สาปไอยรา บทที่ 11 : อึมันหมดท้อง เลยต้องเติมเข้าไปใหม่

สาปไอยรา บทที่ 11 : อึมันหมดท้อง เลยต้องเติมเข้าไปใหม่

โดย : ต้นไผ่กวนอิมสีทอง

Loading

สาปไอยรา เรื่องราวของ สัตวแพทย์หนุ่มผู้ต้องคำสาปได้ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาช่วยเหลือรักษาสัตว์ โดยหวังว่าผลบุญจะลบล้างคำสาปไปได้บ้าง แต่เจ้ากรรมนายเวรก็ไม่ได้ใจดี เพราะต้องมีความรักที่จริงใจเท่านั้นถึงจะช่วยได้! นวนิยายน่าอ่านโดย ต้นไผ่กวนอิมสีทอง ที่อ่านเอานำมาให้ทุกท่านได้อ่านใน anowl.co และเพจอ่านเอา

 

ไอยราพาหญิงสาวเดินมาอยู่ทางด้านหน้าคอกของพังใบบัวแทน เพื่อที่จะได้ให้คนทำความสะอาดอุจจาระที่พังใบบัวขับถ่ายออกมาทางด้านหลังได้สะดวกยิ่งขึ้น ก่อนจะบอกออกมาเป็นเชิงอธิบายเพื่อให้จารุมาสได้รับรู้ด้วย พลางปล่อยมือของเธอให้เป็นอิสระ ถึงแม้ว่าจะยังไม่อยากปล่อยก็ตาม เพราะใจอยากจับไว้แบบนั้นนานๆ

“ยากระตุ้นลำไส้จะออกฤทธิ์อยู่ที่ประมาณสองชั่วโมง แม่บัวจะถ่ายจนหมดท้อง”

อึกองเมื่อกี้ยังออกมาไม่หมดท้องอีกเหรอ จารุมาสคิดอย่างแปลกใจ แต่สีหน้ายังคงยิ้มเหมือนเดิม

“อาการยังน่าเป็นห่วงอยู่ไหมคะ”

หญิงสาวเอ่ยถามอย่างต้องการรู้คำตอบจากใจจริง พลางยิ้มให้กำลังใจคนเป็นสัตวแพทย์อย่างอ่อนหวานด้วยเช่นกัน ถึงแม้บรรยากาศจะไม่ได้อ่อนหวานเพราะเต็มเป็นไปด้วยกลิ่นอึก็ตาม แต่ก็พอหยวนๆ ไปได้ เพราะเป็นไอยราที่ยืนอยู่ตรงหน้า

“ไม่แล้วครับ สบายใจได้”

ไอยราเอ่ยตอบ ริมฝีปากแย้มยิ้มออกมาอย่างสุขใจ แล้วปล่อยให้หญิงสาวลูบงวงของพังใบบัวอย่างปลอบโยน เป็นการสร้างความสนิทสนมระหว่างคนกับช้างได้เป็นอย่างดี

ระหว่างนี้ไอยราก็คอยเติมน้ำเกลือให้พังใบบัวไปเรื่อยๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำจากการถ่ายหนัก เมื่อยาหมดฤทธิ์ลงแม่บัวก็สบายท้อง ใช้งวงหยิบอาหารที่ควาญปั้นวางไว้ให้ที่พื้นใส่ปากกินใหญ่เลย จารุมาสที่ยืนมองดูอยู่ด้วยแววตาเป็นประกายที่เห็นพังใบบัวอาการดีขึ้นก็อดแซวออกมาไม่ได้

“ก็อึมันหมดท้องแล้วนี่เนอะ เลยต้องเติมเข้าไปใหม่”

หญิงสาวพูดไปยิ้มไป พลางยื่นหญ้าที่เธอถืออยู่ในมือให้ พังใบบัวก็ยื่นงวงออกมารับแล้วเอาเข้าปากทันทีเช่นกัน เธอกำลังจะป้อนหญ้าให้แม่บัวต่อ แต่ต้องหันมาสนใจรถกอล์ฟที่เพิ่งขับเข้ามาจอดใกล้ๆ แทน เธอเห็นพนักงานของปางฯ เป็นคนขับ พร้อมกับผู้หญิงวัยกลางคนที่ยังคงสวยสง่าไม่เสื่อมคลาย ถึงแม้ว่าวัยจะเข้าใกล้เลขหกแล้วก็ตาม นั่งอยู่ตรงที่นั่งด้านหลัง พร้อมกับเถาปิ่นโตสองเถาที่ถืออยู่ในมือ และยังมีตะกร้าผลไม้ที่วางอยู่ที่พื้นรถอีก จารุมาสจึงปล่อยมือจากหญ้าที่ถืออยู่แล้วรีบเข้าไปช่วยหญิงวัยกลางคนคนนั้นถือของทันที เมื่อเห็นว่าคนอื่นๆ ยังคงสาละวนกับการทำงานของตนเอง

“สวัสดีค่ะคุณป้า ให้มาสช่วยนะคะ”

จารุมาสยกมือไหว้หญิงวัยกลางคนอย่างนอบน้อม ก่อนจะยื่นมือออกไปรับของ

“ขอบใจจ้ะ”

แขไขยิ้มให้หญิงสาวตรงหน้าอย่างเอ็นดูในความมีน้ำใจ หน้าตาก็น่ารักจิ้มลิ้ม เป็นใครมาจากไหนกันหนอ นางคิดด้วยความสงสัย แต่ก็ยื่นของที่อยู่ในมือให้หญิงสาวช่วยถือแต่โดยดี พลางเอ่ยถามคนตรงหน้าต่อด้วยความอยากรู้ ถือเป็นการชวนคุยไปด้วย

“หนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ป้าไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย”

นางพลาดอะไรไปนะ!

“เอ่อ…มาสเพิ่งมาเป็นครูที่โรงเรียนบ้านด่านแก้วน่ะค่ะ แล้วเมื่อวานได้ติดรถคุณช้างออกไปซื้อของที่อำเภอ ตอนขากลับคุณช้างชวนให้มาที่นี่ก่อน เพราะรีบมาดูอาการแม่บัวด้วยความเป็นห่วง วันนี้มาสเลยขอคุณช้างมาที่นี่อีกค่ะ”

จารุมาสอธิบายความเป็นมาของตัวเธอเองให้หญิงวัยกลางคนหายสงสัย ท่านดูใจดีไม่ได้มีสีหน้าบึ้งตึงอะไรเลยด้วยซ้ำ เวลาพูดกับเธอก็มีรอยยิ้มแต้มบนใบหน้าตลอด ทำให้เธอไม่ได้รู้สึกกลัวเกรงแต่มีความเกรงใจเสียมากกว่า ท่านคงเป็นใครสักคนที่มีความสำคัญกับที่นี่เป็นแน่

“หนูไม่กลัวช้างเหรอลูก”

แขไขเอ่ยถามยิ้มๆ อย่างรู้สึกเอ็นดู หญิงสาวคนนี้ดูเป็นคนจริงใจและมีน้ำใจอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้จะเพิ่งเจอกันก็ตาม แต่นางก็ยังสัมผัสถึงความรู้สึกนั้นได้ ส่วนนิสัยส่วนตัวอื่นๆ คงต้องรอดูกันต่อไป พลางเดินนำหญิงสาวไปหาที่วางปิ่นโต

“ตอนแรกก็กลัว แต่ตอนนี้ไม่กลัวแล้วค่ะ”

จารุมาสเอ่ยตอบ ไม่แน่ใจว่าหญิงวัยกลางคนถามถึงช้างที่เป็นคนหรือสัตว์กันแน่ แต่เธอก็ตอบรวมๆ ไปแล้วกัน พลางเดินถือของตามหญิงวัยกลางคนที่เธอเรียกว่าคุณป้าไปวางไว้ที่โต๊ะม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ ที่คนเป็นสัตวแพทย์ใช้วางกระเป๋ายา เมื่อวางของเสร็จเรียบร้อยก็พอดีกับที่ไอยราเดินมาถึงพอดี แล้วก็เอ่ยแซวทันทีอย่างสนิทสนมจนจารุมาสแปลกใจ แต่ก็หายสงสัยเมื่อได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของหญิงวัยกลางคน ว่าเป็นแม่ของเขานี่เอง

“ลมอะไรหอบคุณแขไขมาถึงนี่ได้ครับเนี่ย”

“แม่ก็เป็นห่วงแม่นมของเราบ้างไม่ได้หรือไง เป็นห่วงเราด้วย ได้กินอะไรกันหรือยัง แม่ทำอาหารกลางวันมาให้เยอะเลย”

แขไขส่งค้อนให้ลูกชายเป็นอันดับแรกเมื่อเจอหน้าแล้วได้ยินคำแซว ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เพราะนางรู้ว่าลูกชายตั้งใจดูแลรักษาพังใบบัวมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว จนกระทั่งวันนี้ที่นางต้องการมาดูว่า ทั้งคนและสัตว์ที่นางรักอย่างจริงใจเป็นอย่างไรกันบ้าง ยังอยู่ดีกินดีกันหรือเปล่า

“ขอบคุณครับแม่ อยู่ทานด้วยกันไหมล่ะครับ”

ไอยราเอ่ยชวนผู้เป็นมารดาให้ทานอาหารกลางวันด้วยกันอย่างเอาอกเอาใจ เพราะดูจากท่าทีแล้วแม่ของเขาคงไม่ได้มาเพียงแค่อยากดูอาการของพังใบบัวหรอก เขามั่นใจว่าต้องมีอะไรมากกว่านั้น

“ก็ดีเหมือนกัน”

แขไขตอบรับคำชวนของลูกชายคนเดียวด้วยความเต็มใจ ตอนแรกนางแค่ตั้งใจจะเอาอาหารมาให้ลูกชาย ถามไถ่อาการพังใบบัวแล้วจะกลับ แต่พอมาเจอหญิงสาวแปลกหน้าอยู่ที่นี่ด้วย นางเลยอยากทำความรู้จักให้มากขึ้นกว่านี้เสียหน่อย ได้ยินข่าวเข้าหูตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่า มีหญิงสาวคนหนึ่งได้เข้ามาถึงคอกของพังใบบัวพร้อมกับลูกชายของนาง ก็ไม่คิดว่าวันนี้จะได้พบเจอ

“งั้นป้าฝากหนูจัดอาหารหน่อยนะ ป้าขอเข้าไปดูแม่บัวก่อนแล้วจะกลับมาช่วย หนูก็อยู่ทานด้วยกันนะ”

นางหันมาสั่งงานหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างตัวด้วยงานง่ายๆ พลางเอ่ยชวนให้ทานอาหารกลางวันด้วยกัน

“ได้ค่ะคุณป้า”

จารุมาสรับปากอย่างยินดีและยิ้มรับอย่างเต็มใจ พลางแอบมองสองแม่ลูกเดินเคียงข้างไปหาพังใบบัวด้วยกันอย่างสนิทสนม ส่วนมือก็แกะเถาปิ่นโตออกวางเรียงบนโต๊ะม้าหินอ่อน จัดวางอย่างเป็นระเบียบ แต่ภายในใจก็อดสงสัยไม่ได้ว่าแม่ของชายหนุ่มเรียกใครว่าแม่นมกันนะ!

 



Don`t copy text!