
เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 27 : เลือดมนตร์ดำและการพรากจาก
โดย : นาคเหรา
เจาะเวลาหานายฮ้อย นวนิยายโรแมนติกคอมเมดี้ อารมณ์ดีเรื่องล่าสุดจากปลายปากกาของ นาคเหรา นักเขียนรางวัลชนะเลิศจากโครงการช่องวันอ่านเอา เรื่องราวของพลอยจำปาที่ย้อนเวลากลับมาตามหานายฮ้อยคนเก่ง ผู้คุมฝูงควายจำนวนมหาศาลเดินทางไปสู่เมืองใหญ่ เมื่อเขาหายตัวไป เรื่องอลวนวุ่นวายจะเกิดขึ้น เธอจะทำให้สำเร็จไหม ไปลุ้นกันเลยตอนนี้
ค่ำคืนนั้น
บุญสิงห์นอนตะแคงมองร่างคนที่กำลังหลับอยู่เงียบๆ เขากับพลอยนอนร่วมห้องกันตั้งแต่วันเข้าหอแล้ว แต่เขายังไม่เคยล่วงเกินเธอไปมากกว่าแอบหอมแก้มเวลาเธอหลับ ทุกครั้งเขาหอมแก้มเธอหัวใจก็เต้นตึกตักไปด้วยความตื่นเต้น และยังคิดว่าถ้าทำไปมากกว่านี้ ทำแบบที่ผัวเมียเขาทำกันล่ะ มันจะเป็นยังไงบ้างนะ
มือแกร่งลูบใบหน้าเนียนแผ่วๆ เขาเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอนานแล้ว พลอยจำปาเป็นผู้หญิงที่ไม่จัดว่าสวยมาก แต่ก็ดูเป็นคนที่มีความมั่นใจเด็ดเดี่ยวเขาคิดว่าเขาหลงรักเธอที่เป็นแบบนี้
ปลายจมูกโด่งกดลงที่แก้มนวลอีกครั้ง แต่คราวนี้คนที่ถูกแอบหอมแก้มกลับลืมตาตื่นขึ้นมาก่อนพอเห็นดวงตากลมโตกะพริบในความมืด บุญสิงห์ก็สะดุ้งสุดตัว
“พลอย อ้ายเฮ็ดให้ตื่นติ” เธอไม่ได้ตอบแต่กลับทำตาเจ้าเล่ห์ใส่
“แอบหอมแก้มหนูกี่ครั้งแล้ว พูดมาสิ”
“อ้าย…”
บุญสิงห์ได้แต่อ้ำอึ้งเขาลุกขึ้นนั่งไม่กล้าบอกความจริงว่าแอบหอมแก้มหลายครั้ง แต่เป็นตอนที่หลับแล้ว เวลาตื่นเขาไม่กล้าทำอะไรเธอหรอก ด้านพลอยจำปาเมื่อเห็นบุญสิงห์ลุกขึ้นนั่งเธอก็ลุกมานั่งบ้าง ความจริงเธอรู้มาตลอดว่า เขาแอบขโมยหอมแก้มเธอหลายครั้งแล้วเพียงเธอแกล้งทำเป็นไม่รู้
แต่ทั้งที่ในใจเธอก็รู้มาตลอด
“พี่บุญพูดความจริงมาสิ พี่ก็รู้ว่าหนูไม่ชอบคนโกหกนะ”
“เอ่อ กะหลายเทื่อแล้วล่ะ”
“ตอนนี้หอมแก้ม ต่อไปก็คงลักหลับใช่ไหม” บุญสิงห์ทำหน้าเลิ่กลั่กเขาเริ่มทำตัวไม่ถูกเมื่อถูกจับได้ ยิ่งเห็นอาการนั้นพลอยจำปาก็ยิ้มใส่พลางพูดล้อเลียน
“พี่เข้าใจคำว่าลักหลับใช่ไหม”
“อื้อ”
“แล้วคิดจะลักหลับหนูรึเปล่าล่ะ”
“บ่ๆอ้ายบ่เคยคิดดอก สาบานได้” บุญสิงห์เริ่มเอาเสียงดังมากลบเกลื่อนอาการเก้อเขิน
“ไม่คิด แต่ก็แอบหอมแก้มหนูล่ะ ทีหลังจะทำอะไรให้หนูรู้ตัวบ้างสิ” ได้ยินอย่างนั้นคนฟังก็ตาโตเพราะคำพูดนั้นเหมือนคำอนุญาตกลายๆ
“อ้ายเฮ็ดได้แม่นบ่ พลอยสิบ่ตีอ้ายคือติบักเจิดแม่นบ่” พอได้อย่างนั้นพลอยจำปาก็หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนเอ่ยว่า
“หนูจะไปตีพี่ทำไม พี่กับบักเจิดผีบ้าจะไปเหมือนกันได้ยังไง พี่เป็นคนที่หนูรักนะ”
“อีหลีติ” บุญสิงห์พูดพลางเอามือถูพื้นแทน ยิ่งเห็นเขาเขินเธอก็ยิ่งขำและยิ่งชอบที่เห็นเขาเป็นแบบนี้หญิงสาวเอามือมาจับมือเขาไว้พลางเอ่ย
“งั้นพี่ก็จูบหนูสิ”
“บ้าเว้าหยังกะบ่ฮู้”
พลอยจำปาไม่ปล่อยให้เขาเขินนานจนไม่ได้งาน เธอจึงเป็นฝ่ายจูบเขาเอง บุญสิงห์ตาโตเพราะมันลึกล้ำกว่าการหอมแก้มธรรมดาๆ ริมฝีปากอุ่นของสาวน้อยทาบทับลงที่ปากเขามันทำให้ชายหนุ่มตัวแข็งทื่อแล้วจะประคองตัวเองไม่อยู่ มันเป็นชั่วเวลาไม่นานนัก แต่บุญสิงห์กลับรู้สึกดี แต่แล้วพลอยจำปาก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง
“เฮ้อ!”
“พลอยเป็นหยัง”
“เปล่า หนูกำลังคิดถึงฉากเลิฟซีนในหนังสักฉาก แต่ก็ว่าล่ะนะหนูดูแต่หนังบู๊ ถนัดแต่การเตะป้าบๆ พอตัดฉากมาที่เลิฟซีน หนูเลยต้องตัดเข้าโคมไฟแทน แล้วนิยายที่หนูอ่านส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้เสียด้วย หนูก็ไม่รู้ว่าต้องทำไงต่อดี”
พลอยจำปาเอ่ยเธอพูดออกไปตามที่เธอคิด ส่วนบุญสิงห์กลับกะพริบตามองเธออย่างอึ้งๆ เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็ฟังเธอพูดจนจบ
“มันมีให้หัดนำติพลอย”
“เปล่าคือ แบบหนูชอบดูหนังกับอ่านนิยายออนไลน์น่ะพี่ มันจะมีบ้างที่เขียนเรื่องตอนผู้หญิงกับผู้ชายเขาจะติ๊ดชึ่ง ติ๊ดติ๊ดตะลิดติ๊ดชึ่งกัน
“อีกหยังติ๊ดชึ่ง”
“โธ่ ก็เรื่องนั่นแหละ เรื่องที่ผู้ชายกับผู้หญิงทำๆ กันแล้วมีลูกน่ะ”
“บ้านพลอยเอิ้นเรื่องที่ผู้ชายกับผู้หญิงนอนนำกันว่าติ๊ดชึ่งติ” พลอยจำปาขำกับท่าทางไร้เดียงสาของบุญสิงห์ เธอพยายามกลบเกลื่อนความเขินของตัวเองด้วยการพูดติดตลก ก่อนจะเอามือลูบใบหน้าเขาเบาๆ
“ใช่ เรียกให้มันน่ารัก แต่พี่รู้ไหม หนูชอบพี่ที่เป็นแบบนี้ที่สุด ติดอยู่อย่างเดียวคือร่างนี้เป็นของจำปา หนูจะรู้สึกผิด ที่หนูทำตามใจ แต่ล่วงเกินร่างกายจำปา แต่หนูก็รักพี่นะ”
เธอพูดออกมาพลางซบลงที่อกแกร่งของอีกฝ่าย ในตอนนั้นบุญสิงห์ก็จูบที่หน้าผากของเธอเบาๆ พลางเอ่ย
“ถ้าเฮากลับมาจากเมืองล่างแล้ว ถ้าพลอยบ่ได้กลับไปโลกของพลอยอีก เฮาสองคนมาติ๊ดชึ่งกันอีหลีได้บ่ บ่สำคัญดอกว่าร่างกายนี้เป็นของไผ แต่คนที่อ้ายกอดมีหัวใจของพลอยก็พอแล้ว” พลอยจำปาไม่ตอบแต่เธอพยักหน้ารับคำขอของเขาไปแล้ว บุญสิงห์กอดเธอไว้พลางพูดอย่างข่มใจว่า
“นอนซะมื้ออื่น เฮาต้องเดินทางอีกไกล และอีกนานที่อ้ายสิได้นอนกอดพลอยแบบนี้ พลอยจำปาไม่พูดได้แต่ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่น เธอยิ้มอย่างเป็นสุขและได้แต่หวังว่าเธอจะมีความสุขอย่างนี้ตลอดไป
รุ่งเช้าวันต่อมา
พลอยจำปาตื่นมานึ่งข้าวทำอาหาร ก่อนจะเดินทางไปเมืองล่างโดยที่บุญสิงห์ก็ไปเตรียมของใส่เกวียนเหมือนกัน เพ็งที่เป็นห่วงน้องก็มาช่วยจัดเตรียมของด้วย ฤกษ์การเดินทางนั้นได้กำหนดไว้แล้วโดยทั้งสองขบวนค้าวัวควายแห่งภูแสนคำจะออกเดินทางด้วยฤกษ์เดียวกันกับบ้านป่าแดง ขบวนค้าควายของนายฮ้อยสนเดินทางมาที่ภูแสนคำ โดยมาพักที่บ้านของบุญสิงห์เพื่อรอเวลาเดินทางเช่นกัน
“เอื้อยใจบ่ดีเลย ฝันกะบ่ดีปานใด ฝันเห็นแม่มาจูงมือจำปาไป”
ได้ยินเพ็งพูดอย่างนั้นพลอยจำปาก็หันหน้าไปมองบุญสิงห์ แต่ก็พยายามยิ้มกลบเกลื่อน
“บ่มีหยังดอกเอื้อย ก็แค่ฝันธรรมดา เอื้อยเพ็งก็อย่าคิดหลายๆ”
“บ่คิดบ่ได้ดอกจำปา มันฝันแนวใด๋บุ คือเรื่องอีหลีเลย เอื้อยหลงฮ้องไห้นำ ตื่นมาก็ใจบ่ดีเลย จำปาบ่ไปบ่ได้รึ” เพ็งพูดออกมาตามความรู้สึก เธอรู้สึกใจหายแปลกๆ พลอยจำปาก็ได้แต่กอดเธอตอบแล้วกระซิบแผ่วๆ ว่า
“ไม่มีอะไรหรอกพี่ ต่อให้หนูไปไกลแค่ไหน หนูก็จะกลับมา” เธอลืมตัวพูดภาษากลางออกมาเพ็งได้แต่พยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปหาบุญสิงห์พลางเอ่ย
“เพ็งฝากน้องแน้เด้อ อ้ายบุญ”
“เพ็งบ่ต้องห่วงดอก จำปากะเป็นเมียอ้าย อ้ายสิเบิ่งให้ดี”
ได้ยินการรับคำเป็นมั่นเหมาะ เพ็งก็วางใจได้กึ่งหนึ่ง อย่างน้อยคนทางบ้านป่าแดงที่ไปกับขบวณค้าควายก็เป็นคนดีที่พอเชื่อใจได้ ไม่นานหลังจากนั้น ครูไสวและละม่อมก็เอาห่อเสบียงมาด้วย สหรับครูไสวแน่นอนเขาย่อมไม่อยากให้ลูกไปไหนไกล แต่ก็เข้าใจบุญสิงห์ บางทีกลับมาแล้วอะไรๆก็อาจจะดีขึ้นก็ได้ พลอยจำปาโผเข้าไปกอดลาครูไสวพลางเอ่ย
“หนูไปก่อนนะคะพ่อ”
“เดินทางปลอดภัยรักษาตัวนะลูก แล้วรีบกลับมาล่ะ”
“ค่ะ หนูนะกลับมาแน่นอนค่ะ”
ยายลุนเองก็มากอดลาหลานเหมือนกัน พลอยจำปาน้ำตารื้นทันทีเมื่อได้กอดลาหญิงชรา เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความอาลัยอย่างประหลาดมันทำให้เธอใจหาย เมื่อคิดว่าจะต้องเดินทางจากทุกคนไปจริงๆ
ทุกคนไปที่ลานกว้างของหมู่บ้านเพื่อทำพิธีทางศาสนา โดยนายฮ้อยสุบินและนายฮ้อยสนเป็นผู้นำในการสู่ขวัญ ก่อนเคลื่อนขบวณค้าควาย ในขณะเสียงท่องคำสู่ขวัญดังขึ้นพลอยจำปาก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอกอย่างหาสาเหตุไม่ได้ เธอเริ่มได้ยินเสียงท่องมนต์แปลกๆดังขึ้นในหัว มือน้อยเอื้อมไปจับมือของบุญสิงห์ไว้
“พลอย มือคือเย็นแท้ เป็นหยังบ่”
“พี่บุญ หนูปวดหัว โอ๊ย!!”
เธอกรีดร้องเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมาทิ่มแทงที่ร่าง บุญสิงห์ใจไม่ดีเมื่อเห็นท่าทางของพลอยจำปา เขาจึงประคองร่างเธอไว้ในตอนนี้ เธอรู้สึกเหมือนกับว่ามีคนกระชากแขน บุญสิงห์ตกใจมากเขาเห็นท่าทางนั้นก็คิดอะไรไม่ออก ช่วงเวลานั้นนายฮ้อยสุบินก็ตะโกนสวนออกมาว่า
“เห็นบ่อีจำปามันเป็นผี บักเจิดบ่ได้ตั๋ว”
“พวกเจ้า เฮ็ดหยังจำปา”
บุญสิงห์ตะโกนสุดเสียง ด้านนายฮ้อยสนสติดีกว่าเพื่อนจึงบอกให้บุญสิงห์ท่องมนต์พิษสะหลีกตามที่ได้ร่ำเรียนมา แต่เขากลับตกใจจนไม่ได้ตั้งใจ นั่นทำให้หมอเทียนบิดาของบุญสิงห์เห็นเช่นนั้นจึงเป็นฝ่ายเข้ามาช่วยลูก โดยการเป็นฝ่ายท่องมนต์พิษสะหลีกแทน
“บักเทียน มึงขวางกูติ”
“กูบ่ยอมให้ไผ มาเฮ็ดอีหยังลูกสะใภ้กูดอก”
“แต่อีจำปา มันเป็นผี เบิ่งดู๊หมอผีทางบ้านดุงกำลังไล่ผีออก สิได้เห็นว่ามันผีอีหลีกะเทื่อนี้ล่ะ” นายฮ้อยสุบินยิ้มบางๆและคนที่แอบยิ้มในมุมมืดอีกคนก็คือนายฮ้อยพัน เขาเห็นร่างน้องเมียทุรนทุรายก็รู้สึกสะใจนัก อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ทำให้บุญสิงห์จับปวดได้ แต่บุญสิงห์ทำท่าไม่ยอม เขาเงยหน้ามองนายฮ้อยพันและนายฮ้อยสุบินพลางเอ่ย
“พวกเจ้าเฮ็ดของใส่เมียผมแม่นบ่”
“พวกเฮ็ดหยัง มึงมีตาบ่กูได้หยังเมียมึง”
“บ่ได้เฮ็ดดอก แต่เจ้าบอกให้คนอื่นเฮ็ดแทน”
“แล้วถ้าอีจำปาบ่แม่นผี มึงสิย้านเฮ็ดหยังล่ะบุญสิงห์”
บุญสิงห์มองหน้านายฮ้อยพัน เขาคิดว่าไม่มีทางที่นายฮ้อยพันจะไม่รู้เรื่อง รอยยิ้มเยาะที่เผยออกตอนนี้มันบอกได้ดีว่าเขาต้องทำอะไรสักอย่างกับพลอยจำปาแน่ๆ เพ็งที่เห็นน้องในสภาพนั้นก็ทนไม่ไหว เธอวิ่งปราดมาหาบุญสิงห์และพลอยจำปา ด้านยายลุนและครูไสวก็พยายามจะเข้าไปแต่โดนชาวบ้านหลายคนกันไว้
“น้องสาวข้อยบ่แม่นผี น้องข้อยเป็นคน”
“เพ็งออกมา มันบ่แม่นเรื่องของเพ็ง”
“นี่ล่ะเรื่องของเพ็ง อ้ายพันเฮ็ดหยังจำปา”
“มันบ่แม่นจำปา อีนี่มันเป็นผี ถ้ามันอยู่มันสิเฮ็ดให้คนทั้งภูแสนคำทุกข์ยากปากหมอง หรือเพ็งอยากให้เป็นจังสั้น”
“ข้อยบ่อยากให้เป็นจังสั้น แต่นี่น้องของข้อยทั้งคน พวกเจ้าเฮ็ดอีหยังกับจำปา เฮ็ดมาจักเทื่อแล้ว” สายตาของเธอมองด้วยสิ้นหวังเธอมองไปยังนายฮ้อยสุบินมองเจิด และสุดท้าก็อสามีที่มองด้วยสายตาเย็นชา
“จำปาบ่เคยไปเฮ็ดอีหยังให้ไผ มีแต่พวกเจ้าล่ะเฮ็ดให้น้องข้อยเป็นจังซี้ ข้อยบ่สนดอกว่าตอนนี้สิมีผีตัวใดมาสิงจำปา แต่ข้อยคิดแต่ว่านี่คือน้องคนเดียวที่ข้อยมี ถ้าพวกเจ้าสิเฮ็ดหยังจำปาข้อยบ่ยอมดอก”
นายฮ้อยพันได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกโกรธมาก เพ็งไม่ใช่ผู้หญิงแสนสวยที่หัวอ่อนอีกแล้ว เธอเปลี่ยนไปเพราะผีร้ายที่มาเข้าสิงพลอยจำปาเป็นแน่ ในตอนนั้นบุญสิงห์ที่เริ่มตั้งสติได้ก็เริ่มท่องคาถาป้องกันภัยสิบทิศที่ผีเฒ่าจุ่นสอนมา นายฮ้อยพันเห็นท่าไม่ดีเลยนั่งท่องคาถาไล่ผีช่วยเฒ่าหมอผีย้านดุงอีกอีกแรง และในตอนนั้นเองบุญสิงห์ก็เห็นรอยสักที่ไหล่และหลังขอนายฮ้อยพัน ปกติเขาจะไม่เห็นรอยสักนี้ เพราะมันไม่ใช่การสักธรรมดาแต่เป็นการน้ำมันที่ลงอักขระอาคมไว้
เสียงกรีดร้องดังขึ้นมา ตอนนี้บุญสิงห์ได้ท่องคาถากลับไปกลับมา แต่ดูเหมือนว่าคนในอ้อมกอดก็ยิ่งทุรนทุราย พลอยจำปายกมือขึ้นสูงแตะต้องใบหน้าของเขา
“พี่บุญไม่ต้อง หนูคงต้องลาพี่จริงๆ แล้ว”
“บ่ พลอย อ้ายบ่ยอมดอก พลอยไปไกลปานนั่น อ้ายสินำไปได้จั๋งใด”
“ไปได้สิ พลอยจะรอ มีความจริงเรื่องหนึ่งที่หนูอยากบอกพี่ นอกจากคำว่ารัก” บุญสิงห์ร้องไห้เมื่อเห็นว่าดวงตาของพลอยจำปามีน้ำตาเอ่อล้นเธอรู้สึกแต่ว่าตัวเองอ่อนแรงลงเรื่อยๆ
“พี่อย่าเป็นนายฮ้อยเลยนะ พี่ใจดีเกินไป พี่เกิดมาเพื่อเป็นคนปกป้องและรักษาไม่ใช่ผู้ทำลาย ”
“พลอย”
เสียงนั้นคือเสียงสุดท้ายที่เธอได้ยิน สู่การเดินทางที่แสนมืดมิดอีกครั้ง
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทส่งท้าย : วาสนาของเฮาสองคน
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 27 : เลือดมนตร์ดำและการพรากจาก
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 26 : ผัวอยู่ที่ไหน เมียอยู่ที่นั่น
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 25 : งานกินดอง
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 24 : รอยสักปริศนา
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 23 : ความลับของแรงกรรม
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 22 : สิมฮ้าง ผีบ้า และความลับของกาลเวลา
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 21 : ไล่ผีปอบ
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 20 : จองหัวใจไว้ก่อน
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 19 : ถึงร้ายอ้ายเจิดก็ยังรัก
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 18 : ฝนตก…หนุ่มสาว…และกระท่อมในตำนาน!
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 17 : งานวัดบ้านป่าแดง
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 16 : ผัว (พี่สาว) ข้าใครกล้าแตะ
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 15 : เผชิญหน้า
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 14 : แผนการร้ายของอ้ายเจิด
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 13 : พี่เขย น้องเมีย
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 12 : นักเรียนเตรียมนายฮ้อย
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 11 : ความหลังของพ่อ
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 10 : เรียนมวยกับผีเมืองล่าง
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 9 : สิ่งที่อยากทำ กลับทำไม่ได้
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 8 : ผู้สาวของอ้าย…แม่นบ่?
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 7 : ชีวิตของสาวน้อยจำปา
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 6 : ฝนเทลงมา…เอ้า!เทลงมา
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 5 : การย้อนอดีตที่คาด (บ่) ถึง
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 4 : การโกหกครั้งสำคัญ
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 3 : หม้อไม่ไหวต้องไหถ่วงวิญญาณ!
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 2 : เมื่อถูกอวยยศเป็นผีนางด้ง
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย บทที่ 1 : ระทึกขวัญวันออกค่าย
- READ เจาะเวลาหานายฮ้อย : บทนำ