
ตรวนใบจาก บทที่ 14 : ใบจากในรอยจำ
โดย : ฉาย แสงเพชร
ตรวนใบจาก รางวัลรองชนะเลิศโครงการอ่านเอาก้าวแรกปี 5 โดย ฉาย แสงเพชร เกษตรกรจาก จ.ตราด ผู้ฝันอยากเป็นนักเขียนแนวท้องถิ่นที่ได้พลิกบทบาทจากงานเขียนเชิงวิชาการมาสู่การเขียนนวนิยายแนวแฟมิลี่ดราม่ากับเรื่องราวของอาชีพลอกใบจากและชีวิตที่เป็นปริศนาของคุณยายคนหนึ่ง เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามกันได้ในเว็บไซต์อ่านเอา
“มาหาใครกัน มา นั่งก่อนๆ”
ชายชราวัยเดียวกับลุงกำจร แต่ดูผอมและผิวคล้ำกว่าร้องทักมาจากแคร่หน้าบ้านเมื่อเห็นจักรวาลกับโบตั๋นเดินเข้าไป ข้างกายของแกมีท่อนเหมือนกระบองสีเขียวเข้มวางอยู่ 2-3 ท่อน ในมือแกถืออยู่ท่อนหนึ่ง มืออีกข้างถือมีดเล่มใหญ่ เหมือนเตรียมพร้อมจะสับท่อนสีเขียวนั้นให้เป็นชิ้นๆ
“ลุงทิ้งใช่ไหมครับ ผมจักรวาล หลานของป้ากิมเหมย ส่วนนี่ โบตั๋น ลูกสาวคนเดียวของอากิมหลิวครับ”
ชื่อกิมหลิวดูจะมีผลต่อชายชราผู้นั้นมาก แกวางมีดในมือลง รับไหว้ผู้มาเยือนทั้งคู่ พลางมองหญิงสาวอย่างพิจารณา “ลูกสาวกิมหลิวเรอะ มีเค้าอยู่นะนี่ แม่สบายดีหรือ”
“เสียแล้วค่ะ เพิ่งเผาไปเมื่ออาทิตย์ก่อน พอดีได้ข่าวยายไม่สบายก็เลยลงมาเยี่ยม”
คำว่าเสียแล้วทำให้ชายเจ้าของบ้านอึ้งไป แกหันมาซักไซ้โบตั๋นถึงเรื่องราวของกิมหลิวเป็นการใหญ่ ก่อนจะถอนหายใจ รำพึงกับตัวเอง
“เฮ้อ โลกไม่เที่ยงจริงๆ หลิวอ่อนกว่าลุงตั้งหลายปีกลับไปก่อนลุงเสียได้ ทีลุงรถล้ม นอนโรงพยาบาลเป็นเดือนกลับรอด รู้ไหม ในบรรดาน้องคนละพ่อของลุง มีกิมหลิวนี่ละ ที่เห็นลุงเป็นพี่จริงๆ ไม่ทำตัวแปลกแยกเหมือนคนอื่น”
ชายชราพูดพลางหยิบมีดขึ้นมาเฉาะลงบนท่อนสีเขียวที่แกถืออยู่ตอนแรก แผ่นแข็งๆ สีขาวอมเขียวร่วงลงมาทีละใบๆ โบตั๋นจ้องเขม็งอย่างสนใจ
“นั่นอะไรหรือคะ ลุง”
“ยอดจากอ่อน ที่ลุงเลาะออกมานี่ ก็ใบจากอ่อนๆ ไงหนู เดี๋ยวลุงจะเอามาคลี่ แล้วเอาไปตากเหมือนอย่างตรงโน้น” พูดพลางชี้ไปทางใบไม้แห้งๆ ที่ร้อยเป็นพวงแขวนผึ่งไว้ ซึ่งสะดุดตาเธอเมื่อแรกเห็นนั่นเอง
“ลุงยังสูบใบจากอยู่หรือครับ” จักรวาลพูดพลางหยิบใบจากอ่อนที่ถูกเลาะออกมา จับคลี่ออกอย่างคุ้นเคย อย่างที่เคยเห็นผู้ใหญ่ทำให้ดูในวัยเด็ก
“ไม่สูบแล้วละ แต่ว่างๆ ไปเจอยอดจากอ่อนก็อดตัดมาลอกไม่ได้ มันอาชีพเก่าของลุงนี่นะ มันมีเรื่องราวหลายอย่าง ทั้งสุข ทั้งทุกข์ ที่ถูกร้อยเรียงไว้ด้วยใบจากพวกนี้ อ้อ นั่น พ่อหนุ่มยังทำเป็นรึ นั่น ยังงั้นแหละ คลี่เอาด้านที่มีนมออกมา เอ้านี่ ไม้กลัด”
ชายชราเลื่อนชามใส่ไม้กลัดมาให้ ไม้กลัดในนั้นทำมาจากก้านใบจากแห้งที่ถูกเลาะทิ้งในขั้นตอนต่อไป จักรวาลหยิบไม้กลัดขึ้นมากลัดให้ใบจากชนกันเป็นวง โบตั๋นเพ่งพินิจอย่างสงสัย
“ตรงไหนคือนมใบจากหรือคะ”
ชายชรายิ้มอย่างเอ็นดู มือหยิบใบจากที่ยังไม่คลี่ใบหนึ่งขึ้นมาตรงหน้า “ดูนี่นะหนู นี่คือใบจากอ่อน รูปร่างมันคล้ายใบมะพร้าวพับครึ่งอย่างนี้แหละ พอแก่เต็มที่มันถึงจะแผ่ออกอย่างที่เห็นตามริมคลอง ที่แข็งๆ นี่คือก้านของมันแบบเดียวกับก้านมะพร้าว แต่กับใบจากจะเรียกกันว่ากระดูก เห็นไหม มันจะเรียบไม่มีขุยอะไรเลย พอแงะอีกด้านให้เปิดออกมา ข้างในตรงก้านมันจะมีขุยสีน้ำตาลอยู่เยอะ เห็นไหม ขุยนี่แหละ เขาเรียกนม เวลาเราจะเอาใบตากไปผึ่งในแห้ง ก่อนจะลอก เราก็ต้องคลี่ออกมา ให้ด้านที่มีนมแผ่ออกเต็มที่ ยังงี้ แล้วจับหัวท้ายมาชนกัน กลัดไว้ให้อยู่ อย่างนี้”
โบตั๋นทดลองทำตาม แม้จะทุลักทุเลบ้าง แต่ก็ทำได้สำเร็จ เธอยกใบจากที่เป็นวงแล้วนั้นชูให้ชายชราดู “พอได้แบบนี้แล้ว เอาไปทำอะไรต่อคะลุง”
“ก็ต้องเอาไปตากให้มันแห้งหรือเกือบแห้ง ใบจากสดลอกเยื่อออกยาก แต่ถ้าเป็นวงเดี่ยวๆ แบบนี้เวลาเก็บจะเก็บยากใช่ไหม ก็ต้องเอามาร้อยเข้าด้วยกัน แบบของพลิ้วน่ะ เขาร้อยกันสองแบบนะ ดูสิ”
ด้วยความคล่องแคล่ว ชายเจ้าของบ้านหยิบใบจากอ่อนที่เฉาะไว้มาคลี่แล้วทำเป็นวงอย่างรวดเร็ว แบบแรกที่ทำให้ดู พอทำเสร็จเขาจะเอาวงใบจากคล้องใส่แขนไว้ก่อน แล้วหยิบอันถัดไปขึ้นมาทำ ทำแบบนี้จนได้สี่อัน พออันที่ห้า เขาจะเอาไปคล้องทั้งสี่อันที่แขนไว้ด้วยกันก่อนจะกลัดปลาย พอเสร็จ จึงเห็นเป็นวงใบจากอันหนึ่ง ที่มีวงใบจากเดี่ยวๆ สี่อันห้อยอยู่แบบพวงกุญแจ อีกแบบหนึ่ง เขาจะนำวงใบจากอันใหม่คล้องกับวงใบจากอันเดิม แล้วก็คล้องกับอันใหม่ไปเรื่อยๆ แบบสายโซ่ พอได้ห้าวงต่อสายก็หยุด
“แบบนี้น่ะ มันเหมาะสำหรับการแขวนไว้ตามที่สูงๆ น่ะ พอได้หลายๆ สายก็เอาก้านจากอ่อนๆ มัดรวมเข้าด้วยกันแล้วก็เอาไปตากแดดหรือผึ่งลม แล้วแต่มีแดดมากหรือน้อย พอหมาดๆ เกือบจะแห้งก็เอามาลอก” พูดพลางเหลือบมองไปทางพวงใบจากที่ตากแดดอยู่ “พวงนั้นน่าจะพอลอกได้แล้วนะ พ่อหนุ่มไปเอามาให้ลุงถี (1)”
จักรวาลรีบลุกไปโดยเร็ว ดูเหมือนเขาเองก็นึกสนุกกับการทบทวนถึงสิ่งที่เขาเห็นจนชินตาเมื่อเด็กและไม่มีแล้วในปัจจุบัน เมื่อเขาถือพวงใบจากมาถึง ชายเจ้าของบ้านคว้าใบจากนั้นมาแกะไม้กลัดออก รีดให้เรียบ แล้วส่งให้โบตั๋นดูใบหนึ่ง
“เห็นไหม ใบจากตอนนี้มันยังเอาไปมวนยาเส้นไม่ได้ มันยังแข็งตรงกระดูกกับขอบข้างทั้งสองด้าน อย่างแรก เราต้องเลาะกระดูกมันออกก่อน ดึงใบจากสองข้างให้ตึงแล้วใช้นิ้วชี้ค่อยๆ แซะและกดกระดูกให้หลุดออกจากใบ ระวังอย่าให้เยื่อขาด ตรงไหนเยื่อตรงกระดูกขาดก็ต้องตัดทิ้งไป เห็นไหม ไม่ยาก ลองทำกันดูไหม”
เพียงชั่วครู่เดียว มือที่ชำนาญนั้นลอกเอากระดูกออกจากใบจากได้โดยที่ไม่มีรอยขาดกลางเลยสักนิดเดียว ดูเหมือนมันง่ายมาก แต่พอรับใบจากแห้งจากลุงบุญทิ้งมาลองลอกดู โบตั๋นถึงกับเหงื่อตก มือของเธอที่นิ่งมากเวลาสอนนักศึกษาใช้ปิเปตหรือบิวเรต (2) กลับสั่นเมื่อต้องมาจับใบจากเพื่อเลาะกระดูก ผลงานชิ้นแรกของเธอนั้น เยื่อตรงกระดูกขาดออกทั้งหมด จนใบจากแยกจากกันเป็นสองซีก ผลงานของจักรวาลก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่เขายังมีช่วงที่ติดกันบ้างเป็นช่วงสั้นๆ แต่ก็ไม่พอที่จะใช้งานได้ ชายชรายิ้มอย่างเอ็นดู หยิบใบจากแห้งส่งให้อีกอย่างไม่เสียดาย
“หัดทำใหม่ๆ ก็เป็นอย่างนี้ทุกคนแหละ ลองอีกซี ทำได้แล้วจะรู้ว่าไม่ยาก”
คำว่าไม่ยากดูจะห่างไกลมากสำหรับโบตั๋น เธอทำอีกสี่ใบแต่ก็ทำได้ดีที่สุดเท่าผลงานชิ้นแรกของจักรวาลเท่านั้น จักวาลเสียอีก พอเขาทำมาถึงใบที่สี่ที่ห้า เขาก็จับเคล็ดได้ ลอกกระดูกออกจนสภาพใกล้เคียงกับที่ลุงบุญทิ้งทำ แกหยิบใบจากที่แกลอกกระดูกออกแล้วให้โบตั๋นดู
“พอเอากระดูกออกแล้ว ทีนี้เหลือแต่ขอบที่แข็งใช่ไหม ทีนี้เราก็ใช้มีดสะกิดออก แล้วเอาเยื่อขาวๆ ตรงนี้ออกไป ใบจากตรงข้างๆ นี่ก็จะนิ่ม มวนง่าย เยื่อขาวๆ ที่ลอกออกนี่ เขาเรียกขี้ใบจาก พอลอกเอาขี้ออกหมดแล้วก็เอามาเทียบๆ กันแบบนี้ แล้วก็ตัดเป็นชิ้นๆ ให้เท่ากัน เมื่อก่อนจะทำมีดแบบยกขึ้นยกลงได้ไว้ตัดให้มันเท่ากันทั้งหมด ตอนนี้ไม่มีแล้ว ลุงก็กะๆ เอา”
ชายเจ้าของบ้านทำท่าประกอบคำอธิบายอย่างคล่องแคล่ว แกนำใบจากที่ลอกแล้วมาวางซ้อนๆ กัน แล้วตัดเป็นท่อนๆ หยิบใบจากที่ตัดแล้วมาทำท่ามวนให้ดู โบตั๋นหยิบใบจากที่หั่นแล้วมาพินิจ แล้วอดคิดไม่ได้ นี่เองกระมังที่เขาบอกว่าการมีอยู่ของต้นไม้ชนิดหนึ่งนั้น ไม่ใช่แค่การดำรงอยู่ของระบบนิเวศเท่านั้น แต่มันหมายถึงการคงอยู่ของวัฒนธรรมด้วย การสูญหายไปของใบจาก มันเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนไปมากอย่างไม่น่าเชื่อ อาชีพที่เคยเป็นลมหายใจหนึ่งของที่นี่ เหลือเพียงในความทรงจำของคนสูงวัยเท่านั้น
เหมือนลุงบุญทิ้งจะรู้ถึงสิ่งที่โบตั๋นคิด เขาเล่าถึงชีวิตในอดีตของเขาในยุคที่ใบจากยังเป็นอาชีพของผู้คนอยู่ให้ฟังต่อ “เมื่อก่อน ตกเย็นก็หอบใบจากมานั่งลอกใบจากกันเป็นกลุ่มๆ ลอกไป คุยกันไป สนุกดี กองขี้จากนี่มันนิ่มนะ หน้าหนาวๆ เด็กๆ รอพ่อแม่ลอกใบจากก็จะนอนบนกองขี้จากนี่แหละ อุ่นดี เคยมีคนเจ็บท้องคลอดตอนลอกใบจากด้วยนะ ก็คลอดบนกองขี้จากนั่นแหละ เด็กคนนั้นเลยชื่อใบจาก”
น้ำเสียงของชายเจ้าของบ้านสะดุดลงเมื่อชื่อใบจากหลุดออกมาจากริมฝีปาก เหมือนมีความหลังฝังใจกับคนชื่อนี้ จักรวาลรีบถามทันที
“ใช่คนที่ชื่อใบจากที่ป้าเหมยเล่าว่าเป็นเพื่อนลุงหรือเปล่า”
ชายชราเพียงพยักหน้าแทนคำตอบ สนใจกับใบจากที่กำลังลอกตรงหน้า ไม่ช่างคุยเหมือนเดิม โบตั๋นจึงพูดขึ้นบ้าง
“ลุงคะ ลุงพอรู้เรื่องราวของยายตอนที่แกยังสาวๆ อยู่บ้างไหมคะ ตอนนี้ยายป่วยแล้วเพ้อถึงเรื่องสมัยนั้นมาก พาลเรียกหนูกับจักรเป็นกิมบ๊วยกับใบจากไปโน่น บางเรื่องป้าเหมยกับลุงเต้งก็ไม่รู้”
“ชีวิตแมะน่ะ ตอนสาวๆ แกลำบากจะตาย มาสบายเมื่อมาเป็นสะใภ้เจ๊ก แต่พอแกสบายแล้ว แกก็กลายเป็นคนใจดำไปอย่างเหลือเชื่อ เอาเถอะ ถ้าอยากฟัง ลุงจะเล่าให้ฟัง”
ตั้งแต่ลุงจำความได้ เพ่าะกับแมะก็แยกกันอยู่แล้ว ลุงอยู่กับตายายที่หนองชิ่มมาตั้งแต่เด็ก ลุงรู้จากที่ตากับยายเล่าให้ฟังว่าแมะไปแต่งงานใหม่ อยู่ที่พลิ้วกับครอบครัวใหม่ ส่วนเพ่าะก็ยังอยู่ที่หนองชิ่ม ในวัยเด็กนั้น เขาเห็นหน้าพ่อแท้ๆ ของตนเองบ่อยกว่าแมะเสียอีก เพ่าะมักมาที่บ้านตากับยาย ถามหาแมะอยู่บ่อยๆ ตากับยายก็จะบอกปัดไปว่าแมะของเขาไม่เคยกลับมาเยี่ยมบ้านเลย (แม้ที่จริงจะมาปีละครั้ง) พอถามจากตาและยายไม่ได้ความ เพ่าะก็จะหันมาซักไซ้จากเขา ซึ่งเขาก็ต้องบอกตามที่ตากับยายสอนว่าแมะไม่เคยมาหาเลย ซึ่งตากับยายก็ให้เหตุผลกับเขาเพียงว่าอย่าทำให้ชีวิตแมะมีปัญหาอีก และอย่าไปสุงสิงกับเพ่าะมากนัก เพราะเพ่าะเป็นคนไม่ดี
อย่างไรก็ตาม ในวัยเด็ก เขาเฝ้ารอวันที่แมะกลับมาเยี่ยมมากกว่าเพ่าะ เพ่าะมาครั้งใดก็มาตัวเปล่า บางทีก็เมาเหล้าจนพูดแทบฟังไม่รู้เรื่อง การมาของแมะหมายถึงว่าเขาจะได้ของฝาก ขนมบ้าง เสื้อผ้าบ้างจากแมะ แมะยังให้เงินกับตายายซึ่งจะทำให้ความเป็นอยู่ในบ้านดีขึ้นระยะหนึ่ง ส่วนพ่อเลี้ยงของเขาที่ว่าเป็นคนจีนนั้น เขาไม่เคยเห็นหน้าเลย เขาไม่เคยมาบ้านตายายที่หนองชิ่ม ใครๆ ก็เล่าให้เขาฟังว่าพ่อเลี้ยงเขาเคยมาหนหนึ่งตอนที่มาแต่ง แต่เขาก็เด็กเกินกว่าจะจำได้ ต้องรอจนกว่าแมะมารับเขาไปอยู่ด้วยที่พลิ้ว เขาจึงเห็นภาพถ่ายของพ่อเลี้ยงที่นั่น เขาเคยแอบได้ยินแมะคุยกับยายเกี่ยวกับพ่อเลี้ยงของเขาเป็นบางครั้งเมื่อเขาโตแล้ว
“ฉันคงต้องฝากแมะดูแลเจ้าทิ้งไปแบบนี้ คงพาไปอยู่ด้วยที่พลิ้วไม่ได้ เขา…คงไม่ชอบใจนัก”
“แมะเข้าใจถึงความลำบากใจของเอ็ง เอาไว้ที่นี่แหละ ไม่เป็นไรหรอก อย่าให้เป็นเรื่องหึงหวงกันขึ้นมาน่ะดีแล้ว ที่นี่ไม่จำเป็นเอ็งก็อย่ามาบ่อยนัก ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา ใช่แต่เจ้าทิ้งจะลำบาก ลูกเอ็งทางโน้นก็จะลำบากไปด้วย”
แต่พอช่วงที่เขาอายุแปดเก้าขวบช่วงนั้น เหมือนว่าแมะเพิ่งจะคลอดลูกคนล่าสุดได้ไม่นาน น่าจะเป็นเจ้าเต้ง ตาก็ป่วย อาการไม่สู้ดีนัก ทำให้แมะต้องแวะเวียนมาหนองชิ่มบ่อยขึ้นเพราะเป็นห่วงตา ตอนที่แมะกลับไปที่พลิ้ว จะไปมีปัญหากับพ่อเลี้ยงหรือเปล่าเขาไม่รู้ แต่ที่หนองชิ่มมี เมื่อแมะกลับมาบ่อย ข่าวก็ไปเข้าหูเพ่าะ และมาดักเจอแมะที่บ้านตายายแทบจะทุกครั้งที่แมะมา เจอหน้ากันทีไรก็ทะเลาะกันทุกที เขาหาโอกาสมาแอบฟังทุกครั้ง อดอยากรู้ไม่ได้ว่าทำไมเพ่าะกับแมะถึงเลิกกัน ถ้อยคำในครั้งนั้น แม้จะไม่เหมือนเดิมทุกคำ แต่เขายังจำใจความสำคัญได้มาจนถึงทุกวันนี้
“ฉันบอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้ ผีพนันอย่างพี่ มีเงินก็เอาไปลงบ่อนหมด”
“พี่เลิกเล่นแล้วน่า สีไพล เชื่อพี่เถอะ ตอนนี้พี่ลำบากจริงๆ”
“ฉันไม่มี”
“โธ่ สีไพล ขอเงินให้พี่หน่อยไม่ได้หรือ เดี๋ยวนี้ไปได้ผัวใหม่เป็นเถ้าแก่แล้วนี่ จะไม่มีเงินติดตัวเทียวรึ” “ฉันไม่มีเงินทองอะไรทั้งนั้น ฉันมาเยี่ยมเพ่าะ จะพกเงินมาทำไม”
“อย่าทำให้พี่โมโหนะสีไพล จะเหนียวไปถึงไหน ถ้าไม่อยากให้ผัวเจ๊กรู้ก็เอาเงินมา”
“ไปให้พ้นเลยนะ พี่เพิ่ม เลิกกันก็คือเลิกกัน อย่ามาทำให้ฉันเดือดร้อน ไม่งั้นฉันไม่ปล่อยพี่ไว้แน่”
“นี่เอ็งคิดจะฆ่าพี่ยังงั้นหรือ สีไพล คอยดู ถ้าเอ็งทำ พี่จะรังควานครอบครัวเอ็งให้ถึงที่สุด”
เชิงอรรถ :
(1) ถี =ที
(2) อุปกรณ์ทางเคมีใช้สำหรับตวงสารปริมาณน้อยและใช้ในการหาปริมาณสารด้วยวิธี Titration
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 24 : เรื่องเล่าของยายสีไพล
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 23 : ห้องเลี้ยงผี
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 22 : กุญแจบ้านเดิม
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 21 : ค่ำคืนนั้น
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 20 : ลงบันไดสามขั้นเป็นคนอื่น
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 19 : ความคับแค้นของโบตั๋น
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 18 : กลับมาก่อน...กิมบ๊วย
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 17 : ลูกแม่!
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 16 : ความตายของใบจาก
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 15 : ความตายของบุญเพิ่ม
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 14 : ใบจากในรอยจำ
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 13 : เรื่องเล่าของฉลอง
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 12 : คำลือที่บ้านเก่า
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 11 : ความเสียใจของสีไพล
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 10 : ข้อสงสัยของโบตั๋น
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 9 : ความรักของจักรวาล
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 8 : เรื่องเล่าของจักรวาล
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 7 : แตกร้าว
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 6 : เรื่องเล่าของกิมเต้ง
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 5 : ชีวิตคู่ของกิมเหมย
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 4 : เรื่องเล่าของกิมเหมย
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 3 : ผู้ชายคนใดชื่อใบจาก
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 2 : ผู้หญิงคนใดชื่อกิมบ๊วย
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 1 : ฤดูมรสุม
- READ ตรวนใบจาก บทนำ : ผู้ซ่อนกายในความมืด