ซ่อนรัก บทที่ 46 : ก้าวต่อของวิศว์

ซ่อนรัก บทที่ 46 : ก้าวต่อของวิศว์

โดย : โสภี พรรณราย

ซ่อนรัก โดย โสภี พรรณราย เมื่อความรักพังทลาย ปารีสจึงออกเดินทางด้วยหวังว่าโลกกว้างจะช่วยเยียวยาหัวใจ แต่สิ่งที่เธอคิดและตัดสินใจอาจไม่เป็นอย่างที่คาด เมื่อหนุ่มหล่อเข้มคนนี้เข้ามาในชีวิต และความหลังของหล่อนกับเขาเป็นความรักที่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึก นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาอยากให้คุณได้อ่านออนไลน์

บางครั้งวิศว์ก็ชอบนั่งทำงานในร้านกาแฟ

ทุกสถานที่เป็นที่ทำงานของเขาได้หมด ดื่มกาแฟหอมๆ นั่งมองผู้คนรอบด้าน จะว่าเขาทำงานสบายก็ได้ เขาเชื่อเสมอว่ารับงานไม่เครียดงานจะออกมาดี

แล้วมีเสียงนุ่มๆ ถามว่า

“ขอนั่งด้วยคนได้ไหมคะ?”

“อ๋อ…เชิญครับ” เงยหน้าเห็นว่าเป็นจิรานุช

สาวใหญ่ที่ยังสวย สง่าและโสด แถมยังร่ำรวยมหาศาล

“บังเอิญนะคะ”

“ผมมาดื่มกาแฟที่นี่เป็นประจำ”

“อ๋อ…ค่ะ”

“คุณนุชมาประจำหรือครับ?”

“ไม่ค่ะ…มาติดต่องาน เสร็จงานแล้ว เลขาขอไปซื้อของใช้ให้ฉัน ฉันเลยมาดื่มกาแฟฆ่าเวลา”

ฟังเป็นเหตุเป็นผลอย่างบังเอิญ แต่สำหรับคนพูด สืบมาหมดแล้วว่าชีวิตประจำวันของวิศว์เน้นอะไรเป็นหลัก จึงใช้ความพยายามเพื่อมาพบ

“ร้านนี้บรรยากาศดีครับ กาแฟก็ใช้ได้เลย ผมชอบ”

“ดีจริงๆ ดีที่ได้พบคุณด้วย”

วิศว์เลิกคิ้ว

“พบผมหรือครับ?”

“อย่างที่เคยพูดว่าอยากให้คุณมาช่วยออกแบบห้องประชุมให้เพชรอนันต์หน่อย ฉันเคยพูดหลายครั้งแล้ว อยากให้คุณยอมรับงานด้วยความเต็มใจ

“ช่วงนี้ผมรับงานปรับปรุงห้องในโรงแรม ไม่จำเป็นก็ไม่อยากรับงานซ้อนเลยจริงๆ”

คนอย่างวิศว์ เลือกงานได้เสมอ

“แต่งานของเพชรอนันต์รอคุณคนเดียวค่ะ”

“โปรแกรมผมคิดว่า เสร็จงานโรงแรม ผมอาจหนีเที่ยวสักเดือนครับ” คิดว่าจะพาปารีสไปเยี่ยมพ่อของเธอที่ฝรั่งเศส หลังจากทราบว่าอาการของท่านดีขึ้นหลังผ่าตัด แค่ความคิดเค้ายังไม่ได้บอกปารีสเลย

“ช่วยงานของเพชรอนันต์ก่อนนะคะ ฉันชื่นชมผลงานของคุณจริงๆ และจะไม่ให้ใครทำ นอกจากคุณคนเดียวเท่านั้น และไม่ใช่คุณก็จะไม่ปรับปรุง”

“ปกติเรื่องรับงาน เป็นหน้าที่ของบรมครับ และบรมมันก็บอกผม…”

“คุณบรมตกลงแล้วค่ะ” สรุปเลยแล้วกัน ซึ่งวิศว์ก็รับรู้ล่วงหน้า

วิศว์ยิ้มจางๆ ถึงเพื่อนจะรับงานก็จริง แต่ธรรมดาแล้วจะถามความเห็นเขาก่อน งานนี้บรมพูดกับเขาแล้วกึ่งบังคับด้วยซ้ำ

“งั้นผมจะพูดอะไรได้ครับ”

“อยากให้คุณทำงานอย่างเต็มใจนะคะ”

“ถ้าผมทำ ผมทุ่มเททุกงานครับ สุดความสามารถเลยครับ จนกว่าลูกค้าจะพอใจ”

“งั้นเราต้องไปบริษัทคุยงานกันนะคะ ไปเห็นประชุมใหญ่ของเราที่ต้องเปลี่ยนแปลงเสียที”

“ผมขอคุยกับบรมก่อนครับ แล้วให้เลขาที่ประชุมติดต่อไปนัดหมายพบกัน”

“ภายในอาทิตย์นี้นะคะ”

“คงได้ครับ”

จิรานุชมีรอยยิ้มกว้าง กว้างมาก…จนรินทร์เห็นเมื่อเดินกลับมาจากไปซื้อของ และให้เจ้านายสาวรอคอยในร้านกาแฟ

ภาพที่เห็น จิรานุชยิ้มกว้างกับวิศว์

ผู้ชายคนนี้อีกแล้ว…

และเมื่อกลับมาที่รถ โดยรินทร์ทำหน้าที่ขับและเจ้านายนั่งหลัง มองจากกระจกไปที่ด้านหลัง

เจ้านายสาวอมยิ้มเกือบตลอดเวลา จนรินทร์อดทนต่อไปไม่ไหว โพล่งถาม

“จะอารมณ์ดีขนาดนี้หรือฮะ คุณนุช?”

“ทำไมเหรอ?”

“คุยกับผู้ชายคนนี้ทีไร เห็นคุณนุชมีท่าทางอารมณ์ดีทุกที”

“ผู้ชายคนนี้มีชื่อนะ”

“เอ้อ…คุณวิศว์”

“ใช่…คุณวิศว์ คนเก่งที่ฉันชื่นชม”

“คุณนุชเจอคนเก่งมากมาย ไม่เฉพาะกับผู้ชาย…เอ้อ..คุณวิศว์คนนี้”

“ฉันชอบคุณวิศว์”

“ชอบ…ชอบหรือฮะ?”

“ไม่ใช่ชอบอย่างที่เธอคิด แต่ชอบแบบ…แบบถูกชะตา เธอไม่ต้องคิดมาก”

รินทร์ย่อมไม่พอใจ ตนเคยเป็นเลขาคู่ใจ อยู่ๆ มีอีกคนที่ท่าทางจะโปรดปรานมาก ชื่นชมมาก ใครจะทนได้ แต่ต้องทน

“เพียงแต่รินทร์แปลกใจฮะ กับคุณวิศว์ คุณอยู่สนใจเป็นพิเศษ”

“ก็บอกแล้วงัยว่าถูกชะตา”

“รินทร์กลับไม่ค่อยถูกชะตา”

จิรานุชโคลงศรีษะ

“ถ้าฉันชอบใคร หัดโอนเอียงให้ชอบถามฉันบ้าง คุณวิศว์จะมาเป็นอินทีเรียดีไซเนอร์ให้กับบริษัทเรา ฉันจะปรับปรุงห้องประชุมใหม่”

“คุณนุชฮะ…เร็วไปไหมฮะ ห้องยังใหม่” แย้งตามเคย

“ไม่ต้องพูดมาก จากห้องหนึ่งก็จะไปอีกห้องหนึ่ง ทำไปเรื่อยๆ จนกว่า…จนกว่า…” จนกว่าจะรู้ความจริงว่าวิศว์เป็นใคร “จนกว่าฉันจะพอใจ”

“แต่…”

เจ้านายสาวโบกมือ

“ถ้าไม่มีเหตุผลเพียงพอ ก็อย่ามาแย้ง”

จบกัน รินทร์ยอมขับรถเงียบๆ แต่ในหัวสับสน และหวงแหนเจ้านายสาวของตนยิ่งนัก

 

“งานเพชรอนันต์แกเริ่มพรุ่งนี้เลยนะ” บรมพูดแบบเหมือนว่าวิศว์จะพอใจ

วิศว์โคลงศรีษะ

“งานโรงแรมคุณเทวี…มางานบริษัทเพชรอนันต์ เดี๋ยวนี้แกรับงานแบบไม่ถามก่อนเลย”

บรมหัวเราะ

“เฉพาะงานสำคัญ และจำเป็น กันไม่ถามหรอก ถามแกก็ไม่ยอม”

“รู้เสียอีก”

“เงินดี ไม่รับเสียดายแย่”

“ยังแกร้อนเงิน รับงานเหมือนกับกันเป็นหนี้”

“เอาน่า ช่วยหน่อย จำเป็น รู้ว่ารวย แต่งานต้องมาก่อน เป็นมืออาชีพหน่อยสิวะ”

“อยากทำงานแบบสบายใจ”

“ช่วงนี้ต้องอาศัยแกเป็นพิเศษ”

“คนอื่นในบริษัท”

“กันเสนอคนอื่นแล้ว ไม่ว่าคุณเทวีหรือคุณจิรานุช ระบุต้องเป็นแกเท่านั้น ถ้ากันเป็นแก กันจะไม่เล่นตัวเลย”

“แล้วให้หยุดที่สองรายนี้ก่อน ไม่รับเพิ่มนะโว้ย”

“โอ.เค. ด้วยเกียรติของลูกเสือ”

“ลูกเสือแก หมดแล้วว่ะ รับงานให้กันเกินแล้ว กินเวลาหลายเดือนแล้ว นึกว่าเจองานคุณเทวีแล้วจะได้พัก ต่ออีก”

“บ่นอย่างกับผู้หญิง รับรอง…รับรอง…ให้แกพักจริงๆ” แล้วพึมพำว่า “จ่ายไม่อั้น ไม่กำหนดเงื่อนไขอะไรเลย ระบุไอ้วิศว์คนเดียว ชักอยากเกิดเป็นไอ้วิศว์แล้วว่ะ”

 

วิศว์รู้สึกแปลกใจว่า การเปิดตัวเขาดูจะเป็นทางการเกินไป ทั้งที่เขานัดคุยแค่จิรานุช ผู้ว่าจ้างเขาโดยตรง แต่…

เปิดประตูห้องประชุมเล็ก ก็พบ…

คุณอนันต์ คุณนาถ ดุสิต นิกร และบรรดาเลขาเจ้านายอย่างสายชล เลขาของดุสิต กุลวดีเลขาของนิกร รินทร์เลขาของจิรานุช และที่สำคัญที่สุด เขาพบอีกคน…ปารีส

งานนี้เขายังไม่บอกภรรยาเลย ว่าจะเซอร์ไพรซ์ปารีสต่อเจอกันที่นี่สองต่อสอง ไม่ใช่เจอกันแบบครบคนเช่นนี้

กลายเป็นตนเองเซอร์ไพรซ์เสียเอง

จิรานุชเล่นอะไรกับเขา? เล่นใหญ่ไปไหม?

“สวัสดีครับ” แน่นอนว่าเขายกมือไหว้ผู้ใหญ่สองท่าน คุณอนันต์กับคุณนาถ

จิรานุชยิ้มกว้าง นานๆ จะเห็นจิรานุชยิ้มกว้างเช่นนี้ เพราะบุคลิกของเธอมากกว่าร่ารเิง

“นี่ค่ะ อินทีเรียของเรา”

คนในห้องประชุมหลายคนแปลกใจ และมีคนตกใจ

ปารีส…ในฐานะของผู้ช่วยดุสิต

วิศว์ปรากฏตัวอย่างกะทันหัน เจตนาของฝ่ายชายคืออยากให้เมียเซอร์ไพรซ์ แล้วก็เซอร์ไพรซ์จริงๆ

ตัวฝ่ายชายเองกับประหลาดใจมากกว่าอีก ไม่คิดว่าจิรานุชจะเปิดตัวเขาอย่างเป็นทางการ คิดว่าเข้าห้องประชุมมีคนไม่กี่คน เพื่อพูดคุยเรื่องงานเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าพร้อมหน้าเช่นนี้

ดุสิตยิ้มกว้างและกล่าวว่า

“คุณวิศว์…นั่นเอง…จนได้นะครับ อานุช สมใจอานุชแน่นอน” แล้วลุกขึ้นจับมือกับวิศว์ “ยินดีด้วยครับ ได้งานบริษัทเรา โดยมีอานุชหนุนหลัง รับรองรุ่งแน่นอนครับ”

พูดเป็นนัยอะไรนั่นแหละ

วิศว์กำลังจะแย้งบางเรื่อง ‘หนุนหลัง’ และ ‘รุ่ง’ ไม่น่าจะใช้กับเขา เขาไม่ใช่พนักงานบริษัทนะ

แต่จิรานุชพูดแทนเขาแล้วว่า

“เราต้องขอบคุณคุณวิศว์ ที่คนมีฝีมือยอมมาออกแบบตกแต่งให้เรา ใช้่ว่าคุณวิศว์จะว่าง อาต้องใช้เส้นสายอย่างหนักกว่าจะได้ตัวมา”

ดุสิตหัวเราะเบาๆ

“คุณอาปลื้มคุณวิศว์มากเลยนะครับ”

“ใช่สิ ดูจากผลงานเก่าๆ แล้ว หาตัวจับยาก”

“โอ้โห…คุณวิศว์” หันมาพูดกับอีกฝ่าย “ยากนะครับที่อานุชจะเอ่ยชมใครแบบนี้”

นิกรโพล่งขึ้นว่า

“อย่าว่าแต่อายุเลย ผมเองยังปลื้มคุณวิศว์ ปลื้มตั้งแต่พบกันครั้งแรกแล้ว ของหายได้คืนผมจะจดจำชั่วชีวิตเลยครับ”

ส่วนทางคุณนาถหันมาพูดกับสามีเบาๆ ว่า

“ท่าทางนายวิศว์คนนี้จะต้องมีอะไรพิเศษสำหรับนุชน้องสาวคุณ เผลอๆ สาวใหญ่จะมาใจแตกเอาตอนแก่”

คุณอนันต์ตอบเบาๆ ได้ยินกันสองคนว่า

“มันเป็นไปไม่ได้ รสนิยมของนุช รู้อยู่ไม่ชอบผู้ชาย”

“แต่มันมีพิรุธหลายครั้งแล้วนะคะ ที่น้องสาวคุณให้ความสำคัญกับเขา แถมยังมองด้วยสายตาแปลกๆ ดูแววตาเธอสิคะ นาถไม่เคยเห็นแววตาแปลกๆ จากนุชมานานแล้วนะคะ”

“คุณก็เอาแต่จับผิด”

คุณนาถหัวเราะเบาๆ

“นาถว่า ถ้านุชรู้จักสนใจผู้ชาย อาจเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ”

บรรยากาศในห้องดูจะแปลกๆ อย่างที่คุณนาถสงสัย เพราะมีทั้งคนปลื้มวิศว์และไม่ปลื้มอย่างรินทร์ แต่รินทร์ยังพยายามเก็บอารมณ์

แค่…ผู้ชายคนหนึ่งมาตกแต่งห้องประชุมใหม่

แค่…ผู้ชายมารับจ้างทำงาน

แค่นั้นจริงๆ แต่จิรานุชต้องเปิดตัวเป็นทางการขนาดนี้เชียวหรือ

ในที่สุด ดุสิตก็สรุป

“ก็โอเคครับ เรื่องนี้เป็นไอเดียของอานุช อานุชก็รับไปจัดการทุกอย่างเองเลยครับ”

เปิดตัววิศว์และจบอย่างง่ายๆ แยกย้ายกันออกจากห้อง โดยมีสายตาคุณอนันต์มองน้องสาวสลับกับมองวิศว์อย่างสงสัย ตนก็ว่าผิดปกติ แต่ไม่ใช่เรื่องชู้สาวแน่นอน

ทางด้านปารีส รู้สึกงงๆ กับวิศว์เล็กน้อย และเดินมาเจอกันบริเวณโถงทางจะไปห้องน้ำ

ชะงักกึกทั้งคู่ มองซ้ายมองขวามองหลังก็ไม่มีใคร ปารีสเลิกคิ้วถามวิศว์

“คุณไม่ได้บอกฉันเลยว่าคุณจะมาบริษัทวันนี้”

“ผมว่าจะทำให้คุณประหลาดใจ แต่ผมกลับโดนเสียเอง ไม่รู้ว่าคุณจิรานุชจะเปิดตัวผมกับทุกคน และงานนี้อ้ายบรมก็บังคับผมทำ”

ปารีสเบ้ปาก

“ไม่อยากเชื่อว่าถูกบังคับ”

“อ้าว…ทำไมครับ”

“ฉันว่าคุณอย่ามาจับผิดฉันมากกว่า”

“จับผิด?”

“ฉันทำงานที่นี่ สนิทกับเจ้านาย คุณเลยอย่ามาจับผิด เพราะคุณไม่ไว้ใจฉัน”

ใครจะชอบให้เมียตัวเองสนิทกับผู้ชายอื่นล่ะ เพราะมองก็รู้ๆ อยู่ว่าดุสิตชอบปารีสมากแค่ไหน สายตาผู้ชายนะ มองเห็นชัดๆ

“เดี๋ยว…เดี๋ยว…คุณคิดมากแล้ว”

“ฉันว่าฉันคิดถูก”

“ปารีส…คุณอย่าคิดมาก”

“ถามตัวเองสิคะ คุณคิดมากต่างหาก”

“ผมแค่ไม่ได้บอกคุณว่า ผมจะมาบริษัทวันนี้ คุณก็คิดอะไรของคุณ”

“เพราะคุณทำให้ฉันสงสัย ทุกคนในห้องประชุมรอคุณคนเดียว คุณสำคัญมากสำหรับคุณจิรานุชเลยนะ”

“ปา…ปาครับ” วิศว์รู้สึกว่าอารมณ์ของภรรยาไม่สู้ปกติ จึงจับต้นแขนหวังให้สงบ แต่ก็พลาดอีกล่ะ เพราะดุสิตเดินมาเห็นพอดี

 



Don`t copy text!