ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 34 : แผนผีสิง

ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 34 : แผนผีสิง

โดย : เอมอักษร

Loading

ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง นวนิยายรางวัลรองชนะเลิศกับนิยายดราม่าคอเมดี้จากโครงการอ่านเอาก้าวแรก ปี 5 โดย เอมอักษร เรื่องราววุ่นๆ ของหญิงสาวที่คิดว่าตัวเองโชคร้ายทุกด้านจนขอฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่ไหงแค่นอนหลับไปวิญญาณก็ออกจากร่าง เธอจึงต้องลุกขึ้นมาหาวิธีกลับเข้าร่าง หาฆาตกรให้ทันเวลาที่เหลือน้อยลงทุกที

หมูยอนำขบวนหนึ่งฝรั่งและหนึ่งวิญญาณเข้ามาในล็อบบี โชคดีที่คอนโดของปรีเมธไม่ได้ใช้ระบบ ล็อกชั้น เธอจึงตีหน้าตายเดินตามผู้พักอาศัยรายหนึ่งที่สแกนบัตรเข้าประตูชั้นใน ก่อนกดลิฟต์ไปยังชั้นที่ปรีเมธพักอยู่

หมูยอเคาะประตูด้วยใจเต้นตุ่มๆ ต่อมๆ ส่งสัญญาณให้เจมียืนหลบไปอีกด้าน

พักใหญ่ ก่อนที่ประตูจะเปิดออก ใบหน้าคร้ามคมของชายหนุ่มโผล่ออกมาด้วยสีหน้าแปลกใจ

“หมูยอ มาได้ยังไงครับนี่ มีอะไรด่วนหรือครับ”

“คือ…มีเรื่องค่ะปรี” หญิงสาวเริ่มเรื่องตามที่วางแผนกับเจิดจันทร์บนรถ นั่นคือพยายามหาทางเข้าห้องปรีเมธให้ได้ จากนั้นก็ให้เจมีไปช่วยเจนนินทร์

“คือ…นี่ค่ะ เจมี” หมูยอชี้ไปที่หนุ่มฝรั่ง ที่ยืนหน้าตาเหลอหลา “เขาเป็นเจ้าของกล้องค่ะ เขาไปไล่ดูภาพอีกรอบ คราวนี้เจอเต็มๆ เลยค่ะ”

“เจออะไรครับหมูยอ” ปรีเมธขมวดคิ้ว มองชายหญิงทั้งคู่สลับไปมา

หมูยอลดเสียงกระซิบกระซาบ “เอ๊า ก็คนร้ายน่ะสิคะปรี ทีนี้ภาพมันมัวหน่อย หมูยอเล่าว่าปรีปรับภาพได้ เจมีร้อนใจเลยเอาไฟล์มาให้ปรีที่นี่เลย”

หนุ่มตาน้ำข้าวยิ้มแบบงงๆ ทำให้ปรีเมธยิ่งมองอย่างสงสัยหนักขึ้น

“หมายความว่า เห็นภาพคนร้ายในกล้อง?”

หมูยอพยักหน้า

“งั้นเอาไฟล์มาสิครับ เดี๋ยวผมทำให้ แล้วจะรีบโทรไปบอกนะครับหมูยอ”

หมูยอส่ายหน้าแข็งขัน “ต้องทำตอนนี้เลยค่ะปรี ถ้ายังไงจะได้ไปสถานีตำรวจกันเลย เจมีเขาร้อนใจ เก็บหลักฐานไว้กับตัวนานๆ เขากลัวมีปัญหา แล้วเขาก็เป็นคนต่างชาติด้วย” หญิงสาวทำเสียงอ้อนวอน “นะคะปรี หมูยอขอโทษนะที่รบกวนกะทันหัน แต่เห็นแก่เจิดสักครั้งนะคะ”

ปรีเมธกวาดตามองทั้งคู่ ขณะที่หมูยอใจเต้นโครมคราม กลัวว่าชายหนุ่มจะจับพิรุธที่มีมากมายก่ายกองได้

“งั้นก็…เข้ามาก่อนสิครับ”

หมูยอถอนใจเฮือก หันไปพยักหน้าเรียกทั้งเจมีและเจิดจันทร์เข้าไปในห้อง ขณะที่ปรีเมธปิดประตูตามหลัง

หมูยอกวาดสายตามองสำรวจห้องรับแขกเล็กๆ ที่เชื่อมต่อกับครัวแบบเปิดอย่างรวดเร็ว สภาพในห้องเรียบร้อย มีเพียงขวดเบียร์และกับแกล้มบนโต๊ะหน้าโซฟา ไม่มีวี่แววว่ามีบุคคลอื่นอยู่ด้วย

ปรีเมธเดินไปที่โต๊ะทำงานเล็กๆ ริมหน้าต่างที่ปิดม่านมิดชิด ก่อนจะเปิดโน้ตบุ๊กบนโต๊ะ

“ขอไฟล์หน่อยครับ”

เจมีอึกอัก ทำท่ารื้อค้นกระเป๋ากางเกง พลางเหลือบมองหมูยอเป็นเชิงขอความช่วยเหลือ

เจิดจันทร์วิ่งผ่านทุกคนไปยังห้องนอนที่ปิดสนิท พอลอยผ่านประตูเข้าไป ก็ชะงักทันทีเมื่อเห็นร่างน้องสาวนอนสลบไสลอยู่บนเตียง หญิงสาวตะโกนเรียกเพื่อนสาวลั่นอย่างลืมตัว

“หมูยอ ยัยเจนอยู่ในห้องนอน ไปช่วยเร็ว”

หมูยอสะดุ้ง ละล้าละลัง แล้วตัดสินใจวิ่งพรวดพราดไปเปิดประตูห้องนอน เมื่อเห็นเจนนินทร์นอนนิ่งเหมือนตายอยู่บนเตียง จึงหันไปตะโกนเรียกเพื่อนต่างชาติเสียงสั่น

“เจมี ทางนี้ เจนอยู่ในนี้ มาช่วยกันเร็ว”

เจมีขยับตัว แต่ช้าไปเพียงเสี้ยววินาที เพราะชายเจ้าของห้องคว้าขวดเบียร์บนโต๊ะฟาดศีรษะเขาก่อนเต็มแรง

หมูยอและเจิดจันทร์กรี๊ดขึ้นพร้อมกัน ปรีเมธสาวเท้าไปตบหน้าหมูยอฉาดใหญ่ จนหญิงสาวล้มแผ่ไปกับพื้นอย่างมึนงง

ปรีเมธหันไปหาหนุ่มฝรั่งอีกครั้ง แต่อีกฝ่ายสลบเหมือดไปแล้ว

“ถุย นึกว่าจะแน่ อ่อนหัดฉิบหาย”

ชายหนุ่มย่างสามขุมไปยังสาวร่วงท้วมที่นั่งมึนอยู่ หมูยอร้องวี้ด ตะกายคลานหนีไปที่ประตูทันที

ปรีเมธจิกผมพลางลากหญิงสาวกลับมากลางห้อง ฟาดสองฉาดซ้อนที่ใบหน้า ก่อนนั่งคร่อมร่างพร้อมเค้นคอหญิงสาวเต็มแรง

“กูไม่ได้อยากทำอย่างนี้นะ แต่มึงพาเพื่อนเข้ามาเสือกเอง ตายฟรีไปนะอีอ้วน ช่วยไม่ได้”

หมูยอตาเหลือก ตะกุยตะกายสูดอากาศหายใจ แต่ข้อลำแข็งแรงบีบแน่นจนไม่เหลืออากาศให้เล็ดลอด หญิงสาวฟาดมือไม้ตะกุยตะกายไปรอบตัว หากปรีเมธแข็งแรงเกินกว่าหญิงสาวจะสะบัดหลุด

“หมูย๊อ” เจิดจันทร์ปราดไปนั่งข้างเพื่อนสาว ตกใจกับเหตุการณ์จนแทบสิ้นสติ วิญญาณสาวเพ่งไปที่มือปรีเมธ ขอให้มันเจ็บปวดจนหลุดจากคอของเพื่อน…

เปรี๊ยะ! เหมือนไฟดูดอ่อนๆ แล่นปลาบมาที่มือ ปรีเมธยกมือสะบัดเร่าอย่างลืมตัว หมูยอได้โอกาสหมุนตัวหนีไปอีกทาง สูดอากาศเฮือกพลางไอจนตัวโยน

ปรีเมธกระโจนตามหลังหมูยอติดๆ กระชากตัวกดกับพื้น ก่อนขึ้นคร่อมร่างอีกครั้ง

เจิดจันทร์กรีดร้องเต้นเร่าอยู่ข้างๆ แต่แล้วประสบการณ์ที่เคยฟังเรื่องเล่าผีสางมานับไม่ถ้วน ทำให้ความคิดบางอย่างแวบเข้ามาในสมอง วิญญาณสาวถลันไปตะโกนข้างตัวหมูยอ

“หมูยอ บอกมัน…บอกมันว่าแกคือเจิดจันทร์ ผีเจิดมาเข้าสิง มันจะได้ตกใจ เร็ว!”

หมูยอชะงักไปนิด แต่ไม่มีเวลาไตร่ตรองอะไรทั้งสิ้น ตะโกนละล่ำละลักตามที่เพื่อนบอกทันที

“ปรี ปรีเมธ หยุ๊ดด หยุด นี่เจิดเอง เจิดจันทร์ไง”

“เป็นบ้าอะไรอีกล่ะอีนี่” ชายหนุ่มคำราม เค้นคอหญิงสาวหนักขึ้น หมูยอดิ้นเต็มแรง

เจิดจันทร์ตะโกนใส่หู หมูยอพูดตามเพื่อนทันที “นี่เจิดจริงๆ เจิดเป็นผีมาเข้าสิงหมูยอ ตอนนี้เจิดรู้เรื่องหมดแล้ว ทั้งเรื่องพี่เจ หนูเจน และก็…เรื่องป้าแก้วด้วย”

ปรีเมธชะงัก

“เจิดไม่คิดเลยว่าปรีจะทำแบบนี้กับครอบครัวเจิด เพราะอะไรอะปรี”

“มึงพูดบ้าอะไร” ปรีเมธตะคอก แต่ดวงตาฉายแววสับสนขึ้นวูบหนึ่ง

“ปรีต้องปล่อยทุกคนไป ไม่อย่างนั้น…เอ่อ ไม่อย่างนั้น เจิดจะตามหลอกหลอนปรีไปตลอดชีวิต”

ปรีเมธขมวดคิ้วมองหมูยอนิ่ง ส่วนอีกฝ่ายอาศัยจังหวะนั้นถอยหลังกรูดไปที่ร่างของเจมี

สักพัก ปรีเมธก็หัวเราะออกมาเต็มเสียง

“อีอ้วน กูไม่สนหรอกว่าผีจะเข้าสิงมึงจริงๆ หรือเปล่า หรือมึงตอแหล เพราะพวกมึงมันโง่กันทั้งบ้าน นังเจิดน่ะ ต่อให้ตายห่าแล้วก็ยังโง่ เชื่อกูเถอะ มันทำอะไรกูไม่ได้หรอก”

เจิดจันทร์สะอึก น้ำตาปริ่มขึ้นมาอีกครั้ง แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าชายหนุ่มไม่ใช่คนดี แต่ภาพจำเมื่อครั้งที่เขาปลอบเธออย่างอ่อนโยน คอยพูดคุยอย่างห่วงหาอาทร ก็ทำให้หญิงอดสะเทือนใจไม่ได้

หมูยอกัดฟันแน่นด้วยความแค้นใจ

“ทำไมแกถึงทำแบบนี้กับเจิด เอ๊ย…ปรีทำแบบนี้ทำไม เจิดรักปรีมากนะ รักมากมาตลอด”

ปรีเมธหัวเราะอย่างขบขัน

“เธอมันโง่และเพ้อได้ใจจริงๆ ตอนแรก ฉันก็ไม่อยากยุ่งกับเธอหรอกนะ แค่อ่อยทำดีไว้งั้นเอง เพราะฉันอยากให้ทุกคนในบ้านเธอไว้ใจ” ปรีเมธส่ายหัวยิ้มๆ “เรื่องของเธอ ถ้าจะโทษ ก็โทษนังเจเถอะ ที่มันงกไม่ยอมจ่ายเงินสักที ฉันเลยต้องหาแผนสองแผนสาม แล้วแกก็ดันเดินมาเข้าแผนฉันพอดี”

“ฉันทำอะไร” หมูยอถามสวนทันที

“เอ้า ไหนๆ ก็จะตายห่ากันหมดแล้ว เล่าให้ฟังละกัน ว่าวันนั้นที่เธอสอบตกแล้วทะเลาะกับพ่อแม่ ฉันบอกให้…ป้าแก้วใส่ยาในเหยือกน้ำห้องเธอ คุณหนูอย่างพวกเธอมีน้ำดื่มกันทุกห้องนี่ ง่ายเลยทีนี้ กะเวลาให้เธอน็อกไปเรียบร้อย ป้าแก้วก็เปิดห้องเธอให้ฉันเข้าไป ฉันกะจะถ่ายรูปเปลือยเธอสักชุด เผื่อเก็บไว้แบล็กเมล์ ถึงไม่รู้ว่าโพสต์ไปแล้วจะมีคนดูหรือเปล่าอะนะ” ปรีเมธหัวเราะกึกๆ “แต่ช่างเหอะ มีไว้หลายชุด จะได้รีดตังค์ได้หลายหนหน่อย แต่ทีนี้ เธอมันดันซวยว่ะเจิด ซวยนรกของแท้เลย สมกับที่เธอเกิดมาขี้เหร่และโง่จริงๆ พระเจ้าไม่รักเธอเล้ย”

“แล้วยังไง พูดมาสิวะ” หมูยอเป็นฝ่ายตะคอกอย่างเหลืออด

“ก็…สงสัยป้าแก้วใส่ยาหนักมือไปหน่อย หรือเธอแพ้ยาก็ไม่รู้นะ แต่เธอดันหยุดหายใจไปเฉยๆ โชคดีฉิบหายที่ฉันคิดได้ว่าเธอบ่นว่าอยากตายอยู่แล้ว มันเลยเข้าล็อกพอดี ฉันจับเธอไปแขวนกับลูกบิดประตู แค่นี้ก็ไม่มีใครสงสัยแล้ว เสียดายที่มัวแต่รีบเลยผูกหลวมไปหน่อย เธอก็เลยยังไม่ตายสนิทสมใจสักที”

“ไอ้อัปรีย์” หมูยอคราง “มึงมันเลวขนานแท้จริงๆ”

“นี่ใครด่า” ปรีเมธยักคิ้ว “นังอ้วนหรือนังดำ ฮ่าฮ่า แต่จะใครก็ตาม เดี๋ยวก็ได้ไปอยู่ด้วยกันแล้วละ”

ชายหนุ่มหัวเราะ แววตาบ้าดีเดือดอย่างขนาดสติ เขาคว้าขวดที่แตกเป็นปากฉลามมากำไว้ในมือ ย่างสามขุมไปหาหญิงสาวที่กระถดหนีจนชิดผนัง แต่ภาพที่เขามองไม่เห็น คือวิญญาณของเจิดจันทร์นั่งขวางหมูยอไว้ ดวงตาเพ่งเขม็งมาที่เขาอย่างตั้งสมาธิ

ราวกับหนึ่งคนและหนึ่งวิญญาณประลองใจกัน เจิดจันทร์เพ่งจิตสุดชีวิตเพื่อปัดขวดปากฉลาม ในขณะที่ปรีเมธก็บ้าบิ่นจนไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม คิดแต่จะกำจัดตัวปัญหาที่ทำให้เขาเข้ามุมอับอยู่ในขณะนี้

ชายหนุ่มรู้สึกว่าปลายขวดในมือสั่นเล็กน้อย แต่ไม่ได้ใส่ใจ เขากำมันแน่นขึ้น ก่อนนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าสาวร่างท้วมที่กลัวจนตาเหลือกลาน เงื้อมือขึ้นช้าๆ…

“เจิด เจิ๊ด เจิด แกช่วยฉันด้วย ช่วยด๊วยย”

 



Don`t copy text!