บ่วงเวรา บทที่ 5 : อุบายหมายประทุษ

บ่วงเวรา บทที่ 5 : อุบายหมายประทุษ

โดย : สัมพันธ์ สุวรรณเลิศ

Loading

บ่วงเวรา นวนิยายรางวัลรองชนะเลิศ โครงการอ่านเอาก้าวแรก ๓  โดย สัมพันธ์ สุวรรณเลิศ กับเรื่องราวของวังวนความรักและความแค้น ความมุ่งมั่นที่จะตอบแทน ทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามให้สาสม แล้วความรักจะเยียวยาใจแก้ไขความแค้นได้จริงหรือ…อ่านเอาขอเชิญทุกท่านร่วมเพลิดเพลินไปกับนวนิยายพีเรียดสุดเข้มข้นเรื่องนี้ที่ anowl.co

นายแม้นจากไปนานถึงเดือนกึ่ง นางเภาผู้มารดากังวลใจยิ่งนัก ก็ได้แต่ปลอบใจตนเองว่า ในสถานการณ์เช่นนี้การไม่ได้ข่าวนั่นละคือข่าวดี

ตลอดเวลาที่บุตรชายตนเองไม่อยู่นี้จางวางอู๋ได้เดินทางเยี่ยมเยียน ถามสารทุกข์สุขดิบที่เรือนนางเภาทุกวันพระ และเช่นเดียวกันทางฝั่งของพระเยาวราชและจางวางอู๋เองก็ไม่ได้ข่าวคราวของนายแม้นเช่นกัน

ดึกวันนี้น้ำในแม่น้ำลดต่ำด้วยเป็นคืนเดือนมืดซ้ำลมก็นิ่งอัด นางเภารู้สึกอบอ้าวจนนอนไม่หลับ ในใจก็กระส่ายกระสับแปลกไปกว่าทุกวัน นางสอเห็นนายอึดอัดรำคาญใจจึงชวนออกมานั่งรับลมที่หอนั่ง แล้วนำขันน้ำลอยดอกไม้ผสมน้ำอบพร้อมผ้าผืนน้อยมาให้นายของตนเช็ดตัวให้คลายร้อนและเหนียวตัวแก้รำคาญ

ดึกดื่นบ่าวไพร่นอนกันหมดแล้วด้วยเพราะเพลียจากภาระงานที่กรำมาทั้งวัน บ่าวไพร่ในเรือนไม่มีห้องหับเป็นของส่วนตัว ที่ดีหน่อยก็มีมุ้งหมอนไว้กางตามเฉลียงพาไลเรือนหลับนอน เมื่อใกล้รุ่งก็รื้อมุ้งพับเก็บงำให้เป็นที่ทาง ที่ร้ายหน่อยก็เอาผ้าเคียนอกเคียนเอวที่มีขมวดใช้เป็นหมอนนอนเอาง่ายๆ ตามมีตามเกิด หาได้มีมุ้งหมอนนอนหลับให้พอสบายไม่

นางเภามานั่งกระพือลมอยู่พักใหญ่ บ่าวไพร่ที่นอนบริเวณห่างออกไปจากหอนั่งเพียงไม่เท่าไรก็หาได้รู้สึกตัว นางสอเห็นดังนั้นจะทำท่าจะเรียกบ่าวไพร่เหล่านั้นให้ตื่นลุกขึ้นมารับใช้นาย แต่นางเภายกมือจุปากห้ามด้วยเห็นใจว่าบ่าวไพร่ทั้งหลายล้วนเหนื่อยยากมาแล้วทั้งวัน…ให้เขานอนเอาแรงเถิด ความสุขของคนเราจะมีอะไรมากไปกว่าการกินได้นอนหลับ ไม่ต้องมีเรื่องทุกข์ร้อนว่าพรุ่งนี้จะมีอะไรหาใส่ปากท้องได้หรือไม่ หรือจะหาที่ซุกหัวนอนที่ไหนให้พอคุ้มแดดคุ้มฝน ชีวิตคนเราต้องการเพียงเท่านี้จริงๆ นางเภาทอดตามองไปรอบๆ เรือน เห็นบริวารนอนหลับสนิทก็ไม่คิดจะรบกวน ใจก็รำพึงว่าเรือนนี้ปลูกมาตั้งแต่ครั้งบิดาของสามีตน ได้อยู่อาศัยอย่างเป็นสุขมาโดยตลอดทั้งตนและบริวาร นางนั่งคิดเรื่อยเปื่อยเพลินไปจนไม่สนใจสิ่งรอบข้าง

ฝ่ายนางสอคนสนิทเป็นคนช่างสังเกตสังกามาแต่ไร ตาไวหูไวมาแต่รุ่นสาว ท่ามกลางความเงียบสงัดจนได้ยินแต่เสียงลมหายใจ นางสอสดับได้ถึงเสียงที่ไม่ปกติ

“แม่นายบ่าวได้ยินเสียงคนขึ้นบันไดเรือน” ดึกดื่นหนักหนาแล้ว บ่าวไพร่ล้วนหลับใหล พวกบ่าวรุ่นหนุ่มที่อยู่ยามตามไฟต่างก็รู้กาลเทศะดีว่าจะไม่ขึ้นมายุ่มย่ามบนเรือนที่มีบ่าวสาวๆ อาศัยนอนตามชานเรือนในยามดึกดื่นเช่นนี้…ใครกันที่ลอบขึ้นมา…ประสงค์ดีหรือมุ่งร้าย

นางสอกระหย่งตัวขึ้นนั่งเตรียมพร้อมหลังจากที่เตือนนายของตนแล้ว หากมันมุ่งร้ายการตั้งหน้ารับดูจะได้เปรียบกว่าการหันหลังหนีเข้าห้อง หากมันหมายทำร้ายแม่นายแล้ว นางสอผู้นี้จะวิ่งเข้าใส่มันก่อน เสียงเอะอะโครมครามน่าจะทำให้บ่าวที่นอนหลับอยู่ไม่ไกลลุกขึ้นมาปกป้องแม่นายของตนได้ทัน

เงาตะคุ่มเหมือนหัวดำๆ โผล่พ้นบันไดขึ้นมา เพียงครู่มันก็โหนพาดตัวบนคานฝาโปร่งที่สร้างป้องกันคนนอกขึ้นมาบนเรือนได้ยามดึก ไม่นานมันก็ทิ้งตัวลงมาอย่างเงียบเชียบ… ไม่น่าจะมาดีเสียแล้วนางสอประเมิน

เดือนมืดนักต่างฝ่ายต่างมองหน้าไม่ชัด แต่แม่นายของตนหาได้แสดงความหวาดหวั่น นางลุกขึ้นยืน หลังที่หยัดตรงแสดงความอาจหาญอย่างหญิงชราผู้หนึ่งพึงจะมี

“สูเอ็งเป็นผู้ใด ไยลอบปีนขึ้นเรือนข้ายามวิกาลเช่นนี้…” นางเภากล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติอย่างที่เจรจากับบ่าวไพร่

ชายในเงามืดสะดุ้งตกใจ ก่อนจะน้อมตัวลงคุกเข่าแล้วควักลงไปในไถ้ใบน้อยที่ผูกไว้กับสะเอวของตน ไม่นานเข้าก็ชูแหวนวงหนึ่งขึ้นที่เหนือหัว แหวนเรือนทองยอดประดับด้วยทับทิมแดงเม็ดเขื่อง นางเภาจำได้ดีนั้นคือแหวนของบุตรชายตน นางเภาประเมินว่าชายคนนี้ไม่ได้มุ่งประสงค์ร้ายอย่างที่เข้าใจแต่แรก จึงกวักมือเรียกให้เข้ามาใกล้

“พ่อแม้นมีเหตุอันใดฤๅ” นางถามด้วยน้ำเสียงออกจะร้อนรน

“นายใช้ให้บ่าวมาแจ้งความร้อนแก่แม่นาย…ขอให้แม่นายพาพ่อมาศเร่งหนีออกจากอโยธยาแต่ภายในคืนนี้ขอรับ…”

“มีเหตุเภทภัยใดที่ข้าและหลานต้องหนี” นางเภาตั้งกระทู้ถาม

ชายในเงามืดเล่าความแก่นางเภาว่า ระหว่างทางนายแม้นสืบทราบว่าพ่ออยู่หัวทรงระแวงชาวเขมรกัมพุชในอโยธยาจะเป็นไส้ศึกให้กรุงศรียโสธรปุระ หากสืบได้ความว่าทางกรุงยโสธรตั้งใจจะยกทัพมาตีศรีอโยธยาจริงก็จะทรงกำจัดชาวเขมรกัมพุชให้สิ้นเพื่อไม่ให้เป็นเสี้ยนหนามในการรับศึกต่อไป มาบัดนี้พ่อแม้นได้ทราบข่าวแน่ว่ากรุงยโสธรกำลังจัดทัพมาเพื่อจะตีอโยธยาจริง ชาวเขมรกัมพุชทั้งนั้นคงไม่รอดพ้นพระราชอาญา นายแม้นจึงให้เขาเร่งมานำนายแม่หนีไปให้พ้นจากอโยธยาแต่คืนนี้

“แล้วพ่อแม้นเล่า บัดนี้อยู่เสียที่ใด”

“บัดนี้นายแม้นตรองดูเป็นถนัดแล้วว่า พ่ออยู่หัวไม่ได้ครองอยู่ในสุจริต เพียงเพราะหวาดระแวงว่าชาวเขมรกัมพุชจะเป็นไส้ศึก ก็ลุแก่พระราชอำนาจจะลงพระราชอาญาเสียให้สิ้นทั้งที่ไม่มีความผิดปรากฏแน่ชัด นายแม้นจึงเอาตัวเข้าไปสวามิภักดิ์รับราชการกับพระเจ้ากรุงยโสธรธิบดีแล้วขอรับ จึงใช้ให้บ่าวเร่งมารับแม่นายไปอยู่กรุงศรียโสธรถิ่นเดิมของบรรพบุรุษขอรับ”

นางเภาฟังมันแจกแจงแล้วก็รู้สึกว่าผิดหูไปถนัด พ่อแม้นจึงรักภักดีต่อพ่ออยู่หัวนัก ต่อให้ตายก็ไม่มีวันแปรพักตร์เป็นเด็ดขาด ความที่มันเล่าแจ้งมานั้นมีพิรุธหลายประการ

ส่วนนางสอได้ฟังความร่วมกับนายก็อาศัยความมืดลอบกระตุกชายผ้าของตนทำนองเตือน นางเภาก็ยิ่งกะชั่งใจมากขึ้น นางจึงถามเป็นความนัยเพื่อพิสูจน์ความ

“พ่อแม้นฝากความอันใดมาถึงข้าอีกหรือไม่” นางเภาซัก

มันอ้ำอึ้งอึกอักสักครู่ แล้วตอบว่า “นายแม้นแจ้งว่าให้แสดงแหวนวงนี้แก่แม่นายเพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าคำพูดของกระผมเป็นจริง” มันยื่นแหวนออกมา

นางสอลุกขึ้น เดินไปรับแหวนมามอบให้แก่นายของตน

นางสอส่งแหวนให้นาย แล้วกระซิบว่า “ไม่คุ้นหน้าเลยเจ้าค่ะ ไม่ใช่คนของเรา”

นางเภาพยักหน้ารับรู้ แล้วหยิบแหวนนั้นมาพินิจดู ใช่แหวนที่พ่อแม้นใส่ติดมือจริงๆ นางไตร่ตรองอยู่เพียงครู่ก็เอ่ยคำถามขึ้นว่า

“พ่อแม้นได้สั่งความมาหรือไม่ว่าปีนี้ตัดจุกพ่อมาศ จะให้ข้าไปนิมนต์สมภารวัดใด”

ชายผู้ส่งข่าวนิ่งงัน คำถามของนางไม่ได้เกี่ยวข้องกับข่าวที่เขานำมาแจ้งเลย เขาจึงตอบไปส่งๆ ว่า “น่าจะเป็นพระมหาเถรสมภารวัดพุทไธศวรรย์อย่างเดิมละขอรับ”

บัดนี้นางเภาได้คำตอบที่สงสัยชัดเจนแล้ว ชายผู้นี้หาใช่คนที่บุตรชายของตนส่งมาแจ้งข่าวเป็นแน่แท้ เพราะก่อนจากนางและบุตรชายได้ทำข้อตกลงป็นคุยรหัสข้อความลับต่อกัน

‘พ่อแม้น หากเจ้าต้องการส่งข่าวลับถึงแม่จงแจ้งถ้อยเป็นคุยรหัสนี่แก่คนส่งข่าว…แม่จะถามมันว่า ปีนี้ตัดจุกพ่อมาศจะให้นิมนต์สมภารวัดใด ลูกจงให้คนส่งข่าวตอบเป็นคุยรหัสแก่แม่ว่า ฤดูน้ำหลากนี้จะไปเล่นเพลงเรือที่ทุ่งนอกพระนคร

คุยรหัสนั้นถามตอบกันคนละเรื่อง แต่ก็เพื่อยืนยันว่าคนส่งข่าวนำข่าวจริงมาให้ บัดนี้นางมั่นในใจแล้วว่าข่าวนี้เป็นข่าวปลอม ชายผู้นี้มีวัตถุประสงค์แอบแฝงถึงแม้จะไม่รู้ว่ามันต้องการสิ่งใด แต่การงำว่าตนเองไม่รู้เท่าทันน่าจะเป็นผลดีสำหรับตนมากกว่า…

“ข้าขอบน้ำใจนัก…นังสอเอ็งรีบไปปลุกอ้ายชุบผัวเอ็งให้เตรียมตัว ส่วนข้าจะไปปลุกหลานและเก็บงำของที่มีค่าเตรียมตัวหนี ส่วนเอ็ง…” นางเภาหันไปกล่าวกับชายในเงามืด “…จงไปรอข้าที่ชายป่านอกกรุง อีกชั่วยามข้าจะเร่งตามเอ็งไป พวกเราจะได้พ้นเขตพระนครนี้ก่อนจะรุ่ง…”

ชายในเงามืดลอบยิ้มอย่างสมใจ เขาทำภารกิจที่นายมอบหมายมาอย่างลุล่วงแล้ว…

 

หลังจากชายปริศนาลงเรือนหายลับไปแล้ว นางเภาก็รีบสั่งความแก่นางสอว่า “สอ ให้คนสะกดรอยตามอ้ายนี่ทีว่ามันไปพบปะใคร ข้าใคร่รู้นักว่าใครใช้มันมา”

นางสอผู้ไวทายาดใช้เวลาเพียงครู่ก็กลับมาหานาย “เรียบร้อยเจ้าค่ะแม่นาย บ่าวเลือกคนที่แคล่วคล่องพอตัว น่าจะตามไปทันอยู่เจ้าค่ะ”

“เห็นทีพ่อแม้นน่าจะลำบากแล้วละนางสอ” นางเปรยขึ้น

“พี่ชุบไปด้วย ตะแกไม่น่าจะปล่อยให้นายตกอยู่ในอันตราย แม่นายอย่ากังวลเลย” นางสอปลอบนายทั้งที่ใจก็วิตกกังวลไม่น้อย

“เอ็งอย่ามัวปลอบข้าเลยนังสอ เอ็งก็เห็นมันได้แหวนของพ่อแม้นติดมือมาด้วย เอ็งตรองดูสิว่าทำไมแหวนของพ่อแม้นมาตกอยู่ในมือมัน”

“ทำไมแม่นายถึงมั่นใจล่ะเจ้าคะว่ามันมาทำกลลวงแม่นาย”

“ข้าลองถามหยั่งเชิงมันหลายหน ขนาดข้าเอ่ยถึงอ้ายชุบผัวเอ็งมันยังไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วอ้ายชุบติดตามลูกข้าไป หากพ่อแม้นใช้มันมาจริง อ้ายชุบคงต้องสั่งความมาถึงเอ็งด้วย นี่กระไรมันยังคิดว่าอ้ายชุบยังอยู่ที่เรือนนี้ไม่ได้ไปไหน…แต่ที่สำคัญมันไม่รู้คุยรหัสที่ข้ากับพ่อแม้นนัดแนะกันไว้ ข้าจึงมั่นใจว่ามันเข้ามาทำกลลวงเรา แต่ก็ยังคิดไม่ตกว่าใครใช้มันมาและทำเพื่ออะไร แต่ข้ามั่นใจว่าเหตุครานี้ต้องใหญ่หลวงนัก” นางเภานิ่งคิดสักครู่

“สอเอ็งรีบเอาเรือออกไปเรือนของท่านจางวางอู๋แล้วเล่าเรื่องนี้ให้ฟังโดยละเอียด ท่านจางวางได้ฟังแล้วคิดอ่านประการใดจงเร่งมาบอกข้า…”

 

อรุณเรื่อ…แสงเงินจับที่ขอบฟ้า

บ่าวที่นางสอใช้ให้สะกดรอยชายนิรนามผู้นั้นกลับมาแล้วรายงานต่อนางเภาว่า “บ่าวตามมันไปถึงชายป่า เห็นมันพูดคุยกับชายอีกคนหนึ่ง แล้วมันก็แยกกัน บ่าวให้อ้ายมีเฝ้ามันไว้ ส่วนบ่าวก็สะกดรอยตามชายอีกคนไป…บ่าวเห็นมันหายลับไปในเรือนของออกญายมราช สักครู่ก็มีเรือเร็วพายออกจากท่าของบ้านออกญายมราช บ่ายหน้าขึ้นเหนือไปขอรับ…”

อ้ายเชื้อเองหรือที่เป็นตัวการ!’

ฝ่ายนางสอที่ถูกใช้ให้ไปแจ้งข่าวแก่จางวางอู๋ วิ่งกระหืดกระหอบกลับมา “แม่นายเจ้าขา ท่านจางวางไม่อยู่ที่เรือน คนของท่านจางวางแจ้งว่าท่านไปอยู่รับใช้พระเยาวราชที่เมืองสองแควเจ้าค่ะ”

นางเภาถอนหายใจใหญ่…ถึงขั้นนี้แล้วอย่างไรก็ต้องพึ่งตนเอง อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

ขอคุณพระคุ้มครองพ่อแม้นลูกของแม่ให้อยู่รอดปลอดภัยด้วยเถิด

 



Don`t copy text!