ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 2 : ฝันประหลาด (1)

ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 2 : ฝันประหลาด (1)

โดย : หมอนอิงพิงหลัง

Loading

ถนนสายนี้มีแมวเหมียว โดย หมอนอิงพิงหลัง นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาขอเอาใจนักอ่าน โดยเฉพาะนักอ่านทาสแมว กับเรื่องราวของ น้ำปิง  เจ้าพ่อแห่งความเพอร์เฟคที่โดนวงล้อโชคชะตาเล่นตลกและแมวสามสี….ที่ทำให้เขาต้องเผชิญกับเรื่องราวสารพัดจนเขาหลงรักชีวิตแบบแมวๆ เข้าอย่างจัง น้ำปิงกับถนนสายแมวเหมียวจะเป็นอย่างไร อ่านกันได้เลยค่ะ

สายลมอ่อนโชยมาจากพัดขนนกที่โบกสะบัดเป็นจังหวะ แมวสีขาวพันธุ์เปอร์เซียดวงตาสีฟ้ากำลังร่ายรำอยู่กับลูกแก้วคริสตัลประกายวิบวับ เธอเป็นแมวที่แต่งตัวแบบหญิงชาวตะวันออกกลาง มีผ้าบางบังใบหน้า จมูกคาดสายสร้อยเพชรไปที่ใบหู หญิงรับใช้มีใบหน้าเป็นแมวขนตาเรียวยาวและมีดวงตาที่สวยคมกริบ กำลังเสิร์ฟปลาทอดในชามทองคำโรยหน้าด้วยต้นยิมโนด่าง

ผมลืมตาตื่นขึ้นด้วยฝันประหลาด เรื่องแมวประจำราชวงศ์ตัวนั้นของเจ้าชายยังตามมาหลอกหลอน หูของผมได้ยินเสียงนกร้องเล่นกันในยามเช้า อากาศเย็นสบาย กลิ่นไอดินหอมกรุ่นโชยเข้ามาทักทายผ่านทางหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้

เฮ้ย! นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ผมตกใจเงยหัวขึ้นแต่พอนึกขึ้นได้ว่าตัวเองถูกพักงาน จึงล้มตัวลงกลับไปอีกครั้งพลางบิดขี้เกียจเหยียดยาว รู้สึกสบายตัวแบบที่ไม่เคยมาก่อน ความเมื่อยล้าทั้งหลายคลายหายไป นานแค่ไหนแล้วนะที่เราไม่ได้ตื่นมาพร้อมกับอาการปวดเท้าปวดหลังจากการยืนทำงานทั้งวัน ผมถอนหายใจเฮือกนึงสงสัยว่าชีวิตจะเป็นยังไงต่อไปกันแน่

ผมควานหานาฬิกาปลุกไม่เจอ ว่าแต่เอ๊ะ! ทำไมผนังห้องนอนเรากลายเป็นไม้ มีนาฬิกาแขวนผนังหน้าตาโบราณแขวนอยู่ ที่นี่มันที่ไหน ผมรีบลุกขึ้นยืน ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงความผิดปกติที่เท้า เหมือนเหยียบอยู่บนแผ่นเจลลดไข้เย็นๆ นุ่มๆ ดึ๋งๆ

ผมก้มลงมองก็เห็นแขนตนเองถูกปกคลุมไปด้วยขนสีขาว เมื่อลองยกมือขึ้นเหยียดดูก็มีกรงเล็บโค้งยาวกางเฉี่ยวผ่านหน้าไปในระยะประชิดพร้อมตุ่มนุ่มนิ่มสีชมพูแปะอยู่บนผ่ามือ หัวใจผมเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ นี่มันผิดปกติแล้ว ผมหยุดชะงัก ทำไมมีกลิ่นไอดินและต้นไม้ ทำไมมีเสียงนกร้องบนคอนโดชั้น 10 ผมได้ยินเสียงคนผัดกับข้าว เสียงกระดิ่งจักรยาน ได้กลิ่นน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ ผมรับรู้ทุกอย่างได้ชัดเจน แต่ทำไม ไม่มีอะไรที่คุ้นเคยเลยแฮะ

กระจกปลายเตียงกำลังสะท้อนภาพแมวตัวหนึ่งเป็นแมวแต้มสามสีที่กำลังยืนสองขาอยู่ และจ้องมองมาที่ผม ผมยกแขนซ้าย แมวก็ยกแขนซ้าย ผมยกแขนขวา แมวก็ยกแขนขวา ผมตกใจกับสิ่งที่ตนเองเห็นจนสะอึกลิ้นปลิ้น

 

แมวแต้มสีส้ม ขาว มีรอยดำบนตาเหมือนผ้าปิดตาของโจรสลัดยืนแลบลิ้นใส่ ยกแขนทั้งสองข้างอยู่ เวลาหยุดนิ่ง โลกทั้งใบหยุดหมุน เรายืนจ้องหน้ากันอยู่สักพัก ผมได้ยินแต่เพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบาเข้าออก หนวดยาวกระดุกกระดิก ผมกลายเป็นแมวไปเสียแล้ว

ผมยังไม่ทันจะได้ตั้งตัว ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าก้าวขึ้นกระไดมาพร้อมกับผลักประตูเปิดออก ร่างของเด็กหญิงวัยหกขวบมัดผมทรงน้ำพุสองข้าง เธอวิ่งเข้ามาหาพลางชี้มายังผมและหัวเราะเอิ๊กอ๊ากด้วยความชอบใจ

“ทองแต้มยืนสองขาทำไมอ้ะ” เสียงหวานใสดังลอยมา

เธอพุ่งเข้ามาจะช้อนตัวผม ผมตกใจถอยร่นไปอยู่ที่มุมห้องแต่ขาเจ้ากรรมไม่สามารถเดินสองขาแบบคนได้ จึงกลายเป็นถอยหลังเท่ๆ แบบนักร้องเคป๊อป เด็กน้อยมองดูผมทำท่าประหลาดแล้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

หลังผมชนกำแพง ผมไม่มีทางหนีแล้ว เธอช้อนตัวผมขึ้นแล้วลูบหัวเบาๆ ผมไม่พอใจรู้สึกเหมือนโดนคนขยี้หัว ผมเริ่มต่อว่าเด็กน้อย เงี้ยว…ง้าว…ยังไม่ทันจะขาดคำ เธอก็จั๊กจี้ลำตัวต่อไปจนถึงหาง ผมตกใจที่เธอจับก้นของผม จึงร้องออกมาไม่เป็นภาษาแมว

“แม้ววว”

“ชอบหรือทองแต้ม นี่แน่ะ นี่แน่ะ” เธอพูดพร้อมหัวเราะคิกคัก

ผมมองเธอตาปริบๆ โอ๊ย! นี่เราจะคุยกันรู้เรื่องไหมเนี่ย ยิ่งผมบ่นก็ยิ่งมีเสียงเงี้ยวง้าวออกมาจากลำคอ คราวนี้ไม่ใช่แค่ลูบไล้เสียแล้ว เธอเอามือเล็กๆ จิกเข้าไปที่พุงผม โอ๊ยๆ ขอเวลานอก ผมยกมือเล็กๆ นั้นปัดไปมาส่งสัญญาณ

“ไม่ต้องกลัวตกนะทองแต้ม เดี๋ยวส้มจุกจะกอดไว้แน่นๆ เอง”

ว่าแล้วเธอก็เอาแรงที่มีทั้งหมดขยุ้มเข้าไปที่หนังพุงนุ่มๆ ของผมแทน ไม่ใช่แบบนี้! ผมกรีดร้อง แล้วเธอก็วิ่งออกนอกห้องก้าวกระโดดลงบันไดอย่างสนุกสนาน

ส้มจุกหิ้วปีกผมลงกระไดไม้เก่าๆ เธอกระโดดเล่นขึ้นลงสนุกสนาน ทุกครั้งที่เธอลงส้น ตัวผมก็เขย่าตามกระไดบ้านสองชั้นเล็กๆ กลายเป็นเครื่องเล่นขนาดใหญ่ในสวนสนุก พอถึงชั้นหนึ่งเธอก็พาผมไปวางก้นจ้ำเบ้าที่แคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน ผมได้กลิ่นปลาทูลอยมา หันไปเห็นหญิงชราคนหนึ่งกำลังง่วนกับการแกะปลาทู แล้วตาเราก็สบกัน

ผมนั่งมองรูปเก่าขาวดำที่แขวนตรงบันได เป็นภาพครอบครัว…

“เอ็งเล่นแปรงฟันให้ทองแต้มด้วยเหรอส้มจุก” แล้วยายก็ก้มลงแกะปลาทูต่อ

ผมหันหน้าซ้ายขวาสงสัยยายพูดอะไร แล้วหันไปมองหน้าส้มจุก เธอมองผมตาแป๋ว แล้วจู่ๆ เธอก็หัวเราะเอิ๊กออกมาอย่างเริงร่า แล้วพลันวิ่งหายไปหลังบ้าน ยายเป็นหญิงชราร่างเล็ก ดูท่าทางกระฉับกระเฉง ผมหยักศกสีดอกเลาทัดหู หน้าตาดูใจดี อายุประมาณ 60 กว่าปี

บ้านไม้สองชั้นขนาดเล็กดูอบอุ่น มีอุปกรณ์ทำขนมวางอยู่เรียงราย เสียงเพลงไทยขับบรรเลงเบาๆ ดังมาจากทรานซิสเตอร์เก่าที่ตั้งอยู่ข้างยาย ไออากาศเจือด้วยกลิ่นไม้ผสานกับใบเตยสดชวนให้คิดถึงวันเก่า รถเข็นขายของถูกเช็ดสะอาดตั้งอยู่ข้างประตูบ้าน ในรถมีถาดขนมเรียงราย มองไปนอกบ้านมีต้นกล้วยไหวลมขึ้นอยู่ข้างถนนลูกรัง ผมไม่รู้ว่านี่คือที่ไหน แต่มันทำให้น้ำตาผมรื้นขึ้น

ยังไม่ทันที่น้ำตาจะกลายเป็นเม็ด ผ้าเย็นสบายอารมณ์ก็ถูกโปะเข้ามาที่ใบหน้าผมอย่างแรง มันถูไถเข้าไปในปากจนโดนลิ้น ใยผ้าขนหนูรูดเข้าที่ตาจนผมต้องหลับตาปี๋ ผมยกมือสองข้างขึ้นป้องกันตัว แต่ก็ถูกฝ่ายตรงข้ามหลบการ์ดน้อยๆ โจมตีที่ใบหูซ้ายขวาอีกครั้ง

ไม่นานผ้าผืนนั้นก็ไล่ทำความสะอาดผมครบทั้งตัว อุ้งมือเอย พุงเอย จนใหม่เอี่ยมอ่อง ส้มจุกวางผมลงให้มีเวลาพักหายใจ ผมเห็นรอยยิ้มหวานกับฟันซี่เล็กของเธอ

“สะอาดแล้วนะทองแต้ม ส้มจุกเช็ดอ้วกให้แล้ว”

อ้วกเหรอ! เมื่อกี้สินะที่เขย่าตรงบันได เดี๋ยว! แล้วที่เช็ดตัวผมเมื่อกี้ล่ะ มันเริ่มจากอ้วกตรงปาก แล้วก็ถูไถไปทั้งตัว แล้วกาละมังข้างๆ มีไว้เพื่ออะไร ทำไมไม่ใช้ซักผ้า

ส้มจุกก้มลงหอมหัวผมด้วยความอ่อนโยน เธอหยิบกาละมังกับผ้าขนหนูไปเก็บ ส่วนผมก็นั่งอ้าปากค้างอยู่บนแคร่ นึกในใจมิน่าล่ะ แมวมันต้องเลียตัวเองบ่อยๆ

 

“หิวมั้ยทองแต้ม เมื่อวานไม่ได้กินอะไรเลย นอนซมทั้งวัน วันนี้พิเศษเลยนะ ข้าวคลุกปลาทูตำรับยายคำมูล” ว่าแล้วยายก็วางกะละมังใบย่อมใส่ข้าวคลุกปลาทูพูนชามลงตรงข้างหน้าผม

ผมก้มลงดูชามข้าวแมวนั้น พร้อมงงงวยอยู่ในใจ ที่นี่ที่ไหน เรากำลังทำอะไร เดี๋ยวก่อน ใจเย็นนะทุกคน ผมรำพึงรำพันกับตัวเอง ขอรีแคปเรื่องราวหน่อย ผมชื่อน้ำปิง เป็นพนักงานโรงแรมแกรนด์โฮเต็ลที่กำลังถูกพักงานอยู่ แต่ตอนนี้ผมอยู่ในร่างแมวชื่อทองแต้ม ใช่ไหม อยู่บ้านเดียวกับยายหลาน ชื่อคำมูลและส้มจุก ส่วนตอนนี้กำลังจะต้องกินข้าวกับปลาทูที่ถูกบี้จนเละติดกะละมังจริงหรือ แต่ท้องผมไม่คิดแบบเดียวกัน มันส่งเสียงร้องโครกใหญ่

“ยายครับ ขอผมเปลี่ยนเป็นปลาทูชิ้นแทนได้ไหม” ผมต่อรองกับยายว่าไม่อยากได้ปลาทูบู้บี้แบบนี้ เสียงเหมียวดังออกจากลำคอผม ยายมองกลับมาอย่างอ่อนโยน

“ขอโทษนะทองแต้ม ยายบี้ปลาไม่ละเอียดหรือลูก มาลูกมา เดี๋ยวยายจะบี้เพิ่มให้” ยายเอื้อมมือมาจับกะละมังข้าวข้างหน้าผม ผมตกใจกางกรงเล็บ ปกป้องกะละมังข้าวเอาไว้ ขู่ยายฟ่อ

“อ้าว หิวน้ำหรือลูก” ยายคำมูลตักน้ำใสเย็นจากโอ่งใส่ชามดินเผาใบเล็กๆ วางไว้ให้ผมข้างชามข้าว แล้วกลับไปล้างผักในกระจาดต่อ

ยายยกน้ำพริกถ้วยเล็ก พร้อมทั้งผักใบสีเขียวสดเหมือนพึ่งเด็ดจากต้น มะเขือลูกกลมเงาดูน่ากัด ปลาทูทอดเหลืองทองแลดูน่ากิน ส้มจุกคดข้าวใส่ชามมาสมทบ ทั้งสองคนนั่งกินข้าวกับบนแคร่ ยายแกะปลาให้หลาน หลานตักน้ำพริกให้ยาย เป็นภาพจำที่น่าคิดถึง ภาพที่ผมไม่ได้สัมผัสมานาน

ผมนั่งมองยายหลานกินข้าวอยู่ครู่หนึ่ง จึงหันดูบรรยากาศรอบบ้าน บ้านเล็กหลังนี้เป็นบ้านไม้สองชั้นมีสวนล้อมรอบ มีพืชผักสวนครัวขึ้นอยู่อย่างเป็นระเบียบ ต้นมะม่วงใหญ่ขึ้นอยู่ข้างบ้านและมีต้นปีบสูงอยู่ริมรั้ว ตัวบ้านเป็นไม้มีประตูบานเฟี้ยมพับได้ มุมหนึ่งจัดเป็นห้องขนาดเล็กมีกองใบตองกองใหญ่ ด้านหลังเป็นครัวมีตู้กับข้าวใบย่อม ด้านในแขวนอุปกรณ์เครื่องครัวเครื่องใช้หลากชิ้นอย่างเป็นระเบียบ ที่นี่คือที่ไหน ดูเป็นบ้านในชุมชนชานเมือง แล้วเราจะกลับไปยังไง จะเริ่มต้นจากที่ตรงไหนดี

แต่ตอนนี้กลิ่นข้าวคลุกปลาทูในกาละมังเริ่มยั่วยวนจนผมแทบจะทนไม่ไหวแล้ว แม้ผมจะยังอยู่ในความสับสนครุ่นคิดอยู่ แต่บรรยากาศอบอุ่นที่คุ้นเคย ทำให้รู้สึกปลอดภัย จนลืมเรื่องราวที่กวนใจไปชั่วคราว

คำแล้วคำเล่าที่เข้าปากผม มันไม่ใช่ปลาทูอย่างที่ผมเคยกิน มีรสหวานจัดปนอยู่ในเนื้อปลา กลิ่นหอมของไอทะเลมันซับซ้อนเหมือนกินกุ้งเผา รสชาติแน่นเหมือนใส่มันปู เหมือนกินบุฟเฟต์ซีฟูดอยู่ที่หาดบางแสน เหมือนว่ายน้ำอยู่ในทะเลกับฝูงปลาในทะเลอ่าวไทย ไม่แปลกใจเลยทำไมแมวชอบกินปลานัก อย่างเดียวที่ผมจะติได้คือการจัดจานกับปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่สูงเกินไปหน่อย

 



Don`t copy text!