สิงคโปร์วอล์ค 2
โดย : สุวิทย์ เมฆวิบูลย์
ไม่ได้มีแค่ นิยายออนไลน์ ให้อ่าน ที่ อ่านเอา แต่เรายังมีเรื่องราวการเดินทางของ สุวิทย์ เมฆวิบูลย์ ชายหนุ่มผู้ที่เชื่อว่า การเดินทางกับการดื่มกิน คือองค์ประกอบสำคัญในการเติมไฟ เพิ่มพลังให้ชีวิต และเขายินดีแบ่งปันขุมพลังนี้กับผู้อ่าน “อ่านเอา” ได้ อ่านออนไลน์
…………………………………………..
– สิงคโปร์วอล์ค 2 –
อาหารอร่อยของสิงคโปร์ ถ้าเป็นของคาว 2 จานแรกที่ทุกคนนึกถึง หนีไม่พ้น ข้าวมันไก่และบักกุตเต๋ ทั้งที่สิงคโปร์ไม่ใช่แหล่งกำเนิด ไม่ได้เป็นต้นตำรับเลยทั้ง 2 เมนู ข้าวมันไก่เป็นอาหารพื้นเมืองของชนชาวจีนไหหลำที่ถูกเล่าขานต่อๆ กันมา แม้ในครอบครัวก็ได้ยินจากเด (พ่อ) ตัวเองและพ่อตาหรือผู้ใหญ่รุ่นปู่รุ่นตา ว่าไก่พันธุ์บุนเซียวที่เลี้ยงกันในหมู่บ้านชนบทบนเกาะไหหลำ เนื้อแน่นเยอะ ไขมันน้อยแต่นุ่ม นิยมเลี้ยงแบบปล่อยในทุกครัวเรือน
ช่วงปี 2556 ไปเที่ยวบ้านเกิดของเดที่หมู่บ้านยางดัว จังหวัดกิมตั่วซี่ มณฑลไหหนาน (เกาะไหหลำ) ก็เห็นทุกบ้านเลี้ยงไว้เพื่อการบริโภคและเข้าใจว่าน่าจะเป็นพันธุ์เดียวที่นำเลี้ยงกันใน อ.เบตง จ.ยะลา จนเป็นที่นิยมเมื่อนำมาปรุงเป็นข้าวมันไก่เบตง เช่นกัน
สิงคโปร์ได้รับอิทธิพลความนิยมข้าวมันไก่ เพราะเป็นอาหารยอดนิยมในหมู่ชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน ซึ่งดัดแปลงประยุกต์ข้าวมันไก่ไหหลำคล้ายๆ คนไทย มีให้เลือกทั้งไก่นึ่ง ไก่ย่าง ไก่ปิ้ง ในมาเลเซียโดยเฉพาะที่รัฐมะละกา จะเสิร์ฟข้าวมาเป็นลูกกลม หรือที่รู้จักกันในชื่อ Chicken Rice Ball แทนที่จะเสิร์ฟข้าวมาในถ้วยต่างหาก จะเสิร์ฟข้าวเป็นลูกกลมขนาดลูกกอล์ฟทานคู่กับไก่นึ่ง ส่วนในรัฐอิโปห์จะเป็นข้าวมันไก่แบบกวางตุ้ง โดยเป็นข้าวสวยธรรมดาไม่ใช่ข้าวมัน ทานคู่กับถั่วงอกลวก สิงคโปร์ก็คล้ายมาเลเซีย แต่เน้นไก่นึ่งมากกว่า ข้าวสวยหุงเคี่ยวกับมันไก่ เน้นร่วนเมล็ดสวย ไม่แฉะ ไก่จะสับเป็นชิ้นหนาโต ขนาดใหญ่พอคำ ไม่แบนบาง เล็กๆ จนเรียกว่าเศษไก่แบบบ้านเรา เนื้อไก่ต้ม ชุ่มอิ่มไปด้วยน้ำ ไม่แห้ง ส่วนน้ำจิ้มของ ‘ข้าวมันไก่สิงคโปร์’ มีด้วยกัน 3 ชนิดคือ ซีอิ๊วดำหวานปรุงรส ขิงบด และ พริกน้ำส้ม ที่นี่จะไม่มีเต้าเจี้ยวผสมน้ำจิ้มเลย
หากจะไปกินข้าวมันไก่ของสิงคโปร์ แนะนำไปร้านบุนตงกี่ (Boon Thong Kee) ที่ถือเป็นร้านเด่นดังคู่บ้านคู่เมือง มีหลายสาขา คุณภาพคงเส้นคงวา มาตรฐานตามแบบฉบับคนสิงคโปร์ ถ้าไปมาสะดวก ใกล้สถานีรถไฟฟ้า ไม่ต้องต่อรถเมล์ รถแท๊กซี่ ให้ไปที่สาขานี้ สาขา Bukit Timah อยู่ที่ เลขที่ 18 Cheong Chin Nam นั่งรถไฟฟ้า MRT ลงสถานี Beauty World, ออกประตู B เดินไป ไม่เกิน100 เมตร ผ่านร้านอาหารเรียงราย ทั้งร้านสเต๊ก ร้านอาหารอินเดีย ร้านอาหารไทย ร้านอาหารมาเลเซีย มองหาเลขที่ 18 มีทั้งห้องแอร์และพื้นที่เปิดโล่ง หน้าร้านสะอาดสะอ้าน ดูดี เสิร์ฟแบบจานเดี่ยว หรืออาหารจานแยกก็ได้
แต่ไหนๆ มาแล้วจะกินข้าวมันไก่อย่างเดียวได้ไง เขามีของอร่อยหลายเมนู ถ้าไปกันหลายคน แนะนำให้สั่งกับเป็นจานแยก ไก่สับ ไก่ย่าง เคาหยก (หมูสามชั้นนึ่งผักดอง) ซึ่งจะนิยมทานคู่กับแตงกวา แครอตดอง อีกจานก็เป็นเนื้อปลาชุบแป้งทอดผัดขึ้นฉ่าย และที่ขาดไม่ได้ก็คือข้าวมันครับ ในความเห็นส่วนตัว ข้าวมันไก่เขาอร่อยกว่าเรา เพราะไก่นุ่ม หั่นสับชิ้นหนา กินได้เต็มปากเต็มคำ ข้าวสวยหุงเป็นตัว น้ำจิ้มแม้จะไม่มีขิง ไม่มีพริกกระเทียมก็จริง ถึงจะไม่แซ่บแบบคุ้นลิ้น แต่เหยาะน้ำส้มพริกตำ พริกชี้ฟ้าดอง และซีอิ๊วดำ เข้ากันดีกับไก่ชุ่มน้ำครับ ราคาจะสูงแพงเมื่อเทียบกับบ้านเรา เฉลี่ยออกมาก็ราวๆ คนละ 200 กว่าบาท แต่คุ้มค่าในรสชาติ คุณภาพ และปริมาณ
ส่วนบักกุตเต๋เป็นซุปของชาวจีนในมาเลเซีย คิดปรุงแต่งใส่เครื่องยาจีน ตุ๋นกระดูกหมู และใส่ชิ้นเนื้อ เครื่องใน ซดกินกับข้าวสวย คล้ายๆ ต้มจืดในบ้านเรา บักกุตเต๋ (Bak Kut Teh) เมื่อเขียนเป็นตัวอักษรจีน จะแปลตรงตัวได้ว่า ‘ชากระดูกเนื้อ’ โดยสูตรแต้จิ๋วสูตรนี้ประกอบด้วยซุปใสหอมกลิ่นพริกไทย รสชาติเข้มข้นของน้ำซุปได้มาจากการตุ๋นกระดูกหมู หนังหมู และ ‘ตีนไก่’ เป็นเวลานานๆร่วมกับพริกไทยขาวและกระเทียม เรียกว่า ‘หนัก’ กระเทียมเลยทีเดียว นอกจากรสชาติและกลิ่นหอมแล้ว น้ำซุปนี้จึงยังทรงคุณค่าด้วย ‘คอลลาเจน’ บำรุงผิวพรรณอีกด้วย (เขียนตามคำบอกเล่าของผู้รู้ถ่ายทอดมา โปรดใช้วิจารณญาณกันเองนะครับ )
อีกร้านที่ต้องไปกินเมื่อเหยียบสิงคโปร์ ก็คือร้าน Song Fa Bak Kut Teh ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1969 มีทั้งหมด 7 สาขา สาขาที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวไทย นั่ง MRT ไปลงที่สถานี Clark Quay ง่ายมากและสะดวกจริงๆ ตื่นสายนิด 8 โมงไปถึงก็มีโต๊ะ อยู่ใกล้ๆ บันไดขึ้นลงสะพานลอยเพียงแค่เดินข้ามสะพานลอยไปฝั่งตรงข้ามถนน จะมี Song Fa สองร้านใกล้ๆ กัน ร้านแรกเป็นห้องแถวสองห้องติดกัน ตกแต่งสวยงาม โอเพนแอร์ อยู่หัวมุมถนน New Bridge ตัดกับถนน Upper Circular เปิดตั้งแต่ 6-7 โมงเช้ายันค่ำมืด ร้านหลังถัดไปอีก 2-3 คูหา เปิดตั้งแต่ 11 โมงเป็นต้นไป เป็นคูหาเดียว แต่งแบบคาเฟ่ หรูไปอีกนิด คิดว่านั่งร้านแรกดีกว่าครับ
เมนูเด็ดอันดับหนึ่งของ Song Fa Bak Kut Teh ก็คือ บักกุตเต๋รสชาติน้ำซุปกลมกล่อม ด้วยน้ำซุปกระดูกหมู พริกไทย รสชาติคล้ายต้มเลือดหมูบ้านเรา แนะนำว่าสั่งแบบดั้งเดิมคนละชาม จะมีกระดูกหมูชิ้นโตสองชิ้นในชามใครชามมัน น้ำซุปเติมได้ไม่อั้น จะซดโฮก 10-20 ที หมดชาม เขาก็ไม่งอน ไม่อิดออด เทเติมให้ตลอด
สั่งข้าวสวยคนละถ้วย แล้วสั่งเมนูเครื่องเคียง เช่น หมูสามชั้นตุ๋น ขาหมูพะโล้ ไส้หมูตุ๋น ผักดองและผัดผัก ทุกอย่างอร่อยมากครับ นั่งกินโต๊ะริมถนนหน้าร้านไปเลย บรรยากาศของร้านตกแต่งออกแนวโบราณเหมือนร้านกาแฟสมัยเก่า แต่ถนนในสิงคโปร์รถไม่เยอะ มีวิ่งไปวิ่งมา ให้ความรู้สึกว่าข้างถนน แต่ไม่มีฝุ่นไม่มีควัน ให้เสียมู้ดโทนหม่ำข้าวเช้าเลย
ใช้คำว่า “อร่อยมากๆ” ได้เลยสำหรับร้านนี้ คุ้มค่าทั้งราคา ปริมาณและรสชาติ แถมได้กินอาหารพื้นๆ ที่คนท้องถิ่นเขากินกันทุกวันด้วยครับ