บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 43 : กรณีชิงศิษย์

บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 43 : กรณีชิงศิษย์

โดย : ปราณประมูล

Loading

บุษบาลุยไฟ โดย ปราณประมูล เรื่องราวของ ลำจวน หญิงสาวผู้ต่อสู้กับค่านิยมทางสังคมในยุค ร.3 เธอลุกขึ้นทำสิ่งที่คนในห่วงเวลานั้นไม่ทำกัน หนทางจึงไม่ได้ราบรื่น หากเต็มไปด้วยอุปสรรคและถ้าไม่ใช่เพราะแรงรักแรงใจที่หนุ่มจีนคนนั้น คงยากที่บุษบาดอกนี้จะไปสู่จุดหมาย ‘บุษบาลุยไฟ’ นวนิยายเรื่องเยี่ยมที่อ่านเอานำมาให้อ่านออนไลน์

 

ลำจวนยกถ้ำบรรจุกาน้ำร้อนๆใหม่ๆเข้ามาริน น้ำสีเข้ม ควันกรุ่น หอมชื่นใจ

เมื่อรินเสร็จก็ถอยไปนั่งสงบเสงี่ยม ไม่วายลอบมองท่านอาลักษณ์อย่างปลาบปลื้มตลอดเวลา

“ น้ำข้าวตังเจ้าค่ะ ”

คุณพุ่มเลื่อนถ้วยไปใกล้แขก

“ แพนี้มีน้ำปาณะด้วย คงเห็นใจพวกที่ชอบบวชพระสินะ ”

ท่านล้อตัวเอง จิบน้ำหอมข้าวตังร้อนกรุ่นที่ปรุงหวานปะแล่ม หันมาเห็นลำจวนมองตาเป๋งอีกแล้ว

“ หลานชายคนนี้ จ้องมองผมจริงจัง เห็นอะไรงอกออกมาจากหน้าตาลุงรือ หลานเอ๋ย ”

ลำจวนสะดุ้ง รีบก้มหน้าลง

นางเต็มมอง ส่งสายตาข่มปรามมา

“ เจ้าเฉกหลานชายอิฉัน..มาจากกรุงเก่า มาหัดเรียนอ่านเขียนกับอิฉัน เพลานี้ก็รับจ้างคัดลอกหนังสือด้วย บังเอิญกำลังคัดนิทานของท่านอาลักษณ์อยู่พอดี ครั้นได้เห็นหน้าผู้เขียนนามกระเดื่อง  จึงตื่นเต้นจนเสียกิริยา ”

“ จริงซี ขึ้นแพมา ก็ได้ยินเสียงกล่าวสาธยายถึงกลอนของกระผมอยู่แจ้วๆ ”

ลำจวนตกประหม่า ก้มหน้าต่ำลงไปอีก

ท่านอาลักษณ์จับตามองเขม้น

“ พวกรับจ้างคัดหนังสือนี้แล..สำคัญนัก ลางทีเราเขียนอย่าง มันอยากจะคัดไปอีกอย่างก็มี บางทีไปอ่านหลายเล่ม คำไม่ตรงกันสักเล่ม..ทั้งองค์ฐานรานร้าวถึงเก้าแสก  กระผมเขียนว่าแสก ..ตั้งใจหมายให้เห็นภาพเหมือนคนแสกผม..ไปเจอเขียนว่า..ทั้งองค์ฐานรานร้าวถึงเก้าแฉก.. กลายเป็นแฉกๆ..ราวกับดาว หรืออันใด…เผยอแยกยอดสุดก็หลุดหัก   กระผมเขียนว่ายอดสุด..หมายถึงยอดที่แหลมสุด..ขององค์เจดีย์ ที่หักหายไป ก็ไปเขียนว่า..เผยอแยกยอดทรุดก็หลุดหัก..คือไปหมายว่ายอดเจดีย์ทรุด..”

ลำจวนอดไม่ได้จริงๆ ที่จะอวดความเก่งตน

โอ้เจดีย์ที่สร้างยังร้างรัก  เสียดายนักนึกน่าน้ำตากระเด็น..”

นางเต็มถลึงตาขวับให้เงียบ แต่หาได้ผลไม่

กระนี้ฤาชื่อเสียงเกียรติยศ    จะมิหมดล่วงหน้าทันตาเห็น

เป็นผู้ดีมีมากแล้วยากเย็น    คิดแล้วเปนอนิจจังเสียทั้งนั้น ”

 เจ้าหนุ่มน้อยปลอมๆหลุดไหลยาวเป็นชุด

คุณพุ่มจึงต้องออกโรงดุเสียเอง

“ เจ้าเฉก..ผู้ใหญ่คุยกัน ไม่ได้ถาม ไม่ต้องสอด ”

อนิจจา เจ้าลำจวนหาได้สำนึกไม่

“ กระผมจำกลอนของท่านได้มากกว่าผู้คนอื่นๆ ”

นางเต็มแทบตบ-อก เจ้าเด็กคนนี้!!

“ เจ้าเฉก..ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ ท่านไม่ได้ถามเจ้า..ทะลึ่งจริง ”

คุณพุ่มเอ็ด

แต่ท่านภู่สนุกเสียแล้ว

“ เอ้า..งั้นถาม กลอนดังว่านี้..จากหนังสือเรื่องไร ”

นางเต็มมองหวั่นใจ เมื่อถึงคราวเข้าจริงๆ นางก็อยากให้เจ้าเฉกมันตอบได้

และเจ้าเฉกก็ตอบเร็วทันควัน

“ นิราศภูเขาทองขอรับ ”

อดีตอาลักษณ์มองเด็กหนุ่มหน้ามนอย่างชักถูกชะตา

คราวนี้นางเต็มอดภูมิใจไม่ได้

แต่คุณพุ่มหนักใจไม่น้อย เมื่อเห็นลำจวนขยับตัว วางท่าองอาจผึ่งผายทำเป็นชายมากขึ้นไปอีก

 พัดกับตาบ บุตรชายท่านภู่ ที่นั่งดื่มน้ำข้าวตัง กับของว่าง คือขนมข้าวตู ที่บ่าวคุณพุ่มนำมาให้กินเล่น หันมองหน้ากันอย่างแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของบิดาดังลั่นออกมาจากในแพ

ทั้งสองขยับเข้าไปเพื่อฟัง ว่าคำสนทนาอันใดจึงสนุกสนานปานนั้น ก็ได้ยินท่านภู่กำลังว่ากลอนบางตอน

ถึงบางบ่อ พอจันทร์  กระจ่างแจ้ง..

เสียงที่ดังต่อมานั้น คมชัดดังแจ่มใส

ทุกประเทศเขตแขวงนั้นกว้างขวาง..”

พัดนำตาบคลานไปโผล่หน้าดูข้างประตู

เห็นคุณพุ่ม สตรีงามสง่าเจ้าของแพ กับบ่าวหญิงชาย นั่งฟังและเอาใจช่วยกันอย่างระทึกใจ

เด็กหนุ่มวัยใกล้เคียงกับตาบ หน้าตาฉลาดเฉลียวจนราวกับมีประกายในตนเอง กล่าวกลอนต่อจากบิดาของเขาสองคนอย่างมีจังหวะจะโคน มีอารมณ์ความรู้สึกไปกับทุกถ้อยคำ แถมสุ้มเสียงยังไพเราะน่าฟัง

ดูดาวดาษกลาดฟ้านภาภางค์            วิเวกทางท้องทุ่ง สะท้านใจ

ดูริ้วๆลมปลิวที่ปลายแฝก                    ทุกละแวกหวาดหวั่นอยู่ไหวๆ

รำลึกถึงขนิษฐายิ่งอาลัย                     เช่นนี้ได้เจ้ามาด้วยจะดิ้นโดย

นางเต็ม นายหมายตบเข่ากันฉาดๆ

“ นิราศ..? ”

ท่านภู่ถาม

“ นิราศเมืองแกลง!

หนุ่มน้อยนั้นตอบ มั่นใจยิ่งนัก

ท่านภู่ยกมือ ยอมแพ้ แทนคำตอบว่าถูก

ทุกคนในแพนั้นหัวเราะกันเฮ รวมทั้งเจ้าหนุ่มหน้าใส

ทำให้พัดกับตาบ พลอยฮาไปด้วยกับเขา

ท่านภู่เปลี่ยนแนวทางใหม่ ทำหน้าท้าทาย มีอารมณ์แกล้งทดสอบนิดๆ

อันดนตรีปี่พาทย์ตะโพนเพลง..”

ทุกคนเงียบ เอาละวา..ฟังแล้วคุ้นๆ แต่..

เจ้าหนุ่มนั้นคิดอยู่หน่อยเดียว แล้วโดดจากนั่งแปะพื้น ขึ้นคุกเข่าสูงอย่างลืมตัว จากนั้น ก็เข้าบทบาทอย่างละครรำ ทำเป็นตัวเสด็จพ่อที่กริ้วจัด หันมาชี้หน้าตัวละครสมมุติที่ไม่มีอยู่ข้างหน้า

เป็นนักเลงเหล่าโลนเล่นโขนหนัง

ทุกคนกลายเป็นผู้ชมไปในทันที

เวลานั้น ดุจวิญญาณนายโรงสุ่นเข้ามาสิงลูกสาวเข้าแล้ว เธอยืดหลังตรง ไหล่เปิดผาย อกผึ่ง เป็นพระเอกละครเต็มตัว เหลือแต่ยังไม่ได้ร่ายรำเท่านั้น

แต่พวกกูผู้หญิงที่ในวัง            มันก็ยังเรียนร่ำได้ชำนาญ

อันวิชาอาวุธแลโล่เขน              ชอบแต่เกณฑ์ศึกเสือเชื้อทหาร

เป็นกษัตริย์จักพรรดิพิสดาร        มาเรียนการเช่นนั้นด้วยอันใด

เหล่าผู้ชมฮือฮา รวมทั้งท่านภู่ด้วย สายตาของท่านมองดูหนุ่มน้อยนั้นอย่างพิศวง

“ เพิ่งอ่านไปวันก่อนให้ทุกคนฟัง..ตอนพระอภัยมณีกับศรีสุวรรณเรียนวิชาขอรับ ”

เจ้าหนุ่มนามเฉกนั่งราบลง หันอธิบายต่อเหล่าผู้ชม

‘ องค์ ’ ออกจากการประทับร่างไปอย่างปัจจุบันทันด่วน

“ เจ้าเฉกไม่จนแน่ คุณหลวง..”

คุณพุ่มอวด  แต่แล้วเธอก็กลับพลันหวั่นใจอยู่ไรๆ

ลำจวนได้หลุดเผยถึงท่าทางอย่างคนละครตัวพระ ลีลาดีงามโดดเด่น ให้บุคคลอื่นเห็นเข้าแล้ว น่าห่วงนัก ว่าหากวันใดเจ้าหนุ่มเฉกได้ฉายแสงเจิดจ้ามากกว่านี้ ตัวมันอาจจะต้องประสบเหตุเดือดร้อนเข้าสักวัน

 

พระอาทิตย์ลับดวงหลังทิวเรือกสวน ริมแม่น้ำ

อดีตอาลักษณ์หลวงกล่าวขึ้นอย่างเคารพ อ่อนน้อม เกรงใจ ขณะที่เดินนำคุณพุ่มออกมาหน้าแพ

“ คุณพุ่มขอรับ กระผม..อยากจะขออนุญาตคุณ..”

พัด  ตาบ และคนเรือ ที่รออยู่ มองมา รีบพนมมือไหว้คุณพุ่มกันพึ่บพั่บ เธอก็รับไหว้ยิ้มละไม

“ ท่านอาลักษณ์..ว่ามาเถิดค่ะ ไม่ต้องเกรงใจ ”

คุณพุ่มตอบคำผู้อาวุโสกว่า ด้วยความเคารพดุจกัน

“ ผมช่างถูกชะตาออเฉก..หลานชายคุณคนนี้เสียนัก ”

สตรีผู้งามคมกลมกลืน ถึงกับชงักอึ้ง

“ ผมกำลังจะไปบ้านมิตรสหายที่บางบำหรุ ไปดื่มกินแลพักผ่อนให้สนุกสนานสำราญบานใจกันสักหน่อย ไหนๆนานๆเข้าเมืองมาสักที อยากจะขอพาออเฉกไปด้วยสักประเดี๋ยว มันคงจักทำให้วงข้าวปลาอาหารเราสนุกครึกครื้นดีมากทีเดียว ”

คุณพุ่มหุบยิ้ม พยายามกดเก็บความอึดอัดขัดข้อง

“ เกรงว่า..คงจะไม่สะดวก..”

“ สะดวกซีขอรับ ไปกับกระผม มีลูกๆกระผมคอยแวดล้อม..เจ้าพัด เจ้าตาบโน่น ”

ท่านภู่หันไปมองลูกชายสองคน จริงจัง

“ ไม่เกินสองยาม กระผมจะให้ลูกๆมาส่งถึงแพนี่ ”

คุณพุ่มวางสีหน้าสุภาพเรียบร้อย

“ อย่าเลย..เกรงใจ จะลำบากกันเปล่าๆ ”

ท่านภู่ข้องใจ

“ เด็กคนนี้มีดี..ดูหน่วยก้านคมคายแววไวจับตา.. ไม่สมควรจะมาซุ่มซ่อนตนอยู่ก้นแพเช่นนี้ แต่ควรจะออกไปพบปะ ได้เห็น ได้ยิน ได้ฟัง เหล่าคนดีมีวิชาเขาพูดคุยกัน แลฉายแสงให้ผู้คนได้เห็น ”

คุณพุ่มฝืนหัวเราะเห็นขัน

“ เฉกเป็นเด็กบ้านนอก อยู่นอกกำแพงกรุงเก่าด้วยซ้ำ ไม่ได้ทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูงอันใด ไม่ชอบคลุกคลีตีโมงกับชาวพระนครดอก

“ ที่บ้านเกลอกระผม..ไม่ได้มีพวกคนพาลสันดานหยาบอื่นใดมาปะปนดอกขอรับ มีแต่คนคุ้นเคยทั้งนั้น ”

เหตุผลของสตรีผู้ที่น่าจะปราดเปรื่องในทุกเรื่องราว ดูอ่อนยวบจนท่านภู่ขัดใจ

เธอยังคงต่อต้าน

“ เจ้าเฉกไม่อยากไปดอกค่ะ มันไม่ชอบให้ใครมาสนใจจ้องมอง ”

ท่านภู่ฉุนขึ้นมาทันที

“ อ้าว..จักเป็นเช่นนั้นไปได้อย่างใด เจ้าเฉกนี่เป็นคนขำ สนุกคะนอง ชอบแสดงแถลงไขเรื่องราวให้ผู้คนได้บันเทิงกันด้วยซ้ำไป  ถ้าได้มาเป็นศิษย์..”

คุณพุ่มแทบจะกำหมัด

“ โอ๊ะ คงไม่ได้ดอกค่ะ เจ้าเฉกมันเป็นศิษย์อิฉันเสียแล้ว อิฉันไม่ยกให้ท่านอาลักษณ์ง่ายๆดอก ”

ผู้มาเยือนไม่รักษามารยาทแล้ว

“ อ๋อ..เข้าใจแล้ว คุณต้องมีแผนอันใดแน่..ขอเดาหนา  คุณกำลังจักปลุกปั้นให้พ่อเฉกเป็นนักสักวาเอกใช่รือไม่..อยากจะเก็บมันไว้เป็นไม้ตาย เป็นความลับ ไม่ต้องการให้ผู้คนได้พบเห็น จะได้คาดเดาไม่ได้ ก่อนจะถึงเวลา ”

ฝ่ายเจ้าบ้านก็ไม่ยอมเพลี่ยงพล้ำ

“ อาจจะเป็นดังนั้นก็ได้ ”

ท่านภู่ถอนใจ เปลี่ยนแผนใหม่มาเป็นยั่วให้โมโห

“ หรือว่า..คุณหวงหลานชายหนุ่มน้อยวัยอ่อน จึงเก็บแอบไว้ในถ้ำ ไม่ให้ไปเห็นเดือนเห็นตะวัน ดั่งนางผีเสื้อน้ำหวงพระอภัยมณีนี่เอง ”

ได้ผล!

เพราะทำให้คุณพุ่มหลุดวาจาภาคร้ายออกมาได้

“ อ้าวๆๆท่านอาลักษณ์ก็กล่าวเกินจริงไปมาก คุณหลวงสุนทรโวหาร..ชอบเอาชนะ ไม่เคยเห็นแก่หน้าอินทร์หน้าพรหม จึงต้องมาเป็นเช่นนี้อย่างไร ”

เหมือนดังมวยถูกคู่ เพราะท่านภู่ก็ปล่อยหมัดออกสวน

“ แค่เรื่องไปกินไปดื่มแค่นี้  คุณจะกีดกันเอาเป็นเอาตายกระไรนักหนา คุณพุ่ม..บุษบาท่าเรือจ้าง สตรีที่ยึดมั่นถือมั่นแต่สิ่งที่ตนคิด ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร จึงต้องมาเป็นเช่นนี้อย่างไร ”

ผู้ผ่านโลกด้านร้ายมาไม่น้อยกว่ากันทั้งสอง มองกันอย่างรู้ตื้นลึกกันดีเยี่ยงมิตรสหายแท้เก่าแก่ซึ่งล้วนแต่มีใจนักเลง มิได้เกลียดชังกัน มีความขบขันและเมตตากรุณาแก่กันยิ่ง

ที่สุด ทั้งคู่ก็หัวเราะออกมา



Don`t copy text!