ก่อนย่ำสนธยา บทที่ 9 : พลาดพลั้ง (1)

ก่อนย่ำสนธยา บทที่ 9 : พลาดพลั้ง (1)

โดย : สัมพันธ์ สุวรรณเลิศ

Loading

ก่อนย่ำสนธยา โดย สัมพันธ์ สุวรรณเลิศ เจ้าของรางวัลรองชนะเลิศจากโครงการอ่านเอาก้าวแรก รุ่นที่ 3 ที่มาพร้อมเรื่องราวของหญิงวัยเกษียณที่ต้องพบบททดสอบแห่งชีวิต โดยเฉพาะเมื่อเธอมาเสียท่าให้มิจฉาชีพในคราบญาติมิตร เธอจะพลิกฟื้นให้กลับมามาดมั่นในตัวเองได้หรือไม่ พบคำตอบได้ใน anowl.co

วันคืนผ่านไปอย่างเชื่องช้า จนครบกำหนดนัดของคุณหมอโรคเบาหวาน วันนี้ละ ยายนันท์จะได้ประจักษ์ความจริงเสียทีว่า การที่ฉันท่องโลกออนไลน์ก็ยังพอมีประโยชน์ เพราะอย่างน้อยฉันก็หายจากโรคเบาหวานด้วยเครื่องดื่มสูตรพิเศษที่ได้มาจากการท่องโลกออนไลน์

ฉันเจาะเลือดและรอฟังผลอย่างกระตือรือร้นผิดไปจากครั้งก่อนๆ วันนี้ละฉันจะได้ประกาศอิสรภาพจากยาและคุณหมอ…

“คุณกุนตี คิวหมายเลขห้า เชิญพบคุณหมอค่ะ” ฉันลุกขึ้นเดินอย่างกระฉับกระเฉงนำหน้ายายนันท์เข้าห้องตรวจ

ฉันยิ้มร่ารอคำชมเชยและข่าวดีจากคุณหมอประมาณว่า ‘คุณกุนตีไปทำอะไรมาครับ อาการของโรคเบาหวานหายแล้วนะครับ คุณดูแลสุขภาพได้เยี่ยมมากเลยครับ จากนี้ไปไม่ต้องกินยาอีกแล้ว’

แต่สิ่งที่ฉันหวังให้คุณหมอถามนั้น คุณหมอกลับพูดเพียงครึ่งเดียวว่า “คุณกุนตีไปทำอะไรมาครับ…” จากนั้นคุณหมอก็ก้มหน้าลงอ่านรายงานผลการวิเคราะห์ในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาล ก่อนทำสีหน้าหนักใจแล้วพูดต่อว่า “…ค่าน้ำตาลในเลือดสูงกว่าผลการตรวจครั้งก่อนเป็นเท่าตัว…” คุณหมอหันมาทางยายนันท์แล้วพูดต่อว่า “…ไม่ทราบว่าควบคุมอาหารของผู้ป่วยดีไหมครับ”

“ควบคุมดีนะคะ…” ยายนันท์ควักรายการอาหารของฉันที่จดอย่างละเอียดทั้งชนิดและปริมาณที่กินส่งให้คุณหมอพิจารณา

“จากรายการอาหารก็ไม่น่าทำให้ค่าน้ำตาลสูงขึ้นได้ขนาดนี้นะครับ ถ้าไม่ใช่เพราะอาหารก็ต้องตรวจหาสาเหตุใหม่อย่างละเอียด” คุณหมอพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด

ยายนันท์หันมาพูดกับฉันว่า “นอกจากรายการอาหารที่จดมานี่ ระหว่างที่นันท์ไม่อยู่แม่กินอะไรนอกเหนือไปจากนี้ไหมคะ”

ฉันนิ่งไม่ตอบ ลูกจึงหันไปพูดกับหมอว่า “คงต้องรบกวนคุณหมอตรวจหาสาเหตุโดยละเอียดแล้วละค่ะ”

“เอ่อ… คุณหมอคะ นอกจากรายการอาหารที่จดมา ดิฉันยังดื่มเครื่องเพื่อสุขภาพอีกหนึ่งแก้วทุกเช้าคะ…เพิ่มนอกเหนือจากรายการมาแค่นั้นจริงๆ” ฉันสารภาพเสียงอ่อย

ฉันสาธยายส่วนประกอบของเครื่องดื่มสุขภาพ เมื่อคุณหมอได้ฟังก็ร้องว่า “โอ้…แบบนี้ไม่ใช้เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานแล้วครับ น้ำตาลสูงขนาดนั้นทั้งโยเกิร์ตสูตรปกติ น้ำผึ้ง ไซรัป ดื่มติดต่อกันมาตั้งสามเดือนแบบนี้ น้ำตาลในเลือดจะไม่สูงได้ยังไงครับ แล้วนี่ไปเอาสูตรมาจากไหนครับ ใครแนะนำ”

“ดิฉันเห็นเขาแชร์ในอินเทอร์เน็ตคะ เขาบอกว่ามีผลการวิจัยรับรองด้วยนะคะ” ฉันตอบเสียงอ่อย

คุณหมอส่ายหน้า “หมอสั่งงดเด็ดขาดนะครับ เลิกดื่มทันที ส่วนรายการอาหารที่จดมา หมอเห็นว่าควบคุมได้ดีแล้ว ครั้งนี้หมอจะเพิ่มยากินให้ก่อนนะครับ หากคราวหน้าค่าน้ำตาลยังไม่ลดลงก็จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นฉีดอินซูลินแทนนะครับ”

ฉันยกมือไหว้ลาหมอ ท่าทางตอนออกจากห้องตรวจช่างต่างไปจากตอนเข้าไปราวฟ้ากับเหว

ลูกคงขัดเคืองใจอย่างมาก “นันท์จะคุมอาหารแม่ไปทำไม ในเมื่อแม่ไม่เคยเชื่อนันท์เชื่อหมอเลย ไปเชื่ออะไรเหลวไหลที่แชร์ในโลกออนไลน์ แล้วเรื่องนี้ก็ยิ่งย้ำนะว่าแม่ไม่เหมาะที่จะใช้สื่อสังคมออนไลน์ เพราะแม่ไม่สามารถคัดกรองข้อมูลได้เลยว่าอะไรน่าเชื่อถือ อะไรไม่น่าเชื่อถือ เป็นอันว่านันท์ขอยึดสมาร์ตโฟนของแม่ไว้ต่อแล้วกันค่ะ จนกว่าแม่จะควบคุมค่าน้ำตาลในเลือดและความดันได้อยู่ในระดับปกติ แล้วนันท์จะคืนให้”

จนแล้วจนรอด ยายนันท์ก็ไม่คืนโทรศัพท์ให้ฉัน เมื่อไม่มีโทรศัพท์ก็เหมือนโลกที่กว้างไกลของฉันสะดุดลง

“น้องนันท์ทำเหมือนพี่กุนเป็นเด็กๆ เลยนะคะ เอะอะก็ยึดโทรศัพท์ คุมความประพฤติ”

“ยายนันท์คงคิดว่าโทรศัพท์ของพี่เป็นรีโมตปล่อยอาวุธทำลายล้างโลก” ฉันพูดประชด

“ทำไมพี่กุนไม่ซื้อเครื่องใหม่เองล่ะคะ ราคาไม่กี่บาทเอง”

“ยายนันท์ขู่พี่ว่า ถ้าพี่แอบไปซื้อเครื่องใหม่มาใช้เอง มันกับตานะจะรวมหัวกันตัดค่าขนมพี่ เงินตั้งสองหมื่นเลยนะธารี พี่เลยต้องยอมไง” ฉันตอบ

“พี่กุนคงเบื่อแย่เลย งั้นเรามาดูโทรทัศน์แก้เบื่อกันดีกว่าคะ” ธารีชวน

สำหรับคนวัยฉันแล้วหากมองย้อนไป โทรทัศน์แทบจะเป็นสื่อบันเทิงเดียวที่มีและได้รับความนิยมมาโดยตลอด ฉันเติบโตมาในยุคที่โทรทัศน์ออกอากาศเป็นคราวๆ ราวตลาดนัด มาถึงยุคที่วันราชการจะออกอากาศช่วงสี่โมงเย็นถึงเที่ยงคืน วันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ออกอากาศตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงเที่ยงคืน ไล่จนมาถึงวันปกติเริ่มออกอากาศเวลาบ่ายสอง แล้วก็กลายเป็นโทรทัศน์ที่ออกอากาศยี่สิบสี่ชั่วโมง จนถึงวันนี้ที่โทรทัศน์เปลี่ยนจากระบบอะนาล็อกเป็นระบบดิจิทัลที่มีช่องเพิ่มขึ้นมาให้เลือกดูอย่างหลากหลาย

ฉันเติบโตมาด้วยความมั่นใจว่าสื่อโทรทัศน์เป็นสื่อที่น่าเชื่อถือ เพราะมีการคัดกรองข้อมูลก่อนนำมาออกอากาศ ด้วยคงเป็นเพราะสมัยก่อนสถานีโทรทัศน์มีน้อยช่อง การแข่งขันทางธุรกิจจึงมีไม่มาก ดังนั้นทางสถานีจึงมีโอกาสที่จะคัดกรองรายการต่างๆ ก่อนนำมาออกอากาศอย่างเข้มงวด ด้วยความเชื่อถือนี้ฉันจึงให้ความมั่นใจในสาระและสินค้าต่างๆ ที่นำมาโฆษณาขายออกอากาศทางโทรทัศน์

ในแต่ละวันฉันสังเกตว่าในช่วงเช้าสถานีโทรทัศน์ทุกช่องจากเป็นรายการข่าว จากนั้นก็เป็นรายการจำพวกปกิณกะหรือที่เรียกว่ารายการวาไรตี้เสนอวิถีชีวิตที่กำลังเป็นที่นิยม เช่น อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว บริการแปลกๆ ใหม่ๆ และมักจะมีการนำเสนอสินค้าจำพวกอาหารเสริมดูแลสุขภาพ

“พี่กุนขา ดูอันนี้สิคะ เขาว่าช่วยบำรุงสุขภาพผู้สูงอายุให้กระฉับกระเฉงขึ้นค่ะ…พี่กุนขาอันนี้ช่วยบำรุงเข่า ข้อ และกระดูกเหมาะกับวัยอย่างพวกเรา… อันนี้ก็น่าสนใจค่ะ ผลิตจากสมุนไพรธรรมชาติตั้งหลายชนิดมีสรรพคุณช่วยลดน้ำตาลและความดันได้ด้วยนะคะ” ธารีชักชวนให้ฉันเลือกดูและตัดสินใจสั่งซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพเหล่านั้น

“มันดีจริงหรือธารี” ฉันไม่ค่อยมั่นใจ

“วุ้ย ถ้าไม่ดีเขาจะกล้าเอามาออกรายการโทรทัศน์หรือคะ” ธารีท้วง

“แต่พี่สั่งไม่เป็น จ่ายเงินไปก่อนจะถูกโกงไหม ไม่เหมือนการซื้อของตามตลาดนะธารี ได้ของมาแล้วจ่ายเงินไปแบบยื่นหมูยื่นแมว”

“ไม่ยากหรอกคะ เดี๋ยวนี้เขามีเก็บเงินปลายทาง ของมาถึงหน้าบ้านค่อยจ่ายเงิน ดีออกนะคะ ปลอดภัย มั่นใจได้ว่าไม่ถูกโกง แถมยังไม่ต้องร้อนออกไปหาซื้อเองด้วย มาคะ เดี๋ยวน้องลองโทรสั่งดู”

เพียงไม่นานบรรดาสินค้าที่เรียกว่าอาหารเสริมสุขภาพก็มากองรวมกันต่อหน้าฉัน ความกังวลเรื่องสุขภาพที่ถดถอยทำให้ฉันไม่เสียดายเงินจำนวนมากเท่าที่จะมีกำลังซื้อ ฉันหวังว่าจะมีสุขภาพที่แข็งแรง สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติสุข ที่สำคัญฉันไม่อยากให้ลูกหลาน เห็นว่าฉันเป็นคนแก่ที่ทำอะไรก็ไม่ได้ แม้แต่กระทั่งการดูแลตัวเอง

“ธารีทำไมของมันมากเสียอย่างนี้” ฉันถามเมื่อเห็นสินค้าที่สั่งไป

“เป็นโปรโมชันค่ะพี่กุน ยิ่งซื้อเยอะยิ่งราคาถูก อย่างกระปุกนี้สั่งซื้อหกขวดได้ในราคาลดพิเศษ แล้วยังแถมให้อีกสามขวดค่ะ มันเลยดูมากไปหน่อย”

“แล้วพี่จะกินทันหมดอายุหรือนี่”

“ไม่ต้องห่วงคะ สารสกัดคอลลาเจนบำรุงข้ออันนี้น้องเคยกินคะ ถ้าพี่กุนกลัวกินไม่ทันหมดอายุเดี๋ยวน้องช่วยกินค่ะ”

“ว่าแต่ของมากมายอย่างนี้ เอาไปซ่อนอย่าให้ยายนันท์เห็นนะ เดี๋ยวจะบ่นพี่อีก” ฉันกำชับธารี

“ได้ค่ะ น้องจะทยอยเอามาเสริมกับยาที่พี่กุนกินอยู่ปกติ รับรองน้องนันท์ไม่รู้แน่คะ…เราจะมาสุขภาพดีไปพร้อมๆ กันนะคะ”

จากนั้นมาอาหารเสริมนานาชนิดตกวันละหลายเม็ด ก็ถูกธารีทยอยรวมมากับแก้วใส่ยาที่ฉันต้องกินเป็นประจำ ฉันรีบกินอย่างไม่อิดออด เพราะกลัวลูกจะสังเกตเห็นปริมาณยาที่เพิ่มขึ้น แล้วความจะแตก กอปรกับความอยากมีสุขภาพแข็งแรง การอิดออดที่จะกินยาก็เป็นอันคลายไป

 

ในวันหยุดหนึ่ง พี่ติมาเยี่ยมฉันที่บ้าน พอธารีได้พบหน้าพี่ติก็มีท่าทีประดักประเดิด แล้วก็มาขออนุญาตฉันออกไปข้างนอก อ้างว่ามีธุระ ฉันนึกเดาไปเองว่าธารีคงยังโกรธพี่ติแทนฉัน จึงไม่อยากพูดคุยกับพี่ติ ฉันเห็นใจน้องจึงควักเงินในกระเป๋าให้สองพันแล้วบอกว่าน้องว่า “ถือว่าออกไปหย่อนใจ หาอะไรอร่อยๆ กิน แล้วค่ำๆ ค่อยกลับมาก็ได้” ธารีรับเงินแล้วก็ออกจากบ้านไปในทันที

พี่ติถามสารทุกข์สุกดิบฉันสักหน่อยหนึ่ง เห็นฉันอ่อนเพลียก็เกรงใจไม่ชวนคุยอะไรต่อ แล้วหันไปคุยกับยายนันท์แทน สองพ่อลูกเลี่ยงไปคุยกันที่สวนนอกบ้าน สักพักใหญ่ก่อนที่พี่ติจะเดินมาบอกลากลับไป

เมื่อพี่ติกลับไปแล้ว ฉันจะเลียบเคียงถามยายนันท์ว่าคุยเรื่องอะไรกัน แต่ยายนันท์ก็ไม่ตอบเสไปคุยเรื่องอื่นแทน

ตกค่ำธารีกลับมาสีหน้าดูแช่มชื่นขึ้น ในมือถือถุงหิ้วมาหอบใหญ่ ฉันเห็นน้องดูมีความสุขกว่าเมื่อเช้า “หอบอะไรกลับมาเสียเยอะเลย” ฉันทักน้อง

ธารีส่งถุงกระดาษใบหนึ่งให้ฉัน “ถุงนี้ของพี่กุนค่ะ”

ฉันเปิดดูของในถุงกระดาษ ข้างในเป็นชุดลำลองใส่อยู่บ้าน สินค้าของร้านดังจากอังกฤษที่มาเปิดสาขาในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ของไทย เนื้อผ้านุ่มระบายอากาศได้ดีน่าใส่

“ซื้อมาฝากพี่ทำไมออกจะตั้งแพง” ฉันถามน้อง

“ธารีไม่ได้ซื้อหรอกค่ะ ตาสืบเขาบอกว่าฝากมากราบป้ากุน”

“อุ้ย พี่ก็ลืมไปเลย รั้งเธอไว้กับพี่จนต้องห่างลูกมานานขนาดนี้”

“ไม่กุนไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ ปกติตาสืบก็ไม่ได้อยู่กับน้องอยู่แล้ว เขาทำธุรกิจกับเพื่อนน่ะค่ะ นี่ก็กำลังระดมทุนขยายกิจการใหม่อยู่” ธารีบอกเล่าเรื่องของสืบธารลูกชายคนเดียว

“แล้วไปเจอกันได้ยังไง” ฉันซักต่อด้วยความสนใจ

“บังเอิญมากเลยค่ะ น้องนั่งแท็กซี่ออกจากบ้าน ตาสืบก็โทรหาน้องบอกว่าคิดถึง น้องเลยนัดลูกไปพบกันที่ห้าง ตาสืบพาน้องไปกินข้าว ช็อปปิงเสียเพลินจนกลับมาค่ำอย่างนี้ละค่ะ น้องขอโทษนะคะที่ทำให้พี่กุนเป็นห่วง”

“ไม่เป็นไรหรอก พี่เข้าใจ” ฉันตอบ

“วันนี้น้องเดินช็อปปิงไป ก็คิดถึงพี่กุนไป อยากให้พี่กุนออกมาเปิดหูเปิดตาอย่างน้องบ้าง จะได้หายเบื่อ อยู่แต่บ้านวันๆ ไม่มีอะไรทำน่าเบื่อจะตาย…พี่กุนรู้ไหมคะ พอน้องบอกตาสืบว่าอยากให้พี่กุนมาเดินช็อปปิงด้วย ตาสืบบอกว่าจะวนรถมารับพี่กุนเลยละค่ะ แต่น้องห้ามไว้ เพราะเห็นว่าพี่ติมาที่บ้าน แล้วก็กลัวน้องนันท์จะไม่ยอมให้พี่กุนออกมา ตาสืบบอกว่าเห็นใจพี่กุนเลยหาของฝากมาให้พี่กุนแทนความคิดถึงนี่ละค่ะ”

“พี่ก็คิดถึงตาสืบนะ คิดถึงตอนที่ทั้งลูกๆ และหลานยังเด็ก พี่ต้องขับรถไปรับที่โรงเรียนทุกเย็น ดูสิเผลอแป๊บเดียวโตกันหมดแล้ว”

“ตาสืบก็อยากมากราบเยี่ยมพี่กุนเหมือนกันค่ะ แกบอกว่ายังจำถึงตอนสมัยเด็กๆ ได้ว่าป้ากุนใจดีกับแกแค่ไหน ทั้งพาไปกินไอศกรีม พาไปเที่ยวสวนสนุก”

“ถ้าตาสืบว่างก็มาเยี่ยมพี่ที่บ้านบ้างก็ได้” ฉันเอ่ยปากอนุญาต

“จริงหรือคะ ตาสืบรู้คงดีใจ เดี๋ยวก่อนนอนน้องจะโทรบอกลูกให้หาเวลามาเยี่ยมพี่กุนค่ะ”

 

ธารีหาโอกาสเล่าถึงการทำธุรกิจของสืบธารให้ฉันฟัง สืบธารเริ่มทำธุรกิจกับเพื่อนจากธุรกิจเล็กๆ จนเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ “น้องเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องธุรกิจของลูกเท่าไรหรอก สืบบอกว่าน้องเก่งไม่สู้ป้ากุนที่อยู่ในแวดวงการเงินและการบัญชี ต้องเข้าใจลักษณะธุรกิจของเขาแน่นอน น้องละแอบเคืองลูกที่ว่าน้องไม่รู้เรื่อง แต่พอเขาอธิบายน้องก็ไม่รู้เรื่องจริงๆ แหละค่ะ ไว้เขามาเยี่ยมพี่กุนค่อยถามเขาเองแล้วกัน”

สืบธารมาเยี่ยมฉันในอีกสามวันถัดมา หลานขับรถยุโรปหรูหรามาจอดที่หน้าบ้าน ตอนที่สืบธารมาเยี่ยมนั้นยายนันท์ก็ออกไปทำงานแล้ว ฉันถามสารทุกข์สุกดิบหลานด้วยความคิดถึง ตาสืบก็น่าเอ็นดูพร่ำพรรณนาถึงชีวิตวัยเด็กที่มีฉันค่อยดูแล

“ผมรักป้ากุนเหมือนแม่อีกคนเลยนะครับ” คำพูดของตาสืบทำใจของฉันพองโต ฉันรู้สึกดีใจไม่น้อยเด็กที่ฉันเคยดูแลมาตั้งแต่เล็กยังคงจดจำความสัมพันธ์ในอดีตระหว่างเราได้

“แม่บอกว่าพี่นันท์ไม่ได้พาป้ากุนออกไปไหนเลยหรือครับ” ตาสืบถามฉัน พร้อมก้มดูนาฬิกา ส่วนฉันก็พยักหน้าเนือยๆ ตอบรับ

“นี่ก็จะสิบเอ็ดโมงแล้ว ผมขอพาป้ากุนไปกินข้าวเที่ยงที่ห้างใกล้บ้านนี่ดีไหมครับ จะได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง กินเสร็จแล้วเราก็เดินช้อปปิ้งเล่นๆ ย่อยอาหารก่อนสักชั่วโมงสองชั่วโมง แล้วค่อยกลับบ้านมาก่อนพี่นันท์จะกลับดีไหมครับ” สืบธารชวนฉัน

“จะดีหรือสืบ ป้ายังเดินไม่คล่อง” ฉันอิดออดนิดหน่อย

“เดินไม่คล่องก็เอารถเข็นไปสิครับ ป้ากุนนั่งเดี๋ยวผมเข็นให้เอง วันนี้วันทำงานแล้วก็ยังเช้าอยู่ด้วยคนไปห้างไม่เยอะหรอกครับ ผมเห็นลูกๆ พาพ่อแม่นั่งรถเข็นไปช็อปปิงจนเป็นเรื่องปกติแล้วครับ ไปนะครับผมอยากให้ป้ากุนไปเปิดหูเปิดตาบ้างจะได้สดชื่นขึ้น”

ฉันหันหน้าไปขอความเห็นจากธารี น้องก็พยักเพเยิดสนับสนุนน

 



Don`t copy text!