สาปไอยรา บทที่ 18 : มียามเป็นช้าง ไม่อ้างว้างอีกต่อไป

สาปไอยรา บทที่ 18 : มียามเป็นช้าง ไม่อ้างว้างอีกต่อไป

โดย : ต้นไผ่กวนอิมสีทอง

Loading

สาปไอยรา เรื่องราวของ สัตวแพทย์หนุ่มผู้ต้องคำสาปได้ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาช่วยเหลือรักษาสัตว์ โดยหวังว่าผลบุญจะลบล้างคำสาปไปได้บ้าง แต่เจ้ากรรมนายเวรก็ไม่ได้ใจดี เพราะต้องมีความรักที่จริงใจเท่านั้นถึงจะช่วยได้! นวนิยายน่าอ่านโดย ต้นไผ่กวนอิมสีทอง ที่อ่านเอานำมาให้ทุกท่านได้อ่านใน anowl.co และเพจอ่านเอา

 

จารุมาสไม่ได้เจอพี่ช้างใหญ่มาหลายคืนแล้ว คืนนี้เธอก็ไม่เจออีกเช่นกัน เธอคอยนอนฟังเสียงของมันอยู่ตลอดทั้งคืน พี่ช้างใหญ่ก็ไม่มาหาเธอ ตั้งแต่วันนั้น วันที่เธอบอกว่าชอบไอยราให้มันฟัง มันเขินหรือมันโกรธเธอกันแน่ก็ไม่รู้ เอาใจยากจริงๆ เลย เจอกันอีกครั้งต้องถามสักหน่อยแล้วว่าเป็นอะไร ถึงมันจะพูดโต้ตอบกับเธอไม่ได้ แต่เธอมั่นใจว่าเธอคุยกับมันรู้เรื่อง

วันหยุดวันอาทิตย์ทั้งวันจารุมาสไม่ได้ออกไปไหน อยู่แต่บ้านพักครู ตรวจการบ้านของนักเรียน และวางแผนการเรียนการสอนของอาทิตย์ถัดไปก็หมดเวลาไปทั้งวัน

ตอนกลางคืนระหว่างที่จารุมาสกำลังนอนหลับสบายอยู่บนที่นอนนั้น ช่วงเวลาตีสองมีโจรสองคนเดินล่องตามน้ำมาตามลำธาร เดินคุยปรึกษากันมาว่ามีบ้านร้างอยู่แถวริมลำธารจะแอบเข้าไปพักเพื่อซ่อนตัว หลังจากที่เข้าไปขโมยของมีค่าจากบ้านหลังอื่นมา เมื่อเดินมาถึงบ้านร้างริมลำธารที่พวกมันเคยแอบเข้ามาพักครั้งก่อนก็ต้องแปลกใจ เพราะเห็นมีรถมอเตอร์ไซค์จอดอยู่ใต้ถุนบ้าน แสดงว่ามีคนมาอยู่แล้ว

“กูว่าขโมยรถขับหนีไปดีกว่า”

โจรคนหนึ่งเสนอความคิดเห็น

“กูเห็นด้วย”

แต่ความโลภมันครอบงำอยากจะขึ้นไปขโมยของมีค่าข้างบนอีก จึงกระซิบกระซาบกันแล้วชี้ขึ้นไปด้านบนบ้าน ทั้งคู่ส่งสัญญาณอย่างรู้ใจกันก่อนจะก้าวเดินขึ้นบันได แต่เพียงแค่เหยียบบันไดขั้นแรกเท่านั้น ทั้งคู่ก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงช้างร้อง

“แปร๊น!”

พร้อมกับหันไปเห็นช้างตัวใหญ่วิ่งเข้าใส่ ทั้งคู่จึงรีบวิ่งหนีเตลิดล้มลุกคลุกคลานกันไปคนละทิศละทาง

ทางด้านจารุมาสที่สะดุ้งรู้สึกตัวตื่นตั้งแต่ได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ใต้ถุนบ้านก็รู้สึกหวาดกลัวมาก ด้วยตัวคนเดียวและนอนอยู่ในบ้านเพียงคนเดียว จะร้องแรกแหกกระเชอขอความช่วยเหลือก็คงไม่มีใครได้ยิน เพราะแถวนี้มีบ้านพักครูที่เธออาศัยตั้งอยู่โดดเดี่ยว บ้านคนที่ใกล้ที่สุดก็อยู่ทางด้านหน้าโรงเรียน ภายในโรงเรียนก็ไม่มีใครอยู่สักคน

มืออันสั่นเทาควานหาโทรศัพท์ที่เธอวางไว้ใต้หมอนเพื่อโทร.หาใครสักคน แต่ต้องตกใจซ้ำอีกรอบเมื่อได้ยินเสียงช้างร้องและวิ่งไล่กวดโจรจนพวกมันหนีไปจนหมด

เธอจึงรีบลุกจากที่นอนด้วยความดีใจ และรู้สึกปลอดภัยเมื่อสำเหนียกได้ว่า ต้องเป็นพี่ช้างใหญ่ของเธอแน่นอนที่มาช่วยเธอไว้ แล้วก็เป็นอย่างที่เธอคิดไว้จริงๆ เมื่อเปิดประตูลงบันไดมาเห็นพี่ช้างใหญ่ยืนอย่างองอาจอยู่ใกล้ๆ ตัวบ้าน

“พี่ช้างใหญ่”

หญิงสาวร้องเรียกพลางวิ่งเข้าไปกอดงวงของมันไว้อย่างไว้เนื้อเชื่อใจ เธอดีใจและซาบซึ้งมากจนน้ำตาซึมที่มันมาช่วยเหลือเธอไว้ได้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นเธอไม่รู้เลยว่าเธอจะต้องเจอกับอะไรบ้าง จะเสียแค่รถมอเตอร์ไซค์หรืออาจต้องเสียชีวิตเลยก็เป็นได้ ถ้าโจรสองคนนั้นขึ้นบ้านไปแล้วพบเธออยู่คนเดียว

“…”

พี่ช้างใหญ่ยืนให้เธอกอดงวง ใบหูใหญ่ตั้งขึ้นเพื่อฟังเสียงรอบข้างอย่างคอยระวังภัย

“ขอบคุณนะคะ ถ้าไม่ได้พี่ มาสไม่รู้เลยว่าจะเป็นยังไงบ้าง”

จารุมาสเอ่ยบอกทั้งน้ำตา มันใช้งวงพันกอดเอวเธอไว้อย่างปลอบโยนเช่นกัน

เมื่อหญิงสาวหายจากอาการตกใจ เธอก็ค่อยๆ ถอนตัวออกจากการเกาะกอดงวงของพี่ช้างใหญ่ แต่ยังคงยืนอยู่ใกล้ๆ มันเช่นเดิม แต่เมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ก็รีบเอ่ยบอก

“พี่ช้างใหญ่รอตรงนี้แป๊บนึงนะ มาสมีอะไรจะให้”

“…”

มันผงกหัวรับคำของเธออย่างรู้เรื่อง แล้วเธอก็รีบวิ่งขึ้นบ้านไปหยิบของที่ต้องการพร้อมกับเชือกป่านยาวเส้นหนึ่ง ก่อนจะลงมาหาพี่ช้างใหญ่ที่ยังคงยืนรอเธออยู่ที่เดิม

“พี่ช้างใหญ่นั่งลงหน่อยได้ไหมคะ”

เธอเอ่ยสั่งมันด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เพราะมันตัวสูงกว่าเธอมาก ถ้ายังยืนอยู่เธอคงให้ของมันอย่างที่ตั้งใจไม่ได้ หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นมันค่อยๆ นั่งลงกับพื้นดินอย่างที่เธอออกคำสั่ง

จารุมาสเอาเชือกป่านที่เธอถือมาคล้องคอให้มันอย่างอ่อนโยน ก่อนจะร้อยพระเครื่องห้อยคอและผูกเชือกอย่างแน่นหนากันหลุดหาย แล้วเอ่ยบอกตามที่ตั้งใจ

“มาสไม่มีอะไรตอบแทน เลยให้พระองค์นี้ไว้เพื่อปกป้องพี่บ้าง”

ยายอัมพรของเธอให้พระเครื่องเธอติดตัวไว้สององค์ หญิงสาวจึงแบ่งให้พี่ช้างใหญ่หนึ่งองค์เป็นการตอบแทนมันที่ช่วยเหลือเธอไว้ในครั้งนี้ ถึงแม้ว่าจะปกป้องมนุษย์ที่จะทำร้ายมันไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็น่าจะปกป้องมันจากภูตผีปีศาจหรือเวทมนตร์คาถาชั่วร้ายได้บ้างก็ยังดี

มันผงกหัวรับคำของเธอ พลางลุกขึ้นยืนเหมือนเดิม ก่อนจะใช้งวงแตะบนศีรษะของหญิงสาวเบาๆ เป็นการขอบคุณ

“พี่ช้างใหญ่หายไปไหนมาหลายวันไม่มาหามาสเลย โกรธอะไรหรือเปล่า”

จารุมาสได้โอกาสเอ่ยถามในสิ่งที่เธอสงสัย จึงไม่รั้งรอที่จะเก็บไว้

“…”

มันส่ายหัวไปมาเป็นเชิงบอกว่าไม่โกรธ แล้วพยายามใช้งวงดันตัวเธอให้เดินถอยหลัง และชูงวงชี้ไปยังตัวบ้านพักครูของเธอ

“จะให้มาสกลับขึ้นบ้าน? ไม่อยากคุยด้วยแล้วเหรอ”

“…”

มันผงกหัวตอบ จนเธอต้องยิ้มออกมาอย่างดีใจที่สามารถคุยกับพี่ช้างใหญ่ได้รู้เรื่องทุกอย่าง ถึงแม้ว่าเธอจะต้องพูดอยู่คนเดียวก็ตาม

“ก็ได้ๆ แล้วพี่ช้างใหญ่ล่ะ จะกลับเข้าป่าเลยไหม”

“…”

มันส่ายหัวไปมา แล้วทำท่าย่ำเท้าอยู่กับที่ หญิงสาวเลยเข้าใจได้ว่าพี่ช้างใหญ่จะยังคงอยู่เป็นเพื่อนเธอในคืนนี้

“ขอบคุณนะ รักพี่ช้างใหญ่จัง”

จารุมาสเอ่ยบอกพลางเข้าไปจูบงวงของมันจนใบหูของพี่ช้างใหญ่ตั้ง คงจะตกใจแหละที่เธอจู่โจม แล้วเดินกลับขึ้นบนบ้านอย่างอ้อยอิ่ง พลางหันหลังมามองว่ามันยังยืนอยู่ที่เดิมหรือไม่ เพราะคืนนี้ถ้าไม่มีใครอยู่ด้วยเธอคงนอนหลับไม่ลงอีกเด็ดขาด เพราะยังมีความระแวงกลัวว่าโจรสองคนนั้นจะย้อนกลับมา แต่ถ้าพี่ช้างใหญ่ยังอยู่กับเธอจนเช้า หญิงสาวก็ไว้วางใจได้ว่าเธอจะปลอดภัยทั้งคืน

คืนนั้นหลังจากหญิงสาวกลับขึ้นไปนอนบนบ้าน พี่ช้างใหญ่ก็ยืนเป็นยามเฝ้าดูแลความปลอดภัยให้จารุมาสจนถึงรุ่งเช้า ใกล้เวลาพระอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้าจึงเดินทวนน้ำในลำธารกลับไป

 



Don`t copy text!