ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 20 : ภาพสำคัญ

ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 20 : ภาพสำคัญ

โดย : เอมอักษร

Loading

ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง นวนิยายรางวัลรองชนะเลิศกับนิยายดราม่าคอเมดี้จากโครงการอ่านเอาก้าวแรก ปี 5 โดย เอมอักษร เรื่องราววุ่นๆ ของหญิงสาวที่คิดว่าตัวเองโชคร้ายทุกด้านจนขอฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่ไหงแค่นอนหลับไปวิญญาณก็ออกจากร่าง เธอจึงต้องลุกขึ้นมาหาวิธีกลับเข้าร่าง หาฆาตกรให้ทันเวลาที่เหลือน้อยลงทุกที

หมูยอนั่งขยุกขยิกอยู่หน้าจอโน้ตบุ๊ก เหลียวซ้ายแลขวาอย่างระแวดระวัง แต่เท่าที่มองเผินๆ ในบ้านหลังสวยของตาฝรั่งนามเจมีก็ดูเรียบร้อยสะอาดสะอ้านดี ไม่ได้มีวี่แววของสิ่งของผิดปกติอย่างอาวุธ ของสะสม หรือกล่องพัสดุแปลกๆ แต่ก็เอาแน่ไม่ได้ จากที่ดูซีรีส์สืบสวนสอบสวนมาหลายปี พวกฆาตกรตัวจริงส่วนใหญ่มักจะหน้าตาดี อัธยาศัยเยี่ยม และอยู่บ้านสวยๆ แบบนี้แหละ ส่วนอุปกรณ์ทรมานและเหยื่อ ก็จะถูกขังอยู่ในห้องใต้ดินแสนลึกลับซับซ้อน

หมูยอลังเลอยู่นานเพราะไม่เคยเสี่ยงเข้าบ้านคนแปลกหน้ามาก่อน ได้แต่ภาวนาอยู่ในใจขอให้เจิดจันทร์ตามมาช่วยคุ้มครองเธอด้วย พร้อมกับตั้งมั่นว่าจะตะเบ็งเสียงสุดชีวิตหากมีอะไรผิดปกติ

แต่ข้อดีของการเข้ามาในบ้าน ก็คือเธอสามารถต่อสัญญาณไวไฟฟรีได้ เลยพอส่งภาษาผ่านกูเกิลทรานสเลทจนเจมีพอเข้าใจได้ว่า เกิดอะไรขึ้นกับเจิดจันทร์ และหมูยอต้องการให้เขาช่วยอย่างไร

เจมีเปิดโน้ตบุ๊กซึ่งวางอยู่บนโต๊ะกินข้าวกลางบ้าน แล้วง่วนอยู่กับการเชื่อมต่อแอปพลิเคชันดูภาพจากกล้องวงจรปิด

หมูยอวาดลำดับเหตุการณ์คร่าวๆ ลงบนกระดาษให้เจมีดู นับตั้งแต่เมื่อวานที่เจิดจันทร์รู้ผลสอบ จากนั้นหญิงสาวกลับมาบ้านตั้งแต่บ่าย และคนในบ้านพบร่างเธอในตอนเช้าของวันนี้

เจมี่พยักหน้าหงึกๆ แล้วลากเคอร์เซอร์เมาส์ไปยังช่วงเวลาบ่ายของเมื่อวาน

เนื่องจากกล้องตัวนี้ถูกติดไว้บนที่สูงเพื่อส่องดูนก ดังนั้นภาพที่ปรากฏบนจอร้อยละแปดสิบจึงเป็นภาพกิ่งไม้และใบไม้หนาแน่น มีบางส่วนที่เห็นหลังคาและหน้าบ้านเจิดจันทร์รำไร

หมูยอนั่งจ้องเขม็งไปที่ภาพบนหน้าจอ ผ่านไปสิบนาทีเต็ม ไม่มีอะไรเคลื่อนไหวนอกจากใบไม้พัดไปมา จนหญิงสาวชักหนักใจ และเริ่มตระหนักว่าคงไม่ใช่งานง่ายหากเธอต้องนั่งจ้องภาพมุมเดิมเป็นชั่วโมงๆ โดยไม่รู้ว่ากำลังมองหาอะไร จะกรอภาพไปข้างหน้าให้เร็วทันใจก็ทำไม่ได้ เพราะเธออาจพลาดเบาะแสสำคัญเพียงเสี้ยววินาที

ว่าแต่ถ้ามีเบาะแสอยู่จริงก็ดีน่ะสิ กลัวแต่จะคว้าน้ำเหลวเปล่า เพราะที่เธอทำอยู่ก็มาจากสัญชาตญาณและการเดาสุ่มล้วนๆ

หญิงสาวขยับตัวอย่างเมื่อยขบ กำลังนึกด่าตัวเองอยู่หน่อยๆ ที่หาทำไม่เข้าเรื่อง ชายหนุ่มข้างกายก็เอะอะแล้วชี้ไปที่หน้าจอ

“She’s arrived.” รถแท็กซี่เขียวเหลืองเลี้ยวปราดมาเทียบหน้าประตูบ้าน ครู่เดียวร่างหญิงสาวที่คุ้นตาก็เดินลงมาด้วยท่าทางระโหย

“เจิด เจิด นั่นไงเจิดจันทร์” หมูยอร้องขึ้นบ้าง เธอเหลียวมองเวลาที่หน้าจอแล้วรีบจดไว้ บ่ายสองสิบแปดนาที

“She came by taxi, the security guard in front of the village must have a registration of the cars coming and going.” เจมีพึมพำ ก่อนจะพูดผ่านโทรศัพท์ให้แปลเป็นภาษาไทย หมูยอพยักหน้าตาม เริ่มตื่นเต้นขึ้นเล็กน้อย

ทั้งคู่ขยับเข้าไปใกล้หน้าจอขึ้นอีก พยายามเพ่งมองหาสิ่งผิดปกติกันแบบเอาเป็นเอาตาย

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป มุมกล้องที่เดิมไม่ปรากฏอะไรให้เห็นอีก นอกจากนกตัวเล็กเดินเตาะแตะบนกิ่งไม้ผ่านกล้อง

หมูยอถอนใจเฮือก ส่วนชายหนุ่มเดินไปหยิบโค้กกระป๋องในตู้เย็นมาส่งให้ หญิงสาวรับมาถือไว้ ยังไม่กล้าเปิดดื่มเพราะนางเอกละครมักจะโดนวางยาผ่านเครื่องดื่มแบบนี้แหละ ได้แต่มองอีกฝ่ายกระดกกระป๋องดื่มรวดเดียวหมด

เจมีเดินกลับมาที่เก้าอี้ แล้วเปลี่ยนมากดปุ่มดูภาพแบบฟาสชอต

ภาพบนหน้าจอไหลเลื่อนไปเรื่อยๆ เหตุการณ์ต่อมาคือรถของเจณิสตากลับมาถึงบ้าน ตามด้วยเรืองรุจี และภาคภูมิ ไล่หลังตามกันมาในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง

หมูยอกดหยุดภาพเป็นระยะ พร้อมกับจดเวลาที่ทุกคนมาถึงบ้าน

“แปลว่าเมื่อวานทุกคนถึงบ้านตั้งแต่บ่าย ยกเว้นน้องเจน” หมูยอพึมพำ แล้วส่งภาษาทรานสเลทกับเจมี “น่าแปลกนิดนึงตรงที่พี่เจกลับมาบ้าน เพราะเจิดพูดว่าพี่สาวไปบิน กว่าจะกลับก็อีกสองสามวัน”

เจมีพยักหน้า หันไปจดจ่อกับภาพบนจอตามเดิม มีรถเก๋งไม่คุ้นตา ขับออกจากซอยด้านข้างบ้านของเจิดจันทร์ อีกครู่ใหญ่ รถเก๋งของเรืองรุจีก็ขับออกไปจากบ้าน จากนั้นก็แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เวลาเคลื่อนคล้อยจากบ่ายเป็นเย็น รถเก๋งคันเล็กของกิ่งแก้วขับไปข้างนอกเพียงครู่เดียวก็กลับมา น่าจะไปตลาดตามเคย ขณะนั้นฟ้ามืดจนแทบมองไม่เห็นอะไร

มาเห็นแสงไฟวาบจากรถที่เลี้ยวเข้ามาจอดในบ้านอีกครั้ง ตอบเกือบตีหนึ่ง เป็นรถของเรืองรุจี จากนั้นประมาณตีห้าครึ่ง เห็นเงาตะคุ่มของกิ่งแก้วแม่บ้านรีบร้อนออกจากประตู สักพักก็กลับมาพร้อมผู้ชายอีกคน หมูยอคาดว่าคงเป็นช่วงที่พบร่างของเจิดจันทร์ ไม่นานหลังจากนั้น รถของภาคภูมิก็ขับอย่างรวดเร็วออกจากบ้าน

ภาพในกล้องยังทำงานต่อไป จนกระทั่งถึงเหตุการณ์ที่หมูยอเดินออกจากบ้านกลับมาที่รถ และกิ่งแก้วขับรถคันเล็กออกไปตลาด จากนั้นก็เข้าสู่เหตุการณ์ปัจจุบันที่หมูยอเจอกับชายหนุ่มเจ้าของกล้องวงจรปิด

“มีอะไรผิดปกติไหม” เจมีถามผ่านแอปพลิเคชันแปลภาษา

หมูยอจ้องกระดาษที่จดเหตุการณ์และเวลาที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด ถอนใจพลางส่ายศีรษะ

“เท่าที่ดูก็ไม่เห็นมีอะไร” หมูยอตอบผ่านเครื่องมือเดียวกัน “แต่อย่างน้อยก็ได้ไทม์ไลน์ไปบอกตำรวจ ฉันขอบคุณคุณมากนะ…แท้งกิ้ว เจมี่ ฟอร์ เฮ้ลป์” หญิงสาวลองพูดภาษาอังกฤษเองแบบเขินๆ

ชายหนุ่มยิ้มแป้นตามเคย พูดเป็นทำนองว่ายินดีช่วย แล้วถามว่าหมูยอจะย้อนดูเหตุการณ์ตอนไหนเป็นพิเศษอีกไหม

“ฉันก็อยากดูภาพทั้งหมดอีกสักรอบนะ เผื่อจะสังเกตเห็นอะไรมากขึ้น แต่มันคงเสียเวลามากเกินไป เพราะยังไม่เจอจุดที่ผิดปกติเลย” หญิงสาวบอกผ่านทรานสเลท

เจมีนิ่งคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะกดเลือกฟังก์ชันของกล้อง เขาชี้ให้ดูปุ่ม contrast และอธิบายว่า ถ้าปรับให้สีและระดับการตัดกันของสีอิ่มตัวเกินขนาด อาจทำให้รายละเอียดที่มองเห็นได้ยากเด่นชัดขึ้นมา ก่อนจะชะลอภาพให้ช้าลงหนึ่งเท่า โดยเลือกตั้งแต่ช่วงเวลาพลบค่ำของเมื่อวาน

เจมีกดเพลย์ให้หมูยอดูซ้ำ ขณะที่เขาเองก็นั่งดูอยู่ด้วยอย่างตั้งอกตั้งใจ

ความเร็วที่ลดลง บวกกับความมืดที่แม้จะปรับสีแล้วก็ยังมองอะไรไม่ค่อยเห็น ทำให้คลิปนี้ยิ่งดูน่าเบื่อสุดขีด หมูยอต้องพักสายตาทุกห้านาทีพร้อมกับนวดขมับไปด้วย แอบนึกชมคนข้างตัวเหมือนกันที่เขายังตั้งใจพิจารณาภาพในกล้องอย่างขะมักเขม้น ทั้งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวแม้แต่น้อย

‘ฝรั่งนี่มันตั้งใจดีแฮะ มิน่า ถึงเป็นชาติมหาอำนาจ เพราะทำอะไรทำจริงนี่เอง’

เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง เจมีออกไปช่วยดูช่างที่มาซ่อมรถให้หมูยอจนกลับมาสตาร์ตได้ตามปกติ ก่อนจะเอาพิซซ่าแช่แข็งมาอบร้อนควันฉุย คราวนี้ความเหนื่อยและหิวทำให้หมูยอไม่มีข้อเกี่ยงงอนอะไรอีก หญิงสาวซัดทั้งอาหารและเครื่องดื่มอย่างปรีดิ์เปรม

เมื่อกินอื่ม หมูยอตัดสินใจลากลับบ้านก่อนที่จะค่ำและรถติด คลิปกำลังเล่นอยู่ถึงช่วงเที่ยงคืน เธอคิดว่าจะกลับมาดูซ้ำอีกครั้ง พร้อมกับแจ้งตำรวจให้ทราบถึงหลักฐานชิ้นนี้ด้วย

หญิงสาวอธิบายกับเจมีเป็นคำง่ายๆ ถึงตอนนี้ ความคุ้นเคยทีละนิดทำให้ทั้งคู่ต่างพยายามส่งภาษาของอีกฝ่ายแบบงูๆปลาๆ โดยไม่ต้องเปิดแอปพลิเคชันทุกครั้งแล้ว

หมูยอหันไปหยิบกระเป๋า จังหวะที่สายตาตวัดผ่านหน้าจอ เธอก็เห็นบางอย่างวูบผ่านไป

หญิงสาวเขม้นมอง ไม่ใช่ใบไม้ไหวหรือนกเดินผ่าน

หมูยอกดหยุดภาพ ย้อนกลับไปเล็กน้อย ก่อนจะกดปุ่มเล่นแบบสโลว์ ยื่นหน้าไปจนแทบติดจอ

หญิงสาวกลั้นหายใจ เลือดสูบฉีดแล่นพล่านไปทั่วร่าง

หมูยอกดรีเพล์อีกครั้ง และอีกครั้ง…

ไม่น่าเชื่อ มันอยู่นั่นไง

หญิงสาวยืนตะลึงอยู่หน้าจอ แล้วก็สะดุ้งสุดตัว เพราะเสียงลมหายใจของชายหนุ่มเจ้าของบ้าน หอบกระชั้นอยู่เบื้องหลัง ใกล้จนรู้สึกถึงลมอุ่นเป่ารดต้นคอ

หมูยอตัวเย็นเฉียบ

 



Don`t copy text!