ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 31 : นาทีวิกฤติ
โดย : พงศกร
ดอกฟ้ายาใจ นวนิยายแนวยั่วล้อที่ พงศกร เขียนเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน ได้รับความนิยมทั้งแบบรูปเล่มและนำไปเป็นละครโทรทัศน์ แต่หนังสือขาดหายไปนานและมีเสียงเรียกร้องให้นำกลับมาพิมพ์ใหม่เป็นจำนวนมาก สำนักพิมพ์กรู๊ฟพับลิชชิ่งจึงได้จัดพิมพ์ ‘ดอกฟ้ายาใจ’ อีกครั้ง เพื่อแทนคำขอบคุณแฟนๆ ที่ติดตามเว็บไซต์อ่านเอาและสำนักพิมพ์มาโดยตลอด
การที่ตำรวจจับผู้ร้ายส่งผู้หญิงข้ามแดนไปขายได้ในครั้งนี้ กลายเป็นข่าวครึกโครมโด่งดังไปทั่วทั้งประเทศ
สารวัตรอาคมได้รับคำชมจากผู้บังคับบัญชาทุกระดับ เพราะขบวนการค้ามนุษย์กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ตำรวจติดตามตัวมานานแล้ว หากไม่เคยได้ร่องรอย เนื่องจากนายธงชาติหัวหน้าแก๊งทำงานด้วยความรอบคอบ และว่ากันว่าเขาอาจจะมีสายเป็นคนใน คอยส่งข่าวความเคลื่อนไหวของตำรวจให้รู้ตัว จึงไม่เคยมีใครจับเขาได้สักครั้ง
เนื้อข่าวเล่าว่า สุดท้ายแล้วนายธงชาติที่เป็นหัวหน้าก็หนีตำรวจไปจนมุมที่ชายแดน เมื่อเห็นจวนตัวเข้า ผู้ร้ายก็เลยจับหญิงสาวคนหนึ่งไปเป็นตัวประกัน แต่สุดท้ายก็โดนตำรวจวิสามัญฆาตกรรมตายคาที่ ส่วนผู้หญิงที่เป็นตัวประกันนั้นถูกยิงจนบาดเจ็บสาหัส อาการเป็นตายเท่ากัน
ทินพันธ์นั่งก้มหน้านิ่งอยู่ที่หน้าห้องผ่าตัดพร้อมกับคุณนายกิมเฮียงผู้เป็นมารดา คุณหญิงสายหยุด แม่นิ่ม และเก่ง
เสื้อของชายหนุ่มยังเปื้อนคราบเลือดของกรผกามารศรีเกรอะกรัง เขารู้สึกเหนียวตัว ทั้งเหนื่อยและอ่อนเพลีย เพราะอดนอนมาตลอดสองวันเต็มๆ
ทุกคนนั่งเฝ้ารอด้วยความหวัง…หวังจะให้หญิงสาวผู้เป็นที่รักของทุกคนปลอดภัย ต่างคนต่างสวดมนต์ภาวนาให้พระช่วยคุ้มครองกรผกามารศรี
รถพยาบาลฉุกเฉินถูกตามมายังที่เกิดเหตุในทันที หมอที่มากับรถพยาบาลตรวจพบว่าอาการของหญิงสาวหนักเกินกว่าจะทำการรักษาได้ในโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ๆ จำเป็นต้องส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีเครื่องมือพร้อม
รถพยาบาลคันที่เดินทางมาดูอาการของหญิงสาวนั้นเล็กและเก่าจนไม่แน่ใจว่าจะสามารถไปส่งได้ถึงโรงพยาบาลใหญ่หรือเปล่า
ทินพันธ์ฟังแล้วก็ตัดสินใจโทรศัพท์กลับไปกรุงเทพฯ เช่าเฮลิคอปเตอร์มารับตัวกรผกามารศรีไปส่งที่โรงพยาบาลในทันที
ตอนแรกเขาอยากจะเช่าเครื่องบินเหมาลำเสียด้วยซ้ำ หากสถานที่เกิดเหตุนั้นไม่เหมาะสมสำหรับเครื่องบินจะร่อนลงมาเพื่อรับตัวหญิงสาว
หมอที่โรงพยาบาลใหญ่บอกว่าโชคดีที่ทินพันธ์ตัดสินใจถูก เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว การเดินทางคงจะล่าช้าอยู่นาน กว่าจะมาถึงโรงพยาบาล และกรผกามารศรีอาจจะเสียชีวิตไปแล้วในระหว่างการนำส่ง
หญิงสาวถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัดไปตั้งแต่ช่วงเย็นแล้ว กระสุนปืนที่ธงชาติยิงนั้นทะลุเข้าที่สำคัญ และหมอจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อช่วยชีวิตกรผกามารศรีเป็นการเร่งด่วน
“เจ้าประคู้น คุณพระคุณเจ้าช่วยดิฉันด้วยนะคะ ถ้าลูกกรผกามารศรีรอดตายในคราวนี้ ดิฉันขอสาบานว่าจะเลิกเล่นการพนันโดยเด็ดขาด”
คุณหญิงสายหยุดยกมือขึ้นประนม ตั้งใจมั่นดังเช่นที่ได้ลั่นวาจาออกไป ลึกลงไปแล้ว คุณหญิงรู้สึกผิดกว่าใครๆ เธอรู้อยู่แก่ใจดีว่าที่ทุกคนต้องตกระกำลำบาก จนกระทั่งกรผกามารศรีต้องประสบกับชะตากรรมที่เลวร้ายในครั้งนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะการพนันพาไปทั้งสิ้น
“ขอให้จริงเถอะ” คุณนายกิมเฮียงได้ยินเข้าเลยอดออกความเห็นไม่ได้ “เห็นรายไหนรายนั้น พอผีพนันเข้าสิงทีไร ก็อดใจไม่ได้สักที”
“คุณนาย…” คุณหญิงสายหยุดหันมากล่าวกับมารดาของทินพันธ์ทั้งน้ำตา ไม่มีท่าทางเจ้ายศเจ้าอย่างเหมือนอย่างเคย “คราวนี้ฉันตั้งใจจริงนะคะ ถ้าลูกกรผกาหาย ฉันจะล้างมือจากวงการจริงๆ เพราะทั้งหมดนี้เกิดจากการที่ฉันลุ่มหลงเมามัวในการพนันแท้ๆ เพราะฉันคนเดียว ฮือ…ฮือ ถ้าลูกกรผกามารศรีเป็นอะไรไป ฉันจะไม่ยกโทษให้ตัวเองเลย”
“เอาเถอะคุณหญิง” คุณนายกิมเฮียงชักใจอ่อน ก็เลยดึงให้คุณหญิงสายหยุดมานั่งด้วยกัน แล้วปลอบใจไปตามประสาคนเป็นแม่ “ฉันก็เป็นแม่คนเหมือนกัน ฉันเข้าใจความรู้สึกของคุณหญิงดี ถ้าคุณหญิงคิดเลิกเล่นการพนันได้ก็ดีแล้วละ คนทำผิดเมื่อคิดกลับตัวกลับใจ ทุกคนก็พร้อมจะให้อภัย ใช่ไหม…อาทินพันธ์”
“ฮื่อ…” ชายหนุ่มพยักหน้าไปส่งๆ เพราะใจของเขาหมกมุ่นเป็นกังวลกับหญิงสาวที่กำลังอยู่ในห้องผ่าตัด
“ถ้าน้องกรผการอดตายหนนี้ เก่งสัญญาจะเลิกเป็นทอมฮ่ะ” เก่งกลัวคุณหญิงแม่จะชิงเรตติ้งไปฝ่ายเดียว ก็เลยยกมือสาบานบ้าง
“จะบ้าเรอะไงนังเก่ง” แม่นิ่มหันไปเอ็ด “เรื่องสาบาน ใครเขาพูดกันเล่นๆ แบบนี้ เกิดคุณหนูรอดชีวิตจริงๆ แกก็อดเป็นทอมไปตลอดชีวิตนะ”
“ก็แหงละป้า” แววตาของเก่งมุ่งมั่น “ถ้าน้องผกาหายหนนี้ ผมจะเลิกเป็นทอมจริงๆ ด้วย เป็นไปนานๆ ก็เริ่มเบื่อแล้วละ ขอเป็นสาวหวานแหววมั่งท่าจะดีนะคะ เผื่อจะมีตำรวจหนุ่มๆ หล่อๆ มาจีบเก่งบ้าง”
ทั้งที่อยู่ในภาวะคับขัน หากเมื่อทินพันธ์ได้ยินเก่งแล้วก็อดจะอมยิ้มไม่ได้ เขารู้สึกดีใจแทนกรผกามารศรีจริงๆ ที่มีแต่คนรักและเป็นห่วงมากมายถึงขนาดนี้
“ญาติของคุณกรผกามารศรีอยู่ไหนคะ” พยาบาลในเสื้อผ้าสีเขียวของห้องผ่าตัดเปิดประตูออกมาเรียกหาญาติของหญิงสาว
ทุกคนที่นั่งๆ นอนๆ รออยู่หน้าห้องผ่าตัด เมื่อได้ยินดังนั้น ก็รีบผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
สีหน้าของพยาบาลสาวไม่สู้ดีสักเท่าไรนัก เห็นดังนั้น หัวใจของชายหนุ่มก็หล่นวูบ ทินพันธ์กลั้นใจรอฟังว่าพยาบาลจะแจ้งข่าวอะไร…ขออย่าให้เป็นข่าวร้ายเลย…เขาได้แต่ภาวนา
“พวกคุณเป็นญาติของคุณกรผกามารศรีใช่ไหมคะ” พยาบาลถามย้ำเพื่อความแน่ใจ เพราะข่าวที่จะแจ้งให้ทราบต่อไปนี้ เป็นข่าวที่มีความสำคัญมาก
“ใช่ค่ะ…ฉัน…คุณหญิงสายหยุด มรกต เป็นคุณแม่ของลูกกรผกาค่ะ” คุณหญิงสายหยุดรีบรายงานตัว
“ฉันเป็นแม่นมค่ะ” แม่นิ่มตอบบ้าง
“ผมเป็นคนรักของเธอครับ” ทินพันธ์ตอบท่ามกลางสายตาหมั่นไส้ของคุณหญิงสายหยุด
“ผมเป็นทอมครับ” เก่งอยากมีส่วนร่วมกับเขาบ้าง เลยยื่นหน้าเข้ามาช่วยตอบ ทั้งที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องเป็นญาติกันสักนิด
“ไม่ได้อยากรู้ค่ะว่าใครเป็นทอมหรือไม่เป็น” พยาบาลสาวตอบด้วยสีหน้าเยียบเย็นเหมือนกับน้ำเสียงที่ใช้ หล่อนกระแอมก่อนจะเอ่ยต่อไปว่า “ดิฉันมีข่าวไม่สู้ดีจะแจ้งให้ญาติของคุณกรผกามารศรีทราบ”
“โธ่…ลูกแม่…ไม่น่าเลย…ฮือ…ฮือ” คุณหญิงสายหยุดร้องไห้โฮออกมาเสียงดังลั่น “อายุยังน้อย ยังเป็นสาวเป็นแส้แท้ๆ ทำไม…ทำไม…ทำไมถึงอายุสั้นขนาดนี้ด้วยนะ ฮือ…ฮือ”
“เดี๋ยวก่อนฮ่ะคุณหญิง” คุณนายกิมเฮียงเขย่าตัวคุณหญิงสายหยุดเพื่อเรียกสติให้กลับคืนมา “พยาบาลยังไม่ได้บอกเลยว่าหนูกรผกาตาย”
“อ้าวเหรอ” คุณหญิงสายหยุดยกมือขึ้นปาดน้ำตา “แล้วจะบอกข่าวอะไรให้พวกเราทราบล่ะคะ มัวอ้ำอึ้งอยู่นั่นละ”
“คุณกรผกามารศรีอาการหนัก เพราะกระสุนปืนเจาะเข้าที่ปอดและอวัยวะสำคัญ ระหว่างการผ่าตัดเสียเลือดไปมาก เราจำเป็นต้องให้เลือดกับเธอค่ะ”
พยาบาลรีบแจ้งให้บรรดาญาติๆ ของหญิงสาวรู้ เพราะขืนเธอพูดออกมาช้ากว่านี้ มีหวังบรรดาญาติของกรผกามารศรีได้ทะเลาะกันตายไปเสียก่อน
“อ้าว…จำเป็นต้องให้เลือด ก็รีบไปเอาเลือดมาให้สิฮะ” เก่งเท้าเอวด้วยความหงุดหงิด “มาบอกพวกเราทำไมล่ะ พิลึกคนจริงๆ”
“ที่ดิฉันต้องมาแจ้งให้พวกคุณทราบก็เพราะว่าเลือดของคุณกรผกาเป็นกรุ๊ปบีเนกาตีฟ ซึ่งหายากมากๆ ในคนไทย หนึ่งแสนคนจะมีสักหนึ่งหรือสองคนเท่านั้นที่มีเลือดกรุ๊ปนี้ ดิฉันเลยขอสอบถามญาติของคนไข้ดูก่อนว่ามีท่านใดบ้างคะที่มีเลือดกลุ่มเดียวกับคุณกรผกามารศรี”
“ฉันเลือดกรุ๊ปโอค่ะ” คุณหญิงสายหยุดและคุณนายกิมเฮียงเอ่ยขึ้นพร้อมๆ กัน
“ของฉันกรุ๊ปเอบีค่ะ” แม่นิ่มตอบด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
“ของผมกรุ๊ปโอเหมือนกัน” เก่งชักมีสีหน้าเป็นกังวล
“ผมเลือดกรุ๊ปบีครับ” ทินพันธ์รีบลุกขึ้นยืน
“ผมก็กรุ๊ปบี”
สารวัตรอาคมซึ่งยืนนิ่งเงียบอยู่ที่มุมหน้าห้องผ่าตัดเอ่ยขึ้นบ้าง หลังจากแถลงข่าวการจับกุมนายธงชาติเสร็จเรียบร้อย เขาก็รีบติดตามมาดูอาการของกรผกามารศรีที่โรงพยาบาล เพราะเป็นห่วงว่าหญิงสาวจะเป็นเช่นไรบ้าง ลึกลงไปแล้วเขาก็รู้สึกผิดไม่น้อย เพราะหากเขาวางแผนจับกุมธงชาติให้รัดกุมกว่านี้ หญิงสาวก็คงไม่ต้องบาดเจ็บ ดังนั้นหากทำอะไรเพื่อเป็นการช่วยเหลือหญิงสาวได้ เขาก็พร้อมที่จะทำ
“ดีแล้วค่ะ อย่างงั้นขอเชิญคุณสองคนไปทางห้องบริจาคโลหิตหน่อยค่ะ” พยาบาลรีบบอกด้วยสีหน้ามีความหวัง “เราต้องขอตรวจสอบว่าเลือดของพวกคุณเป็นกรุ๊ปบีธรรมดาหรือบีเนกาตีฟ”
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 32 : สายเลือดสายรัก
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 31 : นาทีวิกฤติ
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 30 : ลาสต์บอส
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 29 : ที่นี่ที่ไหน
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 28 : ชะตากรรมของดอกฟ้า
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 27 : ล๊อคมง
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 26 : ดวลเพลงชิงเงินล้าน
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 25 : พิโธ่พิถังกะละมังแตก
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 24 : จะไม่ยอมแต่งเพื่อใช้หนี้เด็ดขาด
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 23 : ผีพนัน
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 22 : สร้อยมรกต
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 21 : อาการป่วยของคุณหญิงสายหยุด
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 20 : ดงนักเลง
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 19 : สอนพิเศษ
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 18 : สุภาพบุรุษ
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 17 : สาวเสิร์ฟคนงาม
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 16 : วันแรกในสลัม
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 15 : ชีวิตใหม่
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 14 : ลาก่อนคฤหาสน์มรกต
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 13 : ศักดิ์ศรีของดอกฟ้า
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 12 : ข้อแลกเปลี่ยน
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 11 : ความหวังสุดท้าย
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 10 : เศรษฐีใหม่
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 9 : การสูญเสียที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 8 : ความตึงเครียดในครอบครัว
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 7 : คุณอีกแล้วหรือ
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 6 : แหวนหมั้นหรือไข่มด
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 5 : คู่หมั้นคู่หมาย
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 4 : แรกพบสบตา
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 3 : ทุกวันมีแต่งานสังคม
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 2 : ล้มละลาย
- READ ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 1 : ฉันชื่อกรผกามารศรี