สาปไอยรา บทที่ 21 : เลี้ยงช้างเหมือนครอบครัว ไม่ได้เลี้ยงเพื่อทำการค้า

สาปไอยรา บทที่ 21 : เลี้ยงช้างเหมือนครอบครัว ไม่ได้เลี้ยงเพื่อทำการค้า

โดย : ต้นไผ่กวนอิมสีทอง

Loading

สาปไอยรา เรื่องราวของ สัตวแพทย์หนุ่มผู้ต้องคำสาปได้ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาช่วยเหลือรักษาสัตว์ โดยหวังว่าผลบุญจะลบล้างคำสาปไปได้บ้าง แต่เจ้ากรรมนายเวรก็ไม่ได้ใจดี เพราะต้องมีความรักที่จริงใจเท่านั้นถึงจะช่วยได้! นวนิยายน่าอ่านโดย ต้นไผ่กวนอิมสีทอง ที่อ่านเอานำมาให้ทุกท่านได้อ่านใน anowl.co และเพจอ่านเอา

ภายในปางช้างจันทร์ส่อง วันธรรมดานักท่องเที่ยวค่อนข้างบางตา ทำให้ช้างหลายๆ เชือกได้มีเวลาพักผ่อนอยู่ในคอก โดยมีควาญประจำตัวคอยดูแลไม่ห่าง

ไอยรากำลังเดินตรวจดูสุขภาพของช้างแต่ละเชือกเหมือนทุกวัน จนกระทั่งมาถึงคอกของพังแพงพวยก็หยุดดูนานเป็นพิเศษ เพราะมันกำลังท้องและใกล้จะคลอดในอีกไม่กี่วันนี้ ถ้าคลอดตอนกลางวันเขายังคงช่วยทำคลอดให้มันได้ แต่ถ้าคลอดตอนกลางคืนคงต้องลำบากพวกควาญให้ช่วยกัน เขายืนครุ่นคิดหาวิธีที่พังแพงพวยจะคลอดลูกออกมาได้อย่างปลอดภัยที่สุด แต่ก็ต้องออกจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงเรียก

“หมอช้างครับ”

“ครับ”

เขาหันไปขานรับควาญปั้นที่เป็นคนมาเรียกเขาไว้

“มีแขกมาขอพบหมอช้างครับ เธอรออยู่ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์”

ควาญปั้นเอ่ยบอก แล้วเดินเลี่ยงออกไปทันที

ชายหนุ่มจึงเดินไปทางศูนย์ประชาสัมพันธ์ที่อยู่ทางส่วนด้านหน้าของปางช้าง เพื่อไปพบกับแขกที่เขาก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร วันนี้เขาไม่ได้นัดกับใครไว้เสียด้วย แต่พอเดินมาถึงที่นัดพบเขาก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งในชุดเดรสแขนกุดรัดรูปสีดำยืนหันหลังรออยู่ ท่าทางคุ้นๆ เหมือนคนรู้จัก เขาจึงเอ่ยทักออกไปก่อน

“สวัสดีครับ”

หญิงสาวคนนั้นหันมาทันที แล้วเขาก็นึกออกทันใดว่าเธอคือเพื่อนของเขาสมัยเรียนมหาวิทยาลัย จึงแย้มยิ้มออกมาอย่างยินดี เนื่องด้วยไม่ได้เจอกันนานหลายปีตั้งแต่เรียนจบ เธอเรียนคณะบริหารธุรกิจ ส่วนเขานั้นเรียนคณะสัตวแพทย์ มาเป็นเพื่อนกันได้เพราะนิศากรเป็นเพื่อนของเพื่อนสนิทเขาอีกที ทำให้รู้จักสนิทสนมกันไปโดยปริยาย

“สวัสดีค่ะช้าง นิมากวนหรือเปล่า”

นิศากรเอ่ยทักกลับ ก่อนจะเอ่ยถามอย่างเกรงใจ เพราะเธอมาหาเขาโดยที่ไม่ได้นัดไว้ก่อน เธออยากจะเซอร์ไพรส์ไอยราด้วย มาเจอเขาอีกครั้งยังดูดีและหล่อเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย ส่วนเธอชอบเขาอย่างไรก็ชอบอยู่อย่างนั้น แต่ในเมื่อเขาปฏิบัติตัวกับเธอเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ จึงยังไม่กล้าที่จะเปิดเผยความในใจ แต่การมาครั้งนี้ เธอจะลองสู้ดูอีกสักครั้ง หวังว่าในหัวใจของเขาจะยังไม่มีใครเหมือนที่ผ่านมา

“ไม่กวนหรอก ว่าแต่ไปไงมาไงเนี่ยถึงมาที่นี่ได้”

นานๆ จะมีเพื่อนมาเยี่ยมเยียนที่นี่ที เขาก็ยินดีต้อนรับทุกคน

“พอดีนิมีเรื่องจะรบกวนช้างหน่อยค่ะ”

เริ่มด้วยเรื่องงานก่อนก็แล้วกัน

“งั้นเราไปนั่งคุยในห้องดีกว่า จะได้ไม่ร้อน”

ไอยราเอ่ยช่วยให้นิศากรเข้าไปในห้องด้านหลังของศูนย์ประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นห้องเอาไว้รับแขกโดยเฉพาะ พลางเดินนำหญิงสาวเข้าไปก่อน แล้วให้เธอนั่งที่โซฟารับแขก ส่วนเขาหยิบน้ำเย็นพร้อมหลอดมาส่งให้เธอ แล้วนั่งลงตรงโซฟาอีกตัว

“ที่นี่ร่มรื่นดีนะคะ”

นิศากรรับขวดน้ำจากมือของไอยรา โดยแกล้งสัมผัสมือเขาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยชมสถานที่ที่เธอเพิ่งจะเคยมาเป็นครั้งแรก เป็นปางช้างที่เต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ให้ร่มเงา อากาศจึงไม่ร้อนอบอ้าวมากนัก ขนาดเป็นจังหวัดที่อยู่ทางภาคอีสานเหมือนกันกับจังหวัดขอนแก่นที่เธออยู่ แต่ความร้อนของอากาศที่ปางแห่งนี้กับบ้านของเธอช่างแตกต่างกันเหลือเกิน

“พ่อกับแม่ผมชอบต้นไม้ ถ้าไม่จำเป็นจะไม่ตัดทิ้ง ก็เลยเป็นอย่างที่เห็น”

อีกอย่างคือทุกคนที่นี่อยากคงธรรมชาติของป่าไว้ให้ได้มากที่สุด เพราะช้างชอบ!

“ดีแล้วค่ะ ที่สวนสัตว์ของนิยังร้อนกว่านี้อีก”

ทางบ้านของนิศากรทำกิจการสวนสัตว์เอกชน หลังจากเธอเรียนจบบิดาก็ให้เข้ามาช่วยกันบริหารงาน และการมาหาไอยราครั้งนี้ก็เกี่ยวกับเรื่องงานด้วยส่วนหนึ่ง จึงเอ่ยถึงความต้องการออกมา

“นิอยากได้ช้างสักเชือกเพื่อไปเลี้ยงที่สวนสัตว์ ช้างพอจะขายให้ได้บ้างไหมคะ”

“ผมขายไม่ได้หรอกครับนิ ที่นี่เราเลี้ยงช้างทุกเชือกเป็นเหมือนครอบครัว ไม่ได้เลี้ยงเพื่อทำการค้า”

ไอยราตอบปฏิเสธไปตามตรง เรื่องที่จะขายช้างให้คนอื่นนั้นไม่เคยอยู่ในหัวของเขาเลย พ่อกับแม่ของเขาก็เช่นกัน พวกท่านรักและดูแลช้างทุกเชือกในปางนี้อย่างญาติพี่น้อง

“โธ่…แบ่งขายให้นิสักเชือกไม่ได้เลยเหรอคะ ที่สวนสัตว์ของนิตอนนี้นักท่องเที่ยวน้อยลงเยอะมาก เลยอยากได้ช้างไปเพิ่มเพื่อเรียกนักท่องเที่ยว”

นิศากรอ้อนวอน และบอกถึงสาเหตุที่เธอต้องการช้างสักเชือกไปไว้ที่สวนสัตว์ของเธอ

“ที่นั่นมีช้างกี่เชือกแล้วล่ะ”

ไอยราถามกลับด้วยความอยากรู้ เผื่อเขาจะช่วยเรื่องอื่นได้บ้าง

“ยังไม่มีเลยสักเชือกค่ะ เลยต้องมาขอร้องให้ช้างช่วยอยู่นี่ไงคะ อยากได้เงินเท่าไหร่พ่อของนิไม่เกี่ยงเลย”

บิดาของเธอยอมทุ่มทุนเพื่อกิจการสวนสัตว์ที่ท่านก่อตั้งขึ้นมา และท่านก็ตั้งความหวังกับเธอไว้มากว่าจะมาคุยธุรกิจสำเร็จ เมื่อได้รับรู้ว่าเธอมีเพื่อนทำปางช้าง ถ้าครั้งนี้เธอกลับไปมือเปล่าบิดาของเธอจะต้องผิดหวังในตัวลูกสาวเป็นแน่

“ก็อย่างที่บอก ผมคงช่วยนิไม่ได้”

ไอยราปฏิเสธอย่างหนักแน่นอีกครั้ง เรื่องเงินสำหรับเขาไม่ใช่ปัญหา เพราะปางแห่งนี้มีรายได้เลี้ยงตัวเองได้อยู่แล้วไม่เคยขาดทุน และถึงแม้จะมีบางปีที่ต้องปิดปางช้างไปเพราะโรคระบาด ปางของเขาก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ด้วยครอบครัวของเขานั้นร่ำรวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

“ช้างใจร้ายกับนิจัง”

นิศากรตัดพ้อ ทำหน้าซึมเพื่อให้ชายหนุ่มเห็นใจ

“ทำไมนิไม่ทำคอนเทนต์ความน่ารักของสัตว์ลงโซเชียลเหมือนลูกฮิปโปแคระที่ชลบุรีล่ะ ดึงนักท่องเที่ยวได้มากกว่าอีก”

ไอยราถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะเอ่ยแนะนำ เพราะที่ปางของเขาก็ทำแบบนั้นเช่นกันด้วยการถ่ายคลิปความน่ารักของพลายใบจาก ช้างเด็กที่สุดในปางของเขาลงโซเชียล ซึ่งก็ได้ผลดีเสียด้วย

“นิก็ทำอยู่ค่ะ แต่ที่นู่นยังไม่มีลูกสัตว์ที่เกิดใหม่เลย ช่วงนี้ก็เลยหาสัตว์ที่สวนสัตว์ยังไม่มีเข้าไปเพิ่มน่ะค่ะ ช้างช่วยนิหน่อยนะค้า…นะ”

นิศากรเอ่ยบอกอย่างอ้อนๆ เพื่อให้เขาเห็นใจ

“ผมยังยืนยันคำเดิมครับ”

“ไม่เป็นไรค่ะ นิให้เวลาช้างคิดใหม่แล้วกันค่ะ นิยังอยู่ที่นี่อีกสองสามวัน วันหลังจะมาขอคำตอบใหม่นะคะ”

นิศากรมาที่นี่เพื่อตั้งใจมาเที่ยวเชียงคานด้วย โดยจองห้องพักในโรงแรมที่ตัวอำเภอไว้ วันนี้เธอขอกลับไปตั้งหลักก่อน เพื่อหาวิธีกล่อมไอยราให้ขายช้างสักเชือกให้เธอ วันนี้เขาไม่ใจอ่อน แต่วันหน้าไม่แน่ ถ้าเธอตื๊อเขามากๆ

“ครับ”

ไอยราลุกขึ้นยืนส่งเพื่อน เมื่อเห็นนิศากรกำลังจะกลับ พลางคิดว่าไม่ว่าจะถามเขาอีกกี่ครั้ง เขาก็ไม่ขาย แต่ไม่อยากจะตัดรอนคนเป็นเพื่อน หวังว่าเธอจะถอดใจไปเองในไม่ช้า

หลังจากที่นิศากรกลับออกจากปางไปแล้ว ไอยราก็เดินตรวจสุขภาพของช้างต่อ และดูแลความเรียบร้อยในปางแทนบิดามารดา จนกระทั่งถึงเวลาเย็น จึงขับรถกระบะออกไปทางโรงเรียนบ้านด่านแก้ว

 



Don`t copy text!