ชมจันทน์ยามดึก
โดย : ชุนเทียน
“ฝนตก แดดออก” คอลัมน์ที่รวมบทความที่เขียนถึงประสบการณ์ชีวิต ความคิด ความรู้สึกต่อเรื่องราวรอบตัวที่ชุนเทียนได้พบ…แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ถ้ามองให้ดี คุณจะสัมผัสได้ถึงอากาศสบายๆ ในยามฝนโปรย และมีความสุขทุกครั้งที่เงยหน้ามองฟ้าเมื่อแดดออกในทุกวัน
“จันทน์เอ๋ยจันทน์เจ้า ขอข้าวขอแกง ขอแหวนทองแดงผูกมือน้องข้า ขอช้างขอม้าให้น้องข้าขี่ ขอเก้าอี้ให้น้องข้านั่ง ขอเตียงตั่งให้น้องข้านอน ขอละครให้น้องข้าดู ขอยายชูเลี้ยงน้องข้าเถิด ขอยายเกิดเลี้ยงตัวข้าเอง”
สมัยที่ยังอยู่ในวัยละอ่อนน้อย บทเพลงกล่อมเด็กเพลงนี้มักได้ยินเป็นประจำในเวลาค่ำคืนที่ใครสักคนต้องการให้เด็กน้อยคนนั้นง่วงเสียที มันจะได้ผลก็ต่อเมื่อเสียงนั้นหวานเย็นปนเศร้า แว่วไปในราตรีกาลอันสงบเงียบ
ฉันเคยนั่งมองดวงจันทน์เต็มดวงที่หน้าบ้านริมน้ำบ่อย ๆ ความงามจากธรรมชาติเยียวยาใจเราได้ดีเสมอมา ว่ากันว่าแสงจันทน์คืนเพ็ญมักมีมนต์ขลัง ทำให้หลุดลอยไปสู่โลกแห่งจินตนาการได้ง่ายกว่าคืนเดือนแรม จันทน์เต็มดวงทีไร นอกหน้าต่างยามดึก แสงจันทน์ที่ส่องลงมาทำให้เห็นรายละเอียดของต้นไม้ในสวนชัดกว่าคืนเดือนมืด มันนวลตา เหมือนภาพถ่ายขาวดำสีซีเปียที่เคลื่อนไหวได้ แต่ก็มองได้ไม่นาน ถ้าไม่ง่วงซะก่อนก็กลัวผี ยิ่งมีเสียงซาวน์ประกอบเป็นหมาหอนรับกันทอด ๆ ทีละบ้านทำให้อยากนอนสวดมนต์เข้าไปใหญ่
บางครั้ง จันทน์เพ็ญในคืนวันพระก็สวยงามอยู่ในความศรัทธาของชาวพุทธ บ้านฉันอยู่ใกล้วัด ทุกวันพระใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นมาฆะบูชา วิสาขบูชา หรืออาสาฬหบูชา เมื่อวัดมีงานเวียนเทียน พระทุกรูปจะลงโบสถ์มาสวดมนต์ก่อนเวียนเทียน ฉันมักถือธูปเทียนและดอกไม้ตามแต่จะหาได้ในบ้านเพื่อเดินไปวัดเพื่อเวียนเทียนเสมอ บรรยากาศภายในโบสถ์ที่กังวานเสียงสวดมนต์ของพระทุกรูป แทบไม่ต้องพึ่งพาเครื่องขยายเสียงนั้นสะท้อนพลังแห่งความสงบในใจได้ดีในความรู้สึก หลังจากพระสวดมนต์เสร็จจะออกมาเดินเวียนเทียนรอบโบสถ์นำเหล่าฆารวาส เราก็จุดธูปเทียนเดินตามพระ โดยมีกลุ่มผู้ชายเดินนำ ผู้หญิงและเด็กเดินตาม แต่พอรอบที่สาม หลังจบบทสวดบูชาพระรัตนตรัย หันกลับมามองหน้ากันอีกที ไม่มีกลุ่มไหนนำ หรือกลุ่มไหนตาม ใครใคร่อยู่กลุ่มไหน ก็เลือกเอาตามสะดวก ปักธูป ติดเทียนบนแท่นวางหรือข้างกำแพงโบสถ์ วางดอกไม้บูชาพระ ก็แยกย้าย บ้านใครบ้านมัน ก่อนจะเดินกลับบ้านกับญาติและเพื่อนบ้าน ฉันแหงนหน้ามองพระจันทน์บนฟ้าแล้วหันกลับมามองเงาสีเข้มของโบสถ์หลังใหญ่ มีแสงเทียนวอมแวมข้างกำแพง หลังจากพระปิดไฟและปิดประตูโบสถ์ ภายใต้แสงจันทน์ในคืนนั้น ประทับใจในบรรยากาศจนยากจะลืม
คืนเดือนแรมเรามักมีดาวเต็มฟ้าให้นั่งมองไม่รู้เบื่อในบางวันได้ฉันใด ดวงจันทน์เต็มดวงในคืนเพ็ญก็ให้แสงนวลตาได้เย็นใจฉันนั้น ความรู้สึกที่นั่งมองท้องฟ้าของแต่ละคนคงแตกต่างกันไป บางคนอาจจะไม่เคยเสียเวลามานั่งมองมันเลยด้วยซ้ำ เพราะแค่เวลาพักผ่อนคงยากจะมี ไหนเลยจะเอาเวลามาปล่อยทิ้งไร้ค่ากับการนั่งเฉย ๆ มองดูวัตถุที่อยู่ไกลตัว แต่ถ้าเมื่อใดที่คุณไม่มีอะไรต้องทำอีก ขอชวนให้ลองหาเวลาไปนั่งมองท้องฟ้าบ้างสักครั้งหนึ่ง แล้วคุณจะได้สัมผัสอะไรบางอย่างที่อาจจะลืมไปแล้วว่ามันมีอยู่ในตัวเองทุกคน สิ่งนั้นฉันอยากจะเรียกมันว่า การกลับมาอยู่กับตัวเองที่ “บ้าน” ภายในใจ
“บ้าน” คือที่พำนักทางใจอย่างที่หวังให้เป็นคือแบบไหน? บ้านที่เรารู้สึกสงบสุขเมื่อ “พึ่ง พิง และ พัก” กับมันเพียงลำพังได้ บ้านที่ทำให้อิ่มเสมอเมื่อใจหิว บ้านที่ให้ความรู้สึกร่มเย็นหรือร้อนรุ่มเมื่อได้เดินทางเข้าสู่อาณาเขตของมัน หรือบ้านที่แสดงถึงความเป็นตัวตนอันยิ่งใหญ่และสำคัญของเจ้าของบ้าน บ้านแบบไหนที่เราอยากจะอาศัยอยู่ในร่างกายนี้? และที่สำคัญ คนที่อยู่เคียงใกล้ใน “บ้าน” กับเราด้วยเขาเป็นคนในแบบที่เราอยากให้เป็นหรือเป็นคนในแบบที่เขาเป็น? ฉันอยากจะโยนคำถามพวกนี้ไปให้พระจันทน์ ถ้าได้ไปยืนมองท้องฟ้าในคืนเพ็ญอีกรอบ (แต่ถ้ามีเสียงตอบกลับมาเป็นหมาหอน ก็ปิดไฟเข้านอนกันเถิดนะคะ)
วันนี้คุณหา “บ้าน” ของตัวเองเจอกันหรือยังคะ? หากเจอแล้วฉันยินดีด้วย แต่ถ้ายังไม่แล้วละก็… ขอส่งกำลังใจและความปรารถนาดีไปให้คุณได้พบและเข้าพักในสักวัน อาจจะมีบางคนคิดอยากจะถามว่าแล้วฉันล่ะ เจอบ้านของตัวเองแล้วหรือยัง? เหมือนจะเจอแล้ว แต่ยังไม่ได้เข้า “บ้าน” เลยค่ะ มัวแต่มองหาพระจันทน์อยู่หน้าประตู
- READ ฮังเล...ขาประจำที่กำลังจะหายไป
- READ พิษงู
- READ คนปล่อยหมา
- READ ชมจันทน์ยามดึก
- READ ลำพู กู้ไว้ไม่ให้จม
- READ รวมกันเราอยู่
- READ หลีกหน้าให้พ้นน้ำ
- READ ลมใต้ปีก
- READ ความทรงจำหล่นบนพื้นดิน
- READ ห้วงเวลาแห่งการรอคอย
- READ ความสะอาดหลังน้ำท่วม
- READ หัวใจอยู่ในอากาศ
- READ หากินตามแสงไฟ
- READ ระลึกถึงรักแรกพบ