หลีกหน้าให้พ้นน้ำ

หลีกหน้าให้พ้นน้ำ

โดย : ชุนเทียน

Loading

“อ่านเอาเล่าเรื่อง” คอลัมน์ที่รวมบทความจากผู้เข้าอบรมในโครงการ อ่านเอาเล่าเรื่อง ที่จัดโดยเว็บไซต์อ่านเอา โดยโครงการนี้ เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้นำเรื่องราวที่ประทับใจของตัวเองมาถ่ายทอดในรูปแบบเรื่องเล่า และสานฝันสำหรับทุกคนที่อยากเริ่มต้นสู่เส้นทางการเป็นนักเขียน

ทุกเช้าก่อนเลี้ยงข้าวหมา อันประกอบไปด้วยข้าวสวยคลุกกับน้ำแกงจืดหมูสับไม่ปรุงรสกับไก่ย่างฉีกเป็นชิ้น ฉันมักลอกหนังไก่ก่อนคลุกข้าวให้หมากินเสมอ แล้วหนังนั้นจะโยนให้ปลากินอีกที

ที่ศาลาริมน้ำหน้าบ้านฉัน นอกจากมีปลาตะเพียนมากมาย ยังมีฝูงปลาเสือพ่นน้ำอยู่จำนวนหนึ่ง แรกๆ ฉันโยนหนังไก่พวกนั้นเลี้ยงปลาแบบไม่เจาะจงว่าให้ตัวไหน แต่ก็สังเกตว่าเวลาไปนั่งเพื่อแกะหนังไก่ให้ปลาเมื่อไร ไม่ขาก็แขนข้างหนึ่งต้องเปียกน้ำเสมอ แรกคิดว่าน้ำค้างยามเช้าบนหลังคาศาลาหยดใส่ หากวันต่อมาทำไมมันเปียกทุกวันทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้ยืนที่เดิม

มองลงไปในน้ำ ปลาเสืออัวนตัวหนึ่งเงยหน้าขึ้นมาสบตา ที่ว่าอ้วนฉันว่ามันยังเป็นคำบรรยายรูปร่างมันน้อยไป อยากจะใช้คำว่า ‘ยักษ์!’ ด้วยถ้าเทียบขนาดมันกับปลาเสือตัวอื่นๆ เอาเถอะ ฉันอาจอคติหมั่นไส้มันจนอยากบูลลี่รูปร่างมันก็ได้

ก่อนจะทันรู้ตัว

ฟึ่บ!!

เพียงพริบตาน้ำก็พุ่งใส่หน้า นั่น! เจอแล้วตัวการ ที่เขาว่ากันว่าปลาเสือพ่นน้ำมันเป็นอย่างนี้นี่เอง

จากความรู้ที่มี ปลาเสือจะพ่นน้ำก็ต่อเมื่อมันเห็นเหยื่อเช่นแมลงเกาะกิ่งไม้ มันอมน้ำแล้วพ่นอย่างแรงให้เหยื่อตกใจจนมืออ่อนตีนอ่อนหลุดจากที่เกาะ แล้วตกลงน้ำให้มันกิน!

นี่เห็นฉันเป็นเหยื่อตั้งแต่เมื่อไร ฮึ!

แต่แล้วก็เข้าใจ ในมือฉันมีของโปรดที่มันชอบกินอยู่ อาจมีเนื้อปลา เนื้อไก่ แบ่งให้บ้าง บางวันที่หมากินเหลือ ก็ฮุบกันหนุบหนับ บางครั้งฉีกให้ช้า ไม่ทันใจ พวกคุณๆ ทั้งหลาย ทั้งผอมทั้งอ้วน ตัวใหญ่ ตัวกลาง ตัวเล็ก รุมกันพ่นน้ำใส่ฉัน ถูกบ้างไม่ถูกบ้าง จะว่ามันเห็นหนังไก่เป็นเหยื่อที่มันต้องพ่นให้ถูกเป้าตกลงน้ำให้มันกินก็ไม่ใช่ หลังจากที่เราสบตากันแล้ว พวกมันไม่เคยพ่นน้ำโดนมือที่กำลังฉีกหนังไก่เลย เล็งมาที่หน้าฉันตลอดดดดด ทำไม….?

ไม่ได้มีแค่ปลาเสือหรอกนะที่มารออาหาร มวลหมู่ปลาตะเพียนก็แสบใช่ย่อย แย่งกันตอดอาหาร ชิ้นเดียวรุมกันเป็นสิบ แน่นอนว่างานนี้ต้องมีแผล ปลาเสือที่ว่าดุแสนดุ โดนฝูงปลาตะเพียนรุมตอดเสมอ ถ้าหลงไปว่ายอยู่ใกล้ อาหารที่โยนไปให้ เห็นครีบแดงๆ ของปลาตะเพียนนั้นแหว่งบ้าง เนื้อที่พุงหลุดถลอกจนเกล็ดหายเห็นเป็นแผลแดงบ้าง ปลาเสือบางตัวก็หัวบาก เนื้อหลุด เพราะสงสารจึงเลือกเอาอาหารเม็ดให้ปลาตะเพียนแทนเนื้อเป็นชิ้นมากกว่า เราโยนเม็ดให้กระจายกันห่างๆ ได้ แต่ก็นั่นแหละ หมดภายใน 10 วินาที

มันน่าเลี้ยงดีอยู่หรอกถ้าพวกมันไม่กินเปลือง โยนให้เท่าไรดูเหมือนไม่เคยมีตัวไหนอิ่มสักที จนเราต้องตัดใจจำกัดปริมาณการให้แต่ละวันเอาเอง และอย่าแปลกใจที่ปลาเสือไม่กินอาหารเม็ด! เพราะมันเป็นสัตว์กินเนื้อ ต่างกับปลาตะเพียนที่เขาบอกว่ามันกินพืช แต่เห็นมันกินทุกอย่างที่โยนไปให้ ที่บ้านไม่เคยใช้เศษอาหารเหลือทำปุ๋ยหรือทิ้งถังขยะสักครั้ง เพราะฝูงปลาตะเพียนหน้าบ้านคอยรอกินอยู่ทุกวัน

กลับมาที่เจ้าบิ๊กเสือตัวนั้น แม้เราจะไม่เคยทะเลาะกัน แต่ฉันว่ามันจงใจพ่นน้ำใส่หน้าทุกวัน บางวันโชคร้ายไปนั่งคลุกข้าวแยกชิ้นส่วนไก่ที่ท่าน้ำแล้วน้ำเต็มตลิ่ง ไม่ต้องเดาเลยว่าดีกรีการพ่นมันหนักหนาแค่ไหน เหมือนใครเอาน้ำสาดหน้ามาทั้งขันในวันสงกรานตั วันไหนถ้าเจ้าอ้วนนั่นว่ายมาใกล้ๆ และเห็นทันฉันมักฉีกหนังไก่โยนให้แล้วหันหลังอย่างเร็ว แต่บ่อยครั้งที่ฉันมักจะเผลอลืมตัว มันน่าาา นัก!

แล้วมันจะมีวันหนึ่งหรือสองสามวัน ที่ฉันไม่ต้องเดือดร้อนกับการหลีกหน้าให้พ้นน้ำจากพวกมัน หากวันนั้นน้ำในแม่น้ำลดลงแห้งมากจนเห็นพื้นเลนด้านล่าง ยามที่น้ำขุ่นจนเป็นหาดโคลนแบบนั้น พวกมันมารอกินตรงน้ำตื้น ขนาดมองไม่ค่อยเห็นตัวปลาฉันก็โยนให้มันเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือแลบลิ้นเยาะเย้ยพวกมันไปหนึ่งทีที่เห็นพวกมันพ่นน้ำใส่ปี๊ดๆ ฝอยเล็กๆ นั้นมาไม่ถึงใต้ถุนศาลา โคตร…สะใจ

คุณว่าไอ้เสืออ้วนตัวนั้นมันหมั่นไส้ฉันมั้ย? เมื่อวันต่อมา…ที่น้ำขึ้นเต็มตลิ่งอีกครั้ง แว่นตาถึงได้เปียกโชกจนน้ำหยดมาถึงปลายคางได้ขนาด!!

 

Don`t copy text!