที่เขาต้องการนั้นอยู่ที่ไหน

“ครับ”

เด็กชายขันติธรรมวิ่งไปหยิบเสื้อกันฝนที่อยู่ในห้องเก็บของข้างๆ คอก แล้วรีบวิ่งกลับมายื่นให้ไอยราอย่างแข็งขัน

“ขั้นตอนต่อไปคือเราต้องช่วยกันล้างสวนอุจจาระออกมา”

ไอยราเอ่ยบอกกับทุกคน พลางยื่นเสื้อกันฝนอีกตัวให้จารุมาส งานนี้คิดว่ามีเปียกแน่นอน เขาจึงเอาเสื้อกันฝนมาสวมใส่ พร้อมกับสวมถุงมือยางทั้งสองข้าง

จารุมาสรับเสื้อกันฝนจากมือของชายหนุ่มอย่างงงๆ และเมื่อเห็นเขาสวมใส่เสื้อกันฝน เธอก็เลยทำตามบ้าง แต่เขาไม่ได้ให้เธอใส่ถุงมือเหมือนเขา

“ให้ควาญคนอื่นมาช่วยดีกว่าไหมครับ”

ควาญปั้นที่เห็นท่าทางเงอะงะของจารุมาสอย่างคนทำอะไรไม่ถูก ก็เอ่ยแนะนำไอยราเพื่อช่วยหญิงสาวที่มีอาชีพเป็นครู ไม่ได้เคยดูแลช้างมาก่อน ที่เขารู้เพราะไปแอบถามเด็กชายขันติธรรมมาแล้วว่าเธอเป็นใคร และทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ได้

“ผมแค่ให้ครูมาสช่วยถือหางเองลุง ทำได้ไหมครับ”

ไอยราเอ่ยบอกกับควาญปั้นยิ้มๆ ถึงหน้าที่ของหญิงสาว แล้วหันไปถามความสมัครใจของเธออีกครั้ง

“ทำได้ค่ะ”

ต้องทำได้อยู่แล้วละจังหวะนี้ ก็เอ่ยรับปากช่วยเหลือเขาไปแล้วนี่ จะมาปอดแหกตอนนี้ไม่ได้!

“แล้วนะโมล่ะครับ”

เด็กชายขันติธรรมอยากมีส่วนร่วมได้เพราะคิดว่าน่าจะสนุกจึงเอ่ยถามขัดขึ้นมา

“ยืนเป็นกำลังใจให้ครูมาสของเราก็พอ”

ชายหนุ่มเอ่ยบอกยิ้มๆ ด้วยความเอ็นดูเด็กชายที่ความสูงยังไม่ถึงครึ่งตัวของพังใบบัวเลย ยืนอยู่เฉยๆ น่ะดีแล้ว

แล้วทุกคนก็เข้าประจำที่ ควาญปั้นยืนคุมอยู่ด้านหัวของพังใบบัวเพื่อคอยปลอบให้อยู่นิ่งๆ ส่วนไอยราจับหางพังใบบัวยื่นให้จารุมาสที่ยืนอยู่บนเก้าอี้พลาสติกถือชูสูงๆ แล้วเขาก็ใช้มือล้วงเข้าไปในก้นของพังใบบัว ก่อนจะดึงอุจจาระก้อนแรกออกมาได้ แล้วเขาก็บ่นออกมาเบาๆ

“ก้อนไม่ได้ใหญ่มากแต่ลำไส้แห้งมาก”

“ได้ยินว่าไม่ค่อยกินน้ำมาเป็นอาทิตย์นี่คะ”

หญิงสาวที่คอยถือหางให้เอ่ยเสริมตามที่ได้ยินควาญปั้นพูด ก็คงเหมือนคนที่ถ้าไม่ได้ดื่มน้ำก็จะทำให้ท้องผูก พังใบบัวก็คงเป็นแบบนั้นเช่นกัน

“ใช่ เลยทำให้แม่บัวมีภาวะขาดน้ำ และก็อึไม่ออก”

ชายหนุ่มแอบยิ้มและแอบชื่นชมหญิงสาวอยู่ในใจ ที่เธอช่างสังเกตและใส่ใจในอาการของพังใบบัว

“แล้วเราจะช่วยแม่บัวยังไงคะ”

“ต้องเติมน้ำให้ลำไส้น่ะ นะโมสายยาง เปิดน้ำด้วยนะ”

ไอยราเอ่ยบอกหญิงสาวที่ยืนถือหางอยู่ใกล้ๆ เขา ก่อนจะหันไปสั่งงานกับเด็กชายคนเดียวในที่นั้น

“ครับ”

ขันติธรรมรีบไปหยิบสายยางแล้วก็เปิดก๊อกน้ำจนสุด ก่อนลากมาให้ถึงมือของไอยรา

ชายหนุ่มลากสายยางฉีดเข้าก้นแม่บัวเพื่อให้เกิดความชุ่มชื้น จะได้ดึงอุจจาระออกมาได้ง่ายขึ้น ขนาดเติมน้ำเข้าไปแล้วก็ยังดึงอุจจาระออกมายากมาก

“แม่บัวครับ เบ่งหน่อย”

ไอยราตบก้นพังใบบัวก่อนจะเอ่ยบอกให้ช่วยเบ่ง แล้วแม่บัวของเขาก็เบ่งน้ำสวนออกมาทำให้เขาเปียกโชกไปหมด

ส่วนจารุมาสก็กระโดดหลบน้ำที่กระเด็นมาโดนตัว เป็นที่ตลกขบขันของชายหนุ่มกับนะโม จนอดค้อนขวับใส่ทั้งคู่อย่างแง่งอนไม่ได้

เธอไม่อิจฉาแม่บัวแล้ว ถ้าต้องโดนผู้ชายล้วงก้นแบบนี้!

 



Don`t copy text!