สาปไอยรา บทที่ 20 : ลากันวันนี้ เพื่อที่จะเจอกันใหม่ในวันหน้า

สาปไอยรา บทที่ 20 : ลากันวันนี้ เพื่อที่จะเจอกันใหม่ในวันหน้า

โดย : ต้นไผ่กวนอิมสีทอง

Loading

สาปไอยรา เรื่องราวของ สัตวแพทย์หนุ่มผู้ต้องคำสาปได้ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาช่วยเหลือรักษาสัตว์ โดยหวังว่าผลบุญจะลบล้างคำสาปไปได้บ้าง แต่เจ้ากรรมนายเวรก็ไม่ได้ใจดี เพราะต้องมีความรักที่จริงใจเท่านั้นถึงจะช่วยได้! นวนิยายน่าอ่านโดย ต้นไผ่กวนอิมสีทอง ที่อ่านเอานำมาให้ทุกท่านได้อ่านใน anowl.co และเพจอ่านเอา

จารุมาสไปถึงโรงเรียนก็ตั้งใจสอนหนังสือเด็กๆ ถึงแม้ว่าภายในใจยังมีความกังวลและความหวาดกลัวจากเหตุการณ์โจรจะขึ้นบ้านพักครูของเธอก็ตาม แต่เมื่อได้รับรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเด็กๆ ในชั้นเรียนที่เธอสอน ก็บรรเทาความว้าวุ่นและความกังวลภายในใจไปได้เยอะเลยทีเดียว

ตอนช่วงพักทานอาหารกลางวัน บรรดาเพื่อนครูต่างจับกลุ่มคุยกันถึงเรื่องข่าวโจรขึ้นบ้านของชาวบ้าน ส่วนจารุมาสปิดปากเงียบไม่เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอให้ใครฟัง เพราะไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วง และยังไม่อยากตอบคำถามเรื่องที่เธอต้องย้ายไปอยู่ที่ปางช้างจันทร์ส่องด้วย

ตอนเย็นหลังเลิกเรียน เมื่อจารุมาสส่งเด็กนักเรียนกลับบ้านหมดแล้ว เธอก็รีบกลับบ้านพักครูเพื่อเตรียมเก็บของย้ายไปอยู่ที่ปางช้างฯ ของไม่ได้มีอะไรมากเพราะเธอเพิ่งมาอยู่ได้ไม่ถึงเดือน จึงเก็บของเสร็จภายในเวลาไม่นาน

ตอนกลางคืนลุงสนขับรถมอเตอร์ไซค์เข้ามาดูที่บ้านพักครูของจารุมาสเป็นระยะ ตามคำสั่งของผู้อำนวยการโรงเรียน ที่ให้คอยเข้ามาสอดส่องดูแลคุณครูในปกครอง เพราะกลัวจะเกิดเหตุร้ายขึ้นหลังจากที่ได้ข่าวเรื่องโจรมาเหมือนกัน ทำให้จารุมาสรู้สึกปลอดภัยและนอนหลับได้อย่างสบายใจขึ้น แต่ก็ยังคงนอนรอและคอยฟังเสียงของพี่ช้างใหญ่ว่าจะมาหาเธอในคืนนี้อีกหรือไม่

จารุมาสรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในตอนเช้ามืด ท้องฟ้าด้านนอกหน้าต่างยังคงมืดสนิท เธอจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเวลา เธอเห็นเป็นเวลาใกล้ห้านาฬิกาก็ย่นคิ้วคิดอย่างแปลกใจ ทำไมพี่ช้างใหญ่ถึงไม่มาหาเธอ หญิงสาวนอนพลิกไปพลิกมาบนที่นอน เธอนอนไม่หลับแล้วจึงลุกขึ้นจากที่นอนพับผ้าห่มเรียบร้อย ลุกขึ้นไปเปิดไฟให้สว่างทั่วทั้งบ้าน แล้วเสียบปลั๊กกาน้ำร้อนเพื่อที่จะชงโอวัลตินทานกับขนมปัง

“แปร๊น!”

จารุมาสละทิ้งทุกอย่างแล้วรีบเปิดประตูบ้านเมื่อได้ยินเสียงเรียก ก่อนจะก้าวเดินลงบันไดอย่างมั่นคงด้วยความระมัดระวัง รีบใส่รองเท้าแตะ แล้ววิ่งไปหาพี่ช้างใหญ่ที่ยืนคอยอยู่ใต้ต้นพญาเสือโคร่งเหมือนทุกครั้งที่มันมาหาเธอ

“พี่ช้างใหญ่ นึกว่าจะไม่มาหามาสเสียแล้ว”

หญิงสาวเข้าไปกอดงวงของมันอย่างดีใจ ก่อนจะผละตัวออกมายืนอยู่ใกล้ๆ พลางเห็นสร้อยพระที่คอยังอยู่ดีก็ยิ้มอย่างพออกพอใจ

“…”

“มาสต้องย้ายไปอยู่ที่ปางช้างจันทร์ส่องแล้วนะ ไม่รู้ว่าเราจะได้เจอกันอีกหรือเปล่า”

จารุมาสตัดสินใจเอ่ยบอก

“…”

มันผงกหัวรับรู้ ใบหูแกว่งไกวไปมา

“พี่ช้างใหญ่ไปอยู่ที่นั่นด้วยกันไหม เดี๋ยวมาสขอคุณช้างให้ เราจะได้เจอกันทุกวันไง”

หญิงสาวเอ่ยชวนอย่างมีความหวัง

“…”

มันส่ายหัวไปมาปฏิเสธเธอ จนหญิงสาวหน้างอมันถึงใช้งวงกอดเธออย่างง้องอน เธออดหัวเราะออกมาไม่ได้กับความน่ารักของมัน ก่อนจะเอ่ยบอก

“มาสเข้าใจ อยู่ที่นั่นมันไม่อิสระเหมือนอยู่ในป่าใช่ไหม”

“…”

มันผงกหัว จนตัวเธอที่โดนงวงของมันโอบอยู่โยกไปด้วยจึงรีบร้องห้าม

“พอแล้วค่ะ มาสรู้แล้ว”

นั่นแหละพี่ช้างใหญ่ถึงหยุดผงกหัวแล้วยอมอยู่นิ่งๆ สงสัยมันจะชอบอยู่ในป่ามากกว่าการที่ต้องอยู่แต่ในสถานที่เดิมๆ เธอจึงไม่เซ้าซี้ชวนมันอีก ต้องยอมรับว่าครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้เจอกับพี่ช้างใหญ่ เพราะบ้านที่เธอต้องเข้าไปอยู่ไม่ได้อยู่ใกล้ลำธารเหมือนบ้านพักครู แล้วการที่เธอจะแอบออกจากบ้านตอนกลางคืนเพื่อเดินไปลำธารเพื่อพบเจอกับมันก็คงเป็นเรื่องยาก

“ที่ปางช้างจันทร์ส่องจะทำพิธีหล่อพระ แล้วให้ช้างทุกตัวเข้าร่วมพิธีได้ พี่ช้างใหญ่ไปด้วยนะ ไปทำบุญด้วยกัน ชาติหน้าพี่จะได้เกิดเป็นคนเหมือนมาส”

จารุมาสเอ่ยชวนเพื่อเป็นการบอกบุญ และเธอจะได้เจอกับพี่ช้างใหญ่อีกครั้งด้วย อีกทั้งอานิสงส์การสร้างพระพุทธรูปนั้นมีดังนี้

หนึ่ง อกุศลกรรมในอดีตชาติแต่ปางก่อน จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญ

สอง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง สรรพภยันตรายสลาย

สาม เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติแต่ปางก่อน เมื่อได้รับส่วนบุญไปแล้ว ก็จะเลิกเว้นการจองเวร

สี่ เหล่ายักษ์ผีรากษส งูพิษ เสือร้าย ไม่อาจเป็นภัย

ห้า จิตใจสงบ ปวงภัยไม่เกิด ฝันร้ายไม่มี ราศีผ่องใส สุขภาพแข็งแรง กิจการงานเป็นมงคล

หก มั่นคงในคุณธรรม ความอุดมสมบูรณ์ปรากฏเกินความคาดฝัน ครอบครัวสุขสันต์ วาสนายั่งยืน

เจ็ด คำกล่าวเป็นสัตย์ ฟ้าดินปรานี ทวยเทพยินดี มิตรสหายปรีดา

แปด คนโง่สิ้นเขลา คนเจ็บหายดี คนป่วยหายดี ความทุกข์หายเข็ญ

เก้า พ้นจากมวลอกุศล เกิดใหม่บุญเกื้อหนุน มีปัญญาเลิศล้ำ บุญกุศลเรืองรอง

สิบ สิ่งที่สร้างจะบังเกิดเป็นกุศลจิตแก่ทุกคนที่ได้พบเห็น เป็นเนื้อนาบุญอย่างอเนกทุกชาติของผู้สร้าง

จารุมาสจึงอยากให้พี่ช้างใหญ่นั้นได้มาร่วมพิธีหล่อพระพุทธรูปในครั้งนี้ด้วยกัน

“…”

มันผงกหัวรับรู้

“จะไปแน่ใช่ไหม มาสจะได้บอกคุณช้าง”

อย่างน้อยเธอก็บอกให้ไอยราได้รับรู้ด้วยว่าจะมีช้างป่าอีกตัวนอกจากช้างในปางเข้าร่วมพิธีด้วย

“…”

มันยังคงผงกหัวให้เธอเหมือนเดิม เป็นอันว่าเธอเข้าใจว่าพี่ช้างใหญ่จะไปเข้าร่วมพิธีหล่อพระด้วย หญิงสาวจึงยิ้มออกมาได้อย่างยินดีและดีใจ

“ดีมากเลยพี่ช้างใหญ่ พี่ต้องไปให้ได้นะ”

หญิงสาวเอ่ยกำชับอีกรอบ มันใช้งวงพาดบนไหล่ของเธอเป็นการรับปาก ก่อนจะใช้งวงดันตัวเธอกลับขึ้นบ้านพัก เมื่อใกล้เวลาพระอาทิตย์จะขึ้น

“พี่จะกลับเข้าป่าแล้วเหรอ”

จารุมาสอาลัยอาวรณ์ไม่อยากจาก จึงยั้งเท้าไว้ไม่เดินตามแรงดันจากงวงของพี่ช้างใหญ่ มันคือเพื่อนที่ดีสุดของเธอเลยก็ว่าได้ ต่อจากนี้ก็ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่ จะได้เจอกันก่อนพิธีหล่อพระหรือเปล่าก็ไม่มีใครบอกได้ และเมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ มันจะมาเข้าร่วมพิธีหรือเปล่าก็ไม่รู้

“…”

มันผงกหัวและชูงวงไล่เธอกลับเข้าบ้าน แล้วหันหลังเดินหนีเธอไปก่อน

“จะรีบไปไหนนะ”

หญิงสาวบ่นออกมาเบาๆ แต่พอเห็นพี่ช้างใหญ่เดินลับพุ่มไม้ของโค้งลำธารไปแล้ว เธอก็หันหลังกลับเดินเข้าบ้านเพื่ออาบน้ำแต่งตัวไปสอนเหมือนทุกวัน พร้อมกับที่แสงอาทิตย์เริ่มพ้นจากขอบฟ้าเป็นแสงสีส้มอ่อนละมุนตา

 



Don`t copy text!