จุดดับในแก้วไวน์ บทที่ 1 : รักครั้งเก่า
โดย : ม. มธุการี
จุดดับในแก้วไวน์ กับเรื่องราวของทารทรา ดาราสาวที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมสิททิชน
คนรักเมื่อครั้งอดีตจะช่วยเธอได้ไหม แล้วเธอคือผู้บริสุทธิ์ในคดีนี้จริงๆนะหรือ นวนิยายสั้นเรื่องล่าสุดของ ม.มธุการี ที่อ่านเอา…ที่นี่ ที่เดียว…นิยายออนไลน์ ที่ อ่านเอา อยากให้คุณ อ่านออนไลน์
**************************
– 1 –
ถ้าจะมีใครสักคนมาถามผมว่านานแค่ไหนกันที่ผมฝันอยากจะมีอาชีพเป็นนักสืบ ผมก็คงตอบได้ไม่ลังเลว่ามันเริ่มมาตั้งแต่ผมจำความได้นั่นเลยทีเดียว
ผมว่ามันอาจจะอยู่ในสายเลือดนั่นด้วยก็ได้ เพราะปู่กับพ่อผมเป็นนายตำรวจ แม่เองก็เป็นตำรวจหญิงรุ่นแรกๆ ทุกคนต่างส่งเสริมให้ผมสอบเข้าเรียนเป็นตำรวจให้ได้ แต่ผมพลาดไปติดที่ธรรมศาสตร์
พอเรียนจบกฎหมายแทนที่จะเปลี่ยนสายไปเป็นตำรวจ ผมกลับตัดสินใจเปิดสำนักงานนักสืบเอกชนขึ้นที่คอนโดฯ ที่ผมพักอยู่นั่นเอง เส้นทางสายนักสืบเอกชนใช่ว่าจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะปีแรกที่ผมเปิดมาผมไม่เคยได้รับงานนักสืบจริงๆ จังๆ แม้แต่คดีเดียว อย่างเก่งก็รับคดีหมาแมวหายมั่ง หรือไม่ก็รถหาย รายได้จิ๊บจ๊อยไม่พอกระทั่งจะจ่ายค่าเช่าคอนโดฯ โชคดีได้แม่คอยส่งข้าวปลาอาหารที่เป็นของแห้งมาให้กิน ไม่งั้นผมคงต้องอดตาย โดยผมต้องสัญญากับแม่ว่าจะไม่ล้มเลิกความฝันของ ตัวเองไปเสียก่อน
แล้วอาชีพสุดเลิฟของผมทำท่าจะมาแจ้งเกิดจริงๆ จังๆ วันที่ผมต้องมาสืบคดีใหญ่คดีหนึ่งที่โด่งดังตูมตามพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งทุกฉบับ ชนิดที่ข่าวทุกข่าวต้องชิดซ้ายตกขอบไปเลย นั่นก็คือข่าวฆาตกรรมดารานักร้องชาย …สิททิชน มิ่งเมือง…นักร้องแผ่นเสียงทองคำที่ดังระเบิดไปทั่วทิศในเวลานี้
ฝ่ายนั้นถูกวางยาพิษในคอนโดฯ หรูส่วนตัว
ส่วนผู้ต้องสงสัยคือดาราทีวีหญิงชื่อดังไม่แพ้กัน …ทารทรา แสงวิจิตร คู่หมั้นสาวที่เหมือนจะรักใคร่ดูใจกันมานานหลายปี
อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับว่า ทารทราคือแฟนเก่าของผมเองในวัยต้นการศึกษา ตอนเรียนมัธยมต้นๆ มาด้วยกันที่สงขลาบ้านเกิด ก่อนที่จะแยกย้ายกันไป เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย นัยว่าเธอรับงานเดินแบบและออกทีวีมาตั้ง แต่เรียนนิเทศศาสตร์ปีแรกๆ และนั่นก็คือวันคืนที่เราสองคนต่างก็ห่างหายกันไป เธอคือปั้ปปี้เลิฟที่ฝังใจและไม่เคยคิดว่าชีวิตจะผันผ่านมาพบกันเข้าอีกด้วยซ้ำ จวบจนเมื่อเธอเป็นฝ่ายโทรมาถึงผม
“ทารได้เบอร์จากเพื่อน เขาว่าวินเป็นนักสืบเอกชนอยู่ตอนนี้“ เสียงนั้นอ่อนใสไม่เคยเปลี่ยนแปลงจนนิดเดียว
“ก็เพิ่งเริ่มงาน“ ผมตอบอึกอัก กำลังสงสัยว่าทารโทรมาทำไมและเธอก็พูดต่อ
“วินคงรู้ข่าวทารจากหนังสือพิมพ์มั่งแล้ว…”
“ก็ตามอยู่นะ เป็นห่วงอยู่เหมือนกันว่าเรื่องราวมันเป็นมายังไง”
“ทารถูกใส่ความนะวิน ตำรวจกำลังจะตั้งข้อหาทารหาว่าวางยาพิษคุณสิท ทั้งๆ ที่ทารไม่รู้เรื่องอะไรเลย…ใช่…เรามีข่าวจะเลิกรากันจริงเพราะความเจ้าชู้ของเขานี่แหละ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทารจะต้องไปฆ่าอะไรเขานี่ ทารมีอนาคต ทำไมทารจะต้องไปคิดสั้นขนาดนั้นด้วย”
“แล้วทำไมเจ้าหน้าที่เขาสงสัยทาร ผมไม่เข้าใจตรงนี้” ผมถามออกไป
“วันเกิดเหตุเรามีเรื่องทะเลาะกันรุนแรงที่ช้อปปิ้งมอลล์ คนเห็นกันมากจนเป็นข่าว แต่เราก็แยกย้ายกันกลับ ทารไม่ได้ไปคอนโดฯ กับเขาด้วยแต่ไปอยู่บ้านแม่ ย้ายออกมานานแล้ว หลังจากนั้นทารก็ไม่รู้ว่า เกิดอะไรขึ้นกับเขา จนกระทั่งอ่านข่าวเจอในหน้าหนังสือพิมพ์ แล้วจู่ๆ ทารก็เป็นผู้ต้องสงสัย ทนายว่าตำรวจกำลังรวบรวมหลักฐานอยู่ตอนนี้ ก่อนที่จะออก หมายจับ สื่อก็ตีข่าวว่ามีหลักฐานเด็ดนู่นนี่นั่น ตอนนี้ทารว่าทารเป็นจำเลยของสังคมไปแล้ว ก่อนที่จะถูกจับเสียอีกนะ”
“เท่าที่ผมตามข่าว รอยนิ้วมือที่แก้วยาพิษก็เป็นรอยนิ้วมือของทารคนเดียว…กับตัวเขา” ผมตัดสินใจพูดออกไป
“ก็คอนโดฯ นั้นทารก็พักอยู่ ทารแน่ใจว่ามีคนแกล้งป้ายความผิดให้ทาร อาศัยรอยนิ้วมืออย่างเดียว ก็แค่คนแกล้งสวมถุงมือก็ปกปิดได้แล้ว”
“แล้วทารคิดว่ามีใครที่ต้องการจะกลั่นแกล้งทารขนาดนั้นด้วย”
“ทารว่าผู้หญิงของเขา อาจจะเป็นใครก็ได้ที่มีอยู่มากมายเสียเหลือเกิน ผู้หญิงคนนี้จะต้องโกรธแค้นขนาดวางแผนฆ่าเขาได้ จากนั้นก็โยนความผิด มาให้ทาร วินรู้จักทารดีนี่นะ วินคิดว่าคนอย่างทารจะฆ่าคนได้เหรอ”
ผมเงียบ มีภาพความหลังที่ผ่านเข้ามาเด่นชัด ในวัยใสสวยงามแห่งชีวิต แน่ใจว่าทารของผมห่างไกลจากคำว่าฆาตกรคำนั้นมากมายนัก
“แล้วทารจะให้ผมช่วยอะไรได้บ้าง” ผมถามออกไป
“ช่วยทารสืบหาคนฆ่าให้ได้ ใครจะช่วยทารได้นอกจากคนที่มีความเชื่อให้ทารอยู่บ้าง นอกเสียจากว่า วินไม่เชื่อทารอีกแล้ว”
“ผมเชื่อทารนะ ยังเชื่ออยู่เสมอ” ผมย้ำคำนี้ “แต่ผมไม่ใช่มืออาชีพที่เก่งอะไร ผมเพิ่งเริ่มงาน”
“แต่ทารเชื่อวินนะ เชื่อว่าวินต้องทำได้ แค่หาตัวฆาตกรมาลงโทษให้ได้ ทารบริสุทธิ์ จะให้ไปสาบานที่ไหนก็ได้ว่าทารบริสุทธิ์”
ผมนัดเจอทารทราเป็นการส่วนตัวก่อนที่จะวางสาย งานมันอาจจะเริ่ม ก่อนหน้าที่จะเจอกันเสียอีก เพราะยังไงผมก็เชื่อทารของผม มันเป็นความผูกพันที่ฝังใจมาเนิ่นนานเสียเหลือเกิน จนกลายเป็นจุดสว่างเล็กๆ กลางใจ
ไหนจะความห่วงใยที่เพิ่มขึ้นทับทวี ทารคือคนเดียวที่ผมรักมาเนิ่นนานขนาดนี้…
ปิดเรื่องทั้งหมดเป็นความลับไม่ให้ครอบครัวผมรู้ เพราะจะมีเสียงคัดค้านมากมาย
ทั้งจากพ่อและแม่ ไหนจะพี่น้องอีกหลายคน เท่าที่ผมฟังดูทุกคนปลงใจเชื่อเสีย แล้วว่าทารคือมือฆาตกรที่วางยาพิษสิททิชน หลักฐานจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมันบ่งชัดเสียเหลือเกิน
ผมเปิดเผยให้รู้ก็แต่เจ้าไพรเพื่อนรุ่นน้องที่ร่วมงานมาด้วยกัน
ไพรกำลังเรียนกฏหมายที่รามฯ และยังไม่จบ มาทำงานกับผมเพราะใจรักแม้จะไม่เคย ได้ค่าแรงเป็นกอบเป็นกำ ตอนนี้ยังอยู่กับพ่อแม่และมาค้างที่คอนโดฯ ผมเป็นครั้งคราวตอนแอบพาแฟนมานอน
ผมแค่เล่าให้ไพรฟังเรื่องที่ผมรับงานจากทารทราแต่ไม่เล่ารายละเอียดถึงความเป็นมาแต่หนหลัง แค่รู้เจ้านี่ก็ถึงกับตาลุก
“เขานึกไงมาจ้างเฮีย ดาราดังขนาดนั้น แล้วรู้จักเฮียได้ไงกัน”
“เพื่อนฝูงแนะนำไป” ผมโกหก
“โหย แบบนี้ถือว่าหน้ามืดสนิทแล้วนะเฮีย ถึงวิ่งหาเรา เพราะนักสืบมือดีที่ไหนจะมารับงานนี้ ทารนี่เขาผิดมาตั้งแต่ในมุ้งแล้ว ลงข่าวกันให้ตูมตามออกอย่างงั้น หลักฐานมัดตัวแน่นดิ้นไม่หลุดแน่ แล้วเฮียคิดยังไงไปช่วยเขา รึว่าเขาจ่ายดี”
“ยังไม่ได้พูดกันเรื่องนั้น”
“ยังไงต้องเขกให้หนัก ไหนๆ จะรับงานแล้วต้องฟาดให้หนำใจ เพราะงานนี้หนักแน่ ว่าแต่เขาบอกเฮียว่าไงเฮียถึงตัดสินใจรับ”
“ก็ว่าเขาบริสุทธิ์และถูกใส่ความ”
“แล้วเฮียก็เชื่อ…”
“ฟังดูก็น่าเชื่อนะ”
“ใครล่ะจะมาบอกว่าตัวเองเป็นฆาตกร บอกให้โง่”
“ยังไงก็ต้องช่วยกันสืบเรื่องนี้ดู แกก็เริ่มได้เลย”
“แทบไม่ต้องสืบอะไรเลยเพราะสื่อมวลชนประโคมข่าวทุกวี่วัน ล่าสุดเอากล้องวงจรปิดที่คอนโดฯ มาฉายย้อนหลังให้ดูกันด้วยว่านายสิททิชนคนดังหิ้วใครกลับมานอนที่คอนโดฯ บ้าง”
“นั่นสิ แกช่วยตามสืบให้ทีได้ไหมว่าเป็นใครมั่ง”
“มันนับไม่ไหวเลยเฮีย” ไพรบ่นอู้ “มันเจ้าชู้มากไอ้เวรนี่ แฟนถึงได้ทิ้งไง เผลอๆ อาจจะฆ่าเอาด้วย”
“ก็ไม่มีหลักฐานเพียงพอ นอกเสียจากรอยนิ้วมือที่แก้ว อีกอย่างเห็นว่า เขาย้ายออกจากคอนโดฯ หลายวันแล้ว ก่อนหน้าที่เจ้านั่นจะเป็นศพ กล้องวงจรปิดมันต้องบอกได้มั่งว่าใครอยู่ใครไป ใครที่อยู่กับนายสิททิชนเป็นคนสุดท้ายก็คนนั้นแหละ”
“ไม่มี ตามข่าวเขาอยู่คนเดียวทั้งวัน กำลังเตรียมตัวจะบินไปเล่นดนตรีที่หาดใหญ่ จองตั๋วเครื่องบินไว้เสร็จสรรพ เขาถึงตัดประเด็นฆ่าตัวตายออกไป ต่อมาตำรวจสืบรู้ว่ายาพิษปนอยู่ในขวดไวน์ที่หมอดื่มทุกคืน แสดงว่ามีการวางแผนเอาไว้ก่อนล่วงหน้า เขาถึงได้สงสัยคนใกล้ตัวสุดที่กำลังมีปัญหากันอยู่ตอนนี้”
“ในเมื่อเจ้าตัวปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา ฉันถึงได้สงสัยว่าทารกับสิททิชนนี่เขา มีปัญหาอะไรกันมั่ง มันหนักหนาถึงขนาดต้องฆ่ากันตายเลยหรือ”
“คนฆ่ากันตายได้แค่แย่งที่จอดรถ แล้วนี่แย่งผู้ชายกันทั้งคน แถมเป็นนักร้องดังระเบิด”
“ทารทราเขาก็มีศักดิ์ศรีไม่แพ้กันนะ” ผมว่า
“ฆ่ากันตายเพราะอีโก้ไง เห็นมานักต่อนัก” ไพรยังเถียง
“คือแกปลงใจเชื่อไปแล้วว่างั้นเหอะ”
“ตามข่าว จริงมั้ยจริงต้องพิสูจน์กันอีกที“
“เขาถึงต้องการให้เราช่วยพิสูจน์” ผมย้ำ
“หนักหน่อยแต่ก็จะลองช่วยดู แต่เงินต้องดีด้วยนะเฮีย”
ไพรย้ำก่อนที่จะผละจากไป ท่าทางไม่เคยเชื่อในความบริสุทธิ์ของคนจ้างเอาเสียเลย ใครว่าคดีนี้มันง่าย แม้ตำรวจจะมีหลักฐาน แต่ก็ยังไม่พร้อมบริบูรณ์เสียทีเดียว หมายจับจึงยังไม่เดินทางมาถึงแม้เวลาจะผ่านไปนานพอสมควร สื่อบางกระแสถึงขนาดโจมตีว่าตำรวจกำลังเจอตอเข้าให้แล้ว…
ผมเพียงแต่รู้ว่าที่มันไม่ง่ายเพราะเป็นคดีของคนดังทั้งสองคน และสังคมกำลังจับตามองว่า มันจะไปในทิศทางไหนกันแน่ เพราะถ้าเป็นคดีทั่วๆ ไปทารของผมอาจจะถูก หมายจับตั้งแต่วันแรกนั่นแล้ว แค่เจอรอยนิ้วมือบนแก้วไวน์…