
สาปไอยรา บทที่ 13 : แอบคิดเข้าข้างตัวเองได้ไหม ว่าเขาก็สนใจเธอเหมือนกัน
โดย : ต้นไผ่กวนอิมสีทอง
![]()
สาปไอยรา เรื่องราวของ สัตวแพทย์หนุ่มผู้ต้องคำสาปได้ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาช่วยเหลือรักษาสัตว์ โดยหวังว่าผลบุญจะลบล้างคำสาปไปได้บ้าง แต่เจ้ากรรมนายเวรก็ไม่ได้ใจดี เพราะต้องมีความรักที่จริงใจเท่านั้นถึงจะช่วยได้! นวนิยายน่าอ่านโดย ต้นไผ่กวนอิมสีทอง ที่อ่านเอานำมาให้ทุกท่านได้อ่านใน anowl.co และเพจอ่านเอา
หลังจากทานข้าวกลางวันเสร็จ ไอยรากับจารุมาสช่วยกันตรวจดูน้ำเกลือ และเห็นว่าเติมน้ำเกลือให้แม่บัวไปประมาณ 70 ลิตรแล้ว อีกทั้งเห็นปัสสาวะของแม่บัวก็เริ่มใส แสดงให้เห็นว่าน้ำในร่างกายเพียงพอแล้ว ไอยราเฝ้าเติมน้ำเกลือไปเรื่อยๆ จนบ่ายคล้อย หมดน้ำเกลือไปประมาณเกือบ 80 ลิตร เขามั่นใจว่าตอนนี้แม่บัวปลอดภัยแล้ว จึงถอดสายน้ำเกลือออกแล้วให้แม่บัวไปพักผ่อน
“ปลอดภัยแล้วนะแม่บัว”
จารุมาสเอ่ยออกมาอย่างยิ้มแย้มพลางเข้าไปยืนใกล้ๆ พังใบบัว แล้วใช้มือลูบตรงงวงเบาๆ รู้สึกดีใจที่เธอได้มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาพังใบบัวในครั้งนี้ด้วย และการทำดีในครั้งนี้แม่บัวคงรับรู้ได้ ถึงกับใช้งวงคล้องรัดเอวเธอไว้จนเกือบล้ม ดีที่เธอกอดงวงของแม่บัวไว้ได้ทัน สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับไอยราและควาญปั้นที่ยืนดูอยู่ไม่ห่าง
หลังจากที่แม่บัวปล่อยงวงออกจากเอวของเธอให้ยืนได้ปกติ จารุมาสก็ถอยออกมาห่างๆ เพราะยังไม่คุ้นชินสักเท่าไร
“ช้างเป็นสัตว์แสนรู้ครับครูมาส รู้ว่าใครรักและหวังดีต่อมันจริงๆ ทุกอย่างที่เราแสดงออกไป ช้างทุกตัวสามารถรับรู้ได้ครับ และจะไม่เป็นอันตรายกับเราหรอกครับ”
ควาญปั้นเอ่ยบอกตามความรู้ความเข้าใจและการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสัตว์ตัวใหญ่มาตลอดชีวิต เมื่อเห็นว่าจารุมาสเริ่มกลัวการเข้าใกล้ช้างตัวใหญ่อย่างพังใบบัว
“ค่ะลุงปั้น มาสคงยังไม่คุ้น สงสัยต้องขอมาทำความคุ้นเคยบ่อยๆ เสียแล้ว”
จารุมาสยิ้มแหยๆ อย่างขออภัย
“ยินดีครับ ปางช้างจันทร์ส่องยินดีต้อนรับ”
ไอยราเป็นคนเอ่ยบอกอย่างเต็มใจที่สุด จนจารุมาสหมดอคติที่มีต่อเขาก่อนหน้านี้ไปเลย และเปลี่ยนจากยิ้มแหยๆ เป็นยิ้มหน้าบานเลยทีเดียว
“ขอบคุณค่ะ”
“คุณจะกลับเลยไหมครับ น่าจะเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”
ชายหนุ่มเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าควาญปั้นพาพังใบบัวออกไปเดินเล่นทางด้านหลังปางแล้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังมีต้นไม้ขึ้นอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การให้ช้างเข้าไปอยู่กับธรรมชาติ และเมื่อเดินต่อไปอีกหน่อยก็จะเป็นลำธารสายเดียวกับที่ไหลผ่านไปทางบ้านพักครูของจารุมาส
อีกทั้งหญิงสาวเองก็มาที่นี่ตั้งแต่เช้าแล้ว ช่วยเขาหยิบนู่นจับนี่ไม่ได้หยุด ความคิดของเขาคืออยากให้เธอได้กลับไปพักผ่อนเพื่อที่จะได้ทำงานในวันพรุ่งนี้ได้อย่างแจ่มใส
“เอาจริงๆ ไม่เหนื่อยเลยค่ะ แต่มาสกลับดีกว่า กวนคุณช้างมาทั้งวันแล้ว”
จารุมาสตอบกลับยิ้มๆ อย่างเกรงใจ พอเวลาเดินมาถึงตอนนี้เธอเพิ่งรู้สึกตัวว่า วันนี้เธออยู่กับเขามาตั้งแต่เช้า นี่ก็ผ่านมาหลายชั่วโมงจนเกือบจะเย็นอยู่แล้ว ควรจะกลับบ้านไปพักเสียที
“ไม่กวนเลยครับ ผมแค่เป็นห่วง กลัวคุณเหนื่อย”
ชายหนุ่มรีบแย้งด้วยสีหน้าเป็นกังวล เพราะกลัวหญิงสาวจะเข้าใจเขาผิดไปเสีย จากความหวังดีกลายเป็นการเอ่ยไล่
“อ๋อ…”
คนได้รับความเป็นห่วงหลบตาอย่างเขินอาย พลางคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาคิดอะไรกับเธอหรือเปล่าเนี่ย ทำมาเป็นห่วงเป็นใย แอบคิดเข้าข้างตัวเองได้ไหม ว่าเขาก็สนใจเธอเหมือนกัน
แต่ก่อนที่จารุมาสจะได้คิดอะไรไปไกลกว่านั้นก็ได้ยินเสียงของลูกศิษย์ที่เพิ่งเดินมาถึงร้องทักขึ้นมาเสียก่อน จนเธอต้องปัดความคิดเข้าข้างตัวเองนั้นทิ้งไปเสีย
“สวัสดีครับครูมาส”
“อ้าวนะโม ครูมาอยู่ที่นี่ตั้งนานไม่เจอเราเลย”
จารุมาสร้องทักอย่างแปลกใจ เพราะเธอไม่เห็นลูกศิษย์เลยจริงๆ ตั้งแต่ตอนเช้าที่เธอเข้ามาที่นี่
“วันนี้ผมต้องคุมใบจากวาดภาพระบายสีโชว์นักท่องเที่ยวครับครู”
ขันติธรรมเอ่ยบอกอย่างภาคภูมิใจที่ได้ช่วยเหลืองานของบิดา
“แล้วตอนนี้เสร็จแล้วเหรอ”
“ครับ ผมก็เลยจะพาใบจากไปเล่นน้ำที่ลำธาร ครูสนใจไปกับผมไหมครับ”
คนเป็นครูเมื่อได้ยินคำชวนจากลูกศิษย์ก็หันไปมองไอยราอย่างขอความเห็น เธอควรจะอยู่ต่อหรือควรจะกลับบ้านดีล่ะตอนนี้ เพราะใจก็อยากไปดูลูกช้างเล่นน้ำ อีกใจหนึ่งก็เกรงใจเจ้าของสถานที่ แต่ปากก็เอ่ยถามลูกศิษย์ไปก่อนแล้ว
“ไปกันแค่ใบจากกับนะโมเหรอ”
“มีพี่ใบกล้วยกับพ่ออีกคนครับ ไปด้วยกันนะครับครู”
เด็กชายขันติธรรมตอบอย่างฉะฉาน และพยายามชวนอีกครั้งเพราะอยากให้คุณครูคนสวยได้ไปเห็นความสามารถในการขี่ช้างของเขา และไปเล่นน้ำสนุกๆ ด้วยกัน
“เอ่อ…”
“ไปนะครับ เดี๋ยวผมไปด้วย”
เมื่อเห็นความลังเลของหญิงสาว ไอยราจึงตัดสินใจเลือกให้แทนด้วยการชวนเธอเองอีกครั้ง เพราะใจจริงแล้วเขาก็ยังไม่อยากให้เธอกลับบ้านพักครูไปหรอก อยากใช้เวลาอยู่กับเธอให้นานที่สุด
“ก็ได้ค่ะ”
หญิงสาวพยักหน้ารับ แล้วหันไปแอบยิ้มกับลมกับฟ้าคนเดียวไม่ให้ใครเห็น
“เย่!”
ขันติธรรมกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ แล้วรีบวิ่งไปอีกทางทันที พลอยทำให้ผู้ใหญ่อย่างไอยราและจารุมาสยิ้มและหัวเราะตามไปด้วย
“วิ่งไปไหนล่ะคะนั่น”
หญิงสาวเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
“คงไปพาใบจากมาโชว์คุณนั่นแหละ ไปนั่งรอตรงนู้นดีกว่าครับ”
ชายหนุ่มตอบยิ้มๆ พลางเอ่ยชวนหญิงสาวให้ไปนั่งรอที่โต๊ะม้าหินอ่อนใต้ร่มไม้ที่เคยใช้เป็นโต๊ะอาหารเมื่อกลางวันที่ผ่านมา จารุมาสเดินไปนั่งรอตามคำชวนแต่โดยดี พร้อมกับรู้สึกตื่นเต้นที่จะมีโอกาสได้เห็นช้างเล่นน้ำกับตาของตัวเอง เพราะเธอเคยเห็นแต่สารคดีในทีวี
นั่งรออยู่ไม่นานนักทั้งคู่ก็เห็นเด็กชายขันติธรรมนั่งอยู่บนคอช้างเด็ก มีช้างอีกสองตัวเดินตามหลังมาด้วย โดยมีควาญนั่งอยู่บนคอเช่นกัน ไอยราจึงเอ่ยแนะนำตัวให้ไปพลางๆ
“ช้างที่นะโมขี่มาชื่อใบจาก อายุเจ็ดปี ส่วนอีกตัวชื่อมะลิ เป็นแม่ใบจาก ตัวหลังสุดชื่อใบกล้วย”
“ลูกชาย ลูกสะใภ้ และหลานแม่บัวใช่ไหมคะ”
หญิงสาวจำได้ตอนที่อยู่ในรถของชายหนุ่มเมื่อวานนี้ แล้วขันติธรรมได้เอ่ยชื่อเหล่านี้ออกมา
“ใช่ครับ อยากลองขี่ช้างไหม”
ชายหนุ่มตอบกลับ มุมปากมีรอยยิ้มขัน พลางคิดว่าคนเป็นครูก็ช่างจดจำเหลือเกิน แล้วลองเอ่ยถามดูว่าเธอจะกล้าทำในสิ่งที่ไม่เคยทำหรือไม่
“ช้างตัวไหนคะ”
จารุมาสเหลือบมองช้างสามตัวที่กำลังเดินเข้ามาหากับช้างที่เป็นคนอย่างมีเลศนัย เขาคิดอะไรอยู่หรือเปล่าเนี่ย ถึงได้ถามว่าเธออยากลองขี่ช้างไหม แต่ถึงเขาไม่คิด เป็นเธอเองที่คิดลึกไปแล้ว!
- READ สาปไอยรา บทที่ 14 : ช้างได้เล่นน้ำ แล้วคนล่ะได้เล่นอะไร
- READ สาปไอยรา บทที่ 13 : แอบคิดเข้าข้างตัวเองได้ไหม ว่าเขาก็สนใจเธอเหมือนกัน
- READ สาปไอยรา บทที่ 12 : ชวนทำบุญหวังผลอะไร
- READ สาปไอยรา บทที่ 11 : อึมันหมดท้อง เลยต้องเติมเข้าไปใหม่
- READ สาปไอยรา บทที่ 10 : มีคนรักเพิ่ม ดีกว่ามีคนเกลียด
- READ สาปไอยรา บทที่ 9 : ทำความรู้จักกับเพื่อนตัวใหญ่
- READ สาปไอยรา บทที่ 8 : ภาพที่มีกลิ่นและเสียง
- READ สาปไอยรา บทที่ 7 : เจอผู้ชายรักสัตว์ เลยอยากเกิดเป็นสัตว์ให้เขารัก
- READ สาปไอยรา บทที่ 6 : เห็นเขาทำตัวหยิ่ง ที่จริงก็แอบสนใจ
- READ สาปไอยรา บทที่ 5 : ต้องไม่เรื่องมาก ชีวิตจะได้ไม่ลำบาก
- READ สาปไอยรา บทที่ 4 : มองแล้วไม่เบื่อ ก็เลยไม่เบื่อที่จะมอง
- READ สาปไอยรา บทที่ 3 : เห็นเธอเป็นผี รีบเดินหนีไปเลยทีเดียว
- READ สาปไอยรา บทที่ 2 : เขาว่าฝันเห็นช้าง จะได้ลาภก้อนใหญ่
- READ สาปไอยรา บทที่ 1 : บทนำ
- READ สาปไอยรา บทที่ 27 : พระจันทร์วันลอยกระทง








