โรงน้ำชาความทรงจำสีอำพัน บทที่ 2 : พ่อบ้านจาง (2)

โรงน้ำชาความทรงจำสีอำพัน บทที่ 2 : พ่อบ้านจาง (2)

โดย : ปีกดอกไม้

Loading

โรงน้ำชาความทรงจำสีอำพัน นิยายโรแมนติกแฟนตาซีที่มีกลิ่นอายจีนโบราณ ผลงานรางวัลรองชนะเลิศโครงการอ่านเอาก้าวแรกปี 4 ของ ปีกดอกไม้ หรือ รสริน พระปริยัติ อ่านเอานำมาให้ทุกท่านได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของโรงน้ำชาและเรื่องราวของผู้คนที่นี่ รวมถึงปริศนาเบื้องหลังของน้ำชาความทรงจำนี้ อ่านได้แล้วที่เว็บไซต์อ่านเอา anowl.co

“เหม่ออะไรหรือคุณจาง” เสียงเฉินเอินปลุกชายชราขึ้นจากภวังค์ครุ่นคิด

“คนแก่ก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะคุณเฉิน”

“เราจะพูดเรื่องแก่ไม่แก่กันจริงน่ะหรือ” น้ำเสียงเรียบเรื่อยนั้นเรียกเสียงหัวเราะของคนที่ดูอายุมากกว่ากระทั่งเป็นปู่เป็นตาของเขาขึ้นมาได้ “ได้ข่าวว่าลูกชายโทรมาอีกแล้วหรือ”

“ได้ยินเองหรือเซี่ยเหมยซีบอก” ชายชราย้อนถามอดค่อนแคะในประสาทสัมผัสดีเกินธรรมชาติของชายหนุ่มไม่ได้

ในตอนที่พ่อบ้านจางได้เจอกับชายหนุ่มเจ้าของโรงน้ำชา ตอนนั้นเป็นช่วงที่เขามีอาวุโสวัยกว่า คุณจางเลยพูดตามธรรมดาและเฉินเอินเองก็ไม่ได้ถือสา แต่สำหรับเซี่ยเหมยซีที่ตอนนั้นยังเป็นเด็กย่อมต้องแสดงความเคารพนบนอบ และความเคารพนั้นก็ยังมีอยู่ แม้ทุกวันนี้ภาพลักษณ์มันจะสวนทางกับสิ่งที่เป็นจริงอยู่ก็ตาม

“ได้ยินเอง ขอโทษทีที่หูดีไปหน่อย ว่าแต่ไม่กลับบ้านหรือ ทำอย่างกับเด็กหนีออกจากบ้าน”

“กลับไปทำไม ไม่มีห่วงอะไร เอาไว้เบื่อที่นี่ก่อนค่อยกลับไป”

ชายหนุ่มไม่ได้ว่าอย่างไรกับคำตอบนั้น เขาเพียงส่งยิ้มราวกับรู้ทันมาให้ก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าหอตำราและก็คงขลุกตัวอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งถึงเวลาอาหารเย็น

พ่อบ้านจางและเซี่ยเหมยซี ต่างยินดีอยู่ที่นี่กันด้วยคนละจุดประสงค์ คนหนึ่งถูกร้อยไว้ด้วยความรักและความภักดีที่มีให้เจ้าของโรงน้ำชา ส่วนชายชราอย่างเขาน่ะหรือที่มาอยู่ที่นี่ก็คงเพราะอยากสัมผัสกับความสงบเงียบในบั้นปลาย

หนทางยิ่งไกลยิ่งโดดเดี่ยว ยิ่งอยู่นานพ่อบ้านจางกลับรู้สึกว่ายิ่งอ้างว้างลงทุกที ตั้งแต่ภรรยาเสียลงเมื่อสิบปีก่อนเขาก็ย้ายมาอยู่ทำหน้าที่เป็นพ่อบ้านให้คุณเฉินโดยถาวร หลายคนที่นี่ยังไม่เข้าใจ คิดว่าเขากำลังทดแทนบุญคุณ จริงอยู่ที่ว่ากตัญญูยิ่งใหญ่กว่าผืนฟ้า มันเป็นเรื่องจริงแต่ไม่ใช่เรื่องทั้งหมด

แท้ที่จริงแล้วพ่อบ้านจางก็เหมือนกับคนตากแดดเดียวดายกลางทะเลทรายของชีวิต นับวันในใจยิ่งรู้สึกแห้งแล้งไม่เป็นสุข เมื่อเพื่อนที่ดีที่สุดอย่างภรรยาได้จากไป เพื่อนรอบกายก็เริ่มห่างหายด้วยวัยและสุขภาพ ลูกชายลูกสาวประสบความสำเร็จและยุ่งอยู่กับธุรกิจการงานและต่างแยกย้ายไปมีครอบครัวเป็นของตัวเอง แม้จะโดนคะยั้นคะยอให้ไปอยู่ด้วยกัน แต่บ้านที่มีธุระปะปังมากมายและเด็กเป็นโขยงแม้จะสุขแต่ก็มีความวุ่นวาย ท่ามกลางคนมากมายก็กลับคล้ายมีความอ้างว้างซ่อนอยู่อย่างน่าประหลาด พ่อบ้านจางอยากจะได้สัมผัสถึงความสงบเงียบและมั่นคงในบั้นปลาย และโรงน้ำชานี้ก็คือคำตอบ

 

ชายหนุ่มเจ้าของโรงน้ำชาผละตัวแยกออกมาหลังจากเล่นหมากล้อมเสร็จ เขาหันไปมองคนที่กำลังเก็บกระดานก็พิจารณาเห็นสภาพสังขารที่ค่อยๆ ร่วงโรยไปตามกาลเวลาแล้วก็อดระบายลมหายใจออกมาไม่ได้ ลึกๆ แล้วยังคงเสียดายหากกฎธรรมชาติจะพรากคนรู้จักให้หายไปอีกคน

มนุษย์เรานี่ก็แปลก แทนที่จะยึดติดกับปัจจุบันขณะกลับชอบเอาใจไปผูกไว้กับอดีตไม่ก็กังวลไปถึงอนาคต ตัวเขาเองดื่มชามานับพันจอก แต่กลับไม่ได้ซึมซับถึงปรัชญาของการดื่มชาที่ถูกซ่อนเอาไว้อย่างแยบคายนั้นเลย

ชายหนุ่มผลักประตูไม้กรุกระจกเข้าไปยังบ้านพักส่วนตัว มุ่งตรงไปยังหอตำรา พยายามปรับใจให้อยู่กับปัจจุบันขณะก้าวเข้าไปด้านใน

หอตำรา คือชื่อที่ใช้ขนานเรียกกันเมื่อนานมาแล้ว แท้จริงแล้วมันก็คือห้องสมุดดีๆ นี่เอง บนชั้นหนังสือที่ออกแบบมาอย่างดีต่างเรียงรายไปด้วยหนังสือคัมภีร์หลายศาสตร์หลายแขนง มีตั้งแต่ตำราภาษาศาสตร์ ตำราทางไสยศาสตร์ ตำราพิชัยสงคราม ไปจนกระทั่งวิทยาศาสตร์ มันคงจะเยอะกว่านี้หากนับจากจำนวนที่ทวีขึ้นตามเวลา

แต่เมื่อไม่กี่ปีให้หลังนี้เองที่หนังสือต่างๆ ก็กลับพกพาได้ง่ายทั้งยังพกได้ทีละหลายเล่มเสียด้วย แม้แต่สี่ตำราห้าคัมภีร์ (1) ก็ยังมีปรากฏให้เห็น หนึ่งในนั้นยังมีคัมภีร์เก่าแก่ซึ่งเป็นศาสตร์แห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างคัมภีร์อี้จิงซึ่งบัดนี้ถูกแปลงเป็นแอปพลิเคชัน เฉพาะเจาะจงในส่วนที่เป็นวิชาพยากรณ์และให้ผลการทำนายผ่านอัลกอริทึม

คนผู้มีอายุอยู่ยืนยาวศึกษามาหลากหลายศาสตร์หลายแขนงให้นึกสงสัยว่ามันจะใช้การได้จริงน่ะหรือ เขากดปลดล็อกหน้าจอสมาร์ตโฟน ก่อนจะนึกสนุกโหลดแอปพลิเคชันมาลองใช้ดูบ้าง

“ไหนว่ายังไง” ร่างสูงกระซิบกับตัวเองพลางจ้องโทรศัพท์ในมืออย่างไม่ค่อยจะเชื่อถือนัก แสงสีฟ้าส่องไล้ไปตามกรอบโค้งมนของใบหน้าไร้ที่ติ “ให้กดที่ตัวอักษรเพื่อรับผลการทำนาย”

เมื่อกดเข้าไป เพียงครู่หน้าจอโทรศัพท์ก็เปลี่ยนรูปแบบ ปรากฏให้เห็นเป็นสัญลักษณ์คุ้นตา มันคือเส้นทึบสามเส้นตามมาด้วยคำอธิบายเป็นตัวอักษรที่แปลได้ว่าฟ้าหรือสวรรค์ พร้อมกับให้คำทำนายว่า นักปราชญ์ที่ฉลาดล้ำลึก นักปกครองที่มีเกียรติ ผู้นำ พลังของจักรวาล

เฉินเอินหัวเราะออกมาเบาๆ พยักหน้ากับตัวเองอย่างค่อนข้างพอใจ

“ก็พอใช้ได้” ชายหนุ่มเดินหน้าต่อ รับคำทำนายขั้นต่อไป แต่ครั้งนี้คิ้วคมขมวดขึ้นและตามมาด้วยอาการส่ายหน้าในข้อความสุ่มของอัลกอริทึมซึ่งไม่สัมพันธ์กันแม้แต่น้อย

“จะหวังอะไร อย่าขี้เกียจนักเลย ก็แค่กลับไปใช้กระดาษดินสอเขียนผังเหมือนเดิมก็เท่านั้นเอง”

 

เชิงอรรถ :

(1) สี่ตำรามาตรฐานของขงจื่อได้แก่ หลุนอวี่ ต้าเสวีย จงยง และเม่งจื๊อ ห้าคัมภีร์ ได้แก่ อี้จิง (ว่าด้วยโหราศาสตร์) ซั่งซู (ว่าด้วยประวัติศาสตร์) ซือจิง (ว่าด้วยกวี) หลี่จี้ (ว่าด้วยพิธีกรรม) และชุนชิว (ว่าด้วยเรื่องพงศาวดารและปรากฏการณ์ธรรมชาติ)

 



Don`t copy text!