
สาปไอยรา บทที่ 12 : ชวนทำบุญหวังผลอะไร
โดย : ต้นไผ่กวนอิมสีทอง
![]()
สาปไอยรา เรื่องราวของ สัตวแพทย์หนุ่มผู้ต้องคำสาปได้ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาช่วยเหลือรักษาสัตว์ โดยหวังว่าผลบุญจะลบล้างคำสาปไปได้บ้าง แต่เจ้ากรรมนายเวรก็ไม่ได้ใจดี เพราะต้องมีความรักที่จริงใจเท่านั้นถึงจะช่วยได้! นวนิยายน่าอ่านโดย ต้นไผ่กวนอิมสีทอง ที่อ่านเอานำมาให้ทุกท่านได้อ่านใน anowl.co และเพจอ่านเอา
ไอยรากับแขไขเดินกลับมาหาจารุมาสที่โต๊ะม้าหินอ่อนใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ พร้อมกับมีควาญปั้นเดินตามหลังมาด้วย ในตอนที่หญิงสาวจัดโต๊ะเสร็จพอดี สถานที่ตรงนี้ห่างไกลจากกลิ่นไม่พึงประสงค์ จึงเหมาะสำหรับเป็นที่ทานอาหารกลางวันในวันนี้
“นี่ครูมาสครับแม่ เป็นครูที่โรงเรียนบ้านด่านแก้วครับ”
ไอยราได้จังหวะเลยเอ่ยแนะนำจารุมาสให้มารดาได้รู้จักกันไว้
“จ้ะ แม่รู้จักแล้ว มาๆ นั่งทานกลางวันกันดีกว่า”
แขไขยิ้มให้ลูกชายอย่างรู้ใจกัน และเอ่ยปากชวนทุกคน พลางนั่งลงบนเก้าอี้ม้าหินอ่อนเป็นคนแรก และตามด้วยคนอื่นๆ ที่นั่งลงตามๆ กันบนเก้าอี้คนละตัว ครบสี่ด้านพอดี ด้านซ้ายมือของนางเป็นจารุมาสหญิงสาวที่นางเพิ่งได้รู้จัก ขวามือเป็นไอยราลูกชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และฝั่งตรงข้ามเป็นควาญปั้นผู้ที่ร่วมสร้างปางช้างจันทร์ส่องมาด้วยกัน
“หืม…วันนี้แม่แกงยอดตาวเลยเหรอครับ”
ไอยราที่เพิ่งเห็นอาหารบนโต๊ะซึ่งมีแกงตาวใส่ปลาแห้ง ไข่เจียวหอมใหญ่ และหมูยอนึ่ง พลางเอ่ยถามมารดาอย่างแปลกใจ เพราะยอดตาวเป็นอะไรที่หาทานได้ยากมากในสมัยนี้ แล้วตักแกงตาวใส่ปลาแห้งฝีมือมารดามาทานอย่างถูกใจ
“ใช่จ้ะ แม่เจอแม่ค้าเอามาขายที่ตลาดเลยซื้อมาทำ เพราะไม่ได้กินมานานแล้ว หนูมาสกินปลาร้าได้ไหมลูก เพราะแกงตาวนี่ป้าใส่ปลาร้าด้วย”
แขไขตอบลูกชาย แล้วเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าในแกงตาวใส่ปลาแห้งนั้นมันมีส่วนประกอบเป็นปลาร้าด้วย จึงหันไปถามหญิงสาวอย่างเป็นห่วง เพราะบางคนก็ไม่ได้ชอบทานปลาร้าเหมือนครอบครัวของเธอ
“กินได้ค่ะคุณป้า ของชอบของมาสเลย”
จารุมาสเอ่ยตอบอย่างยิ้มแย้ม พลอยทำให้ผู้ร่วมโต๊ะต่างยิ้มตามไปด้วย ก่อนที่เธอจะเอ่ยถามต่ออย่างสงสัย
“แต่มาสไม่รู้จักตาวค่ะคุณป้า มันคืออะไรเหรอคะ”
“ตาว เป็นพืชตระกูลปาล์มชนิดหนึ่ง เช่นเดียวกับ มะพร้าว จาก และตาล คนภาคกลางเรียกต้นชิด คนอีสานเรียกต้นตาว คนใต้เรียกต้นชก ผลของมันคือลูกชิดไงจ๊ะ”
แขไขอธิบายให้หญิงสาวรุ่นลูกได้ฟังอย่างตั้งใจ
“อ๋อ…มาสรู้จักลูกชิดค่ะ แต่เพิ่งรู้ว่ามันมาจากต้นตาว”
“ยอดต้นตาวก็เอามาทำอาหารได้เหมือนยอดมะพร้าวนั่นแหละจ้ะ”
“มาสเคยกินแกงยอดมะพร้าวค่ะ อร่อยดี”
จารุมาสเอ่ยบอกยิ้มๆ พลางใช้ช้อนกลางตักแกงตาวใส่ปลาแห้งฝีมือมารดาของไอยรามาลองทานบ้าง
“เป็นไงจ๊ะ อร่อยไหม”
“อร่อยค่ะ รสชาติคล้ายๆ แกงเห็ดเลยนะคะ”
“ใช่จ้ะ อร่อยก็กินเยอะๆ นะ”
ไอยรามองความสนิทสนมกันอย่างรวดเร็วของมารดากับจารุมาสแล้วก็ให้สงสัย มารดาของเขาตักอาหารให้หญิงสาวด้วย ไปสนิทกันตอนไหน!
หลังจากนั้นบทสนทนาบนโต๊ะอาหารม้าหินอ่อนข้างคอกช้างก็เต็มไปด้วยเรื่องราวการรักษาพังใบบัวตั้งแต่เมื่อวาน โดยมีไอยรากับควาญปั้นเป็นคนเล่าอาการและเหตุการณ์ต่างๆ ให้แขไขฟัง ส่วนจารุมาสนั้นก็เป็นผู้ฟังที่ดีนั่งฟังไปจนได้รู้ว่า พังใบบัวนั้นเป็นช้างตัวแรกเลยที่ได้เข้ามาอยู่ที่นี่ และก่อให้เกิดเป็นปางช้างมาจนถึงทุกวันนี้ ดูแล้วมีความผูกพันมากจริงๆ กับทุกคนที่นี่ โดยเฉพาะไอยราที่ดูท่าทางทั้งรักและเป็นห่วงพังใบบัวมากกว่าใครๆ
“หนูมาสมาสอนได้กี่วันแล้วจ๊ะ”
แขไขหันมาชวนจารุมาสคุยบ้างในช่วงเวลาทานผลไม้หลังอาหาร กลัวเธอจะเบื่อเสียก่อนที่ต้องมานั่งฟังเรื่องราวแต่หนหลัง
“อาทิตย์นึงแล้วค่ะ”
“ยังไม่ค่อยได้ออกไปไหนเลยใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ มีแค่เมื่อวานได้ออกไปซื้อของที่อำเภอค่ะ”
แล้วจารุมาสก็เล่าเรื่องราวของเมื่อวาน ที่เธอมีโอกาสได้ติดรถของไอยราออกไปที่ตัวอำเภอให้หญิงวัยกลางคนฟัง แขไขฟังแล้วก็แอบยิ้มอยู่ในใจ เพราะรู้ดีว่าถ้าไม่มีความจำเป็นอะไร ลูกชายของนางจะไม่ออกจากปางไปไหนเด็ดขาด แล้วยิ่งการขับรถออกไปซื้อของเข้าปางนั้นก็เป็นหน้าที่ของหัวหน้าคนงาน ไม่ใช่หน้าที่ลูกชายของนางเสียหน่อย นี่คงอยากใกล้ชิดกับจารุมาสเป็นแน่ ถึงได้อาสาออกไปเองแบบนี้ นางจึงเอ่ยปากแทนลูกชายเสียเลย เดี๋ยวชักช้าแล้วจะไม่ทันการณ์
“ว่างๆ ช้างก็พาครูมาสไปทำบุญที่วัดป่าสิลูก ที่นั่นบรรยากาศดี เงียบสงบ พาไปเปิดหูเปิดตาบ้าง”
“ได้ครับแม่”
ไอยรารับปากกับมารดายิ้มๆ อย่างรู้กันสองคนว่าทำไมท่านถึงอยากให้เขาพาเธอไปที่นั่น ส่วนจารุมาสก็นั่งงงว่าทำไมมารดาของเขาต้องให้เธอไปทำบุญที่วัดป่าด้วย ทั้งๆ ที่ในอำเภอเชียงคานก็มีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งที่น่าไป แต่ไปที่ที่มารดาของเขาบอกก็ไม่เสียหายถือว่าได้ไปทำบุญก็ยังดี และยังได้มีโอกาสทำความรู้จักกับชายหนุ่มได้มากขึ้นอีกด้วย ได้ทั้งขึ้นทั้งล่องแบบนี้ทำไมเธอจะไม่สนกัน
“งั้นแม่กลับบ้านก่อนนะ เจอกันตอนเย็นนะลูกชาย”
แขไขเอ่ยบอกเมื่อเห็นพนักงานขับรถกอล์ฟมาจอดรอรับนางกลับบ้านแล้ว นางต้องกลับไปเล่าเรื่องราวในวันนี้และเรื่องของจารุมาสให้สามีฟังด้วย ป่านนี้คงชะเง้อคอยแย่แล้ว ถ้าไม่ติดว่าต้องพาแขกผู้ใหญ่ที่นับถือกันเที่ยวชมปางแล้วละก็ เขาคงติดตามนางมาที่นี่ด้วยแล้ว เพราะปางช้างแห่งนี้แบ่งเป็นโซนที่ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเที่ยวชมอยู่ทางด้านหน้า ส่วนทางด้านหลังจะเป็นที่อยู่อาศัยของช้างทั้งหมดในปาง และที่พักของควาญช้าง จะไม่ได้ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชม
“เดี๋ยวมาสช่วยถือของไปส่งค่ะคุณป้า”
จารุมาสเอ่ยอาสา พลางหยิบเถาปิ่นโตพร้อมกับตะกร้าใส่ของมาถือไว้ในมือทันที แล้วเดินตามมารดาของไอยราไปที่รถกอล์ฟ ส่งท่านขึ้นนั่งบนรถเรียบร้อยถึงค่อยส่งของให้ท่านถือ
“ขอบใจจ้ะ มาเที่ยวเล่นที่นี่บ่อยๆ นะ”
แขไขเอ่ยบอก แต่ก่อนที่รถกอล์ฟจะออกตัวนางก็ได้เอ่ยชวนหญิงสาวอีกครั้งอย่างรู้สึกเอ็นดูในนิสัยใจคอของจารุมาสเป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะนางอยากมีลูกสาวอีกสักคนแต่มีไม่ได้ก็เป็นได้ นางเลยรู้สึกถูกชะตา ไม่มีลูกสาวก็มีลูกสะใภ้ก็ยังดี
“ได้ค่ะคุณป้า”
จารุมาสยิ้มรับอย่างดีใจที่หญิงวัยกลางคนเอ็นดู พลางยกมือไหว้ลามารดาของชายหนุ่มอย่างนอบน้อมก่อนที่รถกอล์ฟจะเคลื่อนตัวออกไป หลังจากนั้นเธอก็กลับเข้าไปที่คอกของพังใบบัวเพื่อติดตามดูอาการเหมือนเดิม เหมือนที่ทำมาตลอดตั้งแต่เช้า
- READ สาปไอยรา บทที่ 14 : ช้างได้เล่นน้ำ แล้วคนล่ะได้เล่นอะไร
- READ สาปไอยรา บทที่ 13 : แอบคิดเข้าข้างตัวเองได้ไหม ว่าเขาก็สนใจเธอเหมือนกัน
- READ สาปไอยรา บทที่ 12 : ชวนทำบุญหวังผลอะไร
- READ สาปไอยรา บทที่ 11 : อึมันหมดท้อง เลยต้องเติมเข้าไปใหม่
- READ สาปไอยรา บทที่ 10 : มีคนรักเพิ่ม ดีกว่ามีคนเกลียด
- READ สาปไอยรา บทที่ 9 : ทำความรู้จักกับเพื่อนตัวใหญ่
- READ สาปไอยรา บทที่ 8 : ภาพที่มีกลิ่นและเสียง
- READ สาปไอยรา บทที่ 7 : เจอผู้ชายรักสัตว์ เลยอยากเกิดเป็นสัตว์ให้เขารัก
- READ สาปไอยรา บทที่ 6 : เห็นเขาทำตัวหยิ่ง ที่จริงก็แอบสนใจ
- READ สาปไอยรา บทที่ 5 : ต้องไม่เรื่องมาก ชีวิตจะได้ไม่ลำบาก
- READ สาปไอยรา บทที่ 4 : มองแล้วไม่เบื่อ ก็เลยไม่เบื่อที่จะมอง
- READ สาปไอยรา บทที่ 3 : เห็นเธอเป็นผี รีบเดินหนีไปเลยทีเดียว
- READ สาปไอยรา บทที่ 2 : เขาว่าฝันเห็นช้าง จะได้ลาภก้อนใหญ่
- READ สาปไอยรา บทที่ 1 : บทนำ
- READ สาปไอยรา บทที่ 27 : พระจันทร์วันลอยกระทง








