เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 22 : มีเหตุให้ต้องงอน

เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 22 : มีเหตุให้ต้องงอน

โดย : กุลวีร์

Loading

เทพารักษ์ภัสดา โดย กุลวีร์ นวนิยายสนุกๆ ที่อ่านเอานำมาให้อ่านใน www.anowl.co กับเรื่องราวของเทพารักษ์ผู้มีสัตย์ว่าจะรักเพียงหนึ่ง ต้องลงมาใช้ชีวิตเยี่ยงมนุษย์เพราะหญิงสาวผู้เปลี่ยนหัวใจเขาตลอดกาล ภารกิจพิชิตใจจึงเริ่มต้น ท่ามกลางความวุ่นวายของเพื่อนบ้าน และบททดสอบของความรักที่ไม่ใช่แค่เรื่องบนเตียง

“เมื่อไหร่คุณยายจะหยุดก่อความวุ่นวายกับบ้านเพื่อนผมสักทีล่ะครับ”

คณิศรเป็นตัวแทนถามหญิงชราทันทีที่พากันมาเยือนบ้านหลังนี้

“ยายไปทำอะไรให้เหรอ” เจ้าของบ้านถามกลับด้วยหน้าตาไม่เข้าใจ

เมื่อเป็นผู้นำในการเจรจาจึงต้องเป็นคนตอบคำถาม

“คุณยายไม่รู้ตัวตอนทำลงไปหรือแกล้งทำเป็นไม่รู้ครับ” คนที่ทำทีเป็นมาดแมนอยากจะหัวเราะเหมือนนางอิจฉาในละครเต็มทน แต่ยังคงเก็บอาการไว้

ยายเอี่ยมมองผู้คนที่เข้ามาในบ้านจนที่ที่คิดว่ากว้างขวางกลับคับแคบลงถนัดตา หากยังนิ่งเฉยจนหล่อนต้องชี้แจงเพิ่มเติม

“มีขยะโยนเข้ามาในบ้านของแพรอีกแล้วค่ะ เมื่อวานก็มีเศษอาหารมาเทไว้หน้าบ้านด้วยค่ะ”

“เคยบอกแล้วไงว่าเรื่องขยะ ยายไม่ได้เป็นคนทำ”

“ถ้าคุณยายไม่ทำ ขยะจะตกมาทางกำแพงฝั่งบ้านคุณยายได้ยังไงคะ” ปรางหัวเราะในลำคอแล้วเอ่ยต่อ “หรือคุณยายจะบอกว่ามีคนอื่นปาเข้ามาจากบ้านตรงข้ามหรือหน้าบ้านล่ะคะ”

“ยายไม่รู้ด้วยสิ แต่ขยะพวกนั้นที่ถูกโยนเข้าไปหรืออยู่หน้าบ้านของนังหนู ไม่ใช่ฝีมือยาย”

“คุณยายพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกนะคะ พวกเราไม่ใช่เด็กๆ จะเออออไปตามคุณยายง่ายๆ แพรเชื่อในสิ่งที่เห็นค่ะ” แพรพิไลจ้องมองหญิงชราแล้วสรุปตามความคิดตัวเอง “ทุกเรื่องที่รบกวนจนสร้างปัญหาให้แพรก็มาจากบ้านของคุณยายทั้งนั้น”

“ยายยอมรับในสิ่งที่ยายทำ เรื่องเปิดทีวีเสียงดังหรือทำอะไรเสียงดังสักหน่อย แต่ยายทำไม่บ่อยหรอก ส่วนเรื่องขยะก็อย่างที่เคยบอก ยายไม่ได้ทำจริงๆ”

เขาไม่ต่างจากหล่อนที่พอจะรู้ว่ายายเอี่ยมยังมีเรื่องปกปิดกันไว้ซึ่งเกี่ยวข้องกับเสียงปริศนานั้น หากยังไม่ใช่เวลาที่ควรถามถึง

“ตกลงคุณยายจะไม่ยอมรับใช่ไหมครับ” คณิศรทำลายความเงียบที่ชวนอึดอัด

“ยายไม่ได้ทำอะไรผิด จะให้ยอมรับสิ่งที่คนอื่นทำไว้ได้ยังไง”

“แล้วทำไมถึงมีขยะถูกโยนมาทางฝั่งบ้านของคุณยาย ตอบมาสิคะ ถ้าตอบได้ พวกเราอาจจะเชื่อว่าคุณยายพูดจริง” ฝนพูดขึ้นบ้าง

ยายเอี่ยมส่ายศีรษะพลางเอ่ยเสียงค่อย “ยายไม่รู้”

เมื่อคาดคั้นยังไง หญิงชราก็ยืนกรานคำตอบเดิม

“เลิกพูดว่าไม่รู้ ไม่ทราบ ไม่เห็นสักทีเถอะค่ะ นี่ก็เสียเวลามามากแล้ว” แพรพิไลเริ่มไม่สบอารมณ์

“ยายพูดจริงๆ ยายพยายามบอกนังหนูให้รู้เหมือนคราวนั้นที่มาถามยาย แต่นังหนูก็ไม่ยอมมาคุยกันอีกเลย ทำตัวเหมือนต่างคนต่างอยู่ ยายก็อยู่ของยายแบบนี้ ยังดีที่มีพ่อหนุ่มมาคุยเป็นเพื่อนก็หายเหงาไปบ้าง” ยายเอี่ยมเหมือนจะเปลี่ยนประเด็น

คณิศรตบมือพลางเอ่ยเหน็บแนมราวกับรู้ทัน “คุณยายแสดงเก่งมากเลยครับ แต่ยังไม่เนียน พวกเราดูออก คุณยายยอมรับสักทีเถอะครับว่าเป็นคนทำ เรื่องจะได้จบ ที่มาคุยวันนี้แค่อยากให้รู้ว่าอย่าทำอีก ที่ผ่านมาเพื่อนผมก็ทนมานานแล้วครับ”

“ยายไม่ได้ทำ ยายไม่ได้โยนขยะพวกนั้นเข้าไป”

เมื่อหญิงชรายังปากแข็ง คนทั้งสี่จึงถอนหายใจเกือบพร้อมกัน ยกเว้นเขาที่ยืนรับฟังด้วยความนิ่งเฉย

เวธัสพอจะรับรู้ว่ายายเอี่ยมไม่ได้พูดปด

“พ่อหนุ่มต้องเชื่อยายนะ ยายไม่เคยไปยุ่งกับขยะในบ้านนังหนู ยายไม่ได้เอาขยะไปเทที่หน้าบ้านนังหนู” หญิงชรามองเขาซึ่งเป็นคนที่เคยพูดคุยเข้าใจกันดี

“คุณเทพอย่าไปฟัง คนแบบนี้คบไม่ได้ ถึงว่าทำไมต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียว” คณิศรรีบเข้าไปยืนบังเขาไว้ โดยไม่สนใจสีหน้าของเจ้าของบ้านที่สลดลง

“บางเรื่องยายทำ ยายก็ยอมรับ แต่บางเรื่องยายไม่ได้ทำ จะให้ยอมรับก็เกินไป”

“ทุกอย่างมันฟ้องชัดว่าคุณยายเป็นคนทำ จะให้แพรคิดว่าเป็นใครได้อีกล่ะคะ” แพรพิไลเริ่มเหลืออดเหลือทนสำหรับเพื่อนบ้านที่ไม่คิดจะญาติดีกัน

“คุณยายจะไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร แต่อยากให้รู้ไว้ว่าอย่าสร้างปัญหาให้บ้านของเพื่อนผม ถ้าทำอีก ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม พวกผมคงต้องให้หน่วยงานมาจัดการกับคุณยาย บางทีคุณยายอาจจะถูกพาตัวไปอยู่ที่อื่นก็ดีเหมือนกัน จะได้มีคนดูแล คงมีเพื่อน ไม่เหงาอีกด้วย” คณิศรแค่ขู่ให้กลัวไว้ก่อน โดยไม่ทราบข้อเท็จจริงมากนัก

ยายเอี่ยมมีท่าทีลนลานพลางอ้อนวอนพวกหล่อน “อย่าให้ใครพายายไปจากบ้านนี้ ยายขออยู่ที่นี่ไปจนตาย อย่าเลยนะ ยายขอร้อง”

คณิศรยิ้มที่คำขู่ช่างได้ผลทันใจ “ถ้าคุณยายไม่อยากไปไหน ก็อย่าสร้างความวุ่นวายหรืออะไรก็ตามแต่กับบ้านของเพื่อนผมอีก แล้วคุณยายจะได้อยู่บ้านนี้จนสมใจ”

“ได้ๆ ยายจะไม่ทำเสียงดังอะไรอีก” หญิงชราพยักหน้าหลายหน

“คุณยายจะทำหรือไม่ทำ พวกเราไม่สน แต่วันนี้ได้คุยกันรู้เรื่องแล้ว ขอให้คุณยายทำตามที่รับปากกันไว้ก็พอ อย่าให้ต้องไปแจ้งหน่วยงานให้มาช่วยจัดการเลยค่ะ” แพรพิไลสรุปความที่เข้ามาคุยกับเพื่อนบ้านรายนี้

“แต่เรื่องขยะ ยายไม่ได้ทำจริงๆ” หญิงชราย้ำถ้อยคำเดิมๆ

เวธัสที่เงียบปากอยู่นานก็โพล่งออกมา “ผมเชื่อคุณยายเอี่ยม”

“นั่นเป็นเรื่องของคุณเทพ แต่ฉันเชื่อความคิดของฉัน ถ้าคุณยายไม่ทำแล้วใครจะทำ ก็ขยะมาจากบ้านหลังนี้และยายอยู่คนเดียว คุณคิดเสียบ้าง ไม่ใช่ถูกเป่าหูมาหลายวันก็เข้าข้างไปหมดทุกเรื่อง” แพรพิไลพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงเจือความผิดหวัง แล้วบอกเพื่อนทั้งสามคน “พวกเรากลับกันเถอะ ส่วนใครไม่อยากกลับจะอยู่ที่นี่ก็ได้ หรือจะขนเสื้อผ้ามาอยู่ที่นี่ก็เชิญเลย”

หล่อนค้อนใส่เขา เดินจ้ำอ้าวออกไปจากบ้านหลังนี้ โดยมีเพื่อนสามคนรีบเร่งฝีเท้าเดินตามให้ทัน

“แกจะมางอนคุณเทพด้วยเรื่องแค่นี้ไม่ได้นะ ยังไงคุณเทพก็เป็นพวกเรามาตั้งแต่ต้น คงไม่แปรพักตร์ง่ายๆ หรอก” เสียงของคณิศรที่พูดตามหลังแพรพิไล

เวธัสยืนมองหล่อนด้วยความไม่เข้าใจ แค่พูดไปตามความรู้สึกที่สัมผัสได้จากหญิงชรานั้นเป็นเรื่องผิดเชียวหรือ เขาวนเวียนถามตัวเองจนยายเอี่ยมเดิมมาแตะแขนพลางเอ่ยขึ้น

“ต้องรีบไปง้อนะ ปล่อยให้งอนนานๆ อย่างนี้ไม่ดีหรอก”

เขามองหญิงชราซึ่งยิ้มให้กัน จากนั้นคำกล่าวที่ได้ยินก็เป็นหนทางช่วยให้คลายข้อสงสัยในบางเรื่องราว

“ขอบใจนะที่เชื่อยาย ถ้าพ่อหนุ่มอยากรู้อะไร ว่างๆ ก็มาถามกันได้ ยายจะตอบให้หมดทุกเรื่องเลย”

 



Don`t copy text!