บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 59 : ไม่เคยง่าย

บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 59 : ไม่เคยง่าย

โดย : ปราณประมูล

Loading

บุษบาลุยไฟ โดย ปราณประมูล เรื่องราวของ ลำจวน หญิงสาวผู้ต่อสู้กับค่านิยมทางสังคมในยุค ร.3 เธอลุกขึ้นทำสิ่งที่คนในห่วงเวลานั้นไม่ทำกัน หนทางจึงไม่ได้ราบรื่น หากเต็มไปด้วยอุปสรรคและถ้าไม่ใช่เพราะแรงรักแรงใจที่หนุ่มจีนคนนั้น คงยากที่บุษบาดอกนี้จะไปสู่จุดหมาย ‘บุษบาลุยไฟ’ นวนิยายเรื่องเยี่ยมที่อ่านเอานำมาให้อ่านออนไลน์

ในสมุดไทยขาว ภาพวาดดอกไม้ เครื่องบูชาต่างๆอย่างจีน บ้างลงสีแล้ว เป็นวิธีผสมสีที่ต่างไปจากงานที่ชายหนุ่มเขียนภายใต้นามของผู้เป็นครู วางอยู่บนโต๊ะกากะเยียที่รองให้คงแป๊ะเปิดดูสะดวก

คงแป๊ะสวมแว่น ค่อยๆเปิดพิจารณาภาพและลายจีนต่างๆ ที่ฮุนร่างไว้

“ งามดี  ดอกไม้หลายแบบหลากสี ในหลายรูปทรงสัณฐาน  เต่งตูม แรกแย้ม เบ่งบาน พุดตาน บัว เบญจมาศ ”

“ บางอย่างกระผมก็เคยเห็นของจริง บางอย่างลองเขียนตามแบบภาพจีนในศาลเจ้าหลายแห่ง เรียกว่าดอกอันใด ก็หารู้ไหม ”

ชายสองวัยหัวเราะขันด้วยกัน

ศิษย์ช่างเขียนอื่น คือพี่ชายผู้สักขาดำ หนุ่มใหญ่หนวดเฟิ้มและครูพุด กำลังช่วยกันล้อมรอบเขียนลายคนละด้านลงบนตู้พระธรรมใบใหญ่ ตามแบบร่างเลียนอย่างเปลว-กนกสมัยอยุธยา ที่ติดให้ดู อยู่อีกมุมหนึ่งของใต้ถุนเรือน

ครูพุดได้ยินคงแป๊ะบรรยาย ผละงาน เดินเข้ามาด้วยอยากรู้อยากเห็น

“ ประแจ เมฆ  แส้  กระถาง แจกัน เครื่องแขวน พวงมาลา.. ล้วนลายที่มีความหมายมงคลทั้งสิ้น.. ครบทุกสิ่งเช่นนี้ คงถูกใจท่านเจ้าภาพแน่ ”

“ กระผมตั้งจิตตั้งใจว่าจักให้ดอกไม้กับสิ่งของมงคลเหล่านี้ เปรียบเสมือนเครื่องบูชา ที่เหล่าญาติโยม อุบาสก อุบาสิกา ชาวสวน พ่อค้าแม่ขายชาวจีนในละแวกตลาดพลู สำเหร่ รวมจิตรวมใจถวายให้เป็นพุทธบูชาแด่องค์พระประธานในโบสถ์ อันเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้าขอรับ”

ฮุนบอกความมุ่งหมาย

ทำให้ครูพุดมองด้วยความเอ็นดู

“ บ๊ะๆ..นับวัน อาฮุนก็พูดจาได้เกินตัวขึ้นทุกที อ้ายนี่ คงได้ดิบได้ดี ได้เป็นช่างหลวงที่มีบรรดาศักดิ์เป็นคุณหลวงคุณพระในไม่นาน ถึงเพลานั้นแล้วอย่าลืมอั๊วะนะเว้ย..”

“ โธ่ ครูครับ..”

“ พุด ฮุนมันโตแล้วหนา ถึงเวลาที่ต้องเป็นนายงานบ้าง  หาลายได้มากจนพอใจแล้ว ขั้นต่อไป ต้องลองจัดภาพ เขียนทุกสิ่งร่วมกันดู เอาอันใดร่วมกับอันใด อย่างไรจึงเหมาะ ”

คงแป๊ะพับสมุดเก็บ ถอดแว่นออกมาเช็ดด้วยแพรจากในกล่องกระใส่แว่นตา

ทันใด มีเสียงความเคลื่อนไหวของผู้คนหลายคน ดังเข้ามาทางท่าน้ำหน้าบ้าน

เจ้าคุณอินทราและนครบาลสองนาย เดินเข้ามาอย่างองอาจ

ฮุนรีบลุกยืนต้อนรับ ไหว้นอบน้อม

คงแป๊ะและครูพุดลุกตาม พนมมือไหว้เจ้าคุณ และท่านก็รับไหว้ทุกคนเสมอ-อก

“ ท่านเจ้าคุณ..ไยต้องลำบาก มาด้วยตนเอง ถึงที่นี่? ”

คงแป๊ะเอ่ย

เจ้าคุณยิ้มแย้ม วางถุงเงินแพรแดงลงให้ที่แคร่

“ มิได้ลำบากอันใด ตั้งแต่วันเปิดผ้าม่านประชันภาพกันก็ไม่ได้พบคุณหลวงเสนีย์ฯอีกเลย กระผมอยากนำค่าแรงส่วนที่เหลือมามอบให้ด้วยมือตัวเอง เพื่อตอบแทนฝีมืออันประณีตงดงาม แลถือโอกาสมาเยี่ยมเยียนถึงเรือนชานคุณหลวงบ้าง ”

“ ขอบพระเดชพระคุณขอรับ เจ้าฮุน ไปหาน้ำร้อนน้ำชามาถี ”

“ ขอรับ ”

ฮุนหัน ก้าวเท้าจะหลบไปตามที่ครูชี้แนะ ทว่านครบาลร่างใหญ่ทั้งสองเข้ามาขวางทาง สัดส่วนของร่างกายเจ้าหน้าที่มือปราบ บังแสงที่ลอดเข้ามาถึงใต้ถุนเรือนจนมิด

ช่างเขียนทุกคนหันมองกัน เลิ่กลั่ก

เจ้าคุณแหวกผู้ติดตามทั้งสอง มาเผชิญหน้าฮุนเองตรงๆ

“ เจ้าฮุน ไหนว่าไปรับงานลำพัง จักได้ขึ้นเป็นช่างหลวงกับเขา ”

“ กระผมแวะนำร่างแบบภาพที่จักเขียน มาให้คุณหลวงเสนีย์บริรักษ์ตรวจสอบดูก่อนขอรับ เวลาลงมือ จะได้ทำได้ราบรื่น รวดเร็ว ”

ฮุนยิ้มอย่างท้าทายเงื้อมเงาทะมึนนั้น

“ ขอชมสักหน่อย ได้รือไม่? ”

“ ได้สิขอรับ ”

ฮุนหันไปหยิบสมุดขาวเล่มนั้น มามอบให้ชม

ท่านเจ้าคุณรับสมุดมาเปิดพลิกไปพลิกมา พิศดูทีละหน้า แล้วถึงกับเงียบงัน

ภาพร่างทุกขั้นตอนของแต่ละลายจีน จากร่างคร่าว ร่างละเอียด จนลงสี ตัดเส้น ล้วนงดงามแปลกใหม่ ภาพเป็นอย่างจีน ทว่าสีสันอ่อนหวานสดใสละเมียดละไม สายเส้นสะบัดไหว

ดวงตาอันเฉียบไวเมื่อเห็นของงาม ฉายแววปลาบปลื้ม ปิดไม่มิด

“ งามจริง งามกระจุ๋มกระจิ๋ม อ่อนหวาน ต่างไปจากที่เคยเห็นแบบเก่าแก่เคร่งขรึมตามศาลเจ้าเก่าๆจากครั้งแผ่นดินธนบุรี ”

เจ้าคุณสมเป็นผู้ทัศนาที่ชื่นชมงานสิปปะที่ดีในทุกแขนงโดยแท้

“ ท่านเจ้าคุณชอบดูศาลเจ้าเก่าๆด้วยรือ? ”

คงแป๊ะแปลกใจ

เจ้าคุณอินทราชสะดุดกับคำถาม รีบสวมหน้ากากแห่งความเย็นชา ปิดบังจิตใจที่อ่อนไหว ทำเสียงแข็งตอบ

“ ก็เคยไปจับโจร ที่พวกมันชอบไปแอบนอนในศาลเก่าๆผุพัง ”

คงแป๊ะยิ้มๆ

เจ้าคุณพลิกดูสมุดร่างของฮุนต่อ

“ นี่ เจ้าฮุน ..เจ้าคิดค้นทดลองเขียนภาพทั้งหมดนี้ภายในกี่วันกี่คืน? ”

ท่านเจ้าคุณยังคงมุ่งมั่น ต้องการสืบว่าฮุนเป็นหัวหน้าพวกอันธพาลดังที่ยินมาหรือไม่

“ ก็หลายวันขอรับ บางทีก็คิดไม่ออก บางทีเขียนออกมาแล้วไม่ชอบ ก็ทิ้งไปขอรับ ”

“ อืม..มิใช่ของง่ายๆ ”

ท่านยอมรับ

“ วันสองสองวันทำไม่ได้ดอกขอรับ ต้องมีความสงบใจ มีอารมณ์อันผ่องแผ้ว จึงจักคิดแลเขียนออกมาได้ ”

ครูพุดเสริม

เจ้าคุณมองหน้าคงแป๊ะ ครูพุด และฮุน สีหน้าท่านผ่องใสขึ้น

“ เชื่อว่าเป็นจริงดังนั้น ”

เจ้าคุณยังไม่ยอมวางสมุด พลิกดูภาพเหล่านั้นซ้ำไปมาอีกหลายครั้ง ด้วยติดใจความงามอย่างจริงแท้

 

เมื่อกลับถึงเรือน ท่านเจ้าคุณนครบาลก็เรียกนพและคนอื่นๆมานั่งเรียงอันดับ

“ อ้ายนพ.. หยุดยุแยงตะแคงรั่วกูถึงอ้ายฮุนได้แล้ว ”

นพ หมื่นโชค หมื่นเดช หมื่นรวย หมอบกราน หันมองกันอย่างอับจน

“ กระผมมิได้..”

พี่ชายลำจวนร้อนตัว

เจ้าคุณตัดบท เฉียบขาด

“ กูชังมันไม่น้อยกว่ามึงดอก แต่กูไม่ได้โง่ ”

พวกหัวหมื่นนครบาลก้มหน้าต่ำ

“ อย่าให้กูต้องเสียผู้ใหญ่เพราะถูกปั่นหัว หากกูหูเบาไปตามเรื่องโกหกมดเท็จโกหกตอแหลทั้งหลาย กูคงไม่ได้เป็นถึงกู..เช่นในเพลานี้ ”

เจ้าคุณอดปวดใจไม่ได้ เมื่อคิดถึงหน้าช่างเขียนจีน ที่ทุกคนเฝ้ากรอกหู ว่ามันกับลำจวนนั้นชอบพอกันมาแต่ครั้งยังเยาว์ จนเป็นตำนานที่เมื่อใครๆชมภาพที่ผนังวัดทอง เป็นต้องเอ่ยเล่าเรื่องศิษย์ครูทองอยู่กับศิษย์ครูคงแป๊ะนั้นเป็นอริกันหนักหนาปานใด

“ กูกระเหี้ยนกระหืออยากจะกระทืบหน้าอ้ายฮุนให้จมธรณี กูอยากจักกวาดล้างไอ้พวกเจ๊กผมเปียให้มันกลับบ้านกลับเมืองมันไปให้หมดให้พ้นหูพ้นตา แต่กูต้องยึดทำนองคลองธรรมไว้เป็นหลักในใจกู มันยากนักหนาอยู่แล้วที่กูต้องอดทน มึงอย่าเอาจุดอ่อนกูมาส่งเสริมให้กูทำผิดหลักยุติธรรม คนอย่างกู..กูเงยหน้า ต้องไม่อายฟ้า ก้มหน้า ต้องไม่อายดิน จำไว้ ”

นพหน้าชา ผิดหวังรุนแรง

 

เวลาบ่าย อากาศอบอ้าว ที่ห้องทำงานพระคลังมหาสมบัติ ลำจวนนั่งคัดบัญชีราคาสินค้าจากแผ่นกระดาษข่อยบันทึกลงในสมุดไทยฉบับหนาเพื่อนำส่งท่านเจ้าคุณบิดาของคุณพุ่ม ผู้เป็นเสนาบดีใหญ่ได้ตรวจตราสะดวกในภายหลัง

หญิงสาวในเครื่องแต่งกายชายอย่างข้าราชการในวัง ใช้ไม้บรรทัดขีดตารางแยกอากรรังนก  ไม้กฤษณา นอแรด  งาช้าง  ไม้จันทร์  ไม้หอม อย่างเป็นระเบียบ ก่อนเขียนตัวหนังสือลงไป ด้วยลายมืองามสม่ำเสมอราวกับพิมพ์

มีเพื่อนร่วมงานชายอีกสองคน คนหนึ่งกำลังคัดบัญชีอากรบ่อนเบี้ยและหวยก.ข.อย่างรีบเร่ง อีกคนแก้แล้วลบอีกด้วยสีขาว ป้ายทับตัวหนังสือที่เขียนลงในตารางสินค้าเบ็ดเตล็ด พวกภาษีอากรเกลือ น้ำมันมะพร้าว ไต้ ชัน ยาสูบ ใบจาก น้ำตาลทราย น้ำตาลหม้อ น้ำตาลอ้อย

และมีชายอีกสองคน ที่เดินเข้าเดินออก ลุกลี้ลุกลน คอยมากระซิบกระซาบเร่งเร้าพรรคพวก

ทำให้ชายที่ทำตารางอากรสินค้าเบ็ดเตล็ดไม่สำเร็จสักที เพราะไม่มีสมาธิ ต้องเก็บปากกาและขวดหมึก

“ คุณเฉกๆ กระผมต้องรีบไปแล้ว เหลืออีก2หน้า ฝากคุณคัดต่อให้หน่อยซี ”

เขาลุกขึ้น เดินขาเขยกมาด้วยเหน็บชากิน เอางานมาวางให้ลำจวน

ลำจวนใน ‘ เครื่องทรงเฉก ’ มองหน้า พูดไม่ออก

“ ของผมเหลือตั้งครึ่งหนึ่ง วันนี้คงไม่เสร็จ พรุ่งนี้มาทำต่อ ”

คนทำเรื่องบ่อนเบี้ยและหวย ลุกจากงานบ้าง

 เพิ่งได้ยินฆ้องโมงนึงเท่านั้นเอง เหลือเวลาอีกตั้งนาน หากพวกคุณรีบทำ ก็เสร็จทัน ”

เฉกเสียงเข้ม

“ ไม่ทันดอก ”

ชายลักษณะผู้ดีผิวบางผู้นั้นแย้ง

“ คุณเฉกเขาขยันเกินหน้าพวกเรา เขาต้องทำไปจนกว่าจะหมดเวลาราชการ ”

ลูกท่านหลานเธอผู้มีอาการลุกลี้ลุกลนกว่าเพื่อนแว้งจิกกัด

“ เขาไม่สนใจสาวๆหรืออย่างไร  มาด้วยกันไหมเล่าคุณเฉก ประเดี๋ยวพวกสาวชาววังเขาจะออกมาพบญาติๆทางประตูช่องกุดกัน ไปดักชมกันเถิด งามๆทั้งนั้น ”

คู่หูอีกคนอุตส่าห์เอื้อเฟื้อ

“ กระผมมิใช่เจ้าชู้ประตูดิน หมูหมาเกี้ยวสิ้น ไม่เลือกหน้า ”

เฉกกัดตอบ

ทำให้ข้าราชการชายเหล่านั้นรู้สึกหน้าม้านไปตามๆกัน

บ่าวหญิงผู้มีหน้าที่รับใช้จิปาถะ  เดินนำกาน้ำชามาวางที่โต๊ะเท้าสิงห์ตรงกลาง เธอปรายตามองเพียงคุณเฉก

“ คุณเฉก..รับน้ำชาไหมเจ้าคะ ”

“ เอาซี ขอบน้ำใจหนา แม่ชื่น ”

แม่ชื่นรินน้ำชา เดินยอบตัว ยกมาให้ลำจวน

หนุ่มที่กำลังส่องเงาสะท้อนที่บานตู้กระจกอย่างฝรั่ง เพื่อจัดทรงผม หันมาจับมือถือแขนหยอก

“ แล้วของพี่ล่ะจ๊ะ แม่ชื่น ”

บ่าวหญิงตัวแข็ง

“ ปล่อยเจ้าค่ะ ”

พวกชายตระกูลสูงหัวเราะ

“ แหม..ทำมาหวงตัว ที่กับคุณเฉกล่ะ แป้นกับเขานักหนา ”

คนชอบ ‘ แต๊ะอั๋ง ’ ตัดพ้อ พลางลูบโลมมือบ่าวสตรีอย่างจาบจ้วง

“ คุณเฉกเขาไม่มองหล่อนดอกหนาชื่น ไม่เห็นสนใจมองผู้หญิงสักที ”

เพื่อนคู่หูเอ่ยแซะ

“ ปล่อยมือชื่นเขาเถิด คุณเชาวน์ เคารพเขาบ้าง ”

ลำจวนลุก สีหน้าเอาเรื่อง ทำให้คุณเชาวน์ผู้นั้น สะบัดมือชื่นไป

“ แหม..สงสัยมือแม่ชื่นจะเป็นทอง..จับไม่ได้ ”

“ โอ๊ะๆๆ คุณเฉกไม่มองหญิงชาววัง แต่มาเยินยอเกียรติยศบ่าวที่ทำงานรือ ”

ลำจวนไม่ตอบ กลับนั่งลง เมื่อบ่าวหญิงเข้ามาวางน้ำชาให้

“ หล่อนมีน้ำใจมาก เสร็จแล้วหล่อนก็กลับไปเถิด เดี๋ยวฉันเก็บเอง ”

“ คุณเฉกอ้อนแอ้นอรชรดังระเด่นอิเหนา มิน่าเล่า..ชอบแย่งทำงานของพวกบ่าวสตรี ”

เพื่อนชายอีกคนเข้าร่วมรุมตีฝีปาก

“ แม่ชื่นเขาวิ่งรับใช้พวกเราทั้งวัน เหนื่อยแทบแย่ หากอะไรทำเองได้ ผมก็ทำ ”

ลำจวนจิบน้ำชา พยายามบังคับใจให้เยือกเย็น

“ จักต้องคอยทำตัวเป็นผู้ดีไปไยกับหญิงที่เป็นบ่าว แหม หญิงพวกนี้..ไม่มีลูกไม่มีผัวเลี้ยง ได้เข้ามาทำงานในวังได้อัฐรายเดือนพอเลี้ยงตัวก็นับว่าบุญแล้ว นี่ถ้าหากอยู่ตามบ้าน ก็ต้องกวาดบ้านถูบ้านล้างถ้วยล้างชาม ”

“ ผู้ดี ย่อมเป็นผู้ดีอยู่ด้วยตนเองโดยไม่ต้องทำตัวเป็นผู้ดี ส่วนแม่ชื่น หากหล่อนได้เรียนอ่านเขียนเท่าคุณ หล่อนต้องขยันทำงานจนครบเวลาราชการ แลอาจจะทำได้ดีเสมอ.. รือเหนือกว่าคุณก็ได้ ”

ชายพวกนั้นมองลำจวนไม่ชอบใจ ต่างสะกิดกันให้รีบไป อย่าเสียเวลาเกี้ยวสาวชาววังดีกว่า

เย็นย่ำแล้ว เมื่อหนุ่มเฉก สถานะลูกจ้างชั่วคราวของพระคลังมหาสมบัติ เดินเร็วๆออกมาจากประตูเทวาภิรมย์ เดินเลียบกำแพงไปสู้ท่าช้าง หน้าตาขุ่นมัว

หนุ่มจีนผมเปียที่ยืนดักรออยู่ ก้าวมาขวางที่ใต้ร่มไทรริมน้ำ

“ จากนี้ไม่ไปดูแล้วหนา ละคร  โชคดีคราวก่อนกลับไปถึงแพคุณอายังไม่กลับจากเรือนเจ้าคุณพ่อของท่าน ไม่เช่นนั้น..”

หนุ่มกำมะลอพูดเท็จ เพื่อไล่ชายหนุ่มจีนไปให้พ้น ไม่คาด ว่าเนื้อความที่เขาสวนมา คือคำบอกกล่าวจริงจังนัก

“ มิได้ กระผมมาบอกคุณเฉก..ว่ากระผมอาจหายหน้าหายตาไปสักชั่วระยะหนึ่ง คุณได้โปรดอย่าคิด ว่ากระผมเป็นอื่น..

หนุ่มต่างเชื้อชาติทั้งสองนั่งลงด้วยกันที่ขอบปูนใต้ต้นไม้ในวัดมหาธาตุ ที่อยู่ระหว่างวังท่าพระและวังหน้า  นั่งกินกล้วยน้ำว้าคนละลูก ด้วยลักษณะสบายใจฉันเพื่อนสนิท

ฮุนเอาปากงับ กัดกล้วยตามปกติ แต่เฉกใช้มีดพกตัดกล้วยเป็นแว่น ทีละคำ แล้วส่งชิ้นกล้วยเข้าปาก เคี้ยวอย่างมิดชิด หาได้อ้าปากขม้ำของกินทั้งชิ้นอันไม่

ลมพัดแรง ดอกลั่นทมร่วงลงเต็มลาน

“ กระผมเกรงว่าเพลานี้..ทางนครบาลน่าจะเพ่งเล็งพวกคนจีนด้วยหลายสาเหตุ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของคุณเฉก ไม่ให้คุณต้องมาพลอยเดือดร้อนไปด้วย ดังนั้นเราคงต้องหยุดไปมาหาสู่กันสักระยะ ”

ฮุนกินไป พูดไป

แต่ลำจวนเคี้ยวอาหารให้ละเอียด กลืนแล้วจึงกล่าว

“ ถ้าหากเราไม่ไปตามสถานที่ชุมนุมชนเช่นนั้น ก็ไม่เห็นจักเป็นกระไร ”

“ กระผมก็ไม่รู้ว่าเขาจะให้คนมาแอบติดตามผมรือไม่ ฉวยเขาติดตามสืบเสาะ มาพบเข้า..เวลาที่ผมมาหาคุณ..”

ชายหนุ่มละไว้

“ อ้อ ”

ลำจวนพยักหน้า ดวงตาบอกว่าเข้าใจอย่างถ่องแท้ ตัดและเคี้ยวกล้วยไปเงียบๆ

ฮุนมองหญิงสาวอย่างพอใจ เธอสื่อสารกับเขาอย่างง่ายดายด้วยความคิดที่เท่าทันกันโดยไม่ต้องมีคำอธิบายให้มากความ

หญิงสาวเหลือบตามา ดวงตาทั้งสองประสานกัน ความรู้สึกต่างเป็นหนึ่งเดียวจนเสียวซ่าน ต้องรีบหลบตากันไปทั้งคู่ มิเช่นนั้นจะมิอาจคาดเดาได้ว่าสองร่างกายของสองวิญญาณที่รวมเป็นหนึ่ง จะกระทำสิ่งใดต่อไป

ทันใดมีเสียงหัวเราะเบาๆของผู้ชายกลุ่มหนึ่งดังมา

ลำจวนหันไป

พบว่าเพื่อนร่วมงานชายสองนายที่พระคลังฯ ยืนจ้องมองอยู่ แล้วแกล้งทำเป็นเมิน เดินเข้าวัดไป

“ อย่าไปมองๆ เดี๋ยวเขาจะอาย ”

“ บอกแล้วว่าเขาเป็นพวกพระเอกละครอ้อนแอ้น จึงชมชอบคบหาพวกบ่าวไพร่ พวกกุลีร่าง

บึกบึน ”

ทั้งสองเจตนาโจมตีซึ่งหน้า ก่อนจะรีบเดินหายเข้าไปในเขตสังฆาวาส

เฉกหน้าแดง ลุกจะไปเอาเรื่อง แต่ฮุนรีบคว้าแขนไว้ ส่ายหน้าห้าม

“ สมแล้ว ที่ถูกเพื่อนที่ทำงานนินทา ”

น้ำเสียงเชือดเฉือนนุ่มนวลดังมา

เฉกและฮุนหันไป เฉกรีบดึงมือกลับ และฮุนก็รีบถอยออกไปไกล

คุณพุ่ม นางเต็ม ยืนมองมา นางเต็มเป็นผู้ถือพานที่ช่วยกันเก็บดอกพิกุลของวัดแห่งนี้ ที่ร่วงมากมายในยามเย็น เพื่อนำไปผสมเครื่องบุหงา

“ เลิกงานแล้วเถลไถลไม่กลับแพ ทำตัวเหลวไหลจนใครๆเขารู้กันหมดแล้วซี

คุณพุ่มเยาะ

นางเต็มมองตำหนิแรง

หนุ่มฮุน หนุ่มเฉกรีบไหว้ก้มต่ำ

“ แหม..เพลินเพลินเจริญใจเหลือเกิน นั่งกินกล้วยอยู่กับสหายรักข้างถนนรนแคม..ทำตัวราวกับพวกลิงแสม ”

คุณพุ่มมองทั้งสองหัวจรดเท้า เท้าจรดหัว

“ ขอประทานโทษคุณท่านขอรับ กระผมบังเอิญผ่านมา พอดี พบคุณเฉก ”

“ บังเอิญเตรียมกล้วยมาให้ช้างด้วยสินะ ”

สตรีสูงอาวุโสหมายถึงท่าช้างใกล้ๆ ที่ใครๆชอบเอาอาหารมาดักเลี้ยงช้างจากในวังในเวลาที่ช้างหลวงลงมาอาบน้ำยามเย็น

 

ในแสงตะเกียงสว่าง ชาวแพคุณพุ่มมานั่งรับลมกินหมากกันอยู่ที่นอกชานแพ ประเด็นความประพฤติของลำจวน ยังต้องถกกันต่อเนื่องมาไม่รู้จบ

“ งานเสมียนคัดลอกเอกสารราชการ เจ้าก็ไม่ชอบ ”

“ มิได้ไม่ชอบงานขอรับ ตรงกันข้าม พวกผู้ชายเสมียนพวกนั้นต่างหาก ล้วนไม่เอาการเอางาน เอารัดเอาเปรียบ เมื่อเจ้าคุณปู่เข้ามาตรวจที ก็ทำตัวเป็นผักชีโรยหน้าไปเป็นครั้งคราว ”

หญิงสาวค้าน

“ พวกนั้นเขาก็เป็นเช่นนั้นกันทั้งนั้นแหล คนดีก็มีพอมีอยู่ดอก แต่หายากสักหน่อย ”

คุณพุ่มหมายถึงเหล่าหนุ่มผู้ดีสมัยใหม่

“ หากกระผมเป็นเจ้านายของเขาก็คงต้องสังคายนาให้จงหนัก แต่กระผมก็เป็นเพียงคนใหม่ เข้าไปได้ไม่กี่วัน ก็ต้องเงียบแลอดทน เพราะทุกคนล้วนแต่ลูกท่านหลานเธอ มีแต่คนใหญ่คนโตฝากฝังเข้ามาทำงานกันทั้งสิ้น ”

ลำจวนพยายามดึงเรื่องออกจากตัวเอง

“ จะเกรงอันใด หากเจ้าทำงานดีกว่า อีกไม่นาน เจ้าก็คงเจริญก้าวหน้ากว่าพวกเขาเหล่านั้น ”

คุณพุ่มคล้อยตาม

“ กระผมจักได้ขึ้นเป็นนายของพวกนั้นได้จริงรือขอรับ หากทุกคนได้รู้ความจริง ว่ากระผมเป็นผู้หญิง  พวกนั้นจักทำหน้าอย่างไร  อยากเห็นจริงๆ ”

ลำจวนครุ่นคิด

“ ให้พวกนั้นรู้มิได้ดอก เจ้าเฉก เจ้าเป็นหญิง ผู้ใดจักยอมให้เจ้าได้ขึ้นเป็นหัวหน้าในที่ทำงาน ”

“ ผู้หญิง..ก็คงเป็นได้แค่คนชงน้ำร้อนน้ำชา เช่นแม่ชื่น..เท่านั้นสินะขอรับ ”

นางเต็มกระแอม

“ ขออนุญาตเจ้าค่ะ ”

“ ว่าอย่างไร เต็ม ”

นางเต็มไม่ยอมเปลี่ยนเรื่อง

“ อิฉันไม่สนใจเรื่องงานราชการ แต่อิฉันคับข้องใจเรื่องเจ้าฮุน  มันรู้ใช่รือไม่ ว่าคุณคือแม่ลำจวน มิเช่นนั้นมันจักมาติดพันแจอยู่เช่นนี้เพื่อสิ่งใด นอกจากมันเป็นพวกลักเพศ ”

คุณพุ่มหัวเราะพรืดน้ำหมากแทบหก ต้องรีบซับ

“ แม่เต็ม..”

ลำจวนร้องอุทธรณ์

“ จริง แม่เต็ม ข้าก็อยากรู้เช่นกัน  ว่าเจ้าเฉกกับเจ้าฮุนเปิดเผยฐานะที่แท้แก่กันแล้วรือ แลคิดอ่านอย่างไรกันต่อไป แค่จักไปเยี่ยมบิดาที่ป่วยหนัก เจ้าเฉกก็ยังมิอาจไปเยี่ยมในฐานะลูกสาวได้ ส่วนเจ้าคุณอินทรา ท่านก็มีบารมีใหญ่หลวงขึ้นทุกวัน ข้ามองไม่เห็นทางข้างหน้าของเจ้าสองคนที่จักมีร่วมกันได้เลยจริงๆ ”

คุณพุ่มมองมาด้วยความปรารถนาดีแท้ๆ



Don`t copy text!