
สาปไอยรา บทที่ 22 : พาสาวเข้าบ้าน หน้าตาเบิกบานเป็นพิเศษ
โดย : ต้นไผ่กวนอิมสีทอง
![]()
สาปไอยรา เรื่องราวของ สัตวแพทย์หนุ่มผู้ต้องคำสาปได้ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาช่วยเหลือรักษาสัตว์ โดยหวังว่าผลบุญจะลบล้างคำสาปไปได้บ้าง แต่เจ้ากรรมนายเวรก็ไม่ได้ใจดี เพราะต้องมีความรักที่จริงใจเท่านั้นถึงจะช่วยได้! นวนิยายน่าอ่านโดย ต้นไผ่กวนอิมสีทอง ที่อ่านเอานำมาให้ทุกท่านได้อ่านใน anowl.co และเพจอ่านเอา
เมื่อส่งเด็กนักเรียนคนสุดท้ายกลับบ้านเป็นที่เรียบร้อย จารุมาสก็กลับไปที่บ้านพักครูเพื่อเก็บของอีกเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นานรถกระบะสี่ประตูของไอยราก็ขับมาจอดลงที่หน้าบ้าน หญิงสาวจึงขนของลงมาจากบ้านบางส่วน
ไอยราที่ลงจากรถมาได้ก็รีบเข้าไปช่วยหญิงสาวถือของ แล้วเอามาใส่ไว้ท้ายรถกระบะ ส่วนจารุมาสนั้นเดินกลับขึ้นบ้านไปอีกครั้งเพื่อขนของที่เหลือ เธอขนของที่มีอยู่น้อยนิดไปจนหมด พลางคิดว่าไว้มีเพื่อนครูมาอยู่บ้านพักข้างๆ กัน ค่อยกลับมาอยู่ที่นี่ใหม่ จะได้ไม่เป็นการรบกวนทางบ้านของไอยรามากจนเกินไป
หญิงสาวขนของเพียงแค่สามรอบเท่านั้นก็เสร็จเรียบร้อยพร้อมที่จะไปปางช้างจันทร์ส่อง ส่วนมอเตอร์ไซค์ของเธอนั้นเดี๋ยวไอยราจะให้คนงานในปางมาขับไปให้ จารุมาสจึงขึ้นนั่งบนรถทางด้านหน้าคู่กับคนขับอย่างไอยรา เมื่อรถออกตัวเธอก็อดที่จะหันหลังกลับไปมองตัวบ้านและต้นพญาเสือโคร่ง สถานที่แห่งความทรงจำอย่างอาลัยอาวรณ์ไม่ได้
ไอยราแอบยิ้มด้วยความเอ็นดูหญิงสาว ก่อนจะเอ่ยแซวออกมา
“มองกลับหลังขนาดนี้ ผมจะคิดว่าครูมาสอยู่ที่นี่มานานหลายปีแล้วได้ไหม”
“ถึงแม้ว่ามาสจะอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน แต่มันก็มีแต่ความทรงจำดีๆ ถ้าไม่นับรวมตอนโจรจะขึ้นบ้านนะคะ”
จารุมาสเอ่ยบอกอย่างติดตลกในตอนท้าย เพื่อไม่ให้ตัวเองได้เศร้าสร้อยเกินไปนัก
“แต่ครูมาสไม่ได้ไปอยู่ไหนไกลเลยนะครับ ปางจันทร์ส่องห่างจากโรงเรียนไม่ไกลเลย อีกอย่างครูมาสก็ยังเป็นครูสอนอยู่ที่นี่”
“จริงด้วยค่ะ”
จารุมาสหัวเราะอย่างตลกตัวเองพลอยทำให้ชายหนุ่มยิ้มตามไปด้วย จริงอย่างที่เขาพูดว่าเธอไม่ได้ไปไหนไกลเลย บ้านพักครูอยู่เพียงแค่หลังโรงเรียนที่เธอต้องมาสอนทุกวันอยู่แล้ว เวลาว่างจะเดินมาดูก็คงไม่มีใครว่า คิดได้ดังนั้นเธอจึงหันกลับไปมองทางด้านหน้ารถอย่างสบายใจขึ้น
เมื่อมาถึงบ้านหลังใหญ่ในปางช้างจันทร์ส่อง ตัวบ้านปลูกแอบอยู่ในร่มเงาไม้ใหญ่ เป็นบ้านไทยอีสานประยุกต์ที่ดูร่วมสมัยผสมกลิ่นอายเรือนไทยรูปแบบเฮือนอีสาน พื้นที่ชั้นล่างออกแบบให้เป็นเหมือนใต้ถุนโล่ง เพื่อเอื้อให้เกิดปฏิสัมพันธ์กับธรรมชาติรอบตัว โดยมีชานหลังคายื่นออกไปเป็นพื้นที่อเนกประสงค์และรับแขกได้ หากมองจากภายนอก บ้านหลังนี้มีลักษณะคล้ายเรือนสามหลัง ที่มีชานแดดผูกติดกันไว้ตรงกึ่งกลาง เพื่อให้ลมพัดผ่านได้สะดวกทุกพื้นที่ เรือนแต่ละหลังมีชายคายื่นยาวเพื่อป้องกันแดดและฝน ชั้นล่างใช้ผนังดินอัดเพื่อทำหน้าที่เป็นฉนวน หน่วงความร้อนให้บ้านเย็นลงในช่วงกลางวัน ส่วนหลังคาเป็นไม้ซีดาร์ วัสดุส่วนใหญ่เลือกใช้ไม้เพราะมีความเป็นธรรมชาติ ดูดและคายความร้อนได้รวดเร็ว
“เข้าบ้านกันครับ พ่อกับแม่ผมรออยู่”
ไอยราเอ่ยชวนเมื่อรอให้จารุมาสมองสำรวจบ้านภายนอกจนพอใจ
“ค่ะ”
หญิงสาวเดินตามเจ้าของบ้านเข้าไปด้านใน แล้วพบกับชายหญิงวัยกลางคนนั่งรออยู่ที่ห้องรับแขก เธอจึงยกมือไหว้อย่างเคารพนบนอบ เมื่อจำได้ว่าหญิงวัยกลางคนคนนั้นคือมารดาของไอยราที่เธอเคยเจอเมื่อหลายวันก่อน ส่วนชายวัยกลางคนเธอคิดว่าน่าจะเป็นบิดาของชายหนุ่ม
“สวัสดีค่ะคุณป้า คุณลุง”
“สวัสดีจ้ะ บ้านนี้ยินดีต้อนรับนะครูมาส”
แขไขลุกขึ้นยืนแล้วดึงตัวหญิงสาวให้นั่งลงที่โซฟาข้างๆ กัน ส่วนคชานั้นพยักหน้ารับยิ้มๆ ทั้งคู่ได้รับรู้เรื่องราวของจารุมาสจากปากของลูกชายแล้วว่า หญิงสาวต้องพบเจออะไรมาบ้าง จึงยินดีช่วยเหลือให้ที่พักอาศัย อีกทั้งต่อไปหญิงสาวตรงหน้าอาจจะได้เป็นคนรักของลูกชาย ช่วยเหลือกันไว้ก็ไม่เสียหาย
“จริงๆ แล้วมาสอยู่บ้านพักคนงานก็ได้นะคะ”
จารุมาสเอ่ยบอกอย่างถ่อมตน ยิ่งมาเห็นบ้านช่องใหญ่โตของชายหนุ่ม ตัวเธอก็ยิ่งลีบเล็ก เริ่มคิดถึงความเหมาะสมระหว่างกันขึ้นมาทันที
“ส่วนใหญ่มีแต่ควาญผู้ชายทั้งนั้น อยู่ที่นี่ดีแล้วละหนู จะได้เป็นเพื่อนคุยกับแขเขาด้วย”
คชาที่นั่งฟังอยู่เอ่ยขึ้นมา จะปล่อยผู้หญิงสาวให้ไปอยู่บ้านพักคนงานที่มีแต่ผู้ชายได้อย่างไร ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่เคยเกิดเหตุการณ์ร้ายอะไรมาก่อน แต่ก็ควรกันไว้ก่อนที่จะมาแก้ไขทีหลัง
“ขอบคุณค่ะ มาสต้องขอรบกวนด้วยนะคะ”
จารุมาสยกมือไหว้เป็นการขอบคุณบิดามารดาของไอยราอีกครั้ง พวกท่านใจดีกับเธอเหลือเกิน บุญคุณครั้งนี้เธอจะไม่ลืม หวังว่าเธอจะทำอะไรเป็นการตอบแทนความใจดีของพวกท่านได้บ้าง
“ไม่รบกวนเลยจ้ะ ช้างพาครูมาสไปดูห้องพักสิ เดี๋ยวจะได้ลงมาทานข้าวเย็นพร้อมกัน”
แขไขเอ่ยบอก พลางหันไปสั่งลูกชายคนเดียวที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ข้างคชา นางเห็นลูกชายมีความสุขคนเป็นแม่ก็มีความสุขตามไปด้วย นี่คงจะนั่งดีใจอยู่ละสิที่หญิงสาวที่ถูกใจ ได้มาอยู่ใกล้ๆ จะได้เจอกันทุกวัน ถึงได้ยิ้มไม่หุบขนาดนี้
“ไปครับ”
ไอยราพยักหน้าเรียกจารุมาสให้เดินตามเขาไปดูห้องพักที่ชั้นสอง ป่านนี้แม่บ้านคงช่วยกันขนของของเธอไปที่ห้องพักเรียบร้อยแล้ว
จารุมาสเดิมค้อมตัวผ่านผู้ใหญ่ทั้งคู่ตามชายหนุ่มไปตามคำชวน เมื่อพ้นโซฟารับแขกเธอก็เดินตามปกติ แล้วสังเกตบ้านของเขาไปด้วย ตอนเดินคนเดียวจะได้เดินไปไหนมาไหนถูก บ้านใหญ่เหลือเกิน
“ห้องของครูมาสอยู่ทางซ้ายนะครับ ส่วนพ่อกับแม่ผมอยู่ทางด้านขวา จะได้เป็นสัดส่วน และครูมาสจะได้เป็นส่วนตัวมากขึ้น”
ไอยราพาเดินชมบ้านชั้นสอง และเอ่ยบอกว่าห้องไหนเป็นของใครบ้าง
“แล้วห้องคุณช้างอยู่ไหนคะ”
จารุมาสเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ที่บ้านในเขตหวงห้ามเป็นหลัก ก็ต้องมีห้องส่วนตัวที่นี่บ้างเหมือนกัน
“จะแอบเข้าห้องผมเหรอครับ”
ชายหนุ่มเอ่ยแซวยิ้มๆ
“บ้า!”
จารุมาสต่อว่าเบาๆ ให้พอน่ารัก พลางคิดว่าใครจะกล้าเข้าไปห้องของเขากัน
“ห้องผมอยู่ข้างห้องพ่อกับแม่ครับ”
ไอยราเอ่ยบอกยิ้มๆ และเมื่อมาถึงห้องพักของหญิงสาว ชายหนุ่มก็เป็นคนเปิดประตูให้ เธอเข้าไปในห้องพักที่สะอาดสะอ้าน เตียงนอนเรียบตึงเหมือนห้องพักของโรงแรมดีๆ เลยทีเดียว เมื่อสำรวจห้องพักจนพอใจจารุมาสก็เอ่ยชวน
“ลงไปข้างล่างกันเถอะค่ะ”
เพราะกลัวผู้ใหญ่จะรอนาน เดี๋ยวมันจะดูไม่ดีในสายตาของพวกท่านด้วยที่หายขึ้นมาอยู่ข้างบนกันสองคน ถึงแม้ว่าพวกท่านจะรับรู้ก็ตาม
มื้ออาหารเย็นมื้อนั้นจบลงอย่างรวดเร็วเมื่อไอยราทานข้าวอิ่มแล้วรีบร้อนกลับบ้านในตอนใกล้แสงอาทิตย์จะหมด จารุมาสแอบเห็นชายหนุ่มเดินเร็วๆ ออกจากบ้าน และบางช่วงก็มีวิ่งบ้างเข้าไปในเขตหวงห้าม ทำให้เธอสงสัยว่าทำไมเขาจะต้องรีบร้อนขนาดนั้นด้วย
“ช้างเป็นพวกโลกส่วนตัวสูงน่ะครูมาส ชอบเก็บตัวอยู่คนเดียว อย่าถือสาเลยนะ”
คชาที่เห็นหญิงสาวมองตามลูกชายของตนไปเอ่ยแก้ตัวออกมาแทน ทั้งๆ ที่รู้ดีว่าไอยราเป็นอะไรถึงต้องรีบร้อนขนาดนั้น แต่ก็บอกออกไปไม่ได้ต้องเก็บเป็นความลับไปตลอด ไม่เช่นนั้นมันจะเป็นอันตรายต่อลูกชายของเขาได้
“อ๋อ…ค่ะ งั้นมาสขอตัวขึ้นห้องไปจัดของก่อนนะคะ”
จารุมาสเอ่ยขอตัวเมื่อทุกคนทานอาหารกันอิ่ม เพราะเธอยังมีภารกิจที่ต้องทำอีก ถึงแม้ว่าของที่ขนมาจากบ้านพักครูจะน้อยก็ตาม
“ตามสบายเลยจ้ะ เดี๋ยวลุงกับป้าก็จะไปพักผ่อนแล้วเหมือนกัน”
แขไขยิ้มให้หญิงสาวอย่างเป็นกันเอง เข้าใจดีว่าเธอคงยังรู้สึกเกร็งๆ แล้วยิ่งไม่มีไอยราอยู่ด้วยก็คงทำตัวไม่ถูก นางจึงไม่ได้ถือสาหาความอะไร ปล่อยให้จารุมาสเดินขึ้นห้องไปแล้วมองตามยิ้มๆ กับสามีด้วยความเอ็นดู
“ถ้าลูกเราจริงจังกับคนนี้ หวังว่าเธอจะรับตัวตนที่แท้จริงของลูกเราได้นะ”
คชาเปรยขึ้นมาให้ภรรยาได้ยินเป็นเชิงปรึกษาความคิดเห็น แต่แขไขไม่ได้พูดอะไรออกมาทั้งนั้น เพียงแต่ยิ้มให้ผู้เป็นสามีอย่างเดียว พลางคิดว่าเท่าที่นางสัมผัสนิสัยใจคอของจารุมาส ก็ดูเป็นคนนิสัยและจิตใจดีคนหนึ่ง ถ้ามีความรักให้กันมากพอก็น่าจะผ่านพ้นเรื่องราวเหล่านั้นไปได้
- READ สาปไอยรา บทที่ 22 : พาสาวเข้าบ้าน หน้าตาเบิกบานเป็นพิเศษ
- READ สาปไอยรา บทที่ 21 : เลี้ยงช้างเหมือนครอบครัว ไม่ได้เลี้ยงเพื่อทำการค้า
- READ สาปไอยรา บทที่ 20 : ลากันวันนี้ เพื่อที่จะเจอกันใหม่ในวันหน้า
- READ สาปไอยรา บทที่ 19 : เพื่อความปลอดภัย เลยตัดสินใจไปอยู่บ้านผู้ชาย
- READ สาปไอยรา บทที่ 18 : มียามเป็นช้าง ไม่อ้างว้างอีกต่อไป
- READ สาปไอยรา บทที่ 17 : จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน
- READ สาปไอยรา บทที่ 16 : วัดป่า เส้นทางธรรมสู่ความสงบ
- READ สาปไอยรา บทที่ 15 : สรรพคุณของดอกจำปี คือบำรุงหัวใจ
- READ สาปไอยรา บทที่ 14 : ช้างได้เล่นน้ำ แล้วคนล่ะได้เล่นอะไร
- READ สาปไอยรา บทที่ 13 : แอบคิดเข้าข้างตัวเองได้ไหม ว่าเขาก็สนใจเธอเหมือนกัน
- READ สาปไอยรา บทที่ 12 : ชวนทำบุญหวังผลอะไร
- READ สาปไอยรา บทที่ 11 : อึมันหมดท้อง เลยต้องเติมเข้าไปใหม่
- READ สาปไอยรา บทที่ 10 : มีคนรักเพิ่ม ดีกว่ามีคนเกลียด
- READ สาปไอยรา บทที่ 9 : ทำความรู้จักกับเพื่อนตัวใหญ่
- READ สาปไอยรา บทที่ 8 : ภาพที่มีกลิ่นและเสียง
- READ สาปไอยรา บทที่ 7 : เจอผู้ชายรักสัตว์ เลยอยากเกิดเป็นสัตว์ให้เขารัก
- READ สาปไอยรา บทที่ 6 : เห็นเขาทำตัวหยิ่ง ที่จริงก็แอบสนใจ
- READ สาปไอยรา บทที่ 5 : ต้องไม่เรื่องมาก ชีวิตจะได้ไม่ลำบาก
- READ สาปไอยรา บทที่ 4 : มองแล้วไม่เบื่อ ก็เลยไม่เบื่อที่จะมอง
- READ สาปไอยรา บทที่ 3 : เห็นเธอเป็นผี รีบเดินหนีไปเลยทีเดียว
- READ สาปไอยรา บทที่ 2 : เขาว่าฝันเห็นช้าง จะได้ลาภก้อนใหญ่
- READ สาปไอยรา บทที่ 1 : บทนำ
- READ สาปไอยรา บทที่ 27 : พระจันทร์วันลอยกระทง








