โรงน้ำชาความทรงจำสีอำพัน บทที่ 3 : แขกคนพิเศษ (2)

โรงน้ำชาความทรงจำสีอำพัน บทที่ 3 : แขกคนพิเศษ (2)

โดย : ปีกดอกไม้

Loading

โรงน้ำชาความทรงจำสีอำพัน นิยายโรแมนติกแฟนตาซีที่มีกลิ่นอายจีนโบราณ ผลงานรางวัลรองชนะเลิศโครงการอ่านเอาก้าวแรกปี 4 ของ ปีกดอกไม้ หรือ รสริน พระปริยัติ อ่านเอานำมาให้ทุกท่านได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของโรงน้ำชาและเรื่องราวของผู้คนที่นี่ รวมถึงปริศนาเบื้องหลังของน้ำชาความทรงจำนี้ อ่านได้แล้วที่เว็บไซต์อ่านเอา anowl.co

มโนชาดื่มชาและเติมน้ำไปสามครั้งกระทั่งมันจืดแล้ว ขนมของว่างที่เป็นขนมจ้างหรือกีจ่างเข้ากับเทศกาลไหว้ในปลายเดือนหกก็หมดไปแล้วเรียบร้อยเธอก็ยังไม่ถูกเรียกตัวขึ้นไปทำหน้าที่ล่ามเสียทีเพราะเจ้านายบอกให้รอ เธอก็ต้องรอ

แต่รอแล้วรอเล่าเขาก็ยังไม่โทร.มาเรียกเธอขึ้นไป

อันที่จริงมโนชาออกจะไม่สะดวกใจที่จะมาต่างจังหวัดกับเจ้านายของตัวเองนัก ต้องเรียกว่าไม่สะดวกใจใกล้ชิดก็น่าจะได้ แม้จะมีคนขับรถมาด้วยกันอีกคนก็ตามที

พักหลังหน้าที่แปลเอกสารสัญญาจดหมายต่างๆ ของเธอเริ่มเปลี่ยนไปกลายเป็นล่ามประจำตัวตามวาระและโอกาส และมันก็เริ่มจะถี่ขึ้นเรื่อยๆ ที่นั่งก็เริ่มขยับเข้าใกล้ห้องของเจ้านายเข้าไปทุกที ถึงขนาดว่าถูกทาบทามให้เข้าไปรับตำแหน่งเลขาฯ และสายตาของเจ้านายวัยสี่สิบกว่าก็เริ่มวนเวียนตามติดเธอจนมโนชาชักจะอึดอัด

ภาทิศเป็นนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ จริงจังกับการทำงาน ทะเยอทะยาน และสามารถทำทุกอย่างให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการโดยไม่เลือกวิธีการ เขาเรียกได้ว่าเป็นคนเก่งมากคนหนึ่ง กำลังอยู่ในช่วงอายุที่ผู้ชายมักว่ากันว่ามีเสน่ห์ดึงดูดใจที่สุด มั่นคงและภูมิฐาน แต่ก็เขาก็มีชื่อเรื่องผู้หญิงมากที่สุดคนหนึ่ง

เจ้านายของเธอแต่งงานมีภรรยาแล้ว เป็นอดีตนักแสดงและนางแบบชั้นแนวหน้า ทว่าการแต่งงานไม่สามารถหยุดนิสัยเจ้าชู้ของผู้ชายคนหนึ่งได้ และยิ่งเป็นเขาคนที่มีพร้อมทั้งเงินและอำนาจ เมื่อเขาต้องการทำไมจะไม่ได้

เวลาปีกว่ามโนชาได้เห็นและได้ฟังเรื่องราวมาเยอะ แม้จะระแวดระวังแต่ก็อดไม่ได้ที่จะระแวง

เหม่อลอยครุ่นคิดจิบชาไปจนหมดครู่ใหญ่ภาทิศก็ปรากฏตัวขึ้น คงจะเสร็จธุระแล้วโดยไม่ใช้ล่าม

“เสร็จแล้วหรือคะคุณภาทิศ ไม่เรียกซิน…” มโนชาผุดตัวลุกขึ้นแต่เจ้านายกลับเดินผ่านหน้าเธอไปอย่างหัวเสีย มโนชารีบหยิบกระเป๋าสะพายก่อนจะควานหากระเป๋าสตางค์ออกมาจ่ายเงินค่าน้ำชาแทบไม่ทัน

“ขอใบเสร็จด้วยนะคะ ต้องเอาไปทำเรื่องเบิก” ปกติค่าใช้จ่ายเล็กน้อยพวกนี้เจ้านายจะเป็นคนจ่ายเงินให้ นี่เดินออกไปอย่างนี้คงต้องไปเบิกเอาเองแล้ว ระหว่างรอใบเสร็จก็พลันนึกขึ้นมาได้

“นี่นามบัตรส่วนตัวของซินค่ะ ซินรับแปลเอกสารด้วย มีใบอนุญาตรับรองเผื่อพี่เหมยซีอยากแปลเอกสารอะไรก็โทรมาได้เลยนะคะ ไว้คราวหน้าถ้าผ่านมาซินจะแวะมาอีก ชารสดีมาก ร้านสวยมาก คนชงชาก็น่ารักมากด้วย” ประโยคยาวนั้นร่ายออกมาโดยไม่พักหายใจด้วยเพราะรีบร้อนกลัวจะพูดสิ่งที่อยู่ในหัวออกมาไม่หมด เจ้านายไปรอบนรถแล้ว ไม่แน่ว่าหากช้ามากไปอีกฝ่ายจะคอยหรือไม่ก็ยังไม่รู้

พอแลกนามบัตรตัวเองกับใบเสร็จรับเงินแล้วมโนชาก็รีบหันหลังกลับตัวอย่างว่องไว

ร่างบางก้มหน้าเอาใบเสร็จในมือยัดลงใส่กระเป๋าทั้งที่สองขาก็ก้าวเดินไปข้างหน้า โดยไม่ทันระวังก็กลับไปชนกับบุคคลหนึ่งเข้าจนเสียหลักเกือบจะล้มหงายหลัง ดีที่เขายื่นมือมาจับต้นแขนเธอเอาไว้

“ขอโทษค่ะ ซินรีบไปหน่อยไม่ทันระวัง” คนรีบเอ่ยอย่างลนลาน ไม่แม้แต่จะเงยหน้ามาดูคนที่ถูกชน

“ไม่เป็นไร ผมเองก็ไม่ได้ระวังเหมือนกัน เดินทางปลอดภัยครับ”

น้ำเสียงทุ้มนุ่มน่าฟังไม่ได้ทำให้เธอลนลานน้อยลง มโนชาเอ่ยขอบคุณก่อนจะขอโทษอีกครั้งแล้ววิ่งเร็วจี๋ไปขึ้นรถโดยที่ไม่ได้หันกลับมามองเลยแม้แต่น้อย แต่คนที่ถูกชนเมื่อครู่ยังคงมองตามร่างบางที่วิ่งกระหืดกระหอบไปขึ้นรถกระทั่งมันเคลื่อนตัวออกจากโรงน้ำชาในนาทีถัดมา

“ทิ้งนามบัตรไว้ด้วยนะคะ บอกว่าเป็นล่ามเผื่อเราจะแปลเอกสาร” เซี่ยเหมยซียื่นกระดาษแข็งแผ่นเล็กให้เจ้าของโรงน้ำชา “คุยสนุกเชียวค่ะพูดไม่หยุดเลย ว่าแต่จะได้กลับมาไหมคะ” เซี่ยเหมยซีหมายรวมถึงลูกค้าน้ำชาพิเศษด้วย

“คิดว่าคงไม่” พูดเพียงแค่นี้ก็พอจะเดาได้ เซี่ยเหมยซีเลยชี้ไปด้านบน

“ถ้าอย่างนั้นเหมยซีขึ้นไปทำความสะอาดนะคะ”

“ฝากบอกพ่อบ้านจางไปเจอที่หอตำราด้วย” ชายหนุ่มบอกก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับนามบัตรของเจ้าของเสียงหัวเราะสดใสในมือ เสียงนั้นคล้ายยังดังก้องอยู่ในห้วงความคิด ชายหนุ่มชะงักเท้าหมุนนามบัตรในมืออย่างครุ่นคิดก่อนจะก้มลงดู

มโนชา ชิดชมภู ล่ามและรับแปลภาษา ไทย-จีน-อังกฤษ

 

“มีอะไรหรือคุณเฉิน” พ่อบ้านจางเอ่ยถามหลังจากตามมาสมทบยังหอตำราในอีกไม่กี่อึดใจถัดมา

“เมื่อวานมีเอกสารส่งมาจากจีนเป็นสาแหรกครอบครัว อยากรบกวนคุณจางช่วยเป็นธุระให้ นี่นามบัตรล่ามที่มากับคุณภาทิศเห็นว่ารับงานส่วนตัวแปลเอกสารด้วย คุณจางช่วยประสานให้ได้ไหม”

“จะดีหรือคุณเฉิน เราเพิ่งจะปฏิเสธน้ำชาความทรงจำกับฝั่งนั้นไป เกรงว่าการเข้าไปยุ่งจะมีผลเสียมากกว่าผลดี” พ่อบ้านจางเอ่ยนึกถึงท่าทางเย่อหยิ่งถือดีของชายหนุ่มนามภาทิศ ในใจรู้สึกสังหรณ์ไม่ค่อยดี

เฉินเอินรับฟังเงียบๆ นึกย้อนกลับไปในตอนชงชา แม้จะชงลิ่วอันกวาเพี่ยนแต่ทว่าน้ำจากพวยกาพวยเดียวนั้นกลับถูกแบ่งออกเป็นสองช่องโดยใช้กลไกแบบโบราณซึ่งเรียกว่ากาน้ำหยินหยาง

ช่องหนึ่งเป็นน้ำปกติจากแหล่งปลูกชา อีกช่องเป็นน้ำชนิดเดียวกันแต่ผสมสมุนไพรสงบใจไร้กลิ่นสี คนใช้งานสามารถเลือกได้ว่าจะใช้น้ำช่องไหนเพียงสลับกลไกโดยการหมุนอย่างง่ายๆ เมื่อผู้ใดได้ดื่มเข้าไปก็คล้ายจะถูกสะกดจิตให้คล้อยตามและเชื่อได้ง่าย เพียงแต่ครั้งนี้ด้วยลางสังหรณ์บางอย่างทำให้พ่อบ้านจางไม่ค่อยจะวางใจนัก แต่ในเมื่อชายหนุ่มบอกมาแบบนี้ย่อมไม่ใช่สิ่งที่พ่อบ้านจางจะคัดค้านได้

“ดึงคนออกมาด้วย” เฉินเอินเอ่ย รู้สึกแปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกัน นึกถึงเสียงหัวเราะอันสดใสซึ่งดังคู่กันกับเซี่ยเหมยซี เพราะไม่อยากให้เรื่องซ้ำรอยเขาบอกตัวเองแบบนี้

ดวงหน้าอันสวยหวาน นัยน์ตากลมโตมีแววสดใสคล้ายดวงตากวางงามกระจ่าง และยังมีรอยยิ้มกว้างบ่งบอกว่าเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี

ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นรู้หรือเปล่าว่าตนถูกหมายตาอยู่ แต่ที่เขารู้แน่คือเธอไม่ได้คิดหวังในทางลัดสะดวกสบายเพราะนามบัตรที่ให้มา คนที่สามารถได้เงินมาโดยง่ายไหนเลยจะต้องขวนขวายรับงานสารพัดสารเพขนาดนี้

ร่างสูงระบายลมหายใจออกมา ไม่นึกเปลี่ยนใจแม้ใคร่ครวญซ้ำดูอีกครั้ง

“ดึงตัวคนออกมา ทำอย่างเงียบๆ” เขายืนยันซ้ำอีกครั้ง

 



Don`t copy text!