สาปไอยรา บทที่ 6 : เห็นเขาทำตัวหยิ่ง ที่จริงก็แอบสนใจ

สาปไอยรา บทที่ 6 : เห็นเขาทำตัวหยิ่ง ที่จริงก็แอบสนใจ

โดย : ต้นไผ่กวนอิมสีทอง

Loading

สาปไอยรา เรื่องราวของ สัตวแพทย์หนุ่มผู้ต้องคำสาปได้ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาช่วยเหลือรักษาสัตว์ โดยหวังว่าผลบุญจะลบล้างคำสาปไปได้บ้าง แต่เจ้ากรรมนายเวรก็ไม่ได้ใจดี เพราะต้องมีความรักที่จริงใจเท่านั้นถึงจะช่วยได้! นวนิยายน่าอ่านโดย ต้นไผ่กวนอิมสีทอง ที่อ่านเอานำมาให้ทุกท่านได้อ่านใน anowl.co และเพจอ่านเอา

ไอยรานิ่งคิด ตอนที่เขายืนสั่งงานกับหัวหน้าคนงานให้ออกไปซื้อน้ำเกลือและยารักษาโรค ซึ่งเขาได้โทร.ไปสั่งกับร้านขายยาสำหรับสัตว์โดยเฉพาะเรียบร้อยแล้ว จังหวะนั้นโทรศัพท์ของหัวหน้าคนงานก็ดังขึ้น เขาไม่ได้ตั้งใจแอบฟัง แต่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยก็เลยพอจับใจความได้บ้างว่าเป็นลุงสน ภารโรงโรงเรียนบ้านด่านแก้ว หลังจากที่หัวหน้าคนงานวางสายจากคู่สนทนาไป เขาจึงสอบถามจนได้รู้ว่า ครูมาสต้องการติดรถออกไปซื้อของที่ตัวอำเภอด้วย เขาจึงอาสาออกไปเอง แล้วเรียกนะโมที่กำลังสนุกสนานกับการอาบน้ำให้เพื่อนช้างเป็นเชิงบังคับให้ไปด้วยกัน

“ก็พี่ช้างนั่งเงียบเองนี่ครับ นะโมก็เลยต้องชวนครูมาสคุย”

เขาผิดด้วยเหรอ เด็กชายขันติธรรมเอ่ยย้อนเป็นเชิงต่อว่ากลายๆ ที่โดนเจ้านายดุว่าพูดมากไปแล้ว เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมพี่ช้างที่ดูใจดีและพูดมากกว่านี้ วันนี้กลับนั่งเงียบไม่พูดไม่จา ทั้งๆ ที่มีครูคนสวยที่ดูอัธยาศัยดีและใจดีนั่งรถมาด้วย เขาเลยต้องเป็นคนที่คอยดูแลและเทกแคร์ครูมาสแทน

“เขาเบื่อที่จะฟังแล้วมั้งป่านนี้”

ไอยราเอ่ยแซวเด็กชายพลางเหล่มองคนที่นั่งข้างๆ ว่าเธอจะรู้สึกอย่างไร

“ไม่เบื่อค่ะ คุยกับเด็กสนุกดี”

จารุมาสตอบยิ้มๆ แทนลูกศิษย์ แต่ยิ้มนั้นกลับเลยไปให้เด็กชายคนเดียวในรถ ไม่ใช่ผู้ชายที่เป็นคนขับรถให้เธอนั่งหรอก ยังเคืองไม่หาย สองรอบแล้วนะที่เขาทำตัวหยิ่งใส่เธอ

“คุยกับผู้ใหญ่ไม่สนุกสินะ ถึงไม่ชวนผมคุยเลย”

ชายหนุ่มเอ่ยต่อว่าอย่างไม่จริงจังนัก เขารู้ตัวเองดีว่าทักษะการเข้าหาผู้หญิงของเขานั้นติดลบขนาดไหน เพราะเขายังไม่เคยมีแฟนเลยสักคนในชีวิตนี้ ตอนนี้ก็เช่นกันที่เธอคงไม่พอใจเขาสักเท่าไร ชายหนุ่มรู้สึกได้ และเมื่อได้ยินคำตอบก็ช่วยยืนยันความคิดของเขาได้ดี

“ไม่สนุกค่ะ”

จารุมาสตอบน้ำเสียงสะบัดอย่างแง่งอน เป็นความผิดของเธอสินะที่ไม่ชวนเขาคุยด้วย นี่เขาจะไม่รู้ตัวเลยหรืออย่างไรว่าทำตัวไม่น่าคุยด้วยเลย ถ้าไม่ติดว่าเธอต้องอาศัยเขาเข้าไปซื้อของในตัวอำเภอนะ ไม่มีทางญาติดีกับเขาหรอก

ไอยราได้ยินคำตอบของเธอแล้วก็ไม่ได้รู้สึกโกรธ กลับยิ้มออกมาได้อย่างมีความสุขด้วยซ้ำ ที่เห็นหญิงสาวแง่งอน สะบัดหน้าหนีมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ไม่ได้สนใจเขาอีก

เด็กชายคนเดียวในรถยกมือเกาหัวอย่างงงๆ และสงสัยว่าผู้ใหญ่สองคนนี้เขาโกรธเคืองอะไรกัน ทำไมถึงไม่คุยกันดีๆ เขาจะถือเสียว่าไม่ใช่เรื่องของเด็กก็แล้วกัน

รถกระบะสี่ประตูคันสีดำที่จารุมาสนั่งมาด้วยจอดลงตรงหน้าคลินิกรักษาสัตว์พอดิบพอดี หญิงสาวจึงเปิดประตูลงจากรถพร้อมกับลูกศิษย์ตามชายหนุ่ม แล้วเอ่ยขอตัวไปซื้อของตามที่ต้องการ เมื่อมองเห็นร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ไม่ไกลจากที่จอดรถมากนัก

“คุณช้างคะ มาสขอแยกไปซื้อของก่อนนะคะ”

“ครับ นะโมไปเป็นเพื่อนครูมาสไป”

ไอยราพยักหน้ารับรู้ พลางบอกให้เด็กชายขันติธรรมไปกับจารุมาส เผื่อเธอต้องการความช่วยเหลือ อย่างน้อยก็ยังมีลูกศิษย์ของเธอให้พึ่งพาได้

“ครับผม”

ชายหนุ่มมองตามคุณครูกับลูกศิษย์เดินข้ามถนนไปอีกฝั่งอย่างห่วงใย เมื่อเห็นว่าข้ามกันไปได้อย่างปลอดภัยก็หันกลับมาสั่งงานกับลูกน้องสองคนที่มาด้วยกัน ให้เข้าไปขนลังน้ำเกลือกับยารักษาโรคในคลินิกได้เลย เพราะเขารู้จักสนิทสนมกันดีกับเจ้าของคลินิก และทางนั้นแจ้งว่าได้จัดเตรียมของที่เขาต้องการไว้ให้หมดแล้ว แค่มาขนเอาไปเท่านั้น ส่วนตัวเองแอบเดินตามครูสาวกับลูกศิษย์ไปห่างๆ โดยไม่ให้รู้ตัว

จารุมาสเลือกเข้าร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าก่อนเป็นอันดับแรก และเลือกร้านที่มีป้ายบอกว่ามีบริการส่งถึงบ้าน เลือกซื้อที่จำเป็นอย่างเช่น ตู้เย็น พัดลม เตาไฟฟ้า หม้อหุงข้าว กาน้ำร้อน เสร็จจากร้านนี้เธอก็เดินเข้าร้านขายมอเตอร์ไซค์ เลือกคันที่สวยถูกใจและราคาไม่แพงมาก แล้วทำเรื่องผ่อนกับร้านค้า หลังจากนั้นเธอก็เดินหาร้านขายเครื่องนอนกับขันติธรรม โดยไม่รู้เลยว่ามีคนคอยแอบเดินตามดูตลอด

แต่คนเป็นลูกศิษย์กลับหันไปเห็นไอยราแล้วกำลังจะร้องทัก แต่ต้องหยุดชะงักไปเมื่อเห็นชายหนุ่มทำมือจุปากให้เงียบ เขาเลยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วเดินตามครูมาสไปเหมือนเดิม

จนกระทั่งหญิงสาวหอบที่นอนปิกนิกขนาดหกฟุตออกจากร้าน โดยมีลูกศิษย์หอบหมอนเดินตามหลังมาอย่างกระชั้นชิด ก็เจอกับคนขับรถกิตติมศักดิ์ยืนอยู่หน้าร้านพอดี เธอหยุดชะงักกะทันหันจนทำให้เด็กที่เดินตามหลังชนเธอเข้าอย่างจังจนเธอเกือบหน้าคะมำไปชนเขา ดีที่เบรกตัวเองไว้ได้ทัน

“ให้ผมช่วยนะครับ”

ไอยราเสนอตัวช่วยถือของพลางยื่นมือไปรอรับเป็นเชิงบังคับไม่ให้หญิงสาวปฏิเสธได้ จารุมาสจึงยื่นของที่หอบอยู่ในมือให้เขาไปถือไว้แทน พลางเอ่ยขอบคุณด้วยใบหน้ายิ้มแย้มที่เขามีน้ำใจช่วยเหลือ

“ขอบคุณนะคะ”

เธอมองเขาดีขึ้นนิดหน่อย! แล้วหันกลับไปช่วยลูกศิษย์ถือหมอนแทน และให้เด็กชายถือเพียงแค่ถุงใส่มุ้งเท่านั้น ก่อนจะเดินตามชายหนุ่มที่เดินล่วงหน้าไปยังรถของเขาที่ขับมาจอดถัดจากร้านขายเครื่องนอนตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

จารุมาสเห็นเขาเอาที่นอนของเธอขึ้นใส่ไว้หลังรถให้ พร้อมกับหันมารับของจากมือของเธออีก จึงรีบส่งให้อย่างไม่อิดออดเลยสักนิด

“ซื้อของได้ครบตามที่ต้องการไหมครับ”

ไอยราที่เก็บของขึ้นรถเสร็จหันมาเอ่ยถามครูสาวคนสวย

“เอ่อ…”

จริงๆ เธอก็ยังอยากได้ของแห้งอีกเล็กน้อย อย่างเช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและถ้วยชามไว้ใช้ แต่ไม่กล้าบอกออกไปเพราะรู้สึกเกรงใจ แค่นี้คนงานก็คงนั่งรอเธออยู่นานแล้ว เพราะเธอเห็นทุกคนกลับมาที่รถกันหมดแล้ว

“ผมรอได้ ไม่ได้รีบร้อนไปไหน”

พอชายหนุ่มพูดจบ โทรศัพท์มือถือของเขาก็ส่งเสียงดังขึ้นขัดจังหวะจนต้องรีบรับสาย

“ครับลุงปั้น”

“…”

“เดี๋ยวผมรีบกลับไปครับลุง”

แค่ไอยราพูดประโยคนี้กับปลายสาย จารุมาสก็เห็นทุกคนรีบร้อนขึ้นรถแล้วนั่งประจำที่อย่างเรียบร้อย ไม่เว้นแม้กระทั่งลูกศิษย์ของเธอที่เปิดประตูขึ้นไปนั่งบนรถ ก่อนจะกวักมือเรียกเธอให้รีบขึ้นรถตามไปด้วย

เมื่อไอยราวางสายโทรศัพท์เสร็จก็เห็นหญิงสาวยังยืนงงงันอย่างทำอะไรไม่ถูก เขาจึงเปิดประตูให้แล้วเสียมารยาทใช้มือดันหลังของเธอเบาๆ ให้รีบขึ้นรถ ก่อนจะรีบบึ่งรถกลับปางช้างจันทร์ส่องทันที

 



Don`t copy text!