ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 24 : จะไม่ยอมแต่งเพื่อใช้หนี้เด็ดขาด

ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 24 : จะไม่ยอมแต่งเพื่อใช้หนี้เด็ดขาด

โดย : พงศกร

Loading

ดอกฟ้ายาใจ นวนิยายแนวยั่วล้อที่ พงศกร เขียนเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน ได้รับความนิยมทั้งแบบรูปเล่มและนำไปเป็นละครโทรทัศน์ แต่หนังสือขาดหายไปนานและมีเสียงเรียกร้องให้นำกลับมาพิมพ์ใหม่เป็นจำนวนมาก สำนักพิมพ์กรู๊ฟพับลิชชิ่งจึงได้จัดพิมพ์ ‘ดอกฟ้ายาใจ’ อีกครั้ง เพื่อแทนคำขอบคุณแฟนๆ ที่ติดตามเว็บไซต์อ่านเอาและสำนักพิมพ์มาโดยตลอด

คำที่บุตรสาวเอ่ยถึงบิดาผู้วายชนม์ สร้างความสะเทือนใจให้กับคุณหญิงสายหยุดจนถึงกับเจ็บแน่นหน้าอก

“โอย…แน่นหน้าอก” คุณหญิงยกมือขึ้นไขว่คว้า “นิ่ม…ยา…ยาอมใต้ลิ้นอยู่ที่ไหน”

แม่นิ่มฟังถ้อยสนทนาของสองแม่ลูกแล้วก็ได้แต่หนักใจ มองไม่เห็นว่าจะมีทางออกอะไรที่เหมาะสม ยิ่งเมื่อเห็นกรผกามารศรีร้องไห้คร่ำครวญปิ่มว่าจะขาดใจ และคุณหญิงสายหยุดเกิดอาการเจ็บแน่นหน้าอกขึ้นมากะทันหัน หญิงสูงวัยก็ยิ่งหนักใจ…

แม่นิ่มรีบวิ่งไปหยิบเอายาอมใต้ลิ้นมาส่งให้คุณหญิงสายหยุดด้วยความกังวล เพราะคุณหมอที่ทำการผ่าตัดย้ำแล้วย้ำอีกว่าห้ามคุณหญิงเครียดเด็ดขาด

“คุณหนูคะ” แม่นิ่มช่วยเกลี้ยกล่อมกรผกามารศรีอีกคน “สงสารคุณหญิงท่าน แต่งเถอะนะคะ…ลองคิดดูสิคะ คุณหญิงเป็นโรคหัวใจ จะปล่อยให้ไปอยู่ในคุกในตะรางได้อย่างไร”

“ช่างเถอะนิ่ม” หลังจากอมยาใต้ลิ้นจนรู้สึกว่าอาการดีขึ้น คุณหญิงก็โบกมือห้ามแม่บ้านผู้สูงวัย “เป็นความผิดของฉันเอง ฉันมันเลว ฉันมันเป็นแม่ที่ใช้ไม่ได้ ปล่อยให้เขามาลากเอาตัวฉันไปเข้าตะรางเถอะ ในเมื่อความผิดครั้งนี้ฉันเป็นคนก่อขึ้นมา ฉันก็จะรับผิดชอบมันด้วยตัวของฉันเอง ถึงฉันจะต้องตายอยู่ในคุก ฉันก็ยอม”

“คุณหนูคะ” แม่นิ่มหันไปทางกรผกามารศรีด้วยท่าทางละล้าละลัง “คุณหนูไม่สงสารคุณแม่หรือคะ…คุณท่านกำลังป่วยนะคะ และถ้าเราไม่ทำตามคำมั่นสัญญาที่ตกลงกัน นิ่มเชื่อว่าคุณทินพันธ์เขาต้องจัดการกับคุณหญิงแม่จริงๆ ดังที่ได้ลั่นวาจาเอาไว้”

ดวงหน้าของหญิงสาวซีดเผือดไม่มีสีเลือด ริมฝีปากที่เม้มแน่นของเธอกำลังสั่นระริกด้วยความรู้สึกนานัปการที่ประดังกันเข้ามา

แม่นิ่มรักคุณหนูดอกฟ้ายาใจของเธอยิ่งชีวิต แม่นิ่มเลี้ยงหญิงสาวผู้แสนจะสง่างามผู้นี้มาตั้งแต่ยังเล็ก นอนแบเบาะเป็นทารกน้อย เหตุใดแม่นิ่มจะไม่เข้าใจจิตใจของกรผกามารศรีว่าความหยิ่งในสายเลือดและชาติตระกูลมรกตนั้น มีไม่น้อยไปกว่าความสวยงามของใบหน้าแต่อย่างใดเลย

การจะต้องแต่งงานกับเศรษฐีใหม่อย่างทินพันธ์ เกียรติมหึมามหาเศรษฐีนั้น เป็นเรื่องที่สร้างความรังเกียจให้กับหญิงสาวผู้หยิ่งในศักดิ์ศรีนี้ยิ่งนัก…แต่ทางเลือกที่มีเหลืออยู่ทางเดียวนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แค่หาเงินล้านเดียวยังเลือดตาแทบกระเด็น นี่ต้องหามาตั้งสิบล้าน กรผกามารศรีจะไปหามาจากไหน สร้อยมรกตที่ขายไปนั้นก็เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายแล้วด้วย

“ขอกรผกาคิดดูก่อนค่ะ เรายังมีเวลาไม่ใช่หรือ นายเศรษฐีใหม่คนนั้นเขาต้องการเอาคำตอบเมื่อไหร่คะ” กรผกามารศรีถามมารดาโดยไม่ยอมหันไปมองหน้า

“หนึ่งสัปดาห์ค่ะ ลูกขา” คุณหญิงสายหยุดเริ่มมีสีหน้าดีขึ้นมาหน่อยหนึ่ง “ถ้าลูกไม่ตกลง หรือเราหาเงินมาให้เขาไม่ได้ ทินพันธ์ก็จะพาตำรวจมาจับแม่ที่นี่”

 

กรผกามารศรีเดินเลื่อนลอยออกมาจากบ้านด้วยความรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ในสภาวะที่ครอบครัวตกอยู่ในความยากลำบากเช่นนี้ หล่อนไม่นึกเลยว่ามารดายังจะกล้านำเอาเงินสองล้านบาทที่ได้มาจากการขายสร้อยมรกตไปเล่นพนันอีก

ตลอดชีวิตที่ผ่านมา กรผกามารศรีใช้เงินมือเป็นระวิง ยิ่งในสมัยยังฐานะดีนั้น บางวันหล่อนขึ้นเครื่องบินไปกินอาหารกลางวันที่ฮ่องกง แล้วกลับมากรุงเทพฯ ในวันเดียวกัน จากนั้นก็บินไปช็อปปิงที่ฮ่องกงต่อ เพราะเงินทองของหล่อนมีเหลือเฟือมากมาย

แต่มาบัดนี้ หญิงสาวเริ่มรู้จักกับรสชาติของความยากลำบากและค่าของเงิน ไม่คิดเลยว่าการพนันจะพาให้ชีวิตของหล่อนต้องตกต่ำถึงเพียงนี้

สงสารคุณหญิงแม่ก็สงสารอยู่หรอก ลูกคนไหนจะใจดำพอที่จะปล่อยให้แม่ซึ่งป่วยด้วยโรคหัวใจต้องติดคุก

เพียงแต่ทางเลือกที่มี เหลืออยู่เพียงสองทางนั้น เป็นเรื่องที่สร้างความลำบากใจให้กับกรผกามารศรียิ่งนัก

เรื่องแต่งงานนั้นเลิกคิดไปได้เลย…ไม่มีทางที่ฉันจะแต่งงานกับนายทินพันธ์ เกียรติมหึมามหาเศรษฐี…ฉันเกลียดคุณ

แต่เงินสิบล้านก็ไม่ใช่จะหามาได้ง่ายๆ แล้วหล่อนควรจะทำประการใดดี

และขณะที่เดินผ่านบ้านของประชาชนชาวสลัมที่กำลังนั่งกินข้าวเย็นกันอยู่อย่างสนุกสนาน อบอุ่นพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก เดินเรื่อยมาจนถึงปากซอยนั่นเอง หญิงสาวก็เหลือบไปเห็นป้ายผ้าผืนหนึ่ง…

ข้อความในนั้นทำให้หล่อนถึงกับตาลุกวาว ด้วยเกิดมีความหวังใหม่เรืองรองขึ้นมาภายในใจ…

ประกวดนักร้องลูกทุ่งน้องใหม่ขวัญใจสิบล้อ

รางวัลที่หนึ่งเงินสดสิบล้านบาทกับบ้านพร้อมที่ดิน

รับสมัครวันนี้จนถึงพรุ่งนี้…เป็นวันสุดท้าย

ประกวดวันเสาร์หน้า ณ เวทีท้องสนามหลวง

ประกวดร้องเพลง…

รางวัลที่หนึ่งสิบล้าน…

เสาร์หน้า…

หล่อนพอจะมีความหวังแล้วละ…กรผกามารศรีถอนหายใจยาว ดวงหน้ามีรอยยิ้มอ่อนโยน

แม้หล่อนจะไม่เคยฟังเพลงลูกทุ่งมาก่อนเลยในชีวิต หากหล่อนก็จะลองสู้ดูสักตั้ง

ใครจะรู้ว่าประกวดร้องเพลงคราวนี้อาจจะช่วยให้ทุกคนรอดพ้นจากโชคชะตาที่เลวร้าย

ใครจะรู้ว่าประกวดร้องเพลงคราวนี้ อาจจะช่วยให้หล่อนไม่ต้องแต่งงานกับนายทินพันธ์ เกียรติมหึมามหาเศรษฐี

ใครจะรู้ว่าประกวดร้องเพลงคราวนี้ ชีวิตน้อยๆ ของกรผกามารศรีอาจจะต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล



Don`t copy text!