ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 28 : ชะตากรรมของดอกฟ้า
โดย : พงศกร
ดอกฟ้ายาใจ นวนิยายแนวยั่วล้อที่ พงศกร เขียนเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน ได้รับความนิยมทั้งแบบรูปเล่มและนำไปเป็นละครโทรทัศน์ แต่หนังสือขาดหายไปนานและมีเสียงเรียกร้องให้นำกลับมาพิมพ์ใหม่เป็นจำนวนมาก สำนักพิมพ์กรู๊ฟพับลิชชิ่งจึงได้จัดพิมพ์ ‘ดอกฟ้ายาใจ’ อีกครั้ง เพื่อแทนคำขอบคุณแฟนๆ ที่ติดตามเว็บไซต์อ่านเอาและสำนักพิมพ์มาโดยตลอด
คุณหญิงสายหยุดและแม่นิ่มเดินกลับไปกลับมาด้วยความกระสับกระส่าย เพราะถึงเวลาที่กรผกามารศรีจะต้องขึ้นเวทีร้องเพลงประกวดในรอบสุดท้ายแล้ว หากไม่ว่าโฆษกจะประกาศเรียกสักเพียงใด หญิงสาวก็ยังไม่ปรากฏตัวออกมา
เก่งรับอาสาออกไปตามหาตัวหญิงสาว หากหายไปตั้งนานแล้วก็ยังไม่กลับเข้ามาสักที
“เจอไหม” แม่นิ่มรีบถามทันทีที่เห็นเก่งกลับเข้ามาในห้อง
“ไม่เจอฮะ” ดวงหน้าของเก่งตื่นตระหนก ริมฝีปากสั่นระริกเพราะถูกฝนจนตัวเปียกโชก
“ลูกกรผกาเหลวไหลจริงเชียว ถึงเวลาขึ้นเวทีแล้วไม่รู้หายไปไหน” คุณหญิงสายหยุดบ่นพึมพำด้วยความหงุดหงิด
“โฮะ โฮะ” บรรดาคู่แข่งคนอื่นๆ พากันมารุมหัวเราะเยาะ “สงสัยจะกลัวแพ้ละสิ ก็เลยถอดใจหนีไปแล้ว”
“ไม่จริง” แม่นิ่มเถียง ทั้งที่รู้สึกใจคอไม่ดี “ต้องเกิดเรื่องร้ายขึ้นกับคุณหนูกรผกาแน่ๆ เพราะการประกวดครั้งนี้สำคัญกับคุณหนูมาก ไม่มีทางที่คุณหนูจะหนีไปเฉยๆ แบบนี้”
“นั่นสิฮะ แต่เก่งลองตามหาจนทั่วแล้วก็ยังไม่เจอ ไม่รู้น้องผกาหายตัวไปไหน” เก่งส่ายหน้าไปมา ดวงตามีแต่ความวิตกกังวล “ฝนก็ตกหนัก ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกับน้องผกานะฮะ”
“ถึงเวลาขึ้นเวทีแล้ว กรผกามารศรีหายไปไหนครับ” เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งที่กระหืดกระหอบเข้ามาในห้องแต่งตัวหลังเวที ทำให้ทุกคนต้องหันไปมองโดยพร้อมเพรียงกัน
“คุณทินพันธ์” แม่นิ่มเป็นคนแรกที่อุทานขึ้นด้วยเสียงอันดัง เมื่อเห็นหน้าของชายหนุ่มร่างล่ำสันผู้นั้นได้ถนัด
“แก…ไอ้ขี้โกง มาทำไมยะ” คุณหญิงสายหยุดชี้หน้าชายหนุ่มด้วยความโมโห “อยากจะมาแช่งให้ลูกสาวฉันแพ้ประกวดละสิ จะได้ไม่มีเงินไปใช้หนี้ และจะได้แต่งงานกับแก…แต่ฝันไปเถอะย่ะ ลูกสาวฉันทั้งสวย ทั้งเสียงเพราะ ยังไงก็ต้องชนะแน่ และพอลูกกรผกามารศรีชนะ ก็จะได้เงินรางวัลสิบล้านบาท เอาไปคืนให้แก…แกก็อดแต่งงานกับลูกของฉัน”
“นี่ไม่ใช่เวลามาต่อล้อต่อเถียงนะฮะ” ทินพันธ์นิ่วหน้า “กรผกามารศรีไม่มีทางชนะได้เงินรางวัลแน่ ถ้าไม่ยอมขึ้นเวทีไปร้องเพลงแบบนี้ นี่เธอหายไปไหนฮะ กรรมการจะเรียกหมายเลขต่อไปแล้วนะ ถ้ากรผกามารศรียังไม่ยอมออกไป”
“เออจริงด้วย…แล้วนี่ลูกกรผกาหายไปไหนล่ะยะ” คุณหญิงสายหยุดหันมาถามเหมือนยังไม่หายงง
“คุณหญิงถามผม แล้วจะให้ผมถามใครล่ะฮะ” เก่งเริ่มงงบ้าง
“นี่ นายน่ะ มีอะไรหรือเปล่า เห็นผู้เข้าประกวดหมายเลขสิบสามไหม”
ทินพันธ์หันไปเห็นชายหนุ่มร่างผอมสูงคนหนึ่งยืนลับล่ออยู่ทางด้านหลังของพวกเขา เขาจำได้ว่าเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเด็กในวงดนตรีที่มาแสดงในคืนนี้ ท่าทางของเขาเหมือนอยากจะบอกอะไรสักอย่าง
“ใช่ที่สวยๆ หน้าหวานๆ แต่เสียงอย่างกับเป็ดนั่นใช่ไหมฮะ” เด็กหนุ่มคนนั้นย้อนถาม
“ใช่” ทุกคนพยักหน้าและตอบโดยพร้อมเพรียงกัน
“อ๋อ…” เด็กหนุ่มคนนั้นพยักหน้าหงึกๆ “โดนจับไปแล้วละ”
“หา” ทุกคนร้องกรี๊ด
“อะไรนะ กรผกามารศรีถูกจับ” ทินพันธ์กระชากคอเสื้อของเด็กหนุ่มคนนั้นอย่างแรง “ใครจับกรผกามารศรีไป จับไปไหน จับเมื่อไหร่”
“โอย…แล้วผมจะรู้ไหมเนี่ย” เด็กหนุ่มคนนั้นหน้าซีด กลัวว่าทินพันธ์จะต่อยโครมเข้าให้ “ผมเห็นพวกมันมีกันสี่ห้าคน เดินตามหลังคุณกรผกาอะไรนั่นไป คนหนึ่งชกโครมเข้าที่ท้อง คนหนึ่งเอาถุงคลุมหน้า อีกคนก็จับมัดแล้วเอาตัวขึ้นรถไปแล้ว”
“ไอ้บ้า แล้วทำไมเพิ่งมาบอก” ทินพันธ์เกือบจะชกหน้าเด็กหนุ่มคนนั้นจริงๆ แต่โชคดีที่เขาอดใจเอาไว้ได้
“ก็ผมจะบอกตั้งนานแล้ว พวกคุณก็มัวแต่ทะเลาะกันอยู่นั่นละ” เด็กหนุ่มแก้ตัวเสียงอ่อย ขณะที่ทินพันธ์ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เขาผลักเด็กหนุ่มจนเซแซ่ดๆ แล้วตัวเองก็รีบวิ่งออกไปด้านหลังเวที
“กรผกามารศรี…”
ทินพันธ์ร้องตะโกนแข่งกับเสียงของฝนที่ตกกระทบพื้น เสียงเขาก้องกลับไปกลับมา
ชายหนุ่มวิ่งฝ่าสายฝนที่กระหน่ำหนักไปยังถนนใหญ่ ทันได้เห็นไฟแดงท้ายรถตู้คันใหญ่ ติดฟิล์มสีดำมืด ที่คาดว่าหญิงสาวน่าจะถูกจับอยู่ในนั้น เลี้ยวหนีไปอย่างรวดเร็ว
คืนนั้น ทินพันธ์ คุณหญิงสายหยุด แม่นิ่ม และเก่งไม่ได้นอนทั้งคืน ทุกคนพากันอพยพไปที่บ้านมรกตเป็นการชั่วคราว เพื่อช่วยกันคิดหาทางช่วยเหลือกรผกามารศรี
ฝนที่ตกหนักทำให้การประกวดนักร้องลูกทุ่งรอบชิงชนะเลิศจำต้องยุติลงไปก่อน ดังนั้นจึงไม่มีผู้ชนะเลิศ การประกวดในรอบสุดท้ายจะมีการจัดแข่งขันขึ้นใหม่ในภายหลัง
ผู้เข้าประกวดที่เหลือจึงจำต้องแยกย้ายกันกลับบ้านด้วยความไม่พอใจ หลายคนบ่นพึมพำว่าที่ประธานกรรมการตัดสินออกมาประกาศเช่นนั้น เป็นเพราะต้องการจะเข้าข้างกรผกามารศรี ขณะที่อีกหลายคนเห็นด้วยเพราะฝนตกแรงมากจนไฟดับ ไม่สามารถแข่งขันได้อยู่ดี
คุณหญิงสายหยุดกับแม่นิ่มนั้น เมื่อกลับมาที่บ้านมรกตกับทินพันธ์และคุณนายกิมเฮียงแล้ว ได้เห็นบ้านเก่าของตนเองก็ได้แต่น้ำตาซึมด้วยความอาลัยอาวรณ์ แต่เพราะความเป็นห่วงกรผกามารศรีนั้นมีมากกว่า คุณหญิงกับแม่นิ่มจึงได้แต่สะกดอกสะกดใจ ไม่ร้องไห้คร่ำครวญอะไรออกมา ได้แต่รอฟังว่าทินพันธ์จะทำอย่างไรต่อไป
ชายหนุ่มรีบติดต่อไปยังสารวัตรอาคม นายตำรวจประจำกองปราบปรามผู้เป็นเพื่อนสนิทมาตั้งแต่สมัยที่เรียนชั้นมัธยม
“เราต้องรอก่อนครับ” ทินพันธ์หันมาบอกกับทุกคนเมื่อวางสายโทรศัพท์จากเพื่อนสนิท
“รอ…” คุณหญิงสายหยุดร้องกรี๊ด “รอได้ยังไง…ชีวิตลูกของฉันทั้งคนนะยะ จะรอให้ตายกลายเป็นศพไปก่อนหรือไง ทำไมไม่รีบออกติดตามล่ะยะ”
“จะไปตามที่ไหนล่ะครับ” ทินพันธ์หันมาทางคุณหญิงสายหยุดด้วยความหงุดหงิด “ตำรวจเขากำลังสืบหาเบาะแสกันอยู่ เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลาทนรอสักนิด ได้ความคืบหน้าอย่างไร สารวัตรอาคมคงจะติดกลับมาเองนั่นละ”
“โธ่…ลูกกรผกาของแม่ เคราะห์ซ้ำกรรมซัดอะไรนะเนี่ย” เมื่อรู้ว่าอาละวาดไม่ได้แล้ว คุณหญิงสายหยุดก็เปลี่ยนมาเป็นร้องไห้คร่ำครวญแทน
“ใจเย็นๆ ฮ่ะคุณหญิง” คุณนายกิมเฮียงหันไปปลอบใจคุณหญิงตกยาก “อาทินพันธ์เป็นคนเก่ง…ประเดี๋ยวอีจัดการเองละฮ่ะ”
“นั่นสิคะ” แม่นิ่มจับมือผู้เป็นนายเอาไว้แน่น “ใจเย็นก่อนนะคะคุณหญิง เดี๋ยวจะไม่สบายไปอีกคน”
“ไปนอนพักกันก่อนดีกว่าฮ่ะ” คุณนายกิมเฮียงบอกทุกคนด้วยความมีสติดีเยี่ยม “เดินกลับไปกลับมาแบบนี้ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก ไปนอนพักเอาแรงกันก่อน ถ้าได้ความว่าอย่างไร เดี๋ยวอาทินพันธ์ก็จัดการเองนั่นละ”
ทุกคนเห็นด้วยกับคุณนายแม่ของชายหนุ่ม แต่ทุกคนไม่ต้องการจะเข้าไปนอนในห้องที่คุณนายกิมเฮียงจัดเอาไว้ให้ ทุกคนอยากอยู่ในห้องรับแขกมากกว่า เพราะหากมีข่าวความคืบหน้าประการใด จะได้รู้ได้ทันที
คุณนายกิมเฮียงดูแลให้ทุกคนเข้านอนแล้วก็ปิดไฟ หากพอเอาเข้าจริงแล้ว ทุกคนก็ได้แต่นอนลืมตาอยู่ท่ามกลางความมืด เพราะล้วนแต่เป็นห่วงกรผกามารศรี ไม่รู้ว่าป่านนี้แล้วหญิงสาวจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร
จนกระทั่งใกล้ฟ้าสาง เสียงโทรศัพท์ในห้องรับแขกของบ้านมรกตจึงดังขึ้น ท่ามกลางความเงียบสงัดของยามเช้าตรู่
ทินพันธ์ที่นอนอยู่บนเก้าอี้รับแขกยาวรีบถลันลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว จนผ้าแพรที่ห่มกายเลื่อนหล่นลงไปกองกับพื้น
“ฮัลโหล อาคมเหรอ ได้ความว่าอย่างไรบ้าง”
คุณนายกิมเฮียง คุณหญิงสายหยุด แม่นิ่ม และเก่งได้ยินเสียงทินพันธ์พูดกับสารวัตรอาคม ก็รีบลุกพรวดพราดขึ้นจากที่นอนของตนเอง แล้วมารุมล้อมอยู่รอบๆ ชายหนุ่ม เพื่อติดตามข่าวความคืบหน้า
“หา…” ทินพันธ์ร้องอุทาน สีหน้าซีดเผือด “อะไรนะ…”
เขานิ่งฟังสารวัตรอาคมอยู่นานเกือบสิบนาที ก่อนจะเอ่ยขอบคุณแล้ววางโทรศัพท์ลงอย่างอ่อนแรง
“ว่ายังไงทินพันธ์ ลูกสาวของฉันเป็นยังไงบ้าง ตำรวจตามจับคนร้ายได้แล้วใช่ไหม” คุณหญิงสายหยุดรีบถาม “ลูกสาวฉันปลอดภัยแล้วใช่ไหม”
“นั่นสิ อากรผกาเป็นยังไงมั่งอาทินพันธ์ ตำรวจช่วยได้แล้วใช่ไหม ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน เรารีบไปรับตัวกลับมาเลยดีกว่า” คุณนายกิมเฮียงซักละเอียดยิบ
“ยังไม่พบตัวกรผกามารศรีครับ” ทินพันธ์ว่า
“หา อะไรนะ” คุณหญิงสายหยุดกรี๊ดเสียงดังลั่นบ้าน “ตำรวจพวกนี้ทำงานกันยังไงยะ ให้เวลาตั้งนานแล้ว ทำไมยังช่วยลูกสาวฉันไม่ได้อีก แย่มาก…แย่มากๆ”
“ใจเย็นๆ ก่อนครับคุณหญิง” ทินพันธ์กล่าวด้วยความอดทน “เรายังไม่พบกรผกามารศรี แต่ตำรวจรู้แล้วว่ารถตู้ที่จับกรผกามารศรีไปอยู่ที่ไหน”
“อยู่ที่ไหน” ทุกคนที่รายล้อมชายหนุ่มร้องถามขึ้นพร้อมๆ กัน
“ภาคใต้”
“หา ภาคใต้” แม่นิ่มร้องขึ้นบ้าง
“โอย ลูกกรผกาต้องตายแน่ๆ เลยงานนี้…เป็นลมดีกว่า” คุณหญิงสายหยุดทำท่าเหมือนจะเป็นลม
“อย่าเพิ่งครับคุณหญิง” ทินพันธ์ว่า “อย่าเพิ่งเป็นลม ทำใจดีๆ เอาไว้ครับ กรผกามารศรีน่าจะยังปลอดภัยดีอยู่ สารวัตรอาคมประสานกับตำรวจทางหลวง พบว่ารถตู้ที่จับกรผกามารศรีกำลังมุ่งหน้าไปตามถนนเพชรเกษม มีผู้หญิงอยู่ในรถตู้คันนั้นหลายคน คาดว่าน่าจะเป็นขบวนการค้ามนุษย์ พวกมันกำลังจะขายผู้หญิงพวกนั้นไปให้กับสถานบริการทางเพศ”
“โธ่…กรผกามารศรีลูกแม่” คุณหญิงสายหยุดร้องไห้คร่ำครวญ เธอยื่นมือไปแตะต้นแขนล่ำสันของชายหนุ่ม พร้อมกับขอร้องว่า “คุณทินพันธ์คะ ช่วยลูกสาวของฉันด้วยนะ”
“ครับ” ชายหนุ่มพยักหน้ารับ “สารวัตรอาคมกำลังติดตามประสานกับตำรวจท้องที่ ช่วยกันสกัดจับรถคันนั้นอยู่ ตำรวจต้องรีบทำงานแข่งกับเวลา เพราะถ้ารถออกพ้นจากชายแดนเข้าเขตประเทศอื่นไปแล้วคงจะจับได้ลำบาก…เท่าที่ทราบ ตอนนี้รถยังอยู่เขตประเทศไทย แต่อีกไม่กี่ชั่วโมงน่าจะวิ่งออกไปพ้นชายแดน”
“แล้วจะทันไหมเนี่ย” คุณนายกิมเฮียงเริ่มปริวิตก
“หวังว่าน่าจะทันฮะ” ถึงจะตอบไปแบบนั้น หากทินพันธ์ไม่ค่อยแน่ใจนัก “หม่าม้าฮะ…” ชายหนุ่มหันไปหามารดาของเขา พร้อมกับจับมือของผู้เป็นมารดาเอาไว้จนแน่น “ผมจะไปกับอาคมฮะ ผมจะไปช่วยกรผกามารศรี อาคมจะมารับผมในอีกครึ่งชั่วโมงนี้ แล้วเราจะลงใต้ไปด้วยกัน”
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 33 : ระเบิดภูเขาเผากระท่อม
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 32 : สายเลือดสายรัก
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 31 : นาทีวิกฤติ
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 30 : ลาสต์บอส
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 29 : ที่นี่ที่ไหน
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 28 : ชะตากรรมของดอกฟ้า
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 27 : ล๊อคมง
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 26 : ดวลเพลงชิงเงินล้าน
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 25 : พิโธ่พิถังกะละมังแตก
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 24 : จะไม่ยอมแต่งเพื่อใช้หนี้เด็ดขาด
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 23 : ผีพนัน
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 22 : สร้อยมรกต
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 21 : อาการป่วยของคุณหญิงสายหยุด
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 20 : ดงนักเลง
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 19 : สอนพิเศษ
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 18 : สุภาพบุรุษ
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 17 : สาวเสิร์ฟคนงาม
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 16 : วันแรกในสลัม
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 15 : ชีวิตใหม่
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 14 : ลาก่อนคฤหาสน์มรกต
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 13 : ศักดิ์ศรีของดอกฟ้า
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 12 : ข้อแลกเปลี่ยน
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 11 : ความหวังสุดท้าย
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 10 : เศรษฐีใหม่
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 9 : การสูญเสียที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 8 : ความตึงเครียดในครอบครัว
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 7 : คุณอีกแล้วหรือ
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 6 : แหวนหมั้นหรือไข่มด
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 5 : คู่หมั้นคู่หมาย
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 4 : แรกพบสบตา
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 3 : ทุกวันมีแต่งานสังคม
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 2 : ล้มละลาย
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 1 : ฉันชื่อกรผกามารศรี